หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 806 เรื่องราวหลอกลวง
ตอนที่ 806 เรื่องราวหลอกลวง
ตอนนั้นเอง เอลิสต์กลับยื่นมือออกไปหนึ่งข้าง ดึงหล่อนเข้ามาไว้ในอ้อมอก แต่เพราะจัดท่าไม่ดี ทั้งสองจึงล้มลงไปกองบนพื้น…
เรื่องที่น่าเหลือเชื่อเหมือนในละครก็คือ ไปรยาล้มลงไปทับบนตัวของเอลิสต์ เวลาผ่านไปชั่วขณะเดียว หน้าอันหล่อเท่ห์ของเอลิสต์เข้ามาใกล้หล่อนทันที ใจของไปรยาเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เขินจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไป
แต่ทว่า ผิวของเอลิสต์ช่างดีเหลือเกิน เมื่อมองในระยะอันใกล้ขนาดนี้ ทั้งดูสว่างและเต่งตึง…
แต่เอลิสต์ที่ล้มนอนอยู่บนพื้น เมื่อเห็นแววตาของไปรยามองมาด้วยความหลงใหล เขาก็มองหล่อนกลับ ทั้งสองมองตากันผ่านไปครู่ใหญ่ จนเขาเริ่มพูดขึ้น “เธอจะนอนทับฉันแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ?”
คำพูดนั้น ทำให้ดึงสติของไปรยากลับมา มองดูตัวเองทับอยู่บนเรือนร่างของเอลิสต์ ในระยะอันแสนใกล้ และเขาก็ไม่ได้ใส่เสื้อ…
เมื่อรู้สึกว่ามือของตัวเองวางอยู่บนหน้าอกอันบึกบึนของเขา หน้าของหล่อนเริ่มร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง!
“ขะ…ขอโทษ” ไปรยากล่าว จากนั้นรีบลุกขึ้น ไม่รู้ควรทำยังไงดี กำลังจะเดินออกไป แต่หล่อนไม่ทันระวัง มือกลับไปเกี่ยวผ้าขนหนูที่ห่อตัวเอลิสต์ไว้อยู่…
จากนั้น ผ้าเช็ดตัวก็หลุดออก เผยให้เห็นกางเกงว่ายน้ำที่แนบเนื้อของเขา ทำให้เห็นส่วนที่นูนออกมาของเอลิสต์
ทันใดนั้น ตาของไปรยาเบิกกว้างราวกับลูกองุ่น ปากอ้าค้างจนใส่องุ่นได้หลายลูก
จริงๆเลย…
หล่อนไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย! !
หล่อนไม่กล้าแม้แต่จะมองเอลิสต์ หน้าเริ่มแดงร้อนระอุขึ้นมา
“ฉะ…ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฉันเหนื่อยแล้ว ง่วงแล้ว ไปพักผ่อนก่อนนะ!” ทันใดนั้น ไปรยาลุกขึ้นจนไม่ได้ใส่รองเท้า เดินกะเผลกตรงไปที่ห้องตัวเอง
เอลิสต์นั่งอยู่บนพื้น มองดูไปรยาที่เดินจากไป ฉีกยิ้มขึ้น ยิ้มออกมาจากใจ
เขาสวมกางเกงว่ายน้ำอยู่ จะเห็นอะไรได้ล่ะ!
แต่เมื่อเห็นหล่อนวิ่งไป สายตาของเขากลับเอ็นดูหล่อนมากขึ้น
ไปรยาวิ่งขึ้นไปนอนซุกผ้าห่มบนเตียงภายในห้อง จากนั้นหยิบหมอนมาปิดหน้าไว้
ขายหน้าชะมัดเลย!
ขายหน้ามาก!
ไม่เคยขายหน้าขนาดนี้มาก่อนเลย!
เอลิสต์จะคิดว่าหล่อนตั้งใจรึเปล่านะ?
จะคิดว่าหล่อนคิดมิดีมิร้ายกับเขารึเปล่านะ?
อ๊ากกกก!
ไปรยาร้องโอดครวญ ชีวิตของหล่อนพังพินาศหมดแล้ว!
ตอนกลางคืน เปรมศักดิ์มองหน้ากชกร อยากถามอะไรบางอย่าง แต่คิดอยู่นาน ก็ไม่ได้ถามอะไร
เขาจึงหันหลังกลับไป เปิดประตูห้องหนังสือ
“ทำไมล่ะ? ไปห้องหนังสืออีกแล้ว? ” เสียงของกชกรดังขึ้นจากด้านนอก
“อื้ม!” เปรมศักดิ์ไม่ได้หันหลังกลับมา เพียงแค่ตอบรับรู้เฉยๆ
กชกรยิ้มอย่างเยือกเย็น “ทำไมล่ะ วันนี้ยังเห็นตัวจริงไม่พอเหรอ ถึงต้องไปดูที่ห้องหนังสืออีก?” หล่อนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คุณพูดอะไรของคุณ? ผมไปทำงาน!” เปรมศักดิ์ย่นคิ้ว
“งั้นเหรอ? มีงานกี่อย่างที่ทำให้คุณต้องไปที่นั่นทุกวัน หรือว่า มีเรื่องอื่น?”กชกรค่อยๆมองไปหาเขา ถามด้วยแววตาเยือกเย็น ทำให้เปรมศักดิ์รู้สึกว่าสองวันที่ผ่านมานี้ หล่อนเหมือนเปลี่ยนไปเป็นอีกคน
“คุณอยากพูดอะไรกันแน่?”
“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า คุณจะเป็นคนที่รักใครรักจริง!” เขารู้ดีว่าหล่อนชอบเขา แต่เขากลับรักคนที่เขาไม่ควรรัก และยังปิดบังหล่อนไว้
เมื่อคิดถึงการกระทำที่หล่อนเป็นฝ่ายเข้าหาเขาในอดีต ทำให้หล่อนรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างมาก!
เรื่องทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะพวกเขา! ! !
เปรมศักดิ์หรี่ตาลง มองหล่อน “คุณอยากพูดอะไรกันแน่?”
กชกรยิ้มเยาะ “ฉันอยากพูดอะไร คุณไม่รู้งั้นเหรอ? บอกว่าไปทำงานที่ห้องหนังสือทุกวัน แต่ไปทำงานจริงเหรอ?”
“คุณเคยไปห้องทำงานของผม เคยใช้คอมพิวเตอร์ของผม?” เปรมศักดิ์ถามด้วยความเหลือเชื่อ สายตาเปลี่ยนไป มองหล่อนด้วยแววตาที่เฉียบแหลม
กชกรกลับยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก “ทำไมล่ะ? ฉันใช้ไม่ได้เหรอ?”
เปรมศักดิ์มองหล่อน นิ่งไปครู่ใหญ่ ไม่พูดอะไร แม้ว่าเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องมองหล่อนอยู่นาน สุดท้าย เขาเปิดประตูเดินออกไปทันที
กชกรยืนอยู่ในห้อง มองดูเขาเดินออกไป จากนั้นรู้สึกน้อยใจและเสียใจมาก และขณะเดียวกันก็โกรธมากเช่นกัน!
ความเจ็บปวดทุกข์ทรมานภายในใจ เสียใจจนไม่สามารถระบายออกมาได้ ทำได้เพียงระบายอารมณ์อยู่บนเตียง หล่อนหยิบผ้าห่มกับหมอนขึ้นมา ซัดลงไปที่พื้นเต็มแรง!
เปรมศักดิ์ ฉันจะไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้แน่นอน!
และจิดาภา ที่ทำให้ฉันต้องทนทุกข์เสียใจ ฉันจะต้องเอาคืนให้ได้!
คืนนี้ ไม่มีทางนอนหลับได้
เปรมศักดิ์นั่งอยู่ในห้องหนังสือ จ้องมองคอมพิวเตอร์ของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าหล่อนเห็นอะไรไปเยอะแค่ไหน!
ตอนกลางวันที่ประชดประชันจิดาภาหลายเรื่อง ตอนนั้นเขาเริ่มรู้แล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นิ้วมือของเขาจิกผมที่ดกหนา พลางมองหน้าจอคอม จ้องอยู่นานแสนนาน…
ส่วนจิดาภาที่กำลังนอนอยู่บนเตียง สายตามองไปดูวิวดวงจันทร์ด้านนอก แม้ว่าจะไม่เข้าใจเรื่องทุกอย่าง แต่มีเพียงความคลุมเครือที่ไม่ชัดเจนทำให้หล่อนปล่อยวางจากความคิดได้
ทันใดนั้น พันเดชกลับมาพอดี ขึ้นไปบนเตียง กอดหล่อนจากด้านหลัง จูบลงบนที่หน้าหล่อน “เป็นอะไรเหรอคุณภรรยา ทำไมยังไม่นอนล่ะ?!”
เมื่อได้ยินเสียงของเขา จิดาภาหันหลังมา ยิ้มให้ด้วยหน้าตาที่อ่อนหวาน “รอคุณอยู่ไงคะ!” “ทำไมล่ะ? เป็นห่วงผม?” พันเดชยักคิ้วขึ้น มองหล่อนพลางยิ้มด้วยท่าทีมีเลศนัย “คุณพันเดช อย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย ไปอาบน้ำ แล้วมานอนซะดีๆ!”“คุณภรรยา คุณทำแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกพ่ายแพ้มากเลยนะ!”พันเดชพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจจิดาภายิ้ม “คนที่บริษัทต่างพากันเอาใจ ตามใจคุณ ยังไม่พออีกเหรอ?”“ผมชอบให้คุณเอาใจผมมากกว่า!”พันเดชพูดพลางจะจูบหล่อน แต่กลับถูกจิดาภาใช้มือข้างหนึ่งผลักออก“ลูกบอกว่า ไปอาบน้ำก่อน!”“ลูกบอกเหรอ?”จิดาภาพยักหน้า ทันใดนั้น พันเดชลูบไปที่ท้องของจิดาภา มองดูท้องของหล่อน “ลูก รังเกียจพ่อขนาดนี้เลยเหรอ รอให้ลูกออกมาก่อนนะ พ่อจะสั่งสอนลูกให้เต็มที่เลย!” พูดพลาง ดึกเน็กไทด์ออก จากนั้นเดินไปอาบน้ำอย่างไม่เต็มใจ จิดาภาที่นอนอยู่ตรงนั้น ฉีกยิ้มขึ้นมาทันที…ชีวิตหลังแต่งงาน ไม่ได้ทำให้จิดาภารู้สึกลำบากเลยสักนิด แต่กลับทำให้พันเดชทำตัวดีขึ้นเมื่อก่อนเขามักจะทำงานล่วงเวลาอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เวลาสามทุ่มกลับกลายเป็นเวลาที่ต้องกลับบ้าน และต้องกลับมาอยู่กับภรรยาตรงเวลา แม้ว่าจะมีเรื่องด่วน เขาจะต้องโทรศัพท์มาบอกก่อนการกระทำทั้งหมดนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกพอใจมากแต่ชีวิตก็ไม่ได้เป็นดั่งที่ใจปรารถนาเสมอไป กชกรก็คือเรื่องราวที่แทรกเข้ามาเมื่อคิดถึงหล่อน จิดาภารู้สึกกังวลขึ้นมาทันที…เช้าวันต่อมาจิดาภาเพิ่งจะตื่นขึ้นมาไม่นาน ก็ได้รับสายจากกชกรหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง จิดาภาลงมาจากด้านบน บังเอิญเจอกับลุงม่อนด้านล่างพอดี จิดาภาเดินเข้าไป “ลุงม่อนคะ ตอนนี้พอจะมีเวลาไหมคะ?”“คุณหนูมีธุระอะไรรึเปล่าครับ?” ลุงม่อนถาม“ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอกนิดหน่อย ลุงช่วยไปส่งหนูหน่อยได้ไหมคะ?” จิดาภาถามกลับลุงม่อนพยักหน้า “ได้แน่นอนอยู่แล้ว!”“ขอบคุณค่ะลุงม่อน!”“เดี๋ยวผมขับรถให้ครับ!”…เปรมศักดิ์กำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องทำงาน ทันใดนั้น มือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะดังขึ้น เขาเหลือบมองดู จากนั้นกดรับสาย“ฮัลโหล…”“ใช่คุณเปรมศักดิ์รึเปล่า?”“ใช่ครับ คุณคือใคร?” เมื่อได้ยินเสียงอันไม่คุ้นเคยของคู่สาย เปรมศักดิ์ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที“ฉันเป็นใคร คุณไม่ต้องยุ่ง ภายในสามสิบนาทีนี้ คุณต้องเอาเงินห้าล้านมาที่โรงแรมคิมโด ห้อง303 ไม่เช่นนั้น หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับจิดาภา ฉันไม่รู้ด้วย อีกอย่าง ห้ามแจ้งตำรวจ เพราะผลที่ตามมา คุณคงแบกรับไม่ไหว…”เมื่อได้ยินชื่อของจิดาภา เปรมศักดิ์รีบลุกขึ้นมาทันที “แกเป็นใคร? คิดจะทำอะไร?”“เอาเช็คมาเดี๋ยวคุณก็รู้เอง!”“แก….”“ตู๊ดๆ!” เปรมศักดิ์ยังไม่ทันพูดจบ เสียงตัดสายก็ดังขึ้นก่อนเปรมศักดิ์กำมือถือไว้ในมือ ไม่คิดอะไรมากมาย รีบหยิบกุญแจรถออกไปจากบริษัททันทีตลอดทาง เขาขับด้วยความเร็วสูงสุดตลอด เปรมศักดิ์คิดเพียงว่า ห้ามให้เกิดเรื่องอะไรกับจิดาภาเด็ดขาด!ครึ่งชั่วโมงต่อมา เปรมศักดิ์ขับรถถึงโรงแรมคิมโด เมื่อหาห้อง303เจอ เขายืนครุ่นคิดอยู่หน้าประตู สุดท้ายจึงตัดสินใจกดกริ่งหน้าห้องผ่านไปไม่นาน ประตูจึงถูกเปิดออก“มาแล้วเหรอ?”เปรมศักดิ์มองหน้าคนที่อยู่ด้านใน “หล่อนล่ะ?”“เข้ามาแล้วค่อยว่ากัน!”เปรมศักดิ์มองไปรอบห้อง สุดท้ายก็เดินตามเขาเข้าไปเมื่อเดินเข้าไป เห็นผู้ชายหนึ่งคนนั่งอยู่ เปรมศักดิ์มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นจิดาภาเลย “หล่อนอยู่ที่ไหน?” เปรมศักดิ์ถาม “ไม่ต้องรีบร้อน เตรียมเงินมาแล้วรึยัง?” ผู้ชายคนนั้นถามขึ้น“ผมต้องเจอหล่อนก่อน แล้วค่อยว่ากัน!”“คุณคิดว่า ตอนนี้คุณมีสิทธิ์มาต่อรองกับผม?” คนนั้นถามเปรมศักดิ์จ้องหน้าเขาอยู่นาน จากนั้นมองไปรอบๆ ศัตรูอยู่ด้านนอก เขารู้สึกไม่ค่อยดี“ผมจะรู้ได้ไงล่ะ แกหลอกฉันใช่ไหม!” “รู้บ้างรึเปล่า ว่าคุณมาถึงที่นี่แล้ว ยังจะมีทางเลือกอื่นอีกงั้นเหรอ?” คนนั้นถาม ท้ายสุดเขาคิดอยู่สักพัก จากนั้นหยิบเช็คขึ้นมา ยื่นให้เขา“เช็ค? หลอกฉันเหรอ?”“แกให้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงที่นี่พร้อมเงินห้าล้าน ฉันจะไปหาจากที่ไหนล่ะ? เช็คแล้วยังไง ก็เป็นเงินเหมือนกันไม่ใช่รึไง?” เปรมศักดิ์ถามผู้ชายคนนั้นมองเปรมศักดิ์ เงียบไปครู่ใหญ่ทันใดนั้น เปรมศักดิ์มองเขา “หล่อนล่ะ? หล่อนอยู่ที่ไหน?”“คุณจะรีบร้อนขนาดนี้ไปทำไมกัน?”“แก——”“คุณคิดว่า ถ้าโทรหาพันเดช เขาจะให้เงินเท่าไหร่?” ผู้ชายคนนั้นถามเมื่อได้ยินเช่นนั้น เปรมศักดิ์ขมวดคิ้วขึ้นทันที “แกจะเอายังไงกันแน่?”ผู้ชายคนนั้นยิ้ม “แน่นอนว่าเพื่อเงินไงล่ะ ใครให้มากกว่า ผมก็จะให้คนนั้น!”“แก!” เปรมศักดิ์จ้องหน้าชายผู้นั้น ดวงตาเบิกกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเคืองจนอยากจะฆ่าเขาคิดอยู่สักพัก เขาบุกเข้าไปจับชายคนนั้นไว้ “แกจะเอายังไงกันแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่มีหนทาง!”“ถ้าคุณกล้าแตะต้องเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว ผมรับประกันว่าหล่อนจะตายทั้งเป็น!” “แก——!”ท้ายสุดเขาถูกบีบบังคับจนต้องยอมปล่อยเขาไปชายคนนั้นมองเปรมศักดิ์พร้อมยิ้มอย่างสะใจ “ถ้ายังอยากจะทำอะไรฉัน ฉันมีทางเลือกให้นาย หยิบมีดแทงตัวเองซะ!” พูดพลางโยนมีดลงไปตรงหน้าเขาเปรมศักดิ์มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ“เอาไง? แทงหรือไม่แทง ถ้านายไม่แทง ฉันจะให้คนแทงหล่อนหนึ่งครั้ง ตอนนี้หล่อนกำลังท้องอยู่ คงจะทรมานมากกว่านาย!”“แกจะเอายังไงกันแน่?!” เปรมศักดิ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจนเส้นเอ็นที่มือและคอปูดขึ้นมา“ฉันพูดชัดแล้วไง แทงตัวเองหนึ่งครั้ง ไม่เช่นนั้น ฉันจะให้คนแทงหล่อน!”เมื่อเห็นเปรมศักดิ์ไม่มีท่าทีทำอะไร ทันใดนั้น ชายผู้นั้นพูดใส่ไมค์ “ลงมือ…”“อย่า!”เขาเพิ่งจะพูดจบ ทันใดนั้นเปรมศักดิ์ก็พูดห้ามไว้มองดูมีดปอกผลไม้บนพื้น เปรมศักดิ์ค่อยๆเดินไปหยิบขึ้นมา ชายคนนั้นยืนมองดูดด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์“หวังว่าจะพูดจริงทำจริง!” เขาพูดพลางหยิบมีดปอกผลไม้แทงตัวเองทันที“ละครเรื่องนี้ช่างน่าสนุกจริงๆเลย!” ขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงของผู้หญิงดังขึ้น เมื่อได้ยินเสียงนั้น เปรมศักดิ์หันไปมอง ทันใดนั้น ประตูถูกเปิดออก กชกรค่อยๆเดินปรบมือออกมาเมื่อเห็นหล่อนปรากฏตัวขึ้น เปรมศักดิ์ย่นคิ้วมองทันทีหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ทันใดนั้น กชกรเดินตรงไปที่ชายคนนั้น หยิบเงินปึกใหญ่ออกมาจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้เขา “ขอบคุณที่ช่วยเหลือ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามพูดออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่เช่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้น นายคงรู้ดี!”ชายคนเมื่อครู่ที่ดูโหดเหี้ยมมองไปที่กชกร รีบพยักหน้าโค้งให้หล่อน ยิ้มและพูดขึ้น “คุณสบายใจได้ ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น…”กชกรยื่นเงินให้เขา จากนั้นเขารับเงินและออกไปข้างนอกทันทีตอนนี้ เปรมศักดิ์ค่อยๆเข้าใจแล้วว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาจ้องมองกชกร “เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของคุณ?”กชกรมองเขา ยิ้มอย่างเยือกเย็น “ทำไมล่ะ? ไม่ชอบสิ่งที่ฉันเตรียมมาให้คุณเป็นพิเศษเหรอ?”“คุณต้องการอะไรกันแน่?” เปรมศักดิ์มองหน้าหล่อนถามขึ้น ด้วยสายตาอันสั่นคลอนและเยือกเย็น“ไม่ได้คิดจะทำอะไร แค่รู้แล้วว่าความรักระหว่างพี่น้องของคุณช่างลึกซึ้งยิ่งนัก!” กชกรค่อยๆพูดขึ้น สายตาของเปรมศักดิ์ จ้องผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชาเป็นอย่างมาก“เปรมศักดิ์ คุณไม่ควรหลอกฉัน!” กชกรตวาดใส่เขาด้วยความโกรธเปรมศักดิ์ยืนอยู่ที่เดิม ไม่พูดอะไร“คุณให้คนโง่อย่างฉันอยู่ข้างกายคุณ ฉันจะบอกให้ ถ้าเป็นก้อนหิน ก็คงมีสักวันที่ร้อนระอุขึ้นมาบ้าง แต่ทำไมคุณไม่มี และทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ชอบคนนั้นจะเป็นหล่อน!!!” กชกรพูดขึ้นช้าๆเปรมศักดิ์ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่จ้องมองหล่อน “ผมไม่เคยหลอกคุณ!”“ไม่มีงั้นเหรอ? ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉัน ทำไมต้องขอฉันแต่งงาน?” กชกรร้องถาม “ถ้าตอนนั้นฉันรู้วันจิตใจคุณไม่ได้อยู่ที่ฉัน ฉันก็ไม่มีทางจะแต่งงานกับคุณ ตอนนี้ก็จะได้ไม่ต้องทรมานเช่นนี้!” “คุณกำลังหลอกใช้ฉันอยู่ หลอกใช้อำนาจของตระกูลธนาโชเพื่อปกป้องตำแหน่งของคุณไว้!” กชกรพูดขึ้น จากนั้นตบไปที่ข้างหูของเปรมศักดิ์อย่างจัง ตบจนมือของหล่อนชาแม้ว่าจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรก แต่เพราะความรู้สึกชอบที่มีต่อเขา ทำให้หล่อนไม่สนใจเรื่องนี้ แต่ตอนนี้หล่อนเข้าใจแล้วว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงละครตบตาหลอกลวงหล่อน!การหลอกลวงที่น่าละอายใจ!!!เปรมศักดิ์ยืนอยู่ที่เดิม เขาโดนตบหน้าไปถึงห้าทีในพริบตาเดียว เขาจ้องมองหล่อน “ถ้าคุณรู้สึกทรมานนัก งั้นพวกเราก็หย่ากันดีกว่า คุณไปป่าวประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ตามอำเภอใจได้เลย บอกว่าคุณทิ้งผมก็ได้ หรือจะพูดยังไงก็ได้!”หย่า คำพูดนี้ ทำให้กชกรตะลึงไปทันที หล่อนมองเขาด้วยแววตาที่น้ำตาคลอเบ้า “เปรมศักดิ์ นายมันไอ้สารเลว สารเลว! ! !” หล่อนร้องตะโกน“คุณจะพูดอะไรก็ช่าง แต่ลูกไม้ที่คุณเล่นแบบวันนี้ ผมไม่อยากเห็นอีก!” เมื่อพูดจบ เขาเดินตรงออกไปด้านนอกทันที “ถ้าคุณตัดสินใจจะหย่าได้เมื่อไหร่ บอกผมได้เสมอ!” หลังจากพูดจบ เขาก็เดินหายออกไปจากห้องทันทีกชกรยืนมองเปรมศักดิ์เดินออกไป หล่อนค่อยๆเดินเซ จนต้องพิงอยู่ข้างโต๊ะ น้ำตาไหลรินลงมาราวสายน้ำไหลแบบไม่มีท่าทีจะหยุดหย่า!หย่า! !เขาอยากหย่า! ฝันไปเถอะ ! ! !หล่อนไม่มีทางหย่าแน่นอน! ผ่านไปครู่ใหญ่ กชกรจึงเดินออกมาจากห้องด้านใน ซึ่งจิดาภานั่งอยู่ในนั้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเดินเข้าไป สีหน้ากชกรไม่มีร่องรอยของคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่แล้ว หล่อนมองไปที่จิดาภา “เป็นยังไงล่ะ ตื่นตาตื่นใจดีไหม?” จิดาภาเงยหน้ามองหล่อน ย่นคิ้วเล็กน้อย“อยากรู้ไหมว่าฉันรู้หรือเรื่องนี้ได้ยังไง?”จิดาภาไม่พูดอะไรกชกรพูดต่อ “ฉันเห็นข้อความที่เขาส่งให้เธอบนFacebook”จิดาภาเงียบไปสักพัก ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อหล่อนยิ้มอย่างเยือกเย็น “ผลที่ออกมาเช่นนี้ ช่างน่าประหลาดใจเหลือเกิน!”“พี่สะใภ้!”“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่สะใภ้!” กชกรพูดแทรกขึ้นด้วยเสียงอันเย็นชา “จิดาภา เสียดายที่ฉันเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว มองเธอเป็นน้องสาวที่สนิทที่สุด สุดท้ายเธอกล้ามาโกหกหลอกลวงฉันแบบนี้!”“สิ่งที่เธอสอนฉันในตอนนั้น ก็เพราะอยากเย้ยฉันใช่ไหม?”เมื่อเห็นท่าทีของกชกร หน้าของหล่อนเกร็งตึงเพราะความฉุนเฉียว หล่อนรู้ดีว่า ตอนนี้ไม่ว่าหล่อนจะพูดอะไร กชกรคงไม่มีทางฟังแน่นอนแต่ในขณะเดียวกัน ถ้าไม่พูดอะไรเลย กชกรคงคิดว่าหล่อนยอมรับ! “ฉันโตมาด้วยกันกับพี่ชาย แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของตระกูลสวันนีย์ แต่ความรักและความผูกพันระหว่างเราเป็นเพียงแค่พี่น้อง ไม่ต้องพูดถึงพี่ชาย ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็จะทำแบบนี้เช่นกัน!” จิดาภากล่าว“ยังไง ตอนนี้เธอกำลังโอ้อวดฉัน ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้นดีแค่ไหน?” กชกรมองหล่อนพลางย้อนถาม สายตานิ่งขรึมจนทำให้จิดาภารู้สึกทำอะไรไม่ถูก“ฉันแค่อยากบอกเธอว่า เรื่องราวเป็นมายังไง ก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง และไม่มีทางเปลี่ยนได้!”“งั้นเหรอ?” กชกรยิ้มเยาะ น้ำเสียงแสดงถึงความไม่เชื่อ“ฉันรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ว่าฉันจะพูดอะไร พี่ก็ไม่มีทางหยุดพี่ได้ แต่กชกร ฉันไม่เคยคิดจะโกหกหลอกลวงพี่เลย ฉันอยากให้พี่กับพี่ชายมีความสุขกันจริงๆ!” จิดาภามองหน้ากชกรพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ“แต่ถ้ามีเธออยู่ ก็ไม่มีทาง! ! !” กชกรตวาดเสียงดังสีหน้าของจิดาภาแย่ลงทันที มองหน้ากชกร ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดขึ้น “ตอนนี้พี่ยังใจร้อนอยู่ รอให้พี่ใจเย็นมากกว่านี้แล้วค่อยคุยกันดีกว่า!” จิดาภาพูดพลางมองหล่อน สุดท้ายจึงหยิบกระเป๋าเดินออกไปทันใดนั้น กชกรมองตามหล่อน “จิดาภา ฉันเกลียดเธอ ฉันไม่มีความสุข เธอก็อย่าหวังจะมีความสุขเช่นกัน….”จิดาภาหยุดชะงักลง ไม่ตอบอะไร เดินตรงออกไปทันทีเมื่อเดินออกมาจากโรงแรมคิมโด จิดาภาขึ้นรถไปลุงมิ่งนั่งอยู่ด้านหน้า เห็นสีหน้าของจิดาภาไม่ค่อยดีนัก จึงถามขึ้น “คุณหนู เป็นยังไงบ้างครับ? ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”จิดาภาเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ มองลุงมิ่ง ส่ายหน้าไปมา “ไม่เป็นไรค่ะ!”“งั้นกลับบ้านเลยใช่ไหมครับ?”จิดาภาพยักหน้า “อื้ม!” ลุงมิ่งจึงพยักหน้าลง ขับรถกลับบ้านทันทีจิดาภานั่งอยู่บนรถ สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง หล่อนรู้สึกไม่สบายใจจนบอกไม่ถูกทำไมหล่อนถึงคิดไม่ถึงเลย ว่าเรื่องจะบานปลายมาได้ถึงขนาดนี้แม้ว่าวันนี้หล่อนจะไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมดด้วยตาตัวเอง แต่หล่อนที่นั่งอยู่ด้านใน กลับได้ยินทั้งหมด… แม้จะรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น กชกรเป็นคนบงการ แต่ตอนที่อยู่ในนั้น ใจของหล่อนเหมือนถูกบีบให้เจ็บช้ำอยู่ตลอดเวลาสิ่งที่ไม่อยากเห็นมากที่สุด ผลสุดท้ายก็เกิดขึ้นจริงๆมือของจิดาภา กำผมไว้แน่น ใบหน้าอันใสบริสุทธิ์และสวยงาม แสดงออกถึงความโดดเดี่ยวและไร้ทางสู้ หล่อนมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจิตใจของหล่อนสับสนเหลือเกินพันเดชอยู่ในห้องทำงาน เมื่อได้ยินลุงมิ่งรายงานเรื่องทั้งหมด เขาขมวดคิ้วขึ้นทันที “ตอนนี้หล่อนเป็นยังไงบ้าง?”“โอเค ฉันรู้แล้ว วันนี้ฉันจะกลับเร็วหน่อย!” เมื่อพูดจบ พันเดชตัดสายไปทันทีตอนนี้จิดาภาถือเป็นอัญมณีล้ำค่าของตระกูลฐิตานันท์ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับหล่อน เมื่อลุงมิ่งเห็นว่าหล่อนผิดปกติไป จึงรีบโทรหาพันเดช หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาคงชดใช้ไม่ไหวหลังจากวางสาย พันเดชยืนอยู่ในห้อง สายตาล่องลอยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น “เข้ามา!” พันเดชเอ่ยปากพูดเลขายืนอยู่หน้าห้อง “ประธานพันเดช คุณกชกรมาขอพบค่ะ!”“คุณกชกร?”“กชกร?”ใบหน้ารูปงามของเขาย่นขึ้นด้วยความสงสัย จากนั้นพูดขึ้น “ให้หล่อนเข้ามา!”เลขาพยักหน้าลง มองไปที่คนที่ยืนอยู่หน้าประตู หันไปพูดครู่หนึ่ง จากนั้นกชกรก็เดินเข้ามา พันเดชนั่งอยู่ตรงที่นั่งของตัวเอง เมื่อเห็นกชกร เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ กลับยิ้มและพูดขึ้น “กชกร ทำไมจู่ๆถึงมาหาผมได้ล่ะ!”