หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 835 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน
ตอนที่ 835 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน
เธอรับปากกับการันต์และจันทนีไว้ ว่าเธอจะจัดการเรื่องนี้
แต่ว่าจิดาภาก็ยังคงไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไรดี
แต่ว่าพันเดชก็ไม่เคยสัมผัสเธอต่อหน้าเลย แต่ว่าเธอไม่รู้ว่า เธอแค่ไม่เห็นพันเดชเท่านั้นเอง แต่ว่าทุกคืนหลังจากเธอหลับไปแล้วนั้น พันเดชจะแอบกลับมาดูเธอ
มองเธออยู่สักพัก แม้แต่ครึ่งชั่วโมง แล้วเขาก็ไป
เพราะฉะนั้นจิดาภาก็เลยไม่มีโอกาสได้ติดต่อพันเดชเลย
จนถึงวันนี้ จิดาภาก็ได้รับสายจากจันทนีอีกครั้ง เธอร้องไห้ฟูมฟายแล้วบอกเธอทางโทรศัพท์ว่า เปรมศักดิ์เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยในคุก
จิดาภาถึงได้รู้ว่า เธอจะยืดเยื้อต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
เดิมที ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเธอไม่มีโอกาส แต่ว่าเธอแค่อยากให้วันนั้นมันมาถึงช้าหน่อยเท่านั้นเอง……
สุดท้ายจิดาภาก็โทรหาพันเดช
พันเดชอยู่ในห้องทำงาน เห็นสายเรียกเข้า สายตาของเขาก็ลึกซึ้ง เขาลังเลเล็กน้อย สุดท้าย คิดอยู่นานแล้วเขาก็รับสาย
“ฮัลโหล……”
“พันเดช ฉันเอง! ”
“ทำไมเหรอ? มีเรื่องอะไรรึเปล่า? ”
“ฉัน……อยากนัดนายมากินข้าวด้วยกันหน่อย ไม่รู้ว่านายมีเวลาไหม! ” จิดาภาพูด ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า ทั้งสองคนคุยกันดูไม่ค่อยคุ้นเคยกัน
“……ได้สิ กี่โมง”
“วันนี้ตอนสามทุ่มแล้วกัน ร้านอาหารวอลล์ลิเค! ”
“……ได้! ”
“แล้วเจอกัน! ”
“อืม! ”
พูดแบบธรรมดาๆ ไม่กี่ประโยค แล้วก็วางสาย
จิดาภาถือโทรศัพท์ สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ไม่คิดเลยว่า พึ่งจะผ่านไปไม่กี่วัน พวกเขากลับคุยกันเหมือนเครื่องจักรกล
แต่พอคิดว่าตอนเย็นต้องเจอกัน เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องมองโลกในแง่ดี
และพันเดช ก็ถือโทรศัพท์อยู่ สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจังและหนักแน่นอย่างบอกไม่ถูก เขารู้อยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะช้าหรือจะเร็วก็ต้องเผชิญหน้า ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันดีๆ ดีกว่า
สามทุ่ม
โรงแรมวอลล์ลิเค
จิดาภาสวมใส่ชุดเดรสสีเหลือง ม้วนผมเล็กน้อย มีเพียงผมไม่กี่เส้นตกลงบนไหล่เท่านั้น เพิ่มความอ่อนโยนและมีเสน่ห์ให้เธออย่างมาก
ตรงหน้ามีเทียนจุดอยู่ แล้วก็ไวน์ บรรยากาศภายในร้านอาหารไม่เลวเลย เหมาะกับการที่คู่รักมาที่นี่
ที่นี่แพงมาก
และก็เป็นที่ที่เมื่อก่อน พันเดชพาเธอมาที่นี่บ่อยที่สุดแล้ว
เธอเลือกที่จะเจอกันที่นี่ เพราะว่าเธอกับพันเดชมีความทรงจำที่งดงามด้วยกันที่นี่
พอนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่แต่ละอย่าง มุมปากของจิดาภาก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้นมา รู้สึกได้ว่าน่าจะอีกไม่นานแล้ว เธอก็เลยมองเวลา สามทุ่มแล้ว ปกติแล้วพันเดชไม่ค่อยมาสายเท่าไหร่เลยนะ ตอนที่จิดาภากำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก พันเดชก็เดินเข้ามา เขาในวันนี้ สวมใส่ชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ร่างกายที่สูงยาว แค่มองเข้าไป ก็ทำให้คนยากที่จะละสายตา เขาเดินเข้ามา มองหาจากกลุ่มคนพวกนั้น สายตาแน่วแน่ แล้วก็เดินเข้าไปหาร่างนั้น “ขอโทษที ตอนที่จะออกมานั้นเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย เลยมาสาย! ” พันเดชพูด แล้วก็ลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง “ไม่เป็นไร! ”จิดาภายิ้ม ทั้งสองคนเจอกัน ยังต้องระมัดระวังตัวกันขนาดนี้เลย “ทำไมถึงอยากจะมาเจอกันที่นี่ล่ะ? ” พันเดชมองดูอาหารค่ำใต้แสงเทียนที่อยู่บนโต๊ะ “ก็แค่รู้สึกว่า พวกเราไม่ได้มากินข้าวด้วยกันแบบนี้นานมากแล้ว ทำไมเหรอ? ไม่ชอบเหรอ? ” “เปล่า ชอบมากเลย! ” จิดาภายิ้ม ตอนนี้เอง พนักงานก็เดินเข้ามา มองพวกเขา “คุณพันเดช คุณจิดาภา สั่งอะไรดีครับ? ” พันเดชเป็นแขกประจำของที่นี่ และก็เป็นสมาชิกVIP เพราะฉะนั้นพนักงานทุกคนที่นี่ก็ต่างจำเขาได้ แล้วอีกอย่างเรื่องของเขากับจิดาภา ข่าววันแต่งงานเลื่องลือไปทั้งเมือง พนักงานจะไม่รู้จักได้ยังไง “เอาเหมือนเดิม! ” “สเต๊กเนื้อก็พอแล้ว! ” “ได้ครับ ทั้งคู่โปรดรอสักครู่ แล้วจะรีบนำมาเสิร์ฟให้นะครับ! ” พันเดชพยักหน้า แล้วพนักงานคนนั้นก็เดินออกไป ทั้งสองคนมองหน้ากัน ต่างคนต่างไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดอะไรดี “อยากดื่มไวน์หน่อยไหม?! ” จิดาภาหาเรื่องคุย หยิบแก้วขึ้นมาแล้วเทไวน์ลงไป “เธอท้องอยู่ ดื่มไม่ได้! ”จิดาภากำลังจะเทไวน์ แต่ว่าพันเดชกลับยื่นมือมาหยุดเธอไว้ มองที่มือของเขา ยังคงกว้างเหมือนเดิม ทำให้คนอื่นรู้สึกปลอดภัยได้ “ไม่เป็นไรหรอก ดื่มนิดเดียวได้! ” จิดาภายิ้มแล้วพูด แต่ว่าพันเดชยังคงไม่ยอมหละหลวม จับขวดไวน์ไว้ไม่ยอมปล่อย สุดท้าย เมื่อไม่สามารถเอาชนะเขาได้ จิดาภาก็เลยต้องยอมแพ้ “งั้นฉันเทให้นายดื่มได้ไหม? ” พันเดชถึงได้พยักหน้า แล้วก็ปล่อยเธอ จิดาภายิ้ม แล้วก็ช่วยเทให้เขาครึ่งแก้ว แล้วก็อาศัยโอกาสนี้เทให้ตัวเองเล็กน้อย สายตาของพันเดชมองไปที่เธอ จิดาภากลับค่อยๆ ยิ้มออกมา “นิดเดียวเอง! ” ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นแค่จิบเดียว พันเดชก็เลยยอมปล่อยเธอ “อย่าลืมสิ ก่อนหน้านี้ ฉันดื่มไวน์บ่อยจะตาย! ” พันเดชพยักหน้า “ฉันรู้ แต่ว่าตอนนี้เธอท้อง เป็นช่วงเวลาพิเศษ และต้องดูแลเป็นพิเศษ! ” ตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น พนักงานก็เดินเข้ามาพร้อมกับรถเข็น “คุณพันเดช คุณจิดาภา อาหารค่ำของคุณพร้อมแล้วครับ! ” พนักงานเสิร์ฟอาหารขึ้นโต๊ะ “ขอบคุณ! ” “ด้วยความยินดีครับ! ” หลังจากเสิร์ฟอาหารเสร็จ พนักงานก็เดินจากไป ตอนที่จิดาภากำลังจะหั่นสเต๊กนั้น ก็มีมือที่เรียวยาวคู่หนึ่งยื่นเข้ามา แล้วก็หยิบจานตรงหน้าเธอไป “เดี๋ยวฉันช่วย! ” มองหน้าเขา จิดาภาก็ยิ้มออกมา แต่ว่าก็ไม่ได้ห้ามเขา พร้อมกับพยักหน้า “อืม! ” พันเดชถือมาไว้ตรงหน้าของตัวเอง แล้วก็หยิบมีดกับส้อมขึ้นมาแล้วค่อยๆ หั่น จิดาภาก็มองแบบนั้นเงียบๆ มือที่เรียวยาวคู่นั้นของเขา ขาวสะอาด แต่ว่าข้อมือของเขากลับเห็นได้อย่างชัดเจน ดูหนาและมีพลัง แม้แต่มือคู่นั้นของเขาก็เหมือนงานศิลปะชั้นเอกแล้ว “เสร็จแล้ว! ” พอได้ยินเสียงเขา จิดาภาถึงได้สติกลับมา “ขอบคุณนะ! ” พันเดชไม่ได้พูดอะไร หยิบจานสเต๊กของตัวเองมา แล้วก็ลงมือหั่น “ฉันได้ยินมาว่า เรื่องที่บริษัท กิจการกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว! ” จิดาภากินไปด้วยถามไปด้วย พอพูดเรื่องบริษัทขึ้นมา พันเดชที่กำลังหั่นสเต๊กอยู่นั้นก็ตะลึงไป หลังจากนั้นก็พยักหน้า “อืม! ” แค่เพียงพูดถึงนิดเดียว พอเห็นว่าพันเดชเริ่มอารมณ์ไม่ดี เธอก็ไม่ได้พูดเรื่องบริษัทอีก “ยังจำครั้งแรกที่นายพาฉันมากินข้าวที่นี่ได้ไหม? ”จิดาภามองเขาแล้วถาม พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา สายตาของพันเดชก็ดูอ่อนโยนขึ้น จะจำไม่ได้ได้ยังไง ตอนนั้น พวกเขาทั้งสองคนยังตาต่อตา ฟันต่อฟันกันอยู่เลย แต่ว่าตอนนี้พอกลับไปย้อนคิดดูแล้ว มันกลับเต็มไปด้วยความทรงจำ มุมปากของเขา ก็ยกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แล้วในตอนนี้เอง ก็มีคนหนึ่งเดินเข้ามา “ประธานพันเดช?”พอได้ยินเสียงนี้ สายตาของจิดาภาและพันเดชก็มองไป ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หุ่นดี หน้าตาสละสลวยยืนอยู่ตรงนั้น เธอสวมชุดเดรสเปิดไหล่ ขาเรียวยาว ดูแล้วเซ็กซี่มาก พันเดชขมวดคิ้ว “คุณคือ? ” ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา เดินเข้ามาเหมือนจะมาอิงแอบพันเดช “คุณลืมฉันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? คุณลืมวันที่อยู่ในคลับส่วนตัววันนั้นเหรอคะ? คุณบอกว่าคุณ……” พันเดชขมวดคิ้ว รู้สึกรังเกียจการที่เธอเข้ามาใกล้ “คุณจำคนผิดแล้ว! ” “จะจำผิดได้ยังไงกันคะ ตอนนั้นคุณกับคุณลาภิศก็อยู่……” ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาอย่างชำนาญยังจำลาภิศได้ด้วย ก็แสดงว่าไม่ได้จำผิดแล้ว! สายตาของพันเดชมองไปที่จิดาภา แต่จิดาภากลับมองไปที่อื่น เทไวน์แล้วก็จิบเข้าไป พันเดชขมวดคิ้วแน่น เห็นสายตาของพันเดช ผู้หญิงคนนั้นถึงได้หันไปสนใจจิดาภาที่อยู่ด้านข้าง เธอตะลึงไปแล้วพูดว่า “ท่านนี้คือ……” “สวัสดีค่ะ ฉันคือจิดาภา ภรรยาของพันเดช! ”จิดาภาวางแก้ว มองเธอแล้วก็ยิ้มให้ “อ้อ สวัสดีค่ะ! ” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มแล้วทักทาย แต่ว่าก็ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะออกห่างจากพันเดชเลย เธอไม่ได้คิดเลยแม้แต่นิดเดียวว่า ตอนนี้เธอกำลังพิงสามีของคนอื่นอยู่ จิดาภามองหน้าเธอ ไม่ได้โกรธแถมยังยิ้มออกมา “คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณคงได้ยินที่ฉันพูดชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ? ” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า “ได้ยินแล้วค่ะ! ” “คุณผู้หญิง คุณแนบชิดใกล้ขนาดนั้น จะโดนคนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายนะ! ” จิดาภาพูดออกมานิ่ง บนใบหน้าของเธอ ไม่ได้มีความโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ว่ายิ่งยิ้ม ยิ่งดูสง่างาม มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ปัจจัยที่แฝงอยู่ในตัวเธอนั้นยิ่งน่ากลัวกว่ามาก เพียงแค่ สำหรับโจรตัวเล็กๆ แบบนี้ จิดาภาไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนนี้เองผู้หญิงคนนั้นถึงได้รู้ตัวว่า ตัวเองเกือบจะแนบเข้ากันตัวของพันเดชแล้ว เธอลุกขึ้นอย่างเก้อเขิน “ขอโทษด้วยค่ะ! ” “งั้นฉันขอแนะนำอะไรคุณหน่อยแล้วกันค่ะ ต่อไปเวลาออกไปไหนก็ระมัดระวังหน่อย ไม่ยังงั้นคนอื่นมองมาจะเข้าใจผิดว่าที่คุณทำแบบนี้เพื่อจะยั่วสามีคนอื่น! ” “ฉัน……” “ขอโทษด้วยนะคะ พวกเรากำลังทานข้าวกันอยู่ ไม่ไปส่งนะคะ! ”จิดาภาไม่ให้โอกาสเธอได้พูดต่อ เธอยิ้มอยู่ตลอด แต่ว่ากลับทำให้คนอื่นรู้สึกไม่กล้าจะไปยั่วแหย่ เธอมองหน้าจิดาภา รู้สึกเก้อเขินนิดหน่อย แล้วก็มองหน้าพันเดช “ประธานพันเดช เดี๋ยววันหน้าพวกเราค่อยติดต่อกันใหม่นะคะ……” “ไม่จำเป็น! ”พันเดชปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้หญิงคนนั้นกระอักกระอ่วน แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็เดินออกไป หลังจากที่เธอไปแล้ว จิดาภากับพันเดชก็มองหน้ากัน “ไม่มีอะไรอยากถามฉันเหรอ? ” “ไม่มี! ” จิดาภาส่ายหน้า ถึงแม้ว่าการเชื่อใจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าตอนนี้……พันเดชมองเธอ “ที่จริง ฉันไม่ได้รู้จักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว คราวก่อนตอนที่ดื่มอยู่ในคลับส่วนตัวนั้น เธอเข้ามาเสิร์ฟเหล้า……”“นายไม่ต้องอธิบายหรอก! ” พันเดชมองจิดาภา “ฉันเชื่อใจนาย! ”จิดาภาพูดนิ่งๆ พันเดชมองเธอ สายตาเปลี่ยนเป็นอบอุ่น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ หยิบไวน์ตรงหน้าขึ้นดื่ม “อยากดื่มสักแก้วไหม? ” “ได้สิ! ” “แต่ว่าเธอดื่มได้แค่จิบเดียวนะ! ” จิดาภาพยักหน้า หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ชนแก้วกัน ทั้งสองคนทานข้าวกันต่อ ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ เหมือนเป็นแค่ฉากสั้นๆ เท่านั้น หลังจากเกิดขึ้นแล้วก็หายไป แต่ว่าระหว่างทั้งสองคนนั้น เงียบไปจากก่อนหน้านี้มาก