อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 63 ความกลัวที่หวนกลับมา
เขามักจะเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นมาในยามเช้า ทว่าวันนี้เขากลับโผล่หน้าออกมาช้ากว่าฉันเสียอีก ฉันจึงสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
ใบหน้าของเขาดูซีดเซียว ฝีเท้าที่ก้าวเดินก็ไม่มั่นคง
ฉันที่มีความรู้ทางการแพทย์จึงรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นหวัด
ดังนั้นฉันกับพี่ก็เลยห้ามไม่ให้เขาออกไปทำงานและจับยัดนอนเตียง ก่อนจะติดต่อประธานและมาสเตอร์
「เหมือนอาการจะสงบลงแล้ว แต่ไข้ยังไม่ลดเลยนี่สิ」
ฉันดูที่วัดไข้ขณะเอาผ้าชุบน้ำวางไว้บนหน้าผากของเขาที่นอนหลับอยู่
ข้างหมอนของเขาก็มีชิโระที่เฝ้าอยู่อย่างห่วงใย
「ฮาคัว คัตสึมิเป็นไงบ้าง? 」
「ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว ปล่อยให้เขาหลับไปก่อนละกัน」
「……อื้อ」
พี่สาวของฉันนั่งรออยู่ที่โซฟาตรงห้องนั่งเล่น พร้อมกับโปรโตที่ชาร์จพลังงานอยู่บนโต๊ะ
ฉันเดินไปนั่งข้างพี่ แล้วมองไปตรงทีวี
แต่ก็ไม่มีรายการอะไรน่าสนใจให้ดูเลย
【นี่เป็นรายงานล่าสุดที่ถูกเปิดเผยออกมาเกี่ยวกับการต่อสู้กับเอเลี่ยนที่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมในช่วงที่ผ่านมาครับ】
「เอ๋? 」
รายงายเหรอ คงจะเป็นวีดีโอที่ต่อสู้กับดาราเยือกแข็งอาริสต้าสินะ?
แล้วก็เป็นไปตามที่คิด ภาพส่วนหนึ่งของการต่อสู้ในวันก่อนปรากฏขึ้นบนจอ
『คิดว่าพวกฉันจะแพ้ให้กับแย้ล้านปีหรือไงยะ!!』
「หะ หือ……!? 」
『ไอ้พวกฟอสซิลหลงยุค!! จัสติสซิล!!』
「ไอ้พวกสารเลว แม่จะฆ่าให้เหี้ยนเลย!!」
「กว๊ากกก!? 」
「เอ่อ อัลฟ่า ขอเปลี่ยนช่องได้ไหม? 」
「อะ อื้อ」
ชักสงสัยแล้วสิว่าภาพที่เอามา มันออกอากาศได้จริงๆ เหรอ
อย่างน้อยมันก็ไม่น่าใช่ ของที่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีอย่างพวกเราจะดูนะ
ว่าแต่ทำไม ถึงคัดแต่ซีนที่เรดกับคัตซึนแสดงพลังออกมาให้ดูเยอะขนาดนี้กันยะ?!
ไม่นานนักพวกเราก็ปรับอารมณ์ด้วยการไปดูละครฉายรีรัน
「พี่เจอกับคัตซึนได้ยังไงเหรอ? 」
ระหว่างนั้นฉันก็นึกอยากถามขึ้นมา
พี่ที่รู้จักกันในชื่อของอัลฟ่ากับคัตซึนที่รู้จักกันในชื่อของอัศวินมาพบเจอกันได้อย่างไร?
เนื่องจากฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เลยอยากถามนิดหน่อย
「อื้ม โชคชะตาละมั้งนะ? 」
「……」
「อึก?! ดะ เดี๋ยวสิ อย่ามาจ้องแล้วทำท่าโมโหแบบนี้สิ ฉันไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย ช่วยเอามือออกจากไหล่ฉันด้วย น่ากลัวชะมัด!」
เพราะถูกตอบแบบนี้ก็เลยเผลอเอามือไปคว้าไหล่พี่เอาไว้
จะบอกว่าไม่ได้ล้อเล่นจริงเหรอ
「ตอนที่ฉันเจอกับคัตสึมิครั้งแรก ฉันก็เหมือนกับเด็กแรกเกิดแน่นอนว่าพวกสามัญสำนึกอะไรก็เรียนรู้มาเหมือนเธอนั่นแหละ แต่ถ้าจะให้พูดถึงความต่างก็คงเป็นนิสัยที่สร้างความลำบากให้นิดหน่อย」
「นิสัย? 」
「สัญชาตญาณของอัลฟ่า นิสัยที่จะพยายามเดินค้นหาโอเมก้าของตัวเองยังไงล่ะ」
พูดเหมือนกับออกไปเดินเล่นเฉยๆ เลยแฮะ…..
ตรงจุดนี้ก็คงต่างจากฉันที่เป็นร่างโคลนจริงๆ นั่นแหละ
「จากนั้น เมื่อฉันเจอกับคัตสึมิ….ที่ยังเป็นอัศวินดำอยู่ ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือโอเมก้าของฉัน」
「มันรับรู้ได้เองเลยเหรอ? 」
「ฉันว่าฮาคัวเองก็น่าจะรู้สึกได้บ้างนะ? 」
แอบตกใจนิดหน่อยที่พี่พูดออกมาราวกับว่าฉันควรรู้สึกได้
จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาแล้วจ้องหน้าฉัน
「เพราะเธอก็มีพลังคล้ายกับฉัน….ไม่อย่างงั้นเธอคงไม่คิดจะทำให้คัตสึมิกลายเป็นน้องชายของตัวเองหรอก」
….เจอแบบนี้เข้าไปก็พูดไม่ออกเหมือนกันแฮะ
จะบอกว่าฉันพยายามทำให้คัตซึนกลายมาเป็นของตัวเองโดยไม่รู้ตัวเหรอ?
ไม่ๆๆ ต้องไม่ใช่แบบนั้นสิ….
「จากนั้นก็ได้เฝ้าดูคัตซึมิ ทำหน้าที่อัศวินดำมาโดยตลอด」
「ว่าแต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาออกมาสู้นี่คืออะไรกัน? 」
「ฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขารู้ตัวไหม แต่จากที่เคยบอกเขาแค่อยากจะทำเรื่องชั่วๆ เลวๆ โดยที่ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคำว่าชั่วของเขามันไม่เหมือนชาวบ้านปกติ」
พี่หัวเราะออกมาให้กับสิ่งที่คัตซึนทำ จนฉันนึกตามก็ขำไปด้วย
คำว่าคนเลวของเขามันแปลกจริงๆ นั่นแหละ
ส่วนใหญ่แล้วเขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครเลยจะมีก็แต่พวกสัตว์ประหลาดที่มาเปิดเขาก่อนก็เลยโดนสวนกลับไปจนวุ่นวาย
「ทั้งที่เขาเป็นโอเมก้าของฉัน แต่เขากลับไม่มีพลังที่โอเมก้าควรจะมี หรืออย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ฉันคิด แต่หากให้คิดถึงพลังที่เขามีก็คงจะเป็นความอ่อนโยนละมั้ง」
「ความอ่อนโยน? 」
「เพราะเขาเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน เห็นอกเห็นใจคนอื่น แม้กระทั่งกับพวกเราที่ไม่ใช่มนุษย์จริงๆ …」
ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
พลังที่แท้จริงของเขานั้นไม่ใช่พลังในการต่อสู้ที่ท่วมท้นอะไรเลยแต่เป็นพลังแห่งความอ่อนโยนและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
『ฉันคือคนแรกของเขา』
จังหวะนั้นเองโปรโตก็พูดขึ้น
รอยยิ้มของพี่สาวฉันเริ่มเปลี่ยนไปทันที
『ฉันเป็นคนแรกของเขา ก่อนเขาจะเจอกับอัลฟ่า』
「ปะ โปรโต ฉันกับเธอมันคนละกรณีกันไหม? 」
『เขาได้เดินเข้ามาหาฉันที่กำลังร้องไห้อยู่ภายในมุมมืดของห้องทดลอง คัตสึมิคือคนแรกที่เข้าใจถึงความรู้สึกของฉัน ดังนั้นฉันคือคนแรกของเขา』
บางทีอาจจะเป็นเกราะเธอคือเครื่องจักรก็เลยพ่นออกมาโดยไม่พักหายใจเลย จนที่พี่ฟังก็อึ้งไปสักพัก
แน่นอนว่าพี่ก็ไม่ใช่พวกยอมใครง่ายๆ อยู่แล้ว จึงพยายามจะแย้งโปรโตกลับไป ทว่าอพาร์ตเมนต์ที่เราอยู่ก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น
「「!? 」」
ต้นตอมาจากห้องที่คัตซึนอยู่
ฉันกับพี่รีบหยิบโปรโตเข้าไปหาคัตซึนทันที
「คัตซึน!」
「คัตสึมิ!」
เขายังอยู่ในสภาพที่หลับไหลอยู่
ทว่าภายนอกห้องที่ถูกล้อมไปด้วยสนามพลังงานสีน้ำเงินนั้นกำลังถูกวัตถุคล้ายกับหนามจำนวนมากเข้าโจมตี
บาเรียต้านการโจมตีทำงานเหรอ!?
แปลว่าตอนนี้พวกเรากำลังถูกบางอย่างเข้าโจมตีอยู่
「โปรโต! เปิดใช้งานตาข่ายไฟฟ้าหรือยัง!? 」
『เปิดเรียบร้อย』
『อ๊าคคคค!! นี่มันบ้าอะไรกันฟะ!!』
มีเสียงกรีดร้องของใครบางคนจากข้างนอก
เมื่อฉันตามทิศทางเสียงไป ก็พบว่ามีตัวอะไรสักอย่างกำลังถูกตาข่ายไฟฟ้าจับเอาไว้อยู่
หัวของมันคล้ายกับม้าแถมมีเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเอเลี่ยน
「ตะ ต้องรีบติดต่อพวกประธาน……คึก」
เสียงคำรามของมันดังก้องขึ้น ก่อนที่มันจะยิงเขาออกมาจนทะลุตาข่ายไฟฟ้ามาเจาะเข้ากับผนังห้องของพวกเราแล้วทะลุเพดานออกไป
มันหมุนวนไปมาเหมือนกับสว่าน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากโดนเข้าไปยังไงก็ม่องแหง
『อัศวินขาว!! ออกมาเดี๋ยวเน้ อย่าเอาแต่มุดหัวอยู่ข้างใน ออกมาซ้าาาา!!』
「เสียงดังเกินไปแล้ว……」
เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็รู้กันหมดหรอกว่าคัตซึนอยู่ที่นี่!
สัตว์ประหลาดหัวม้าคำรามขณะกระชากตาข่ายไฟฟ้าออกด้วยมือของมัน
ในจังหวะที่คัตซึนกำลังจะโดนโจมตีอีกรอบ พวกคนของสำนักงานใหญ่ที่เฝ้าระวังรอบๆ ก็โผล่มายิงปืนใส่สัตว์ประหลาดนั่น
「อย่าให้มันบุกเข้ามาได้!! ใช้ปืนไฟฟ้าหยุดมันซะ!」
「บาซูก้าพลังงานพร้อมใช้งาน!」
「อย่าไปยอมแพ้ ยิงอัดเข้าไป!」
「ซื้อเวลาเอาไว้!!」
พวกเขาเริ่มโจมตีสัตว์ประหลาดม้านั่นด้วยของที่พกมาด้วย อย่างกับพวกกองกำลังพิเศษ
แบบนี้คงพอซื้อเวลาได้บ้าง
ฉันรีบย้ายคัตซึนจากบนเตียงไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วรอให้พวกจัสติสครูเซเดอร์มาถึง
「พี่ฮาคัว….โปรโต มันเกิดอะไรขึ้น? 」
「คัตซึน……」
ท่าทางเขาจะสับสนไม่น้อย
อย่างที่คิดเอาไว้ พอลืมตาตื่นขึ้นมาละเห็นฉันกับพี่สีหน้าตื่น พร้อมห้องที่กลายเป็นรูคงสับสนคงแปลก แต่เขาก็ยังอยู่ในสภาพเบลอๆ ดังนั้น
ฉันจึงพยายามเอาตัวบังภาพตรงหน้าที่เขาเห็น
「มะ ไม่มีอะไรหรอก พอดีว่าพวกฉันกำลังพยายามทำความสะอาดโจ๊กที่พี่เผลอเอาเข้ามาในห้องหกน่ะ นอนต่อเถอะ」
「เอ๋!? อะ อื้อ เข้าใจแล้วครับ」
『ไอ้พวกปลาซิวเอ้ยน่ารำคาญชิบ! อัศวินขาว! อัศวินขาวแกอยู่ไหน!!』
「……พวกมัน มาถึงนี่แล้วเหรอ」
เขาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เสียงร้องของสัตว์ประหลาดนั่นก็ไม่หยุดสักที
หน้าของคัตซึนแดงไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะมองมุมไหนสภาพนี้ก็ไม่น่ารอด ทว่าเขาก็พยายามฝืนร่างกายตัวเองให้ยืนขึ้น
「ไม่มีทางที่นายจะออกไปสู้ในสภาพนี้ได้หรอก!」
「ไม่เป็นไรหรอกอัลฟ่า ฉันจัดการเอง」
「ฉันฮาคัวต่างหาก นี่นายอาการหนักจริงจังแล้วนะถึงขนาดแยกฉันกับพี่ไม่ออก!」
「นั่นสิ มองฮาคัวเป็นฉันไปได้ยังไงกันเหลือจะเชื่อ!? 」
เอาเป็นว่าปล่อยเขาไปไม่ได้เด็ดขาด!
ทางคัตซึนพยายามขัดขืนพวกเราอย่างเต็มที่
แต่เพราะอาการป่วยจึงทำให้สุดท้ายเขาก็ล้มลงไป
「ปล่อยไว้ไม่ได้……」
「คัตสึมิ สงบสติลงก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกจัสติสครูเซเดอร์ก็มาถึงแล้ว」
「ไม่ แบบนั้นไม่ทันแน่」
ในจังหวะเดียวกับที่เขาพูดออกมา ก็เกิดเสียงดังลั่นขึ้นอีกรอบ
บาเรียที่ติดตั้งเอาไว้รอบห้องได้ถูกทำลายลง เป็นสัญญาณว่ามันจะบุกเข้ามาแล้ว
「ผมจะไม่ยอม…ทนดูครอบครัวตัวเอง ตายไปต่อหน้าอีกแล้ว….」
「คัตซึน……? 」
เขาพูดออกมาทั้งที่อาการแย่
หรือความทรงจำของเขาจะกลับมาแล้วเหรอ? ไม่สิ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น
ท่าทางเขาจะพูดออกมาโดยไม่รู้ด้วยสักนิด
คงจะเป็นจิตสำนึกของเขาที่กำลังกรีดร้องออกมา….แต่ฉันปล่อยให้เขาออกไปต่อสู้ในสภาพนี้ไม่ได้หรอก
『โฮก……』
「ชิโระ อย่าปล่อยให้คัตซึนออกไปสู้เด็ดขาดล่ะ」
ฉันบอกชิโระที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะกลับไปมองคัตซึนอย่างกังวล
ชิโระเองก็เป็นห่วงคัตซึน ดังนั้นคงจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ แน่
ทว่าทางหมาป่าจักรกลนั่นกลับมองมาที่ฉัน ในขณะที่สงสัยว่ามันคิดอะไรอยู่ มันก็กระโดดเข้าใส่ฉันซะงั้น
『โฮก!』
「เอ๋ ทำอะไรของแกน่ะ ชิโระ? 」
ดวงตาของชิโระส่องแสงออกมา
ทันใดนั้นเองแสงสีเงินก็เกิดขึ้นมารอบเอวของฉันก่อนปรากฏเป็นรูปเข็มขัด
「เอ๋? 」
『โฮก!』
「เอ่อ คุณชิโระคะ……นี่มัน……」
นอกจากเข็มขัดแล้ว ก็มีของที่เหมือนกับนาฬิกาพันอยู่ตรงมือซ้ายฉันด้วย
แปลกชะมัด ทำไมมันเหมือนกับอุปกรณ์แปลงร่างที่พวกอากาเนะกับอัศวินใช้เลยล่ะ?
『Σ CHANGER!!』
「ดะ เดี๋ยวสิชิโระ ไอ้แบบนี้ดูยังไงมันก็อุปกรณ์แปลงร่างชัดๆ!? ชิโระ หมายความว่ายังไงกัน?!」
『โฮก!!』
「ฮาคัว!? โปรโต! เมื่อกี้ชิโระบอกว่าอะไร!? 」
『เธอเองก็เหมาะสมเหมือนกัน ออกไปลุยซะ!…เอาจริงเหรอชิโระ?!』
เมื่อนาฬิกาและเข็มขัดปรากฏขึ้นตรงร่างฉันแล้ว ชิโระก็กลายร่างเป็นหัวเข็มขัด
เมื่อฉันใช้มือขวาหยิบมันขึ้นมาข้อมูลต่างๆ ก็ไหลผ่านเข้ามาในหัวของฉัน
「———」
ฉันเสียบหัวเข็มขัดเข้าไปตรงเข็มขัดตามที่ภาพในหัวสอน
『LUPUS DRIVER!!!!』
สนามพลังงานสีขาวก่อตัวขึ้นรอบๆ ฉัน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ซิกม่าเชนเจอร์ในมือซ้ายก็ปลดปล่อยบางอย่างออกมา อักขระที่คล้ายกับรูปทรงทางเรขาคณิตหมุนวนไปมาในสนามพลังงาน
『Loading N.N.N.Now Loading → Loading N.N.N. Now Loading→』
ฉันดึงซิกม่าเชนเจอร์เข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะกุ่มปุ่มที่อยู่ด้านล่างของมันเพื่อทำการแปลงร่าง
「แปลงร่าง……!」
『Σ CHANGE』
สูทพิเศษได้เข้ามาห่อหุ้มร่างของฉันเอาไว้
『I WAS BORN TO PROTECT YOU!!』
『CHANGE → UP RIGING!! SYSTEM OF Σ……!!』
ร่างที่อัศวินขาวที่เหมือนกับคัตซึนปรากฏขึ้น
หากจะให้พูดถึงความต่างระหว่างร่างนี้กับเขาก็คงจะเป็นตัวอักษร Σ ที่ติดอยู่บนหน้าอก
『TYPE LUPUS Σ FORM!!! COMPLETE……』
เมื่อสิ้นสุดการแปลงร่าง ควันสีขาวได้ถูกพ่นออกมาจากช่องว่างของสูท───อัศวินขาวปรากฏตัวแล้ว
「ทำไมฉันถึงได้!? 」
『โฮก!』
「จะบอกว่าให้ฉันออกไปสู้เหรอ!? 」
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปทะเลาะตบตีกับใครเลยแท้ๆ
ในขณะที่ฉันกำลังตกใจกับร่างกายที่เปลี่ยนไปเป็นอัศวินขาว ฉันก็สังเกตถึงปฏิกิริยาของบางสิ่งที่เข้ามาใกล้จุดที่ฉันอยู่ผ่านหน้ากาก
「ชิ มันจะมาแล้วเหรอ!? 」
「อึก พี่ ปลดการแปลงร่างของพี่ เดี๋ยวนี้….」
「คัตซึน……」
「ผมจะปล่อยให้พี่ต้องมาตกอยู่ในอันตรายไม่ได้…คุ」
เมื่อเห็นสภาพของคัตซึนที่กำลังจะหมดสติ ฉันก็ดึงสติกลับมาได้
ใช่แล้วเขาต่อสู้อยู่ตลอดเวลา
แต่สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงเฝ้ามองเขาจากไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
「อัลฟ่า ของฝากคัตซึนไว้ได้หรือเปล่า」
「ฮาคัว? อย่าบอกนะว่าเธอ……」
「ฉันจะซื้อเวลาให้เอง」
「ถามจริง!? นี้เดี๋ยวก่อนสิเธอน่ะ――」
ฉันไม่ฟังคำตอบจากพี่แล้ววิ่งไปตรงประตู
ต้องขอบคุณสูทนี้จริงๆ ที่ทำให้ร่างกายของฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และรู้ได้ทันทีว่าศัตรูอยู่ไหน
หลังออกมาจากประตูก็ตัดสินใจกระโดดเข้าสัตว์ประหลาดม้าโดยตั้งใจจะทำให้มันออกไปจากตึก
「หวาๆๆๆ!? 」
「อุก!? 」
วินาทีนั้นเอง ฉันใช้มือของฉันตบไปที่หน้าของมัน จนทำให้มันกระเด็นออกไปจากอพาร์ทเมนต์ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายร่วงไปนอนกับพื้นพร้อมเสียงกรีดร้องฉันก็เอาทาบอกเพื่อตั้งสติ หัวใจของฉันเต้นไม่หยุดเลยวุ้ย
สะ-สติแทบจะหลุด ไม่คิดเลยว่าสัตว์ประหลาดนั่นจะเข้ามาใกล้ได้เบอร์นี้
『โฮก!』
「เอ๋ ให้กระโดดจากตึกตามลงไปเลยเหรอ?! เอ่อ ไม่สูงเกินไปไหม ฉันขอเดินลงบันได…」
『โฮก!!』
「แง้!? ขะ เข้าใจแล้ว โดดก็โดด!」
ชิโระดุฉันและบอกให้ฉันกระโดดลงจากตรงนี้เพื่อตามไปกระทืบสัตว์ประหลาด พอฉันปฏิเสธก็ถูกกระแสไฟฟ้าจากสูทปล่อยเข้าใส่ร่าง
สภาพก็อย่างที่เห็นฉันส่งเสียงร้องแปลกๆ อกอมาแล้วตัดสินใจกระโดดลงจากอพาร์ตเมนต์
「ม่ายยยยย――!? 」
ฉันกระโดดลงมาจากความสูงเกิน 10เมตรถึงพื้นในสภาพที่ทุลักทุเล
ไอ้เจ้าหัวม้านั่นไปไหนซะล่ะ……?
ในขณะที่ฉันกำลังมองไปรอบๆ เพื่อหามันซึ่งร่วงลงมาก่อนหน้า――
「แกสินะอัศวินขาว! โดนเล่นทีเผลอเข้าซะได้!!」
อยู่ดีๆ สัตว์ประหลาดหัวม้าก็ปรากฏตัวจากพุ่มไม้ข้างทาง
「ออกมาแล้ว!? 」
「ลำดับแห่งดวงดาราที่ 83 ยูนิคอร์น นิโคล่า อ่อนแอลงอย่างที่ได้ยินมาเลย อัศวินขาว!!」
ไอ้หมอนี่มันรู้อยู่แล้วสินะ ว่าคัตซึนกำลังป่วยเลยตั้งใจเข้ามาโจมตี!!
แถมท่าทางมันจะไม่ได้สังเกตถึงเพศที่เปลี่ยนไปเลยด้วยซ้ำ เอาเถอะก็มีแต่ต้องลุยกันต่อ
「คุคุ ฆ่าแกในจังหวะที่กำลังอ่อนแอนี่แหละ แล้วฉันก็จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม!!」
「เล่นสกปรกชะมัด」
「ตายซะ!!」
「กรี๊ด!? 」
นิโคล่ากระทืบเท้าแล้วพุ่งเข้ามาหาฉันหมายจะใช้เขาของมันแทง
ฉันทำการกลิ้งตัวหลบมัน จนทำให้เขาของมันไปชนเข้ากับกำแพงข้างหลัง จากนั้นกำแพงก็เกิดการระเบิด
「……」
「ถึงคราวนี้จะหลบได้ แต่ไม่มีคราวหน้าแน่……!」
ฉันวิ่งหนีสุดแรงเกิดทันที
สภาพที่ไม่เคยต่อสู้กับใครมาก่อนแบบนี้สู้ไปก็มีแต่ตาย
「คิดจะหนีเหรอ!!」
ฉันละสงสัยตัวเองจริงๆ ว่าทำไมฉันถึงมาอยู่จุดนี้ได้!!
「ดะ เดี๋ยวสิ ทำไมฉันถึงแปลงร่างกันล่ะ~!? 」
「หยุดเดี๋ยวเนนนนนนน้!! อัศวินขาววววววว!!!」
「กรี๊ดดดด!? งะงะงะไหงถึงตามฉันมากันยะ?!」
ถ้าวิ่งแบบนี้ต่อไปก็น่าจะซื้อเวลาให้อากาเนะกับคนอื่นๆ มาช่วยทัน
ระหว่างที่คิดแบบนั้นฉันก็หันไปมองนิโคล่าที่ตามมาโดยทำลายพื้นที่รอบๆ ไปด้วย
ทั้งรถยนต์ อาคารต่างๆ ถูกทำลาย
โชคดีที่ยังไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ แต่ถ้าปล่อยเอาไว้ต่อไปละก็….
「โฮก!!」
「โอ๊ย!? ชิโระ อย่าเอาไฟมาช็อตกันสิ สู้ก็ได้ ฉันจะสู้!!」
ชิโระได้มอบพลังให้กับฉันและบอกให้ฉันสู้
ในตอนที่คัตซึนออกไปสู้ เขามันจะให้ความสำคัญกับผู้คนรอบๆ เสมอ
เขาคิดว่าจะปกป้องคนพวกนี้ได้อย่างไร
ดังนั้นฉันก็ควรจะทำเหมือนเขา!!
『Σ SABER!』
「!」
『Σ!! ALL ABILITY SLASH!!』
พลังงานทั้ง 5 ได้ผสานเข้าเป็นหนึ่งเดียวและฟาดฟันออกไปใส่ศัตรู
คลื่นพลังได้กลืนกินร่างของนิโคล่าที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมา
เมื่อสิ้นสุดการโจมตีร่างของมันก็นอนนิ่งไป……ฉันจึงรู้สึกโล่งขึ้นมาทันที
「……กลัวแทบราด……」
หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากชิโระ ฉันคงขยับตัวไปไหนไม่ได้แล้วแหง
นี่คัตซึนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เสมอเลยสินะ….
『ฮ่าๆๆๆ!!』
「อึก」
ฉันได้ยินเสียงของนิโคล่าที่ควรจะตายไปแล้วดังขึ้น
เมื่อหันกลับไปพร้อมกับเตรียมดาบในมือให้พร้อม ร่างของมันที่ล้มลงไปก็เริ่มพองตัวขึ้นและหัวเราะออกมา
『พลังที่แท้จริงของข้าจะแสดงให้เห็นเดี๋ยวนี้แหละ ด้วยร่างที่แท้จริงนี้!!』
「ขยายร่างได้……!? 」
『ขอบอกว่าไม่ได้มีดีแค่ใหญ่หรอกนะ ร่างของฉันที่ขยายมวลแล้วถึง 10 เท่านี้――』
ในขณะที่มันกำลังจะพูดจบ ก็มีดาบยาวพุ่งลงมาจากท้องฟ้าราวกับดาวตก เสียบเข้าที่หัวของนิโคล่า
『——เอ๋? 』
ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก ร่างของเรดได้ปรากฏขึ้นบนหัวของนิโคล่าและดึงดาบที่เสียบอยู่ออกมา ก่อนที่จะเกิดประกายแสงพุ่งไปมาในอากาศหลายครั้ง
『อะ หา!? 』
เมื่อมันตระหนักได้แล้วว่าประกายแสงที่พุ่งไปมานั้นคือการฟัน ร่างของนิโคล่าก็ประเบิดออกมาเหมือนถุงเลือดที่แตก
เลือดและชิ้นเนื้อสีแดงได้อาบท่วมร่างของเรด รวมไปถึงร่างของฉันด้วย จากนั้นเรดก็วิ่งเข้ามาหาฉันโดยที่ไม่ได้สนใจเศษซากร่างของนิโคล่าอีก
「เป็นอะไรหรือเปล่า!? อัศวินขาว!? 」
……。
……、……。
「มะ ไม่เป็นไรหรอก」
「แต่ตัวสั่นไปหมดเลยนะ….ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจดีว่านี่มันคือการต่อสู้ครั้งแรก ไม่ต้องห่วงนะ อัลฟ่าเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว」
หล่อนนั่นแหละย่ะที่ทำให้ฉันกลัว
ทว่าฉันไม่สามารถพูดคำนี้ออกไปได้
หลังการแปลงร่างในคราวนี้ฉันได้เข้าใจความรู้สึกที่คัตซึนต้องเผชิญมากยิ่งขึ้น แต่ที่เข้าใจไปมากกว่านั้นก็คือความไร้เดียงสาและความน่ากลัวของเรดนี่แหละ
————-
Note 1 : เห็นร่างนี้มีนาฬิกาเสกของออกมาได้แล้วนึกถึงแกนพลังงานของแอ็กซ์ที่ชิโระหม่ำเข้าไปในอดีต คงใช่แหละ
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code