หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 285 ผีเสื้อแสนสวย
บทที่ 285
ผีเสื้อแสนสวย
แมลงพวกนั้นเอาแต่บินไปรอบๆและปฏิเสธที่จะไปไหน
“เราจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ คุณหนู?”
ชิงอวี่กับจี๋เฟิงต่างก็ยืนคอยคุ้มครองทั้งสองด้านของหลินซีเหยียน และมองไปที่ฝูงแมลงที่ไม่รู้จักและหนาแน่นอย่างระแวดระวัง
หลินซีเหยียนก็ได้คุกเข่าลงไปที่พื้น แล้วจากนั้นก็หยิบเอาขวดหยกออกมาจากในกระเป๋าหลายใบ แล้วมีเสียงดังก๊อกแก๊กๆตามมาโดยไม่รู้ว่านางนั้นกำลังทำอะไรอยู่
แต่ไม่นานนัก นางก็ได้โปรยผงสีแดงที่มีกลิ่นเหม็นคาวออกมา แล้วพวกแมลงก็ได้ร่วงลงไปที่พื้น
เพราะมีอยู่เป็นจำนวนมาก เลยมีส่วนใหญ่ที่รอดจากการโปรยผงไปได้ แต่ทว่าพวกมันก็ดูเหมือนมนุษย์นัก เมื่อพวกมันรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของผงแดงแล้ว พวกมันก็ได้พากันแยกย้ายไปทุกทิศทาง
“ในป่านี้ มีแมลงพิษอยู่ทุกหนทุกแห่ง ถ้าพวกเจ้าไม่ระวังให้ดีพวกมันจะเกาะติดพวกเจ้าได้” กล่าวข้อเท็จจริงนี้ด้วยสีหน้าจริงจัง หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่ทั้งสองคนแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ละทิ้งตัวตนของพวกเจ้าเสีย แล้วข้าจะให้พวกเจ้าเลือก”
“พวกข้าจี๋เฟิงกับชิงอวี่ สาบานว่าจะปกป้องนายหญิงขอรับ”
แล้วทั้งสองคนก็ได้ให้คำตอบโดยไม่ลังเล
หลินซีเหยียนก็ได้คิ้วขมวด เมื่อเห็นทั้งคู่ที่ไม่รู้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ นางจึงได้กล่าวซ้ำอีกครั้ง “ถึงแม้ว่าข้าจะศึกษาเรื่องของแมลงวิปลาสมาบ้าง แต่ข้าก็เป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้น ถ้าพวกเจ้าตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าข้าก็ไม่อาจช่วยพวกเจ้าได้”
“ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะคุณหนู พวกเรายินดีที่จะตายดีกว่าจะเป็นตัวถ่วงคุณหนูเจ้าค่ะ”
มองไปที่ทั้งสองคนแล้ว ดวงตาหลินซีเหยียนก็เต็มไปด้วยความชื่นชม มีเพียงคนเช่นนี้ถึงเหมาะสมที่จะเป็นที่ไว้วางใจของนางในอนาคต
จึงได้หยิบเอาขวดหยกออกมาแล้วโยนมันให้กับชิงอวี่และจี๋เฟิง “สิ่งที่อยู่ในขวดนี้จะช่วยขับไล่แมลงพิษบางอย่างได้ โรยลงบนตัวพวกเจ้าเสีย”
จี๋เฟิงก็ได้ทำตามที่นางบอกโดยทันที ในขณะที่ชิงอวี่นั้นลังเลอยู่ ถึงแม้ว่านางจะเลือกเดินเส้นทางของหน่วยลับ แต่นางก็ยังเป็นหญิงสาวอยู่ดี มันจึงถือเป็นเรื่องโหดร้ายมากสำหรับนางที่จะต้องโรยสิ่งที่เหม็นเช่นนี้ลงบนตัวของนาง
แต่นางก็ไม่อาจที่จะถ่วงแข้งถ่วงขาคุณหนูได้ นางจึงได้เอาขวดยาส่งให้จี๋เฟิงแล้วกล่าวอย่างเร่งรีบ “โรยให้ข้าที”
จี๋เฟิงก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินที่นางกล่าวแล้วจัดการโปรยผงยาเป็นจำนวนลงบนตัวของชิงอวี่พรวดเดียว ทำให้สีชุดของนางต้องกลายเป็นสีแดง
เมื่อเห็นเช่นนี้ชิงอวี่ก็ได้โมโหยิ่งขึ้นและตบจี๋เฟิง “เจ้าโปรยมากเกินไปแล้ว!!”
จี๋เฟิงที่คิดจะอธิบาย แต่ทว่าชิงอวี่ก็ได้หันหลังให้แล้วหันไปมองหลินซีเหยียน หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มแล้วกล่าวออกมา “ยิ่งเจ้าโรยเยอะมากเท่าไร ก็จะกันแมลงได้ดีมากขึ้นเท่านั้น”
หรือเป็นไปได้ว่าจี๋เฟิงต้องการที่จะทำให้ตัวนางปลอดภัยกันนะ?
แล้วสีหน้าของชิงอวี่ก็ได้แดงขึ้นมา แต่นางก็ไม่อาจที่จะหันไปบอกขอโทษจี๋เฟิงได้
หน่วยลับนั้นมีแต่วันที่จะต้องเลียเลือดที่ปลายมีดและไม่มีเวลาที่จะไปคิดถึงเรื่องของความรู้สึกของตัวเอง ถ้าหากจี๋เฟิงกับชิงอวี่สามารถอยู่ด้วยกันได้ มันก็คงจะเป็นเรื่องน่ายินดี
“พวกเจ้าเป็นใครน่ะ?”
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังมองดูรอบๆในป่าอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงที่หวานและบางเบามากดังขึ้นมาจากข้างบน
“สาวน้อย พวกเรามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกนักบุญหญิง” หลินซีเหยียนก็ได้ตอบ “แต่ข้าไม่อยากที่จะหลงทางในป่านี้ ไม่ทราบว่าเจ้าพอจะช่วยพาข้าไปไหนไหม?”
“สบายมาก” ทันทีที่ที่พูดจบ สาวน้อยน่ารักในชุดสีเขียวก็ได้กระโดดลงมาจากต้นไม้และติดเอาใบไม้ประดับติดที่หัวของนาง ซึ่งดูแลแล้วเป็นธรรมชาติและสวยงามมาก
“ชื่อของข้าคือลู่หลี พวกเจ้าทั้งสามคนตามข้ามา”
หลังจากที่ลงมาถึงพื้นลู่หลีก็ได้ยิ้มให้ทั้งสามคนอย่างเป็นมิตรมาก ซึ่งทำให้หลินซีเหยียนสงสัยว่านางนั้นเป็นชาวเมืองในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริงๆเหรอ?
“ดูเหมือนจะไม่มีแมลงหายากอะไรที่นี่ ทำไมลู่หลีถึงได้มาอยู่ที่นี่เหรอ?”
ลู่หลีก็ได้ชี้ไปที่ผีเสื้อแกะรอยแล้วกล่าว “ข้าได้ยินเสียงวุ่นวายดังขึ้นที่นี่ ข้าจึงได้มาดูแต่ไม่คิดว่าข้าจะพบกับผีเสื้อหายากตัวนี้เข้า”
จากนั้นนางก็ได้ยื่นมือจะไปจับผีเสื้อแกะรอย
“ไม่ได้นะ” หลินซีเหยียนก็ได้รีบจับมือของลู่หลีแล้วกล่าวอย่างเตือนๆ “ผีเสื้อชนิดนี้แตะต้องไม่ได้ มันมีพิษร้ายแรงมาก”
หลังจากที่พูดจบ นางก็ได้หยิบเขาขวดที่ใส่ผีเสื้อแกะรอยออกมา แล้วจับเจ้าผีเสื้อตัวน้อยใส่เข้าไปข้างในแล้วก็เอาเก็บกลับเข้ากระเป๋าของนาง
ลู่หลีก็ได้พ่นลมออกทางจมูกอย่างโมโห “ไม่อยากให้ข้าจับก็บอกมาตรงๆก็ได้ ไม่เห็นต้องสร้างเรื่องมาหลอกข้าเลย”
“ข้าไม่ได้หลอกเจ้าเรื่องพิษจริงๆ ผีเสื้อตัวนั้นเติบโตด้วยการกินพิษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
ลู่หลีนั้นเป็นเด็กที่ร่าเริงและไร้เดียงสา นางจึงไม่เชื่อที่หลินซีเหยียนพูด แล้วก็ไม่พูดอะไรตลอดทางและเดินเร็วมาก
แต่ในขณะที่นางไม่ทันระวังตัวอยู่นั้นเอง นางก็ได้ตกลงไปในหลุมพรางแล้วร่วงลงไปกลางอากาศ
“ใครมาวางกับดักไว้แถวนี้เนี่ย!”
นางก็ได้ลุกขึ้นมาแล้วปัดดินตรงหน้าของนางออก แล้วลู่หลีก็ได้ตะโกนออกมาเสียงดังจนนกมากมายในป่าต้องแตกตื่น
หลินซีเหยียนก็ได้ตบอกของนาง ที่ยังโชคดีสามารถหยุดได้ทันเวลาไม่อย่างนั้นนางก็คงลงไปคลุกดินเป็นเพื่อนด้วยแล้ว
“นี่ พวกเจ้าจะมามัวยืนบื้อกันอยู่ทำไม? รีบๆช่วยข้าออกไปสิ!” นางปัดเศษดินที่ตัวของนางอย่างรุนแรง แล้วลู่หลีก็ได้รู้สึกไม่พอใจหลินซีเหยียนกับพรรคพวกหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ
มองไปรอบๆ หลินซีเหยียนก็พบเถาวัลย์แล้วจากนั้นนางก็ได้ดึงกระบี่สวรรค์ออกมาจากเอว ด้วยความคมของกระบี่สวรรค์เถาวัลย์ที่หนาเท่าข้อมือก็ได้ขาดอย่างง่ายดาย
แล้วยื่นส่งปลายเถาวัลย์ข้างหนึ่งให้กับลู่หลีแล้วมัดปลายอีกข้างไว้ที่ต้นไม้
ลู่หลีที่กำลังกระวนกระวายก็ได้ปีนออกมาจากหลุมได้สำเร็จแล้วกล่าวอย่างโมโห “ข้าอยากจะรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าไปทางลัดก็แล้วกัน”
สิ่งที่เรียกว่าทางลัดนั้นคือสิ่งที่คนจำนวนมากจะไม่รู้จักและมักที่จะอันตรายมาก
ถ้าเป็นไปได้หลินซีเหยียนก็ไม่อยากที่จะไปทางนั้น แต่ลู่หลีที่อยู่ตรงหน้านางนี้ใกล้จะขาดสติสุดๆแล้ว ถ้าหากนางพลาดคนนำทางคนนี้ไป พวกนางก็อาจจะต้องเดินหลงอยู่ในป่านี้เป็นเวลานานกว่าจะหาทางออกไปได้
แล้วทั้งสามคนก็ได้เลือกที่จะเดินตามลู่หลีไปโดยเลือกเส้นทางฝ่าป่าที่รกชัฏเข้าไป
ยิ่งลึกมากขึ้นเท่าไร หลินซีเหยียนก็ได้รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น แล้วนางก็ได้พูดขึ้นมา “หยุดก่อน”
“อะไรอีก? รีบไปได้แล้ว ข้าตัวเปื้อนดินเลอะจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”
ลู่หลีก็ได้บ่นออกมาและเตรียมที่จะเดินต่อ แต่พอเดินไปได้แค่สองก้าว นางก็รู้สึกได้ถึงดินขยับได้ใต้เท้าของนาง จึงได้ก้มลงไปมอง
สวรรค์! นางเหยียบงูหลามกระโดดเข้าไป
ด้วยความตกใจ นางก็ได้กระโดดสุดแรงของนางเพื่อไปให้ห่างจากงูตัวนั้น แต่ถึงจะถอยห่างไปพอ เจ้างูตัวนั้นก็ได้เปิดปากใหญ่ๆของมันออกแล้วปล่อยกลิ่นบางอย่างออกมาทั่วป่านั้น
หลังจากนั้นก็รู้สึกได้ถึงแขนขาที่อ่อนแรงจึงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หลินซีเหยียนก็ได้ตะโกน “ปิดปากปิดจมูกเร็วเข้า อากาศมีพิษ”
โดยไม่จำเป็นต้องถาม จี๋เฟิงกับชิงอวี่ก็ได้ทำตามที่นางบอก
แต่ลู่หลีนั้นไม่เข้าใจว่าหลินซีเหยียนพูดถึงอะไร นางจึงได้ถามอย่างสงสัย “ทำไมเจ้าถึงได้บอกให้ปิดปากปิดจมูกด้วย? มันมีพิษอยู่ที่ไหนเหรอ?”
ทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไร ส่วนเจ้างูหลามกระโดดนั้นก็ได้รอดูด้วยดวงตาสีเขียวของมันและแลบลิ้นแฉกสีแดงออกมา แล้วมันก็ได้ค่อยๆเข้าหาพวกนางเรื่อยๆ แล้วทั้งสี่ก็ได้ถอยอย่างช้าๆเช่นกัน
แล้วในตอนนั้นเองลู่หลีก็ได้ยืนจ้องอยู่กับที่ด้วยความกลัว “ข้าขยับไม่ได้ ช่วยข้าด้วย”
หลินซีเหยียนก็ได้ส่งสายตาไปให้ชิงอวี่ ชิงอวี่จึงกลับไปอุ้มลู่หลีแล้ววิ่งหนีไป แล้วงูก็ได้ไล่ตามพวกเขาไป
ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องกลั้นหายใจเช่นนี้ พวกเขาคงหนีได้ไม่นานแน่
นี่พวกเขาจะต้องมาตายที่นี่วันนี้งั้นเหรอ?