อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 84 การต่อสู้เพื่อแย่งชิง (มุมของคอสโม่)
เนื่องจากหลายๆ อย่างเกิดขึ้น เขาจึงพาฉันมายังฐานชั่วคราวของจัสติสครูเซเดอร์ แต่พอมาถึงกลับต้องเจอสถานการณ์ที่น่าปวดหัวแทน
แน่นอนว่าโฮมุระไม่ได้มีท่าทีจะเป็นศัตรูอะไรกับฉัน แต่ตอนนี้ฉันกลับถูกรายล้อมด้วยเหล่าจัสติสครูเซเดอร์ที่ตัวติดจนแทบจะสิงกันได้ระหว่างเดินไปยังห้องประชุมพร้อมกับพวกโฮมุระ
「นี่คือฐานชั่วคราวของจัสติสครูเซเดอร์ หากมองจากภายนอกก็คงเหมือนกับที่รกร้างแหละ แต่ความจริงมันคือฐานที่มั่นแห่งใหม่ซึ่งจะใช้ไปจนกว่าที่สำนักงานใหญ่จะจัดการเสร็จ」
「……จะดีเหรอที่มาบอกกับฉัน? 」
「……」
「……」
ทำไมถึงเงียบไปล่ะ?
ก็ลองคิดดูสิว่าแปลกจะตายที่เขามาบอกเรื่องนี้กับฉัน ฉันมองโกลดี้ที่เหมือนส่งสายตาไปหาพวกเรดกับคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังฉัน
「เรมะ ว่าต่อเถอะ ยัยนี่เหมือนจะปกป้องชินโดซังด้วย อย่างน้อยฉันก็ไม่คิดว่าเธอจะเป็นศัตรูอะไรกับเราหรอก …ใช่ไหมล่ะ คอสโม่? 」
「อะ อ้า」
ฉันก็ดีใจหรอกนะที่เขามาช่วยพูดให้
แต่การจะได้รับความเชื่อใจมันใช่เรื่องง่ายที่ไหนกัน
ถึงจะเป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่คิดจะเป็นศัตรูกับพวกเขาก็เหอะ
「เห้อ ก็จริง แต่ในอดีตที่เธอเคยเป็นศัตรูกับเราก็ไม่เปลี่ยนนี่นะ เพื่อความสบายใจฉันถามเธอเลยก็แล้วกัน เธอเป็นศัตรูหรือพวกของเรากันแน่? หากเป็นไปได้ฉันก็อยากจะได้คำตอบที่มันชัดเจนไปเลย」
「……」
ฉันรู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องโดนถามอะไรแบบนี้
ว่ากันตามตรงเหตุผลที่ฉันต่อสู้ในวันนี้ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อปกป้องโลกแต่เพื่อปกป้องชินโดที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้
ไอ้ของอย่างโลกใบนี้ฉันไม่คิดจะสนหรอก
「ตอนแรกฉันคิดว่าถ้าฆ่าโฮมุระได้ ท่านรูอินจะยอมรับในตัวฉัน โฮมุระ…..เขาที่ตื่นมาในคืนนั้นแล้วกลายเป็นอัศวินดำอีกครั้ง ทั้งที่คิดว่าฉันต้องตายแล้วแท้ๆ ….」
「แล้วอยากจะแก้แค้นรูอินไหมล่ะ? 」
ฉันส่ายหัวให้กับคำพูดของโกลดี้
「ฉันยังเคารพและชื่นชมในตัวท่านรูอินเสมอ….ถึงนั่นมันจะไม่ใช่สิ่งที่ท่านตามหาอยู่ก็เถอะ」
「…ก็คงงั้น สิ่งที่ยัยนั่นมองหาไม่ใช่พวกที่กระดิกหางให้ แต่เป็นคนที่สามารถสู้กันได้อย่างเท่าเทียม….น่ารำคาญชิบ」
โฮมุระพูดแล้วถอนหายใจออกมา
จากมุมของฉัน คนที่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากท่านรูอินจนเลยจุดที่เรียกว่าชื่นชอบไปแล้วน่าก็คงลำบากเหมือนกัน
「หลังจากฉันพ่ายแพ้หมดรูปให้กับโฮมุระ ชินโดก็พาฉันมาอยู่ด้วยที่ร้านกาแฟ」
「หื้ม ไม่ต่างกับฉันเลยนี่หว่า ตอนนั้นมาสเตอร์ก็รับฉันเข้าไปอยู่ด้วยแหละ」
สาวผมขาว…ถ้าจำไม่ผิดเธอจะชื่อฮาคัว
จำได้ว่าชินโดเคยพูดเอาไว้เหมือนกันว่ามีคนมาซุกหัวนอนที่ร้านก่อนหน้าฉัน
「นั่นคือเหตุผลที่ฉันต่อสู้กับพวกมัน」
「ขอชัดกว่านี้หน่อย」
「ฉันก็แค่อยากจะช่วยคนที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ แต่นั่นมันก็อาจจะเป็นการกบฏต่อท่านรูอินด้วย…..ทว่าด้วยสิ่งนี้ในที่สุดฉันก็สามารถใช้ชีวิตที่ตัวเองเลือกได้สักที」
เขินชะมัด ทำไมฉันต้องมาพูดเรื่องแบบนี้ให้คนพวกนี้ฟังด้วยนะ
การต้องมาพูดเรื่องน่าอายต่อหน้าคนที่เคยเป็นศัตรูจะมองยังไงมันก็แปลก
โกลดี้กอดอกแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งขณะมองมาที่ฉัน ไม่นานนักเข้าก็ชี้นิ้วใส่
「ฉันเข้าใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปเธอคือจัสติสกรีน!!」
「……เอ๋? 」
「แล้วก็ชิราคาวะคุง!! เธอจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจัสติสไวท์!!」
「หาาาาา!? 」
ฮาคัวกับฉันต่างตกใจจนอ้าปากค้างกับคำพูดของเขา
เดี๋ยว อะไร? ฉันถูกแต่งตั้งให้เป็นจัสติสกรีน?!
「ดะ เดี๋ยวสิ!! จะให้มาเป็นพวกพ้องกับยัยคนที่เหมือนดินระเบิดเนี่ยนะ!!」
「ร่างกายของเธอก็ดินระเบิดนะ….คิราระ」
「ฉันว่ามันแปลกๆ นะ ถ้าพูดแบบนั้นร่างกายของอากาเนะก็คืออาวุธสังหารแล้วแหละ!」
「ฉันเป็นสาวน้อยปกติเถอะย่ะ!!」
ถึงตอนนี้ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นแล้วจนน่าจะสามารถสู้ตัวต่อตัวกับพวกจัสติสครูเซเดอร์ได้ แต่ทักษะและประสบการณ์ของพวกเธออาจจะมีชัยเหนือกว่าฉัน
แน่นอนว่าโฮมุระในยุคอัศวินดำก็ด้วย
อดีตลำดับแห่งดวงดารา สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ปีศาจอัจฉริยะมันหายไปไหนแล้ว?!
「ฉันเป็นศัตรูของพวกนายนะ! อย่ามาชวนกันเข้าทีมง่ายแบบนี้สิ!!」
「เห็นฉันหน้าตาแบบนี้ก็เคยเป็นลำดับแห่งดวงดารานะเออ นอกจากนี้ลำดับยังสูงกว่าเธอด้วย!」
「เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วน่า!!」
ึถึงจะเป็นคนทรยศเหมือนกัน แต่เหตุผลมันก็ต่างกันไหม!!
「นอกจากนี้ทางฉันก็มีกราทซึ่งเคยเป็นลำดับแห่งดวงดาราเหมือนกัน ดังนั้นฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก อันที่จริงยินดีด้วยซ้ำที่ได้พวกลำดับแห่งดวงดารามาเป็นพวก」
「แปลกชะมัด……」
「ไม่เห็นจะแปลกเลย แถมฉันได้ยินเรื่องของเธอมาจากมาสเตอร์ชินโดที่ตอนนี้กำลังนั่งซึมเศร้าอยู่ภายในห้องพักเพราะช็อคที่ร้านระเบิด ดังนั้นฉันมั่นใจได้เลยว่าเธอจะต้องเป็นกรีนที่ดีได้อย่างแน่นอน」
สรุปนี่ฉันกลายเป็นกรีนไปแล้วเหรอ…..
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองพวกจัสติสครูเซเดอร์ที่เฝ้ามองฉันอยู่
「พวกเธอเองก็ไม่อยากใช่ไหมล่ะ?!」
「ไม่เป็นไรหรอก หากเธอทรยศก็แค่ฆ่าทิ้งเอง」
「ถามจริง ไอ้นี่มันเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่เรียกตัวเองว่าสาวน้อยปกติเหรอ?!」
ยัยนี่เป็นตัวอะไรกันแน่เนี้ย?!
ทำไมถึงได้พูดจาสบายเป็นกันเองแต่ดันปล่อยบรรยากาศที่น่ากดดันเหมือนพ่อของฉันเลยล่ะ?!
「โฮมุระ นายก็ไม่เห็นด้วยใช่ไหม?!」
「หื้อ? อ้า ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนี่? เธอปกป้องชินโดซังขนาดนั้นฉันไม่คิดจะบ่นหรอก」
ทำไมฉันถึงได้รับการตอบรับเป็นเชิงบวกขนาดนี้?
「ถะ โถ่เว้ย เข้าใจแล้ว แต่อย่าเอาฉันไปรวมทีมกับจัสติสครูเซเดอร์เลย เพราะยังไงฉันไม่มีคุณสมบัติพอหรอก———」
「โฮก!」
「ก็บอกว่าไม่ไง……!!」
ฉันตอบกลับเลโอที่บอกว่าฉันมีคุณสมบัติเพียงพอกลับไป
「เห้อ ช่วยไม่ได้ งั้นก็เหลือแค่จัสติสไวท์สินะ เอาเถอะ」
「เอ่อ ช่วยถามฉันก่อนได้ไหม……!!」
ฮาคัวที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็บ่นออกมา
「คัตซึนถึงจะเป็นอัศวินดำไปแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอัศวินขาวอยู่นะ ดังนั้นการจะให้ฉันเป็นจัสติสไวท์นี่มันใช่เหรอ?!」
「เธอจะบ้าเหรอ อัศวินดำและอัศวินขาวยังไงก็ต้องเป็นคัตสึมิคุงอยู่แล้ว!! ส่วนอุปกรณ์แปลงร่างของเธอน่ะมันคือของที่ชิโระสร้างขึ้นมาโดยอ้างอิงจากสูทของจัสติสครูเซเดอร์ต่างหาก ดังนั้นเธอเลยได้เป็นจัสติสไวท์ไง!!」
「แปลกเกินไปแล้วย่ะ!」
「แถมฉันก็ไม่ได้บอกให้เธอออกไปสู้สักหน่อย!! ทว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีเหมือนเรื่องคราวนี้อยู่ แล้วเธออาจจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้ ฉันเองก็ต้องหาทางออกเผื่อไว้ไหม!!」
「!」
ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เธอคนนี้ไม่ค่อยมีประสบการณ์เหรอ?
ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังอุตส่าห์รอดมาจากพวกเซไคเซ็นไตได้อีกนะ….
「ฟังนะ ชิราคาวะคุง แค่การมีพลังอยู่ในมือมันก็เหมือนกับคำสาปแล้ว」
「……!」
「ที่ฉันพูดก็เพราะทุกคนที่นี่สามารถแปลงร่างได้ ตั้งแต่ที่ได้รับสูทไปใส่ พวกเธอทุกคนก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว พวกเธอมีพลังที่จะทำในสิ่งที่พวกเธอไม่เคยทำได้มาอยู่ในมือ ซึ่งมันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ」
ฮาคัวเงียบไปหลังได้ยินคำพูดของโกลดี้
「ถ้ารูอินกลายมาเป็นศัตรูของพวกเรา บอกตามตรงว่ามีแค่ไหนก็ไม่พอ ดังนั้นหากสามารถเพิ่มพลังได้แม้จะเพียงน้อยนิดฉันก็ยินดี」
「ก็แล้วทำไมฉันถึงต้องมาเป็นจัสติสครูเซเดอร์กันเล่า ทางอื่นก็มีตั้งเยอะ!!」
「…ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ!! เหตุผลมันก็ง่ายๆ เพราะเธอเป็นสีเขียวยังไงล่ะ!!」
ไอ้หมอนี่มันปัญญาอ่อนหรือเปล่า?!
อดีตลำดับแห่งดวงดารา สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ปีศาจอัจฉริยะมันหายไปไหนแล้ว?!
「ฉันเป็นศัตรูของพวกนายนะ! อย่ามาชวนกันเข้าทีมง่ายแบบนี้สิ!!」
「เห็นฉันหน้าตาแบบนี้ก็เคยเป็นลำดับแห่งดวงดารานะเออ นอกจากนี้ลำดับยังสูงกว่าเธอด้วย!」
「เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วน่า!!」
ถึงจะเป็นคนทรยศเหมือนกัน แต่เหตุผลมันก็ต่างกันไหม!!
「นอกจากนี้ทางฉันก็มีกราทซึ่งเคยเป็นลำดับแห่งดวงดาราเหมือนกัน ดังนั้นฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก อันที่จริงยินดีด้วยซ้ำที่ได้พวกลำดับแห่งดวงดารามาเป็นพวก」
「แปลกชะมัด……」
「ไม่เห็นจะแปลกเลย แถมฉันได้ยินเรื่องของเธอมาจากมาสเตอร์ชินโดที่ตอนนี้กำลังนั่งซึมเศร้าอยู่ภายในห้องพักเพราะช็อคที่ร้านระเบิด ดังนั้นฉันมั่นใจได้เลยว่าเธอจะต้องเป็นกรีนที่ดีได้อย่างแน่นอน」
สรุปนี่ฉันกลายเป็นกรีนไปแล้วเหรอ…..
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองพวกจัสติสครูเซเดอร์ที่เฝ้ามองฉันอยู่
「พวกเธอเองก็ไม่อยากใช่ไหมล่ะ?!」
「ไม่เป็นไรหรอก หากเธอทรยศก็แค่ฆ่าทิ้งเอง」
「ถามจริง ไอ้นี่มันเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่เรียกตัวเองว่าสาวน้อยปกติเหรอ?!」
ยัยนี่เป็นตัวอะไรกันแน่เนี้ย?!
ทำไมถึงได้พูดจาสบายเป็นกันเองแต่ดันปล่อยบรรยากาศที่น่ากดดันเหมือนพ่อของฉันเลยล่ะ?!
「โฮมุระ นายก็ไม่เห็นด้วยใช่ไหม?!」
「หื้อ? อ้า ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรนี่? เธอปกป้องชินโดซังขนาดนั้นฉันไม่คิดจะบ่นหรอก」
ทำไมฉันถึงได้รับการตอบรับเป็นเชิงบวกขนาดนี้?
「ถะ โถ่เว้ย เข้าใจแล้ว แต่อย่าเอาฉันไปรวมทีมกับจัสติสครูเซเดอร์เลย เพราะยังไงฉันไม่มีคุณสมบัติพอหรอก———」
「โฮก!」
「ก็บอกว่าไม่ไง……!!」
ฉันตอบกลับเลโอที่บอกว่าฉันมีคุณสมบัติเพียงพอกลับไป
「เห้อ ช่วยไม่ได้ งั้นก็เหลือแค่จัสติสไวท์สินะ เอาเถอะ」
「เอ่อ ช่วยถามฉันก่อนได้ไหม……!!」
ฮาคัวที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็บ่นออกมา
「คัตซึนถึงจะเป็นอัศวินดำไปแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นอัศวินขาวอยู่นะ ดังนั้นการจะให้ฉันเป็นจัสติสไวท์นี่มันใช่เหรอ?!」
「เธอจะบ้าเหรอ อัศวินดำและอัศวินขาวยังไงก็ต้องเป็นคัตสึมิคุงอยู่แล้ว!! ส่วนอุปกรณ์แปลงร่างของเธอน่ะมันคือของที่ชิโระสร้างขึ้นมาโดยอ้างอิงจากสูทของจัสติสครูเซเดอร์ต่างหาก ดังนั้นเธอเลยได้เป็นจัสติสไวท์ไง!!」
「แปลกเกินไปแล้วย่ะ!」
「แถมฉันก็ไม่ได้บอกให้เธอออกไปสู้สักหน่อย!! ทว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีเหมือนเรื่องคราวนี้อยู่ แล้วเธออาจจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องสู้ ฉันเองก็ต้องหาทางออกเผื่อไว้ไหม!!」
「!」
ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เธอคนนี้ไม่ค่อยมีประสบการณ์เหรอ?
ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังอุตส่าห์รอดมาจากพวกเซไคเซ็นไตได้อีกนะ….
「ฟังนะ ชิราคาวะคุง แค่การมีพลังอยู่ในมือมันก็เหมือนกับคำสาปแล้ว」
「……!」
「ที่ฉันพูดก็เพราะทุกคนที่นี่สามารถแปลงร่างได้ ตั้งแต่ที่ได้รับสูทไปใส่ พวกเธอทุกคนก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว พวกเธอมีพลังที่จะทำในสิ่งที่พวกเธอไม่เคยทำได้มาอยู่ในมือ ซึ่งมันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบ」
ฮาคัวเงียบไปหลังได้ยินคำพูดของโกลดี้
「หากมีบางอย่างที่เธอทำได้ ด้วยความสามารถที่เธอมี เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำมันหรอก ฉันเข้าใจว่าหนทางในการใช้ชีวิตยังมีอีกเยอะแต่เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วแถมเธอยังเกือบเอาชีวิตไม่รอดด้วย」
「เรื่องนั้นมันก็จริงอยู่」
「นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันอยากให้เธอเรียนรู้วิธีการต่อสู้เอาไว้」
「……เรมะพูดถูกนะ ฮาคัว」
โฮมุระเองก็เห็นด้วยกับโกลดี้
「ฉันเองก็ไม่อยากให้เธอสู้หรอก แต่หลังจากการแปลงร่างแล้วถึงสองครั้ง ฉันว่าเธอก็ควรจะฝึกไว้เพื่อป้องกันตัวเองสักหน่อย」
「คัตซึน……」
「แถมเธอชอบตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงบ่อยๆ ด้วยสิ ระวังเอาไว้ก่อนคงจะดีกว่า ฉันเองก็มีเวลาว่างระดับหนึ่งจนกว่าพวกมันจะบุกมาอีกรอบ ดังนั้นเดี๋ยวจะช่วยฝึกให้เอง」
「……อื้อ」
หมอนี่ดูแลคนอื่นดีชะมัด
แต่อัลฟ่ากับพวกจัสติสครูเซเดอร์ที่อยู่ข้างๆ ฉันนี่น่าขนลุกเหลือเกิน
「เรื่องแรกก็จบไปแล้วที่เหลือก็…รายงานการโจมตีเหรอ….」
โกลดี้ที่กำลังคิดอะไรบอกอย่างก็กอดอกแล้วมองฉันอีกครั้ง
「สำหรับตอนนี้มาคุยกันเรื่องสำนักงานใหญ่ละกัน」
「ยังซ่อมไม่เสร็จใช่ไหมล่ะ? 」
「อ้า ถึงการดำเนินงานของฉันจะรวดเร็วระดับหนึ่ง แต่พวกเอเลี่ยนมันไม่ได้นั่งจิบชารอเสียหน่อย ฉันเลยต้องใช้ที่นี่เป็นฐานชั่วคราวไง」
เอาประเด็นสำคัญเลยก็คือมันโดนเซไคเซ็นไตระเบิดไป
กลับกันฉันแอบสงสัยด้วยซ้ำว่ารอดกันมาได้ยังไงทั้งที่โดนไปหนักสุดๆ บางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาถูกเรียกว่าผู้พิทักษ์ดาวโลกก็ได้
「เรื่องการซ่อมแซมมันไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาหลักๆ น่ะ คือ คัตสึมิคุง อัลฟ่า กับเธอต่างหาก」
「ทำไมพูดเหมือนจะย้ายพวกฉันไปอยู่สำนักงานใหญ่เลยล่ะ? 」
「ก็ตามนั้นแหละ หากสำนักงานใหญ่มันไม่โดนโจมตีก็ตั้งใจจะย้ายพวกเธอไปที่นั่น ทว่ามันกลับถูกโจมตีใส่แถมยังทำให้คนทั้งโลกรู้อีกว่าที่นั่นคืออะไร」
「นั่นสินะ จะกลับอพาร์ตเมนต์เก่าก็ไม่ได้ จะให้ไปอยู่บ้านคิราระอีกมันก็ยังไงอยู่….」
…เดี๋ยวนะจากที่คุยกันทำไมเหมือนฉันจะต้องย้ายตามเจ้าพวกนี้ไปด้วยล่ะ?
「อย่าบอกนะว่าที่คุยกันนี่คือเพราะร้านกาแฟที่ฉันอยู่ระเบิดไปด้วยเลยต้องมาหาที่อยู่ใหม่? 」
「แน่นอนสิ ไม่งั้นฉันจะพูดชื่อเธอขึ้นมาทำไม」
แล้วชินโดล่ะจะว่ายังไงบ้างนะ?
ไม่สิ เขาคงไม่คิดบ่นอะไรหรอก
「มีสองทางเลือก หนึ่งก็คืออยู่ที่ฐานชั่วคราวแห่งนี้หรือไม่ก็ไปอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยแห่งอื่น ถ้าเป็นกรณีหลังอาจจะต้องให้อัลฟ่าช่วยปรับการรับรู้สักหน่อย…」
ปรับการรับรู้?
เป็นพลังของอัลฟ่าดาวนี้เหรอ?
ทีนี้ความน่ากลัวในพลังดังกลาวคือมันสามารถทำได้ขนาดไหนสินะ….
「….ฮาคัว ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเหรอ? 」
「หืม? ถ้าเป็นตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ในพื้นที่ของพวกพนักงานน่ะ บรรยากาศอะไรก็ไม่ได้แย่นะ」
「……งั้นเหรอ」
โฮมุระกอดอกคิดอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นเขาก็มองไปทางอัลฟ่าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
「อัลฟ่าจากนี้ไปเธออยู่กับฮาคัวละกัน」
「เอ๋ ทำไมล่ะคัตสึมิ?!」
「ฉันรู้ว่ามันออกจะซับซ้อน แต่จริงๆ พวกเธอก็เป็นพี่น้องกันนี่ ถึงในอดีตฉันจะเคยเป็นน้องชายของพวกเธอด้วยก็เถอะ เอาเป็นว่าการที่พวกเธออยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่า」
อัลฟ่าตกใจกับข้อเสนอของโฮมุระ แต่เขาก็พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
「ฝากเธอหน่อยได้ไหมฮาคัว? 」
「อะ อื้อ ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก…แล้วคัตซึนล่ะ? 」
「ฉันน่าจะไปอยู่ที่อื่น」
「!? 」
คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้แค่ฮาคัวกับอัลฟ่าตกใจ แต่เป็นทุกคนในที่นี้
「ดะ เดี๋ยวสิ ทำไมล่ะคัตสึมิ? 」
「…..เพราะว่ามียัยโรคจิตเจ้าปัญหาตามฉันอยู่น่ะ แถมยังเคยพยายามจะเข้ามาแทนที่เธอด้วย」
「……หา? 」
「บางครั้งฉันก็สัมผัสได้ถึงการจ้องมองจากยัยนั่น เลยตั้งใจจะรักษาระยะห่างไว้สักหน่อยเพื่อไม่ให้เธอตกอยู่ในอันตราย」
พยายามจะแทนที่เขา…อาจจะเป็นผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อว่าอาสึซึ่งอยู่ในลำดับที่ 6
เธอบอกว่าเธอตั้งใจจะฆ่าท่านรูอินเสียด้วย ที่สำคัญคือเธอหน้าตาเหมือนกับอัลฟ่าตรงนี้ไม่มีผิด
「คัตสึมิคุง เรื่องนั้น….」
「เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกับคอสโม่จะต้องไปอยู่ที่ไหนล่ะ นายมีแผนใช่ไหม? 」
โฮมุระที่เปลี่ยนเรื่อง ก็ทำให้โกลดี้กลับมาคิดอีกครั้ง
「เอาเถอะ ถึงจะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเท่าไหร่นัก แต่ว่า….」
「「? 」」
「จนกว่าสำนักงานใหญ่จะซ่อมเสร็จคงต้องให้พวกเธอไปอยู่บ้านของจัสติสครูเซเดอร์ 3 คนนี้แหละ!!!」
「「!? 」」
ไปอยู่บ้านพวกเธอ!?
เอ๋!? ได้ยังไงกัน!? ฉันน่ะเหรอ!?
「ทำไมต้องให้ฉันไปอยู่บ้านของพวกเธอด้วยล่ะ?! อันที่จริงนายแค่หาที่พอจะให้ซุกหัวนอนได้ง่ายๆ ก็พอแล้ว!!」
「ชินโดซังบอกว่าจะอาหารหรืองานบ้านเธอก็ไปไม่รอดสักอย่างเลยนี่? 」
「ไอ้เจ้าบ้ากาแฟนั่น!!」
ไปพูดอะไรให้คนอื่นฟังกัน!
แต่มันก็เป็นเรื่องที่เถียงไม่ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันก็กินแต่อาหารรสชาติห่วยๆ ให้มีชีวิตต่อเพียงเท่านั้น
ส่วยเรื่องทำความสะอาดเลโอก็เป็นคนจัดการ….หรือการที่เขาคิดว่าฉันเป็นเด็กโหลยโท่ยเพราะเรื่องนี้เหรอ?!
「แบบนั้นคงได้รบกวนพวกอากาเนะกับคนอื่นๆ อีกแน่ ดังนั้นให้ฉันไปอยู่———」
「คัตสึมิคุง」
มือของโกลดี้วางเอาไว้บนไหล่ของโฮมุระในขณะที่เขาพยายามปฏิเสธ
「อนาคตของโลกใบนี้มันขึ้นอยู่กับคำตอบของนายมากกว่าที่คิดนะ」
「ถามจริง……? 」
「ก็ดูยัยพวกนั้นสิ」
「? 」
ฉันหันไปตามที่โกลดี้บอก แล้วก็พบว่าเรดและบลูกำลังเล่นเป่ายิงฉุบกันอยู่ด้วยสีหน้าสุดจริงจัง
「เป่ายิงฉุบตามหลักวิทยาศาสตร์……!」
「เป่ายิงฉุบเข้าใจง่ายดีนี่……!」
「ยัยพวกนี้มาจากดาวโลกจริงเหรอ? 」
「นักรบของดาวโลกก็แบบนี้แหละ」
「ถามจริง……? 」
ฉันมองดูพวกเธอทั้งสองคนที่แสดงท่าทีเป็นศัตรูออกมาใส่กันอย่างชัดเจนจนแทบไม่เชื่อว่าคือพวกพ้องกัน
ด้วยเหตุผลบางอย่างเยลโล่เหมือนจะไม่ได้เข้าร่วมด้วย
「โฮ่ย พวกเธอช่วยคิดกันให้ดีๆ หน่อยสิฟะ ฉันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งนะเห้ย ถึงตอนไปบ้านคิราระจะได้รับการอนุมัติจากพ่อแม่เธอ แต่ฉันก็มีความเกรงใจกับสามัญสำนึกนะเออ」
「ฉันไม่อยากจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากคัตสึมิคุงที่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แปลกๆ ตลอดหรอก!」
「……หาเรื่องกันเหรอฟะยัยบ้านี่!」
โฮมุระถึงกับหัวเสียเมื่อเรดตอกกลับใส่
ฉันคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับว่ายัยพวกนี้สามัญสำนึกผิดปกติ
「แล้วนายกล้าปฏิเสธเหรอ คนปกติที่ไหนจะยอมย้ายเข้าไปอยู่บ้านของคิราระกับชิราคาวะจังหลังเสียความทรงจำไปกัน?!」
「ชะ ชิบ ให้ตายสิ…!! มันก็จริงจนปฏิเสธไม่ได้อีก…!!」
เอ้า ยอมรับได้ซะงั้น
อย่างไรก็ตามถึงจะเป็นคนผิดของท่านรูอินทีทำให้เขาเสียความทรงจำไปถึง 2 ครั้ง แต่มันก็แปลกจริง
แล้วบลูที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่ตะกี้ก็พูดกับโฮมุระ
「รุ่นพี่คัตสึมิ ศาลเจ้าของฉัน กว้างขวาง」
「อยู่ดีๆ พูดอะไรของเธอ รุ่นพี่มาจากไหนฟะ? 」
「อุ ฉันอ่อนกว่า 1 ปี」
「……ถามจริง……? 」
บลูยิ้มออกมาอย่างภูมิใจเมื่อเห็นโฮมุระตกใจได้
「อุฟุฟุ รู้สึกยังไงบ้างที่ถูกเรียกว่ารุ่นพี่? 」
「ฉันว่า…มันค่อนข้างน่ารำคาญนะ ช่วยเรียกฉันแบบปกติเถอะ」
「คิ้ว」
「……อะไรของเธอน่ะ」
「เสียงใจเต้นตึกตัก」
「อะไรฟะ……? 」
ที่นี่มีแต่พวกพิลึกหรือไงกัน
โฮมุระทำการรับมือกับพวกจัสติสครูเซเดอร์ที่ผิดปกติแบบนี้ตลอดเลยเหรอ
「ทั้งที่เอาแต่พูดเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่ดันอยู่ศาลเจ้าเนี่ยนะ? 」
「เป็นไปตามหลักเหตุและผล」
「……。นี่หล่อนหมายถึงอะไรฟะ……? 」
ด้วยเหตุผลบางอย่างโฮมุระเหมือนจะแสดงท่าทีไม่เข้าใจที่เธอพูดเหมือนกับฉันเลย
「ขอโทษ ฉันพูดผิด」
「ก็นั่นสินะฉันก็ว่างั้น」
「อันที่จริงฉันเป็นร่างทรงแหละ」
「วิทยาศาสตร์แบบใดกันฟะ!? 」
ด้วยเหตุผลบางอย่างเหมือนบลูจะพอใจกับการพูดคุยนี้เป็นอย่างมาก
ในขณะที่ฉันพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด เรดก็เข้ามาขัด
「อะ เอ่อ……」
「หือ? อากาเนะ มีอะไรเหรอ? 」
ไม่เหมือนกับตอนปกติ เหมือนว่าเรดก็รู้สึกเขินอายขณะพูด
「ที่บ้านของฉันก็เป็นครอบครัวธรรมดานะ แถมยังเลี้ยงน้องหมาด้วย….」
「โกหกชัดๆ 」
「เดี๋ยวสิ ทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าเป็นเรื่องโกหกกันล่ะ!!」
ครอบครัวธรรมดา……!?
หมายความว่าเธอเกิดมาในครอบครัวคนปกติเลยเหรอ?
….เป็นไปได้ยังไง
ถึงวันนี้ฉันจะเจอเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลมาเยอะแล้ว แต่ครั้งนี้มันเกินไปสุดๆ
「เอาจริงดิ…ไม่ใช่ว่าเธออาศัยอยู่ในสำนักดาบหรืออะไรทำนองนั้นหรอกเหรอ? 」
「ไม่ใช่สักหน่อย บ้านธรรมดาเลยต่างหาก」
ดวงตาของบลูเบิกกว้างด้วยความตกใจพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง
「……ว้าว ชักจะสงสัยแล้วสิว่าเธอเติบโตมาแบบไหนถึงเป็นแบบนี้ได้……!? 」
「!!!? 」
ชักจะวุ่นวายแล้วสิ
「นี่ คอสโม่จัง」
「หืม? เยลโล่เหรอ มีอะไรล่ะ? 」
「ถ้าเธอไม่มีที่ไป จะพักบ้านฉันก็ได้นะ」
「……」
ฉันหันกลับไปมองเรดกับบลูอีกครั้ง
เรดยังคงได้รับดาเมจจากคำพูดของบลู ที่เดาไม่ออกจริงๆ ว่าคิดอะไรอยู่ในหัว
「ฝากด้วย……」
「อื้อ ฝากตัวด้วย」
หลังจากได้คุยกันสักพักฉันก็เข้าใจแล้วว่ายัยนี่เองก็คงมีเรื่องให้ลำบากใจหลายๆ อย่างเหมือนกัน
–จบ–
ข้อเสนอที่มีโลกเป็นเดิมพัน ฮาคัวกับคิราระที่ได้รับสิทธิ์นั้นไปแล้ว มีหรืออีก 2 คนจะยอม
ดูจากทรงคอสโม่คงได้สนิทกับคิราระที่สุดในทีมแและน่าจะเป็นคนที่เธอคิดว่าปกติที่สุดด้วยแหละมั้ง ทีนี้ก็มาลุ้นกันว่าพ่อหนุ่มคัตสึมิของเราจะได้ไปอยู่กับใคร
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code