อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 78 เมื่อทุกอย่างมาบรรจบกัน 4
เซไคเซ็นไตได้ตายลงไปแล้ว
เรดผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม ได้ตกลงสู่ด้านมืดและกลายเป็นความยุติธรรมที่บิดเบี้ยว
พิงค์ที่ร่าเริงก็กลายเป็นตุ๊กตาคลั่งที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ นอกจากความรักที่มีต่อเรด คนรักเก่าของเธอ
กรีน พี่ใหญ่ผู้เป็นมันสมองของกลุ่มกลายเป็นคนโหดร้าย บ้าคลั่ง ชอบใช้กำลังซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับตัวเขาในอดีต
บลู พี่ชายของฉัน ชายผู้มีจิตใจดีงามและพร้อมจะช่วยเหลือพวกพ้องเสมอไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปทางไหน ทว่าหลังเห็นการกระทำของพวกพ้องที่สุดเลวร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จิตใจของเขาก็ได้แตกสลาย
ส่วนถ้าถามว่าฉันเป็นยังไงละก็…..
ตัวฉันในตอนนี้จะตายไม่ได้เด็ดขาด ฉันจำเป็นจะต้องเป็นพยานในการเฝ้ามองจุดจบของพวกเขา
สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นฉันยังใช้กายเนื้อจริงๆ ของตัวเองในการเข้าสู่สนามรบ แตกต่างจากพวกที่เหลือซึ่งใช้หุ่นที่สร้างขึ้นมาจากพลังแห่งดวงดาราที่บิดเบี้ยว
ส่วนถ้าถามว่าพลังแห่งดวงดาราคืออะไร ฉันก็ไม่อาจทราบได้เหมือนกัน
「อันนี้เรียกว่าการยิงแฉลบสินะ」
ผู้พิทักษ์ของดาวโลก จัสติสครูเซเดอร์
ในการต่อสู้ระหว่างฉันกับบลู ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกหยอกเล่น
「การเล็งของเธอแม่นยำ และรับประกันว่าคงจะโดนเป้าหมายเสมอ แต่มันก็อยู่แค่ในขอบเขตการมองเห็นภายในหน้ากาก」
ใช่แล้ว
กระสุนที่ฉันยิงใส่บลูไม่ได้ทำให้เธอเกิดบาดแผลใดๆ
ทั้งที่มันสามารถพรางตัวและติดตามเป้าหมายได้แท้ๆ แต่มันกลับไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย ทุกครั้งที่ฉันยิงกระสุนออกไป ก็จะเกิดเสียงลูกโป่งแตกแทนจากทางอีกฝ่าย
「งั้นวิธีรับมือก็ง่าย」
ยิงโดนตัวล่ออีกแล้ว!
แถมควันยังพวยพุ่งออกมาจากตัวล่อจนแผ่กระจายไปรอบๆ
ในขณะที่พยายามปัดควันพวกนี้ออกไป ฉันก็พยายามเล็งร่างของบลูใหม่ แต่กลับไม่พบร่างของเธอตรงหน้าเลย
『ก็แค่ทำให้เธอมองไม่เห็น』
แสงสว่างส่องจ้ามาจากด้านข้าง
ฉันมั่นใจว่านั่นคือแสงที่ออกมาจากปืนของเธอ ก็เลยรีบหลบ
「เธอนี่พูดจากวนประสาทชะมัด」
จัสติสบลู
นักรบของดาวโลกที่ยิงปืนได้แม่นยำยิ่งกว่าใคร
ทว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเธอคือการยั่วยูศัตรูและใช้ความฉลาดหลอกล่อ วางกับดักอีกฝ่าย ก่อนจะสังหารไม่เหลือซาก
『นั่นก็ใช่ แต่เจ็บปวดจัง』
「อย่าเอาแต่ซ่อนตัวแล้วออกมาซะ!!」
『อารมณ์เสียแล้วเหรอ? ไม่มีประโยชน์』
ถึงจะได้ยินเสียงของเธอแต่ก็จับทางไม่ได้ว่ามาจากทางไหน
ทว่าฉันก็ไม่กังวล
เพราะสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของฉันจริงๆ คือการป้องกันต่างหาก
「แต่เธอทำอะไรฉันไม่ได้หรอก มนุษย์โลก!!」
ฉันทำการกางบาเรียพลังงานดวงดาวขึ้น
มันเป็นบาเรียที่ป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบจากกลไกการบิดเบือนมิติภายนอก
ผลก็คือการโจมตีของบลูถูกปัดออกไปจากฉัน
หากฉันไม่มีพลังนี้อยู่ ฉันคงถูกหมัดอัศวินดำต่อยทะลุท้องไปตั้งแต่แรกแล้ว
「ไม่ว่าจะเล็งตรงไหน ก็ไม่มีทางทำลายบาเรียของฉันได้หรอก..!!」
『ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้』
「ยังกล้าพูดอีกนะ……!!」
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองคุยกับอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องแปลกๆ
มีอะไรผิดปกติกับตัวแปลภาษาโลกหรือเปล่านะ?
หรือจริงๆ แล้ว ยัยนี่แค่เป็นคนประหลาด?
ในขณะที่สับสนอยู่นั้นเองฉันก็ก้าวออกไปข้างหน้า———
「หา ไอ้นี่มัน!? 」
ก่อนที่ฉันจะรู้สึกตัว ใต้เท้าของฉันก็เกิดการระเบิดขึ้นแล้ว ต่อล่อที่มีรูปทรงเหมือนหัวมนุษย์ก็พุ่งออกมาเข้ากระแทกกับหน้าของฉันเต็มๆ
「อั๊ก โถ่เว้ย โดนตัวล่อเสยคางเหรอเนี้ย?! อ้า ให้ตายสิยะ!! อีกแล้ว!!」
ในขณะที่ฉันกำลังพยุงร่างของตัวเองให้ลุกขึ้น มือของฉันก็ไปโดนเข้ากับอะไรบางอย่างอีกครั้ง
———อึก แย่แล้ว
「โถ่เว้ย!? 」
คราวนี้คือกับดักที่เหมือนกับทุ่นระเบิดของจริง แล้วมันก็ทำการระเบิดจนสร้างแรงปะทะเข้ากับร่างของฉัน
เห้อ…โชคดีที่บีบบาเรียเข้ามากันได้ทันเลยยังหายใจได้สะดวกอยู่!
ต้องรีบตั้งสติแล้วก็——、
「……ข้างหลัง!!」
เมื่อสัมผัสได้ถึงเสียงฝีเท้า ฉันก็หันกลับไปแล้วยิงปืนไปยังจุดที่เกิดเสียง
กระสุนของฉันทะลวงเข้าไปตรงกลางชุดสูทของบลูทันที
『……อะไรกัน……? มะ…ไม่จริง』
มีเสียงเล็ดรอดออกมาจากร่างนั้นหลังถูกกระสุนของฉันยิงเข้้าไป
แล้วเสียงล้มลงกับพื้นก็ดังขึ้น หลังสังเกตอยู่พักหนึ่งก็มั่นใจแล้วว่าร่างนั้นไม่เคลื่อนไหว
「ในที่สุด ก็เอาชนะ……」
『น่าเสียดาย แต่พลาด』
「!? 」
เสียงมาจากทางร่างที่โดนเจาะไปแล้วของบลู
เพราะฉันโล่งใจจนไม่ทันระวังตัวจึงไม่สามารถตอบสนองต่อเสียงปืนที่ดังขึ้นจากด้านหลังของฉันได้ทัน
ความเจ็บปวดวิ่งผ่านไหล่ขวาของฉัน อาวุธในมือของฉันปลิวทันที
「คะ คึก……!? 」
ฉันล้มลงกับพื้น แล้วรีบมองไปทางทิศที่กระสุนพุ่งมา ก็พบว่าบลูกำลังถือสไนเปอร์ไรเฟิลอยู่อีกตึกหนึ่ง
『ึถึงจะฆ่าเธอไปก็ไม่ได้อะไร ดังนั้นต้องทำให้เธอหมดสภาพ….มีเรื่องที่ฉันอยากจะถาม』
ขะ ขยับไม่ได้เลย!
ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ทำไมฉันถึงถูกลอบยิงจากข้างหลังได้กัน?!
「ทะ ทำไมกัน! ทั้งที่เธอควรจะอยู่ตรงนี้แท้ๆ!! แล้วทำไมไปอยู่ตรงนั้นได้!!」
『สูทนั่นก็ตัวล่อ』
ฉันเจาะร่างของเธอแล้วแน่นอน
สูทที่ล้มอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน….
「!? 」
ไม่ใช่ นั่นมัน!!
สูทที่ล้มอยู่กับพื้นมีสิ่งที่ผิดปกติไปนั่นก็คือ ส่วนบริเวณแขนขวาของสูทและอุปกรณ์แปลงร่างหายไป
『หากจะใช้อาวุธสิ่งที่ฉันต้องการคือสูทส่วนแขนขวา แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว แถมยังใช้ที่เหลือล่อเธอได้อีก』
「ว่าแต่ ทำไมเสียงของเธอ——」
『ดูให้ดีๆ สิ』
มีอะไรกำลังบินออกมาจากสูทของเธอ?
ไม่นานนักเครื่องจักรทรงกลมสีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงของบลูที่ออกมาจากสิ่งนั้น
『อุปกรณ์ใหม่ จัสติสบิท ในขณะที่กำลังล่อเธอฉันก็ย้ายมาที่นี่ด้วยโดรน ส่วนเสียงที่เธอได้ยินก็คือเสียงที่ฉันบันทึกเอาไว้ก่อนหน้านี้』
「……เสียงที่บันทึกเอาไว้……? 」
『โกรธหรือเปล่า? ถึงโกรธก็ไม่มีประโยชน์หรอก』
เสียงที่ฉันได้ยินระหว่างสู้ก่อนหน้าคือตัวล่อทั้งหมด
『เป็นยังไงบ้างล่ะ? ไม่รู้สึกถึงความต่างเลยสินะ? ทั้งที่บันทึกไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินแท้ๆ ….แต่มีประโยชน์กว่าที่คิด』
เป็นไปไม่ได้ เธอใช้ของพวกนี้เพื่อทำให้ฉันคิดว่าอยู่ใกล้ๆ เหรอ?!
ถึงบางครั้งจะคิดว่าคำพูดของเธอมันแปลกๆ แต่ไม่คาดไม่ถึงเลยว่าจะจบแบบนี้…
『เธอคิดว่าศัตรูจะอ่อนแอที่สุดตอนไหน? 』
「……ตอนที่มั่นใจในชัยนะของตัวเอง……คึก」
『ถูกต้อง ดีใจที่คุยกันรู้เรื่อง ไม่อยากให้ใครไปยุ่งกับการต่อสู้ของอัศวินดำคุงด้วยสิ』
แม้จะน่าหงุดหงิดแต่ฉันก็พ่ายแพ้แล้ว
บลูตั้งใจจะขวางฉันเอาไว้ตั้งแต่แรก
ในระหว่างที่ฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้ บลูก็ขี่โดรนกลับมาแล้วสวมชุดสูทอีกรอบ
「…ดูเหมือนพวกของเธอก็จะแพ้แล้ว」
「……」
เมื่อฉันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเรดกับเยลโล่ กำลังขึ้นยานของตัวเองเพื่อตรงไปทำลายยานของพวกฉัน
「แบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้……」
ฉันไม่มีความกล้าพอจะมอบจุดจบให้พวกเขา
เพราะส่วนหนึ่งในใจของฉันก็ยังหวังให้พวกเขากลับมาเป็นปกติ ทว่า…สิ่งที่ฉันทำตลอดเวลาที่ผ่านมาก็เลวร้ายเหลือเกิน
เมื่อตั้งใจจะเฝ้ามองวาระสุดท้ายของพวกพ้อง เสียงปริศนาก็ดังขึ้นก่อนมันจะพุ่งผ่านยานของเรดกับเยลโล่ไป
「แสงนั้นมัน……ลำดับที่ 7———」
นั่นคือสิ่งที่ฉันสามารถพูดออกมาได้ทัน
แสงที่ตกลงมาราวกับดาวตก เข้าปะทะกับจุดที่อัศวินดำกำลังต่อสู้อยู่ ก่อนจะแผ่กระแสไฟฟ้าไปรอบๆ
แม้จะไม่ได้รับผลกระทบตรงๆ แต่กระแสไฟฟ้าที่พวยพุ่งออกมาก็ทำให้ฉันเสียหลักล้มลงไปอีกครั้ง
***
โชคดีที่ยังพอจะสร้างบาเรียขึ้นมาปกป้องตัวเองได้แม้ร่างกายจะขยับไม่ไหวแล้ว
ด้วยเหตุนี้เองฉันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจากแรงกระแทกหรือเศษหินที่พุ่งมาระหว่างกระเด็น
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์ของฉันจะดีขึ้น อันที่จริงฉันอยู่ในสภาพแย่สุดๆ ตั้งแต่ถูกบลูโจมตีแล้ว
『TRUTH FORM! ACCELERATION!!』
ไม่นานนัก พื้นที่พิเศษที่สร้างขึ้นก็พังทลาย….แสงสีทองได้ส่องจ้าออกมา
อัศวินดำ นักรบชาวโลกที่แสนน่ากลัวปรากฏขึ้นพร้อมกับไดรฟ์สีทองแวววาวในมือ
「หื้ม!!」
『PERFECT!!』
หัวเข็มขัดถูกเสียบเข้าไปในเข็มขัดของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นมือขวาของเขาไปบนฟ้า
จังหวะนั้นเอง สนามพลังงานก็ก่อตัวขึ้นเหนือหัวของเขา เหมือนกับเสาแห่งแสง
เสียงกึกก้องจากเข็มขัดดังขึ้น เกราะสีดำเริ่มประกอบเข้ากับร่างของเขา
『ALL!』
『ALL!』
『ALL!』
『ALL!』
จากนั้นก็เป็นเกราะสีขาวซึ่งเป็นเกราะชั้นนอก ค่อยๆ เข้ามาประกอบต่อ
เสียงปะทะกันขอโลหะดังลั่น แถบตราที่คล้ายกับขนนกสีแดง น้ำเงิน เหลือง และดำ ถูกติดเอาไว้ตรงหน้าอกของเขา
『ALMIGHTY!!!』
นอกจากนี้บริเวณขอบเกราะสีขาวของเขาก็ถูกประดับไว้ดวงสีทอง
เสื้อคลุมตรงเอวถูกสะบัดออกมาชวนให้ดูน่าเกรงขาม
『THE ENEMY OF JUSTICE……』
『『『TRUTH FORM!!!』』』
เขาทำการสะบัดมือเพื่อพัดสนามพลังงานออกไป อัศวินดำ———ไม่สิ อัศวินขาวแปลงร่างเสร็จแล้ว
จากนั้นเขาก็หันไปมองหญิงสาวผมสีขาวที่อยู่ข้างหลังเขา
「……」
「……ตะตะตะ แต่ว่ายังไงฉันก็ต้องขอโทษนายที่เรียกตัวเองว่าพี่สาวอยู่ดี……」
「ไม่หรอก ฉันก็ไม่คิดจะว่าอะไรเธออยู่แล้ว……」
「พูดจริงนะ แบบว่าสถานการณ์มันพาไป……」
「พาไปแบบไหนถึงไปจบตรงนั้นได้ฟะ……」
ไม่เข้าใจที่พวกเขาพูดกันเลยสักนิด
ในขณะที่ฉันสงสัย มอมัลเรดกับคนอื่นๆ ที่ได้รับร่างใหม่มาแล้วก็กระโดดลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับอาวุธของพวกเขา
「มะ ไม่นะ!!」
ฉันตะโกนออกไปทันที ทว่ามันก็สายเกินไปแล้ว ดาบสีแดงในมือของอัศวินขาวได้ทำการฟันร่างของทั้ง 3 คนยกเว้นมอทัลเรดขาดครึ่งทันทีด้วยเปลวเพลิง
มอทัลเรดที่เห็นพวกพ้องถูกฆ่าในคราวเดียวก็ถึงกับขำไม่ออกเพราะคาดไม่ถึงว่าจะต้องมาเจอความต่างของพลังขนาดนี้
「คิดเหรอว่าจะชนะได้จริงๆ เพียงเพราะกลายเป็นร่างขาว? 」
「ย้ากกกก!!」
ในขณะที่มอทัลเรดพุ่งเข้าไปโจมตีอัศวินขาวด้วยดาบใหญ่ อัศวินขาวก็ฟันแขนทั้งสองข้างของมอทัลเรดทิ้งโดยไม่สนใจเสียงของมอทัลเรดเลย
ฉันอดตะลึงกับผลลัพธ์นี้ไม่ได้จริงๆ
「…ดาบดันเข้ามือฉันเฉยเลยวุ้ย แต่ก็คงประมาณนี้แหละมั้ง」
「คะ คึก……」
「อะไรที่ทำให้พวกแกมาอยู่ในสภาพนี้ได้กันนะ」
อัศวินขาวใช้นิ้วแตะปุ่มตรงหัวเข็มขัด
『DEADRY 0!!』
เขากดมันอีกรอบ
『DEADLY Ⅰ!!』
「อะไรที่ผูกมัดพวกแกเอาไว้อยู่? 」
『TYPE RED!!』
เขาแตะไปที่หัวเข็มขัดแล้วชี้นิ้วไปข้างบน
「เอาเป็นว่าจัดการยานที่รกตานั่นก่อน」
『ALL BREAK!!』
『FLARE EXPLOSION!!』
พลังงานที่สะสมเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกมาสู่ท้องฟ้า
แสงวูบวาบฉีกกระชากความมืดมิดยามราตรี
ยานของพวกเราถูกทำลายลงทันที และนั่นเป็นยานของมอทัลบลู
「ม่ายยยยย!? 」
ร่างหลักของมอทัลพิงค์ที่อยู่บนยาน ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
มอทัลเรดกับกรีน สับสนกับสิ่งที่เห็น แต่อัศวินขาวก็ไม่ได้สนใจหรือแสดงความเมตตาใดๆ
「ให้ตายสิ ทำไมพวกนายถึงได้โง่เง่ากันแบบนี้นะ……!!」
อมตะไม่ได้แปลว่าแข็งแกร่ง
ไม่ว่าจะคุ้นเคยกับความตายนับร้อยนับพันครั้ง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่ควรเข้าไปท้าทาย
「เปลี่ยนเป็นอัศวินขาวแล้วสินะ! อัศวินดำ!!」
「!」
กระแสไฟฟ้าคำรามขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ลำดับที่ 7 พุ่งลงมาโจมตีอัศวินดำ
แน่นอนว่าการโจมตีนั้น ฉันก็คงจะโดนไปด้วย———
『DEADRY 0!』
『TYPE LUPUS!!』
「หึ!!」
『ALL BREAK!!』
『LUPUS! BITING SLASH!』
ก่อนที่กระแสไฟฟ้าจะฟาดลงมา อัศวินขาวได้ใช้มีดของเขาป้องกันเอาไว้
และนั่นก็ทำให้ฉันรอดจากการโจมตีนั้นไปด้วย ทว่าจากที่ได้ยินมาลำดับที่ 7 ในแง่ของนิสัยกับสไตล์การต่อสู้แล้ว….
「ยัยนี่น่ารำคาญชิบ…ฮาคัวเธอบาดเจ็บหรือเปล่า? 」
「อะ อื้อ」
「เอาเป็นว่ารีบหนีจากตรงนี้ก่อนเถอะ……」
『BLACK4!!』
「หือ? 」
ยานสีดำเคลื่อนตัวมาจอดตรงหน้าอัศวินขาว
『คัตสึมิ พาฮาคัวขึ้นยานมาเลย!』
「โห้ว……เหมือนเดลอเรียนเลยวุ้ย……」
「คัตซึน ไม่ยกตัวอย่างเก่าไปหน่อยเหรอ……? 」
มันคือยานของอัศวินขาวที่ใช้สู้กับอาริสต้าสินะ?
เอาอุ้มสาวผมขาวที่อยู่ข้างหลังของเขาขึ้นไปข้างในนั้น
「ฮาคัว ไว้เดี๋ยวฉันจะมาคุยเรื่องที่เธอเรียกตัวเองว่าพี่สาวฉันทีหลังเข้าใจไหม? 」
「อะ อื้ม……」
「แต่ว่าฉันไม่โกรธเธอ จบนะ? 」
เขาปิดประตูยานทันที
จากนั้นอัศวินขาวก็มองยานบินออกไปจากพื้นที่การต่อสู้ ก่อนจะหันไปหาลำดับที่ 7 ซึ่งลอยอยู่บนฟ้า
「เอาล่ะ งั้นมาลุยกันต่อดีกว่า!」
「ยังกับแกน่ะทีหลังรอไป!!」
ลำดับที่ 7 ลอยตัวลงมาก่อนจะพูดต่อ แม้จะไม่เห็นว่าสีหน้าเป็นอย่างไรเพราะร่างไฟฟ้า แต่เธอกลับโวยวายออกมาเหมือนเด็ก
「ไม่เอา ไม่รอแล้ว อยากจะสู้อ่ะ!!」
「เดี๋ยวฉันจะกลับมาสู้ด้วย แกน่ะรอไปก่อน」
「ไ่ม่เอา」
「……」
「……」
ในวินาทีต่อมาอัศวินขาวและลำดับที่ 7 ก็ปะทะกันกลางอากาศ
ในขณะที่ถือขวานสีเหลืองในมือ อัศวินขาวก็โจมตีลำดับที่ 7 โดยไม่ได้สนใจกระแสไฟฟ้าของเธอเลยสักนิด
『FLARE RED!! →OK? 』
『CHANGE!! →TYPE RED!!』
ร่างของอัศวินขาวถูกเปลวเพลิงกลืนกิน
เพียงแค่เหวี่ยงขวานที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง เสาเพลิงก็พวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้าแล้วกลืนร่างของลำดับที่ 7
「! ได้เห็นเปลวไฟสุดยอดนี่เป็นครั้งแรกเลย!!」
ลำดับที่ 7 กระโดดออกมาจากเปลวเพลิงแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้า
ทว่าเปลวไฟของอัศวินขาวก็พุ่งออกมาป้องกันเอาไว้จนหักล้างกันไป
「หือ!? 」
「แต่ก็ยังไม่เท่าเรดอยู่ดี———ชิ」
อัศวินขาวขว้างขวานของเขาออกไปแล้วหยิบดาบขึ้นมาใหม่ก่อนจะชี้ปลายดาบที่ถือด้วยสองมือไปยังลำดับที่ 7
「เอาอีกสิ ยิ่งกว่านี้!!」
เขาเหวี่ยงดาบที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงอยู่หลายครั้ง
ลำดับที่ 7 แสดงความตื่นเต้นออกมายิ่งกว่าเดิม พร้อมกับหลบหลีกการโจมตีสุดแรงนี้ไปด้วย
「เหมือนว่านายจะยังช้าไปนะ!」
「เหอะ แค่ตามให้ทันก็พอแล้ว!!」
『CHANGE!! →TYPE YELLOW!!』
แสงสว่างจ้าแล้วร่างของเขาก็หายไป
แสงวาบบนท้องฟ้าส่องไปมาเป็นระยะ การต่อสู้คราวนี้มันเหนือกว่าระดับของฉันไปไกลแล้ว
「ได้ยังไงกัน……」
มีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่บนดาวโลกด้วยเหรอ
เหมือนกับจัสติสครูเซเดอร์
แม้จะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่สวมสูท แต่พละกำลังที่เขาดึงออกมาได้มันเหนือกว่าพวกเราทุกทาง
「หือ เยลโล่ ขยับตัวไม่ได้เหรอ」
「……อัศ…วินดำ」
「อื้อ อัศวินดำเอง」
ก่อนจะรู้สึกตัวอัศวินดำก็มานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน ฉันพยายามพยุงร่างของตัวเองขึ้นแล้วมองไปบนท้องฟ้าโดยพิงอีกฝ่ายไว้
เมื่อมองไปยังใบหน้าของเธอ ทำไมเธอถึงได้ดูสดชื่นขนาดนั้นกัน
เมื่อตั้งสติได้ ฉันก็ถามเธอ
「เธอแพ้มาเหรอ? 」
「อื้อ แต่สนุกมากเลย」
「……สนุกเหรอ……」
หมายความว่ายังไงกัน เธอมีความรู้สึกด้วยเหรอ
อัศวินดำที่ฉันรู้จักอยู่ในสภาพที่ผิดแปลกออกไปจากที่ฉันเคยเจอ
「ฉันสัญญากับเขาว่าจะไม่มียุ่งกับดาวโลกอีก」
「นี่เธอ……ยอมง่ายๆ งี้เลยเหรอ」
「? แต่ก็ไม่ได้ไล่ให้ออกจากโลกนี่เนอะ」
「……หือ? 」
นี่วางแผนจะอยู่โลกต่อเหรอ?
อัศวินดำทำท่างอนแก้มป่องเหมือนกับเด็กน้อยขณะมองอัศวินขาวสู้กับลำดับที่ 7 อยู่เหนือหัวเธอ
「ทั้งที่เกือบจะถูกจับตัวแล้วแท้ๆ มาขัดซะได้」
「หา? 」
「ลำดับที่ 7 ยกโทษให้ไม่ได้」
….ยัยนี่พูดบ้าอะไรออกมากัน
ฉันก็ไม่ใช่พวกที่ตามคนอื่นทันนักหรอกนะ แต่สิ่งที่ยัยนี่พูดมันเหนือเกินความเข้าใจไปมากจริงๆ
ในขณะที่ฉันกำลังคิดอย่ ฉันก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้อีกครั้ง
『CHANGE!! →TYPE BLUE!!』
「การโจมตีทะลุเหรอ!? 」
ร่างของเขากลายเป็นของเหลวแล้วเคลื่อนที่ไปในอากาศอย่างลื่นไหล
จากนั้นร่างของเขาก็ไปพันรอบร่างของลำดับที่ 7 แล้วจับลำดับที่ 7 ทุ่มลงกับพื้น
「อึก!? ได้ยังไงงงงงง!? 」
ร่างของลำดับที่ 7 กระแทกลงพื้นไปมาหลายครั้งติดกัน ก่อนที่อัศวินขาวจะกลับร่างจริงแล้วเตะอีกฝ่ายขึ้นฟ้า
「ยังหรอกน่า!!」
อัศวินขาวแปลงร่างเป็นสีแดง แล้วใช้ดาบเพลิงฟาดใส่อีกฝ่าย
เปลวเพลิงทั้งหมดพุ่งไปหาลำดับที่ 7 การระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งบนฟ้าและกลืนร่างของพวกเขา
「ฟุ้ว!! ฮ่าๆๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้สนุกขนาดนี้!!」
การต่อสู้ของอัศวินขาวกับลำดับที่ 7 ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบสักที พวกเขายังไม่เหนื่อยกันเลยด้วยซ้ำ
「เอาอีกสิ มีอะไรงัดมาให้หมดเลย!」
สัตว์ประหลาดสองตัวปะทะกัน
ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าไปสู้ได้ด้วยเลยสักนิด ทำไมมอทัลเรดถึงคิดว่าจะเอาชนะเขาได้กัน
「อ้า รู้สึกดีราวกับมีชีวิตอยู่เลย!!」
「ก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอฟะ!!」
「มันคือความรู้สึกที่มีชีวิตชีวาต่างหาก!! เหมือนกับตอนที่ยังมีกายเนื้ออยู่เลย!!」
「ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าจะมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านขนาดนี้ทำไม!!」
ลำดับที่ 7 แสดงท่าทีมีความสุขมากขณะสู้กับอัศวินขาว
ฉันก็ได้ยินหรอกว่าลำดับหลักเดียวมันน่ากลัว แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้
「อัศวินขาวดูเหมือนจะมีความสามารถที่หลากหลายในขณะที่ร่างอัศวินดำจะเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดและใช้ความเร็วสินะ…หุหุหุ แถมร่างอัศวินขาวยังใช้ดาบอีกด้วย」
ัอัศวินดำที่อยู่ข้างๆ ฉันเองก็ไม่ละสายตาจากอัศวินขาว
ส่วนตัวฉันไม่ค่อยสนใจอะไรพวกดาบนักจึงไม่เข้าใจ
「ัชักจะรำคาญแล้ววุ้ย เตะก้นแกให้จบไปเลยละกัน!!」
「เอาสิ น่าสนุกดี!!」
「พูดมากชิบ!!」
『GRAVITY BLACK!! → OK? 』
『CHANGE! TYPE BLACK!!』
อัศวินขาวกดไปที่หัวเข็มขัด ร่างของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีดำ
กระแสไฟฟ้าของลำดับที่ 7 ปะทะเข้ากับคลื่นแรงโน้มถ่วงของอีกฝ่าย
『DEADRY 0!!』
เขาใช้มีดของตัวเองฟาดฟันสายฟ้าที่ขวางทางอยู่แล้วสับหัวเข็มขัดอีกครั้ง พลังงานสีขาวห่อหุ้มร่างของเขา
『DEADLYⅠ!!』
เขาสับหัวเข็มขัดอีกครั้ง
พลังงานสีขาวได้พวยพุ่งออกมายิ่งกว่าเดิม
『DEADRY Ⅱ!!』
ปืนจำนวนมากปรากฏออกมาจากประตูมิติ โดยทุกกระบอกล็อกไปทางลำดับที่ 7 แล้วปล่อยกระสุนพลังงานสีน้ำเงินออกมา
『DEADRY Ⅲ!!』
จากนั้นลำดับที่ 7 ก็ใช้ลูกเตะต้านการโจมตีนั้น แต่อัศวินขาวก็ใช้ขวานที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังงานไฟฟ้าเข้าปะทะกับอีกฝ่าย แถมพลังของอัศวินขาวยังเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วย
『DEADRY Ⅳ!!』
「กัดฟันเอาไว้ให้ดีล่ะ!!」
『TYPE BLACK!!』
หมัดที่ห่อหุ้มไว้ด้วยออร่าสีดำถูกปล่อยออกมา แล้วแรงโน้มถ่วงตรงหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ร่างของลำดับที่ 7 ลอยขึ้นไปด้านบนจนฉันพูดอะไรไม่ออก
「กรงแรงโน้มถ่วง!? แบบนี้ก็หนีไปพ้นแล้วสิ……!! โอ้วววว!!」
เขายึดร่างของลำดับที่ 7 ไว้ได้งั้นเหรอ?
ด้วยการควบคุมพลังแรงโน้มถ่วงนี้ ถึงจะเป็นลำดับที่ 7 ก็ดิ้นไม่หลุดแหง
「ฮ่าๆๆ!! ของจริงเลยแฮะ! นายใช้อะไรแบบนี้ได้ด้วย!!」
「หยุดหัวเราะได้แล้วเฟ้ย!!」
「ต้องหัวเราะสิ!! เพราะมันสนุกนี่นา!!」
ิอัศวินขาวตั้งท่าเตรียมเตะ
จากนั้นประตูมิติก็ถูกสร้างขึ้นข้างหลังของลำดับที่ 7 เสี้ยววินาทีต่อมา อัศวินขาวก็เตะเธอเข้าไปในนั้นทันที
「ไปให้ถึงดวงจันทร์ซะยัยมนุษย์ไฟฟ้า!!」
『ALL BREAK!!』
『GRAVITY CRASH!!』
「วู้ว」
เธอแสดงน้ำเสียงตกใจออกมา ก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้น
ลำดับที่ 7 กระเด็นเข้าไปข้างในประตูมิติ ก่อนที่ประตูนั้นจะปิด แล้วร่างของเธอก็หายไปจากโลกใบนี้อย่างถาวร
「……」
หลังประตูมิติถูกปิดไป สนามรบก็เข้าสู่ช่วงเงียบสงบ
「เอาเป็นว่ายัยนั่นคงไม่กลับมาได้อีกสักพักแหละ……」
แม้แต่ลำดับที่ 7 ก็พ่ายแพ้
ฉันรู้ว่าศัตรูคราวนี้แข็งแกร่ง แต่นี่มันเหนือกว่าจินตนาการเสียอีก
พวกฉันเองก็เป็นลำดับต้นๆ ขององค์กร ทว่ากลับทำอะไรเขาไม่ได้เลย
「เอาละ ทีนี้ก็มาถึงตอนจบสักที……」
「……? 」
ทำไมเขาพูดเหมือนมันยังไม่จบกันล่ะ?
ไม่มีใครในที่นี้จะต่อสู้เขาได้อีกแท้ๆ
ทว่าอัศวินขาวก็เหยียดแขนไปมาราวกับกำลังวอร์มอัพ แล้วสูดหายใจเข้า
「ฮู้ว……รูอินนนนนนนนนนน!!!」
เขาตะโกนชื่อของใครบางคนขึ้น
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรตอบกลับมา อัศวินขาวก็ตะโกนให้ดังกว่าเดิม
「ฉันรู้ว่าแกจับตามองฉันอยู่!! อย่าเอาแต่มอง ออกมาเดี๋ยวนี้!!」
———รูอิน?
นี่เขากำลังจะเรียกใครออกมากัน?
「แบบนี้เองสินะ」
「อัศวินดำ? 」
「ก็ว่าทำให้ถึงสนใจโลกขนาดนี้ เข้าใจแล้ว เรื่องนี้เอง」
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น? อัศวินขาวกำลังเรียกหาใครอยู่?
ในขณะที่ฉันกำลังสงสัยกับการกระทำของเขา ก็เกิดสิ่งผิดปกติขึ้น
วังวนห้วงมิติสีดำได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าอัศวินขาว
จิตใจของฉันที่เหนื่อยล้าอยู่แล้วเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า ร่างกายของฉันก็ล้มลงกับพื้นทันทีราวกับถูกพลังที่มองไม่เห็นกดทับ
「อึก……!? 」
ร่างกายของฉันติดอยู่กับพื้นโดยไร้แรงต้าน
「นี่……มัน เกิด อะ ไร ขึน……!? 」
「อย่าฝืนจะดีกว่า」
ทางอัศวินดำเหมือนจะไม่ล้มลงกับพื้น แต่ไหล่ของเธอก็สั่นไม่น้อย เมื่อฉันมองไปรอบๆ ก็พบว่าไม่ใช่แค่ฉัน แต่เป็นมนุษย์โลกทุกคนที่อยู่แถวนี้ต่างก็ล้มลงกับพื้นกันหมด
บางสิ่งที่กำลังจะออกมาจากประตูมิตินั้น ได้ทำให้ทุกชีวิตตรงหน้าต้องยอมคุกเข่าก้มกราบ
「ความกลัว คือกฏพื้นฐานที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องมี」
「พูด อะ……? 」
「ทว่า มันก็มีข้อยกเว้นเสมอ」
อัศวินดำชี้ไปที่อัศวินขาวผู้อยู่อยู่ตรงหน้าประตูมิติโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย
———เสียงฝีเท้าดังขึ้น
แม้จะไม่ได้ดังกังวาล แต่ฉันก็รู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง
「เฮ้อ ไม่ไหวๆ น่ารักจริงๆ นะแกเนี่ย」
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้น
เสียงที่เหมือนกับแอลกอฮอล์ที่ทำให้ผู้ที่รับฟังมึนเมา
สิ่งที่ออกมาจากประตูมิติ คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ของดาวโลก
「รู้หรือเปล่าแกเป็นคนแรกเลยนะที่เรียกฉันออกมาแบบนี้? 」
ผิวสีฟ้า ผมสีน้ำเงินเข้ม
ดวงตาสีเหลืองอำพันราวกับมองทะลุทุกสิ่ง
ความงดงามและร่างกายที่สมบูรณ์ยิ่งกว่าสิ่งใด
「แต่ฉันจะยกโทษให้กับแก เพราะแกมีคุณค่าและเหมาะสมกับมัน」
เธอปรากฏตัวมาในที่แห่งนี้พร้อมกับผ้าสีขาวผืนเดียวที่พันร่างของเธอเอาไว้ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเย้ายวนให้กับอัศวินขาวตรงหน้า
「คัตสึมิ ศัตรูสุดที่รักของฉัน ว่าแต่ที่เรียกฉันมาแกต้องการอะไรล่ะ? 」
ฉันรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของฉันคือผู้ที่ควบคุมทุกสรรพสิ่งของจักรวาลและบัดนี้เธอได้ปรากฏตัวบนดาวโลกแล้ว
————-
Note 1 : มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code