หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 779 การโอ้อวดของคุณพ่อมือใหม่ / ตอนที่ 780 ฉันทำเครื่องหมายไว้แล้ว
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 779 การโอ้อวดของคุณพ่อมือใหม่ / ตอนที่ 780 ฉันทำเครื่องหมายไว้แล้ว
ตอนที่ 779 การโอ้อวดของคุณพ่อมือใหม่
เพียงชั่วครู่ ไม่นานความเจ็บปวดก็หายไป
ถังหยวนซือหน้าซีดลงเล็กน้อย เมื่อมองซั่งซินที่หลับสบายอยู่ตรงหน้าเขา มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เขาดีใจเกินไปแล้ว
ดีใจราวกับคนโง่
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีลูก เธอคลอดลูกให้เขา
ดีใจถึงขนาดลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจ อยากมองเธอและลูกของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา…
ทุกอย่างในคืนนี้เหมือนความฝัน
ถังหยวนซือยังคงอยู่ท่าเดิมไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
ไม่รู้ว่าสายตาจับจ้องใบหน้ายามหลับที่น่าเอ็นดูของซั่งซินนานแค่ไหนแล้ว จากนั้นก็ย้ายไปมองที่หน้าท้องแบนราบของเธอ
ตรงนั้นยังคงแบนมาก ดูไม่ออกเลยว่าข้างในมีเด็กอยู่ในนั้น
เมื่อถังหยวนซือนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาก็พลิกภาพตรวจอัลตราซาวนด์อีกครั้ง ถือไว้ในมือและมองมันซ้ำๆราวกับว่าดูเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ดีใจจนพูดไม่ออก ข่มใจไว้แทบจะเป็นบ้า
สุดท้ายเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ คิดได้สักพักก็ส่งข้อความให้อวี๋เยว่หาน
นอกจากปลอบใจที่เขาดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้นและไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือยัง ก็ถือโอกาสบอกเขาที่ตัวเองจะได้เป็นพ่อคนแล้ว
“ตู๊ด ตู๊ด!” ข้อความโทรศัพท์ดังขึ้น
ถังหยวนซือกดปิดเสียงเป็นอันดับแรก เขาหันมามองซั่งซินที่กำลังหลับอยู่บนเตียงอย่างขัดเคือง เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่ได้โดนปลุกก็ถอนหายใจ
ทันทีหลังจากนั้นก็เปิดโทรศัพท์ที่ถืออยู่ด้วยความตื่นเต้น “ดึกขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นดื่มไปขนาดนั้นยังไม่หลับอีก แต่ถึงอย่างไรก็มีคนที่สามารถแชร์ความรู้สึกของการเป็นพ่อคนได้” พลางกวาดตามองข้อความที่อวี๋เยว่หานตอบกลับมา
ผลคือในข้อความเขียนแค่ว่า “ประสาท!”
ถังหยวนซือ “…”
พูดตามตรงถ้าตอนนี้ไม่ใช่เพราะยุ่งอยู่กับการดูแลซั่งซินและลูกในท้องของเธอ ทันทีที่เขาเห็นประโยคในข้อความ เขาอาจจะรีบไปต่อยอวี๋เยว่หานที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ก็เป็นได้
ต่อมาพอคิดได้ว่าอวี๋เยว่หานยังไม่รู้ว่าซั่งซินกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อเห็นข้อความของเขา ก็เป็นไปได้ที่จะคิดว่าเขาได้รับบาดเจ็บทางอารมณ์ เสียใจจนบ้าไปแล้ว ไม่ใช่เพราะกำลังด่าเขา
เนื่องจากอวี๋เยว่หานเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยอมดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขาในขณะที่เขาดื่มน้ำเปล่า ถังหยวนซือเม้มริมฝีปากเล็กน้อยและส่งข้อความให้เขาอีกครั้ง
“ซั่งซินกลับมาแล้ว”
หลังจากคิดได้เขาก็ยกรูปอัลตราซาวนด์ในมือขึ้นมาถ่ายรูปแล้วส่งไป
ราวกับกลัวว่าอวี๋เยว่หานจะอ่านไม่เข้าใจจึงเสริมไปอีกประโยค “นี่คือลูกของเรา ฉันจะเป็นพ่อคนแล้ว!”
ใช้เวลาประมาณหนึ่งนาทีกว่าที่อวี๋เยว่หานจะตอบกลับ
คราวนี้ไม่มีแม้แต่ตัวอักษรในข้อความ มีเพียงจุดหกจุด
เป็นรูปธรรมแบบนี้ 。。。。。。
ถังหยวนซือมองจุดหกจุดในโทรศัพท์และยิ้มออกมา
แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนก็ยังใช้ผิด อวี๋เยว่หานช็อกจนโง่ไปแล้วละสิ?
ดูสิ เขารู้ว่าคนปกติจะมีความสุขมากถ้าพวกเขารู้ว่าตัวเองเป็นพ่อคนแล้ว
ไม่ใช่เพราะเขาโง่อย่างแน่นอน
ถังหยวนซีวางโทรศัพท์ เปลี่ยนเป็นชุดนอนและเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง
ขณะที่กำลังเตรียมจะขึ้นเตียงก็เหลือบเห็นแสงโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
พอเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ไปดูก็พบว่าเป็นอวี๋เยว่หานส่งข้อความมา
สิ่งที่เตรียมจะพูดคือภาพถ่ายใบหนึ่ง
เสี่ยวลิ่วลิ่วนอนฟุบบนหมอน ใบหน้าเล็กเกลี้ยงเกลาราวกับหยกขัดสี แก้มชมพูเหมือนเจลลี
เธอนอนหลับปุ๋ยโดยที่มือเล็กๆยังคงจับนิ้วอวี๋เยว่หานแน่น แม้จะหลับไปแล้วแต่ก็ไม่ยอมปล่อย
เสี่ยวลิ่วลิ่วในรูปดูเหมือนเด็กกว่าตอนสามขวบอยู่หน่อยๆ น่าจะเป็นรูปถ่ายก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามตุ๊กตานุ่มนิ่มยังคงโดนใจคน
ตอนที่ 780 ฉันทำเครื่องหมายไว้แล้ว
ด้านล่างยังมีข้อความประกอบ
“ใครยังไม่เคยเป็นพ่อคน? ฉันเป็นพ่อมาสามปีแล้วนะ นายพูดได้เหรอ?”
ถังหยวนซือ “…”
โลกใบนี้แผ่จิตอกุศลต่อคุณพ่อมือใหม่
ถังหยวนซือโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะหัวเตียงและนอนลงข้างๆซั่งซินเบาๆ จากนั้นก็โอบเธอเข้าสู่อ้อมแขน
ราวกับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของอุณหภูมิร่างกายเขา ซั่งซินจึงซุกตัวอยู่ในอ้อมกอด เอียงศีรษะแล้วซบลงบนหน้าอกของเขาโดยไม่รู้ตัว
นี่เป็นท่าโปรดของเธอเมื่อเธอแอบเข้าไปนอนในห้องของเขาในวัยเด็ก
ขอแค่ได้พิงบนตัวเขา เธอก็จะหลับสบายกว่าที่เคย
เพียงแค่ทั้งสองนอนพิงกัน ความทรงจำในวัยเด็กมากมายก็ตามมาราวกับเปิดวาล์ว …
ตอนนั้นเขาไม่ชอบคุย ชอบอยู่เงียบๆคนเดียว
ทุกคนรู้นิสัยของเขา ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาอะไรและไม่ได้ไปรบกวนเขา
เธอเป็นคนเดียวที่พยายามแอบออกจากบ้านเพื่อไปหาเขาทุกวัน จากนั้นก็วนอยู่รอบๆตัวเขา พูดคุยกับเขาเหมือนกับลูกนกส่งเสียงร้อง
หากเขาไม่ตอบรับเธอเป็นเวลานาน เธอจะใช้สองมือจับแก้มเขาด้วยความผิดหวังพร้อมกับจ้องเขาจนตาเขียวและถามเขาว่า
“พี่เสี่ยวซือ เป็นเพราะเรื่องที่ฉันพูดน่าเบื่อเกินไป พี่ก็เลยไม่ชอบใช่ไหม?”
“……”
ตอนนั้นเขาถึงกับพูดไม่ออก
เพราะไม่รู้จะบอกเธออย่างไรดี ขอเพียงแค่เธอปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา ในสายตาและหัวใจของเขาล้วนเป็นเธอ
ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่ใบหน้าเล็กๆที่มีชีวิตชีวาโดยไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใด
แม้กระทั่งเธอพูดเรื่องอะไรก็ไม่ได้ยิน
เขากลัวว่าเธอจะเสียใจและไม่มาเล่าเรื่องให้เขาฟังอีก สุดท้ายเขามักจะเงยหน้าและตบหัวเล็กๆของเธอเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ไม่ใช่หรอก เพราะเธอพูดน่าฟังมาก ฉันฟังจนเคลิ้มเลยละ”
หลังจากได้รับกำลังใจแล้ว เธอก็ยังคงพูดอย่างมีความสุขใจอีกครั้ง
แต่ในเวลานี้พ่อบ้านและคนรับใช้ในคฤหาสน์ต่างก็แสดงออกถึงความตกตะลึงราวกับสงสัยว่าตัวเองเจอคุณชายตัวปลอม
มีเพียงเธอที่ยังคงถามเขาด้วยความซื่อบื้อ
“พี่เสี่ยวซือ ทำไมทุกคนถึงมองพี่ล่ะ? เป็นเพราะพี่หล่อเกินไปใช่ไหม พวกเขาถึงต้องการจะแย่งฉันไป?” พอพูดเสร็จก็ยังพาดอยู่บนตัวเขาอย่างเป็นกังวล มือและเท้ากอดเขาไว้เพื่อประกาศอำนาจความเป็นเจ้าของ
“พี่เป็นของฉัน ฉันทำเครื่องหมายไว้แล้ว ใครก็แย่งฉันไปไม่ได้!”
คนรอบข้างต่างพากันหัวเราะ
เธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เธอเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย นิสัยโผงผาง ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่เคยเหนียมอายแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
คนอื่นจึงรู้สึกแค่ว่าเธอเป็นลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสืออย่างไรอย่างนั้น
มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
แม้พ่อกับแม่ของเธอจะรักใคร่กันมาก แต่ตอนที่แม่เธอคลอดเธอออกมานั้น แม่ของเธอตกอยู่ในภาวะอันตราย
พอเธอเพิ่งคลอดออกมา แม่ของเธอก็อยู่ในสภาพผักไม่ได้สติ
เกือบเสียชีวิตไปแล้วหลายรอบ
ในวัยเด็กของเธอจึงมีเพียงพ่อ ไม่มีแม่ เธอเห็นกับตาตัวเองมาโดยตลอดว่าแต่ละวันพ่อของเธอเอาแต่ทอดถอนใจเพราะรอให้แม่ฟื้นขึ้นมา
เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า
เป็นเวลานานมากจนคนคิดว่าแม่ของเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอบอกตัวเองว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็รอได้ มีเพียงความรู้สึกเท่านั้นที่รอไม่ได้
ถ้าชอบใครสักคนหนึ่งจะต้องรีบบอกเขา
พยายามต่อสู้เพื่อให้ได้มา ถึงสุดท้ายจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่อย่างน้อยตัวเองจะได้ไม่ต้องเสียใจ…
พอคิดถึงตรงนี้ ถังหยวนซือก็กอดแขนเธอแน่นขึ้นอย่างเงียบๆ ริมฝีปากบางของเขากดลงบนเส้นผมของเธอพลางกระซิบ “ขอโทษ…”