หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 421 จอมวิปริตมู่หรงหลินฟัง
ตอนที่ 421 จอมวิปริตมู่หรงหลินฟัง
มู่หรงหลินฟงฟาดปลายแส้เข้าใส่ผู้คุมทั้งสามจนโลหิตอาบร่าง “อะไร ? ข้ามิใช่นายของพวกเจ้ากระนั้นหรือ ? พวกเจ้าไม่ต้องฟังคําข้าอีกต่อไปใช่หรือไม่ ?”
พวกมันทั้งสามถูกหวด กระทั่งพากันส่งเสียงร้องโหยหวนราวสัมภเวสี พวกมันไม่กล้าแสดงท่าทีอีกอัก ต่างรีบวิ่งเลิกลักหนีออกจากคุกคุมขังใต้ดิน
บานประตูที่หนักอึ้งภายในคุกถูกปิดปังเสียงลั่น
กู้หลิวเฟิงผู้แต่เดิมยืนก้มหน้า ยามนี้กลับยกศีรษะขึ้นจ้องบุรุษเบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นเยียบ
มู่หรงหลินฟงขยับฝ่าเท้าก้าวขึ้นหน้าอีกสองก้าว จ้องประสานตาฝ่ายตรงข้าม หากแต่กลับต้องเปล่งเสียงหัวเราะด้วยความเร้าใจ “น้องหก ข้าชอบดวงตาคู่นี้ของเจ้าที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะยามเมื่อมันเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดเดือดดาลเช่นนี้ ช่างยั่วยวนใจข้าเสียเหลือเกิน”
แววตาแห่งความชิงชังเต็มไปด้วยอายสังหารแผ่ซ่านทั่วสองตาที่แวววาวของกู้หลิวเฟิง เขาส่ายหน้าหนักแน่นเอ่ยกล่าวน้ําเสียงเย็นชา “มู่ห รงหลินฟง เจ้ายังกล้ามาเสนอหน้าที่นี่อีกกระนั้นหรือ ? หรือไม่กลัวท่านพ่อผู้สูงส่งของเจ้าจะลงแส์เจ้า ?”
ความโอหังอวดดีเผยผ่ายดวงหน้าอีกฝ่าย ก่อนคนผู้นั้นจะขยับกายเข้าให้ใกล้กู้หลิวเฟิงพลางกระซิบ “ข้าเฝ้ารั้งรอให้ถึงวันนี้ด้วยความเจ็บปวดอย่างเหลือแสน วันนี้ท่านพ่อของข้าไปสร้างความสําราญให้ผู้คนไหนเลยจะมีเวลามาใส่ใจ น้องชายสายเลือดชั่วอย่างเจ้า”
กล่าวจบ ฝ่ามือของเขาพลันเหยียดกระชากหน้ากากอีกฝ่ายออกอย่างเลือดเย็น
ทันทีที่หน้ากากถูกปลดออก สิ่งที่ปรากฏก็คือใบหน้าซีดเซียว ทว่าช่างงดงาม เพียงตลอดทั่วผิวหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นสีแดงคล้ํา หากแต่ใบหน้าที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับยั่วยวนชวนฝันมากกว่าอัปลักษณ์สิ้นดี ภายใต้ประกายแสงที่วิบวับจากกองไฟ
มู่หรงหลินฟงค่อย ๆ เหยียดฝ่ามือยกขึ้นลูบไล้ ใบหน้าอีกฝ่ายด้วยท่าที่เคลิบเคลิ้ม ใบหน้าของเขายามนี้ถูกเติมเต็มด้วยความกระหายมัวเมา “ดูเถิด ใบหน้าที่สมบูรณ์เช่นนี้ อา… นายน้อยผู้นี้ยังไม่เคยพบเห็นบุรุษใดงดงามเทียบเท่าน้องหก….อา….”
“น้องหก เจ้ารู้หรือไม่ ?” แววตาแดงฉานประดุจ เพลิงผลาญของมู่หรงหลินฟงจ้องกู้หลิวเฟิงเขม็งอย่างไม่วางตา น้ําเสียงที่แหบพร่าหอบพาเอาร่องรอยแห่งความเกียจคร้านติดตามมาในที่ “ทุกคราที่ข้าอยู่กับบุรุษหรือสตรีที่งดงามพวกนั้น ใบหน้าของน้องหกจะผุดขึ้นเบื้องหน้าข้าเสมอ”
“เมื่อใดที่ข้าอยู่ร่วมกับพวกมัน ข้ามักร้องเรียกชื่อของเจ้า”
“ไม่อาจครอบครองน้องหกของข้าได้ คือความเสียใจหนักหนาที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาของข้า”
กล่าวจบ มู่หรงหลินฟงพลันเริ่มเปล่งเสียงหัว เราะลั่นสนั่น น้ําเสียงของเขาอัดแน่นไปด้วย ความป่าเถื่อนอํามหิต “ที่สุด วันนี้ข้าก็สามารถสนองความปรารถนาของตนได้ !”
ปลายนิ้วเรียวงามที่เย็นยะเยียบของมู่หรงหลินฟงยกขึ้นเชยปลายคางได้ส่วนงดงาม ของอีกฝ่าย กู้หลิวเฟิงพลันรู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียน อายสังหารเข้มข้นพลันระเบิดพลุ่งพล่านอยู่ในใจ “มู่หรงหลินฟง คลายมือสกปรกของเจ้าออกไปเสีย หาไม่ ข้าจะทําให้เจ้าต้องสํานึกเสียใจไปชั่วชีวิต”
“ฮ่าฮ่าฮ่า น้องหก มิคิดเลยว่าใกล้ตายอยู่รอ มร่อเช่นนี้ เจ้ายังมีแก่ใจมาขู่เข็ญข้า !” มู่หรงหลินฟงจับจ้องดวงหน้าที่อัดแน่นด้วยความโกรธแค้นอย่างเหลือแสน ทว่าความหยิ่งยโสโอหังเช่นนี้กลับยิ่งเย้ายวนความรู้สึกได้อย่างเหลือแสนเช่นกัน
“ยามนี้เจ้ามีความสามารถจะสังหารข้ากระนั้นหรือ ? ยามนี้เจ้ามีความสามารถจะขัดขืนกระนั้นหรือ ?”
“ยิ่งคุณชายผู้นี้ได้เห็นใบหน้าที่อ่อนล้าไร้กําลัง ทว่ากลับดุดันเกรี้ยวกราดของเจ้าเช่นนี้ ข้ากลับยิ่งมีความสุข ข้าแทบอดใจรอชมน้ําหน้าของเจ้ายามร่ําร้องขอความเมตตาจากข้ามิได้แล้ว!”
กล่าวจบ มันยื่นเหยียดฝ่ามือออก ด้วยการขยับเพียงคราเดียว อาภรณ์บนร่างของกู้หลิวเฟิงพลันถูกฉีกกระชากขาด
สมบูรณ์แบบ เส้นเอ็นที่ชัดเจน ผิวเนื้อที่เนียนละเอียดเผยรอยฟกช้ําดําเขียวตามลําตัว ทั้งหมดทั้งมวลคือภาพความงดงามที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างบรรจงส่งให้มู่หรงหลินฟงตกตะลึงตาค้าง
เขากล้ํากลืนน้ําลายอีกใหญ่แลบลิ้นเลียปาก “อา! เป็นสิ่งล้ําค่าหายากอย่างแท้จริง ! ความปรารถนาโหยหาหลายปีที่ผ่านมาของข้าไม่นับว่าสูญเปล่าจริง ๆ ฮี่ฮี่ฮี่ มู่หรงหลิวเฟิง คนเยี่ยงเจ้าน่ะหรือที่แข็งแกร่ง เจ้ามันก็แค่ไอ้เศษสวะชั้นต่ําเท่านั้น !
***จบตอน จอมวิปริตมู่หรงหลินฟง***