สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 97 เฉิงซูไม่ยอมจ่ายเงินมัดจำ
บทที่ 97 เฉิงซูไม่ยอมจ่ายเงินมัดจำ
บทที่ 97 เฉิงซูไม่ยอมจ่ายเงินมัดจำ
กลุ่มชาวบ้านตกตะลึงเมื่อรู้ตัวว่าตนเองเกือบจะถูกสามีภรรยาคู่นี้หลอกลวงเอาเสียแล้ว!
ในขณะนี้ ชาวบ้านตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
“ให้ตายสิ อย่าว่าแต่สาวน้อยคนนี้จะไม่รับซื้อเมล็ดแตงโมของพวกแกเลย! พวกแกสมควรถูกตำรวจจับด้วยซ้ำ!”
“พวกแกมันไม่ได้ดีไปกว่าสัตว์เดรัจฉานเลยสักนิด!”
ถ้อยคำแห่งความโกรธแค้นกระแทกเข้าไปในหัวใจของลุงลู่และภรรยา เมื่อเห็นว่ามีคนกำลังจะไปแจ้งตำรวจ พวกเขาก็ไม่สนใจขายเมล็ดแตงโมอีก ทั้งสองคนรีบลุกขึ้น แล้ววิ่งหนีไปทันที
ลู่ฉิวเยว่จึงสามารถถอนหายใจออกมาได้ด้วยความโล่งอก เธอเหนื่อยล้ากับคนพวกนี้จริง ๆ พวกเขาต้องสร้างปัญหาให้เธออยู่เรื่อยเลย
ตอนบ่าย ลู่ฉิวเยว่ไปที่โรงงานของฉินซือ
“ทำไมทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะ?” ฉินซือเพิ่งลงมาจากรถยนต์พอดีก็เห็นหญิงคนรักของเขามายืนรออยู่หน้าประตูโรงงานด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขาพยายามทบทวนว่าตนเองไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจเอาไว้หรือเปล่า น้ำเสียงของเขาจึงมีความระมัดระวังเล็กน้อย
ตอนนั้นเองที่ลู่ฉิวเยว่กลับมาได้สติ เธอรีบส่ายหน้า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่มีปัญหานิดหน่อย แต่ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว”
กระสอบใส่เมล็ดแตงโมที่ลุงลู่กับภรรยานำมาขายยังคงถูกวางทิ้งไว้ที่หน้าประตูร้าน วันพรุ่งนี้ พนักงานส่งของจะไปรับเมล็ดแตงโมที่หมู่บ้านในเขตชนบท เธอวางแผนที่จะให้พวกเขานำกระสอบใส่เมล็ดแตงโมเหล่านั้นไปวางทิ้งไว้ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านลู่เจี๋ยเพื่อป้องกันไม่ให้สองสามีภรรยาหาเรื่องกลับมารังควานเธออีก
ฉินซือถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาไม่ถามอะไรอีกต่อไป อาจเป็นเพราะว่านี่เกี่ยวข้องกับเรื่องญาติของเธอเอง ถ้าเธอไม่พูด เขาก็จะไม่ถาม
“เข้าไปเถอะ ผมจะให้คุณได้ดูอะไรบางอย่าง” ชายหนุ่มยิ้ม เขาอาศัยโอกาสนี้จับมือลู่ฉิวเยว่
ลู่ฉิวเยว่ไม่สนใจ ในเมื่อพวกเขาเป็นแฟนกันแล้ว การจับมือจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่
มือที่อบอุ่นของฉินซือกุมมือน้อย ๆ ของเธอ ทำให้หัวใจของลู่ฉิวเยว่เต้นเร็วมากขึ้น
ระหว่างทาง ฉินซือบอกให้ลู่ฉิวเยว่ได้รับทราบว่าโรงงานของเขามีพื้นที่หลายส่วนที่สามารถแบ่งมาทอดเมล็ดแตงโมให้เธอได้
ลู่ฉิวเยว่ถึงกับตกตะลึงไปไม่น้อย เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอขอให้เขาช่วยดูโรงงานทอดเมล็ดแตงโม แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว
สถานที่ที่เขาพาเธอไปดูเป็นโกดังขนาดความกว้างประมาณ 60 – 70 ตารางเมตร ผนังทาด้วยสีขาว พื้นเป็นคอนกรีตทำความสะอาดหมดจด
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้าด้วยความพอใจ อีกสองวัน เครื่องจักรและเมล็ดแตงโมจะถูกส่งมาที่นี่ แล้วโกดังหลังนี้ก็จะมีคนงานเข้ามาประจำการ
“ใช้ได้ไหม?” ฉินซือยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ลู่ฉิวเยว่ดูจะชอบโรงงานนี้มากทีเดียว
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง “คุณยังมีลูกค้าไม่เยอะใช่ไหม ช่วงหลังน่าจะวิ่งวุ่นหาลูกค้าพอสมควรเลยสินะ ว่าแต่คุณจัดการเรื่องเครื่องจักรเรียบร้อยแล้วหรือยัง? คุณอยากให้ผมช่วยจัดการอะไรให้อีกไหม? วันพรุ่งนี้คุณจะได้เริ่มงานได้เลย”
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้า “ไม่ต้องค่ะ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว อีกสองวันทุกอย่างก็จะมาส่งที่นี่”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ลู่ฉิวเยว่ก็นึกขึ้นมาได้ถึงคำสั่งซื้อก่อนหน้า ทุกคนจ่ายเงินค่ามัดจำกันหมดแล้ว เหลือแต่เพียงหญิงวัยกลางคนที่ชื่อว่าเฉิงซูเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นฝ่ายบุกมาหาแม่ของลู่ฉิวเยว่ถึงที่บ้าน แต่เฉิงซูกลับเป็นคนเดียวที่ยังไม่จ่ายเงินค่ามัดจำ
หรือว่าผู้หญิงคนนั้นคิดจะมาจับเสือมือเปล่า?
ระหว่างทางกลับบ้านตระกูลลู่ ลู่ฉิวเยว่ก็ชี้มือไปยังร้านขายปลีกที่อยู่ข้างทาง “แวะที่นี่ก่อนค่ะ”
ฉินซือจอดรถเทียบเข้าข้างทาง เมื่อทั้งสองคนเดินเข้าไปภายในร้าน ก็มีเพียงเด็กสาวผมหางม้าคนหนึ่งเท่านั้นที่เดินออกมายิ้มต้อนรับด้วยความอบอุ่น
“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย ต้องการมาซื้ออะไรคะ?”
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้าและพูดนุ่ม ๆ ว่า “ฉันไม่ได้มาซื้อของค่ะ ฉันมาหาเฉิงซู เจ้านายของคุณ ”
เด็กสาวผมหางม้าจ้องมองพวกเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะหันไปตะโกนทางหลังร้านว่า “เจ้านายคะ มีคนมาหาค่ะ!”
“ใครมา?” เฉิงซูเปิดม่านออกมาจากหลังคอกเสมียน เมื่อเดินออกมาพบเจอใบหน้าที่คุ้นเคยของลู่ฉิวเยว่ แววตาของเธอก็เกิดความรำคาญใจขึ้นมาเล็กน้อย
ถึงแม้จะซ่อนเร้นไว้อย่างดี แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลู่ฉิวเยว่
หญิงสาวแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะพูดพร้อมกับยิ้มต่อไปว่า “คุณนายเฉิง ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ครั้งที่แล้วคุณบอกว่าอยากจะสั่งเมล็ดแตงโมทอดจากฉัน แต่ตอนนี้ไม่เห็นให้คนเอาสัญญาพร้อมกับเงินค่ามัดจำไปให้สักที ฉันคิดว่าคุณคงยุ่งมากจนอาจจะลืมเรื่องที่คุยไว้กับฉันก็ได้ พอดีวันนี้ฉันผ่านทางมา ก็เลยแวะมาหาพร้อมกับสัญญาค่ะ เรามาเซ็นสัญญาและจ่ายเงินค่ามัดจำกันเถอะ จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณนายไปที่บ้านฉันอีก”
เมื่อเฉิงซูได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็แสดงความอับอายขึ้นมาทันที “แหม เงินเล็กน้อยแค่นี้ ต้องรบกวนคุณลู่เดินทางมาตั้งไกล แต่วันนี้ฉันมีเงินติดตัวไม่มาก เดี๋ยววันหลังฉันจะให้คนเอาเงินไปให้นะคะ”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้าตอบตกลง “งั้นฉันจะรอนะคะ”
แต่ผ่านไปหลายวันหลังจากนั้น เมื่อถึงกำหนดวันส่งของ เฉิงซูก็ยังไม่จ่ายเงินค่ามัดจำอยู่ดี
“เจ๊ลู่ เราต้องทอดเมล็ดแตงโมในส่วนของคุณนายเฉิงซูไหมครับ?”
ในโรงงาน เสี่ยวหลินมือทอดเมล็ดแตงโมเดินเข้ามาถาม เมื่อไม่กี่วันก่อน ลู่ฉิวเยว่แจ้งว่ามีคำสั่งชุดใหญ่จากคนที่ชื่อว่าเฉิงซู แต่จนถึงตอนนี้ ลู่ฉิวเยว่ก็ยังไม่ได้สั่งให้นำเมล็ดแตงโมไปทอดเลยสักที
“ไม่ต้อง ทอดให้ลูกค้าคนอื่นไปก่อน” ลู่ฉิวเยว่ส่ายหัว สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย
เฉิงซูสั่งเมล็ดแตงโมทอดเป็นจำนวนมาก เธอยังไม่กล้าทอดสุ่มสี่สุ่มห้า ถ้าเกิดเฉิงซูไม่คิดจะซื้อเมล็ดแตงโมทอดของเธอจริง ๆ เมล็ดแตงโมพวกนั้นจะไม่เสียของเอาเหรอ?
แต่ลู่ฉิวเยว่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอยังไม่ได้ไปสอบถามเรื่องเงินฝากมัดจำกับเฉิงซู อีกฝ่ายก็มาหาเธอเองถึงที่ด้วยความเกรี้ยวกราด
“ทำไมเธอถึงยังไม่เอาเมล็ดแตงโมมาส่งอีก? ฉันรออยู่ที่ร้านหลายวันแล้วนะ เธอรู้หรือเปล่า!” เฉิงซูพูดด้วยความโมโห เพราะว่าลู่ฉิวเยว่ไม่ได้ส่งเมล็ดแตงโมทอดไปตามเวลาที่กำหนด เฉิงซูจึงถูกผู้ค้ารายอื่น ๆ แย่งชิงลูกค้าไปหมดแล้ว
ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะ “คุณนายเฉิงซูเข้าใจผิดแล้วมั้งคะ อย่างแรก พวกเราไม่ได้เซ็นสัญญากันสักหน่อย และอย่างที่สอง ฉันยังไม่ได้รับเงินมัดจำจากคุณเลย ในเมื่อพวกเราไม่มีการตกลงกันอย่างเป็นทางการ ฉันก็ส่งของให้คุณไม่ได้หรอกค่ะ!”
เฉิงซูใบหน้าแดงก่ำด้วยความเดือดดาล แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ
เพราะว่าเธอไม่ได้คิดจะจ่ายเงินค่ามัดจำให้ลู่ฉิวเยว่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เฉิงซูตั้งใจจะนำเมล็ดแตงโมทอดมาขายก่อนฟรี ๆ เมื่อขายได้แล้วก็ค่อยนำเงินที่ได้ไปแบ่งกับลู่ฉิวเยว่พร้อมส่งคืนเมล็ดแตงโมที่ขายไม่หมดกลับไป นี่คือการทำธุรกิจที่เฉิงซูไม่ต้องเสียอะไรเลยทั้งสิ้น
เฉิงซูเข้าใจว่าลู่ฉิวเยว่เป็นเพียงหญิงสาวไม่ทันโลก แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะกลายเป็นเธอเองที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เธอสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าธุรกิจของตนเองมาถึงจุดพลิกผันเข้าให้แล้ว
“ฉันจะจ่ายให้เดี๋ยวนี้แหละ เรามาเซ็นสัญญากันเถอะ วันพรุ่งนี้เธอต้องส่งของให้ฉันนะ ตกลงไหม?” เฉิงซูพึมพำอะไรบางอย่างเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาในที่สุด
ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะตอบกลับไปว่า “ตอนนี้เนี่ยนะคะ? คุณนายเฉิง คุณกำลังเล่นตลกอะไรอยู่? คุณสั่งเมล็ดแตงโมทอดจำนวนมากขนาดนั้น ต่อให้คนงานของเราทอดสองวันสองคืนไม่ต้องหลับต้องนอนก็ยังทำไม่ทันอยู่ดี แต่ที่สำคัญก็คือ ฉันจะไม่ทำธุรกิจกับคุณแล้ว”
“นี่เธอ!”
เฉิงซูโมโหจนควันออกหู แต่เพราะเธอมีเรื่องต้องรบกวนลู่ฉิวเยว่ เธอจึงไม่กล้าสบถออกไป
เฉิงซูจำเป็นต้องขอร้องให้ลู่ฉิวเยว่ลงนามในสัญญาทำธุรกิจกับตนเอง ขอร้องให้เธอยอมรับเงินค่ามัดจำและทอดเมล็ดแตงโมเหล่านั้นมาให้
“ถ้าจะเอาอย่างนั้น” ลู่ฉิวเยว่จ้องมองหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนเองด้วยแววตาจริงจัง “นับจากนี้ไป พวกเราต้องเซ็นสัญญากันล่วงหน้า แล้วก็ต้องจ่ายเงินค่ามัดจำล่วงหน้าด้วยนะคะ ไม่งั้นเราจะไม่ร่วมมือกันเด็ดขาด”
ถึงแม้เฉิงซูจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์มาก ลู่ฉิวเยว่ไม่เชื่อใจเธออีกแล้ว ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้สั่งเมล็ดแตงโมทอดเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ลู่ฉิวเยว่ก็คงไม่มีทางร่วมมือด้วยเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ ลู่ฉิวเยว่เคยคิดอยากจะร่วมมือกับเฉิงซูในระยะยาว แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเธอคงต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว