หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 681 เงินในบัตรหนึ่งหมื่น
ตอนที่ 681 เงินในบัตรหนึ่งหมื่น
จิดาภาพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไป
เปศลยังยืนอยู่ตรงนั้น มองไปยังแผ่นหลังของจิดาภา เหมือนฉัตรชัยเป็นอย่างมาก
ฉัตรชัย…
แค่คิดถึงชื่อนี้ ใจของเขาก็ปวดหนึบขึ้นมา
“พี่ฌัลล์” ปวีร์ที่เดินตามหลังมาเรียกเขาอย่างเป็นห่วง
เปศลโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ได้เป็นอะไร จากนั้นก็เดินเข้าไป
ตอนที่กำลังตรวจร่างกาย ปวีร์มองหมอ “เป็นยังไงบ้างครับ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“ตอนนี้ดีกว่ามีก่อนมากครับ แต่แนะนำให้คุณฌัลล์ควบคุมอารมณ์ให้ดี โกรธให้น้อยลง ใช้ชีวิตตามที่หมอแนะนำ เมื่อการใช้ชีวิตดีขึ้น ร่างกายก็จะดีตามครับ”
“ถ้าผ่าตัดล่ะ?”
“เคสของคุณฌัลล์ค่อนข้างพิเศษครับ ผ่าตัดสามารถทำได้ครับ แต่ยังไม่มีหัวใจที่เข้ากับร่างกายของคุณได้ ยิ่งไปกว่านั้นกรุ๊ปเลือดของคุณยังหาได้ยากมาก ดังนั้นจำเป็นต้องหาหัวใจที่มีกรุ๊ปเลือดเดียวกับคุณ บนโลกนี้มีแค่ประมาณสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ” หมอพูด
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ปวีร์หน้าเสีย “นานขนาดนี้แล้ว ยังหาหัวใจที่เข้ากันไม่ได้อีกเหรอ?”
หมอส่ายหน้า “พวกเราพยายามหาถึงที่สุดแล้วครับ แต่โอกาสมันน้อยมากจริงๆ ครับ”
“ไม่ว่ายังไง ก็ต้องหาให้ได้!” ปวีร์มองหมอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโห
“ปวีร์!”เปศลเรียกเขา เขาจึงยอมเงียบลง
เปศลมองไปยังหมอ “ขอโทษด้วยครับหมอตรัย เขาเป็นห่วงผมมากไปหน่อยเลยเป็นแบบนี้” หมอขยับกรอบแว่นแล้วหัวเราะ “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ” “อันที่จริง ผมเข้าใจอาการของตัวเองในตอนนี้ดี ยังอยู่มาถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าฟ้าเมตตาแล้ว ต่อจากนี้ไป ขอแค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ” “คุณฌัลล์ จะต้องมีโอกาสอย่างแน่นอนครับ แต่ตอนนี้คุณต้องดูแลอารมณ์ของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ” “ผมเข้าใจแล้วครับ” หมอพยักหน้า ขณะเดียวกันเปศลก็หมุนตัวเดินออกไป ปวีร์มองเขาแล้วเดินตามหลังออกไป ปวีร์พูดไล่หลังมาว่า “พี่ฌัลล์ต่อให้ต้องแลกกับชีวิตของผม ผมก็จะหาหัวใจที่เข้ากับพี่มาให้ได้!” เปศลได้ฟังดังนั้นก็หยุดเดิน แล้วมองเขา “ปวีร์ ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงฉัน แต่บางเรื่องเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” “ต้องหาได้สิครับ ถ้าเอาหัวใจของผมไปได้ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย!” พี่ฌัลล์ยิ้ม “อยู่มาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ฉันไม่มีญาติพี่น้อง มีแค่นายคนเดียว นายต้องใช้ชีวิตให้ดี เมื่อถึงตอนนั้นทุกสิ่งทุกอย่างของฉันก็เป็นของนายทั้งหมด” “พี่ฌัลล์!” “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว กลับกันเถอะ” พูดพลางเขาก็เดินไปข้างหน้า ปวีร์เดินตามหลังเขาไป มองแผ่นหลังของพี่ฌัลล์แล้ว ก็ยิ่งทำให้เขาตัดสินใจได้เร็วขึ้น สองวันที่พันเดชออกไปทำงาน พวกเขาฉันชีวิตการทำงานอย่างปกติ แต่เมื่อขาดพันเดชไปมันเหมือนขาดสีสันบางอย่างไป กิจวัตรประจำวันของจิดาภามีอยู่สามอย่าง คือ กิน เข้างาน เลิกงาน ช่วงค่ำคุยโทรศัพท์ ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งคิดถึง ช่วงบ่าย จิดาภาใช้ช่วงเวลาพักโทรหาพันเดช เธอกดโทรหาเขาด้วยใจที่เบิกบาน แต่ว่าไม่มีคนรับสาย หรือว่าจะทำงานอยู่นะ ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอเป็นเบอร์ของพันเดช เธอยิ้มออกมาแล้วรีบกดรับสาย “ฮัลโหล!” “โทรหาผมเหรอ?” เสียงทุ้มน่าดึงดูดของพันเดชดังออกมาจากปลายสาย “อื้ม ยุ่งอยู่เหรอ?” จิดาภาถาม “อื้ม เมื่อกี้ติดประชุมน่ะ” จิดาภาพยักหน้า “พรุ่งนี้กลับมากี่โมงคะ ฉันจะไปรับคุณ” จิดาภาพูดพลางยิ้ม พันเดชเงียบไป ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาจึงเอ่ยปากพูด “ต้องล่าช้าไปอีกสองวัน หลังจากเสร็จเรื่องผมจะกลับไป” พันเดชพูด ได้ยินดังนั้นจิดาภาจึงขมวดคิ้ว “ไม่มีปัญหาอะไรแล้วไม่ใช่หรือคะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?” “คุณไม่ต้องกังวล แค่รอผมอยู่ที่บ้านก็พอ” พันเดชพูดมาขนาดนี้ จิดาภาพยักหน้าด้วยความจำใจ “โอเคค่ะ ฉันไม่กวนคุณแล้ว วางก่อนนะ” “อื้ม” พูดไม่กี่ประโยคก็วางสาย จิดาภาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ถึงแม้พันเดชไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้ว่าต้องเกิดปัญหาอะไรขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถึงปัญหาจะใหญ่กว่านี้ จิดาภาก็มั่นใจว่าเขาจะแก้ไขมันได้ เพราะเขาคือพันเดช! หลังจากที่ได้รู้จักกับเขา จิดาภาจึงรู้ว่าหลายเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขาสามารถทำให้เป็นไปได้ ดังนั้น จิดาภาเชื่อว่าเขาจะจัดการมันได้ เมื่อคิดแบบนี้ เธอก็พรูลมหายใจออกมาเพื่อผ่อนคลาย ด้านบริษัทธีร์อธิศ ภายในห้องทำงาน เปรมศักดิ์นั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาลุ่มลึกนั่นจ้องมองไปยังนอกหน้าต่าง ราวกับว่าการมองออกไปไกลๆ จะช่วยให้เขาสบายใจได้ ขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขามองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากดูเบอร์โทรศัพท์แล้วเขาก็กดรับสาย “ฮัลโหล” “งานที่นายสั่งให้ทำ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว”