สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 68 ตามหาโรงงานทำขี้ผึ้ง
บทที่ 68 ตามหาโรงงานทำขี้ผึ้ง
บทที่ 68 ตามหาโรงงานทำขี้ผึ้ง
เขาอยากแต่งงาน
ฉินซืออยากจะอุ้มลู่ฉิวเยว่ไปจดทะเบียนสมรสเดี๋ยวนี้ แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม ลู่ฉิวเยว่ไม่มีทางตอบตกลงเขาอย่างแน่นอน
“ทำไมไม่หั่นผักคะ คุณหั่นไม่เป็นเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่ยืนเหม่อลอย ลู่ฉิวเยว่ก็อดยิ้มหยอกเย้าไม่ได้
“ใครบอกว่าผมหั่นผักไม่เป็น!”
ฉินซือหัวเราะออกมาด้วยความถือดี ก่อนจะเริ่มต้นหั่นผักอย่างชำนาญ เขาหั่นถั่วฝักยาวหนึ่งกำมือออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดพอดีกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ลู่ฉิวเยว่เบิกตาโต เธอพูดยิ้ม ๆ ว่า “ในหัวคุณมีไม้บรรทัดหรือไง?”
พิจารณาดูจากความชำนาญของเขาแล้ว ฉินซือคงต้องใช้ความพยายามฝึกฝนไม่น้อยตอนอยู่ที่บ้าน และเธอก็มีความสุขมากที่เขาสามารถทำได้
ลู่ฉิวเยว่ไม่ชอบคนที่จะรับความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายอยู่เพียงอย่างเดียวในเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม ฉินซือไม่เคยสร้างปัญหาเช่นนั้นเลย เขาใจดีกับเธอเสมอ แล้วก็ยังเอาใจใส่เธอมากด้วย
และเนื่องจากเขามีส่วนร่วมในการทำอาหารวันนี้ ฉินซือจึงรู้สึกว่าอาหารในวันนี้อร่อยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผัดถั่วฝักยาวใส่เนื้อหมู
“เมื่อวันก่อนลูกบอกว่าอยากจะหาคนมาช่วยทำขี้ผึ้งใช่ไหม ลูกหาได้แล้วหรือยัง?” หญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่คิดว่าลูกสาวของตนเองทำงานหนักทุกคืนเพื่อทำยาจีนชนิดใหม่ แล้วเธอก็เป็นห่วงว่าร่างกายของลูกสาวจะรับไม่ไหว
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้าตอบกลับมา เรื่องนี้เธอเองก็กำลังกลุ้มใจอยู่เหมือนกัน “ยังหาไม่ได้เลยค่ะ หนูเจอแต่คนที่อยากจะได้สูตรยาตัวเต็มไปเท่านั้น คนพวกนี้ไม่ได้มีเจตนาดีแน่ ๆ”
ถึงเธอจะหาคนที่มีเจตนาดีได้พบเจอ แต่พวกเขาก็ไม่มีฝีมือดีพอ
“คุณกำลังตามหาโรงงานทำขี้ผึ้งใช่ไหม?” ฉินซือเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหารเมื่อได้ยินบทสนทนานี้ “พ่อผมมีคนรู้จักทำงานด้านนี้อยู่ เดี๋ยวผมจะลองกลับไปถามให้คุณดูก็แล้วกันนะ”
ดวงตาลู่ฉิวเยว่เป็นประกายขึ้นมาทันทีด้วยความประหลาดใจ “ฉินซือ คุณใจดีจังเลย ขอบคุณมากนะคะ”
ถ้าคนรู้จักของเขาช่วยทำยาขี้ผึ้งให้เธอ เธอก็คงจะเบาใจได้มากขึ้นในอนาคตและไม่ต้องนอนดึกทุกวันแบบนี้อีกแล้ว
ตอนแรกฉินซือไม่ได้รีบร้อน แต่เมื่อเขาได้รู้ว่านี่คือเหตุผลที่ทำให้ลู่ฉิวเยว่ต้องนอนดึกทุกวัน เขาก็อยากจะแก้ปัญหานี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงขับรถไปที่บ้านในบ่ายวันนั้นเลย
เมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังจะออกเดินทางอีกครั้ง เลขาหวังก็รู้สึกประหลาดใจ ในอดีตคุณชายของเขากลับบ้านน้อยมาก แต่ตอนนี้คุณชายของเขากลับบ้านเป็นประจำ
แม่ของเขาก็แปลกใจเช่นกันเมื่อเห็นลูกชายกลับบ้าน เธอรีบเข้าไปถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉินซือส่ายหน้าตอบกลับมาว่า “ผมมีเรื่องอยากมาคุยกับพ่อครับ” หลังจากพูดแล้ว เขาก็กวาดตามองทั่วห้องนั่งเล่น แต่ก็มองไม่เห็นพ่อของตนเอง
“ขึ้นไปอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างบนมั้งนะ” คนเป็นแม่ยิ้มและรับของที่เขานำกลับมาฝาก เมื่อพบว่าเป็นของขวัญจากฉินซือ เธอก็รู้สึกผิดหวัง ความจริงเธอหวังว่ามันจะเป็นอาหารจากร้านของลู่ฉิวเยว่
หลังจากที่เธอได้กินอาหารที่ลู่ฉิวเยว่ทำถึง 2 ครั้ง แม่ของฉินซือก็ได้แต่คิดถึงรสชาติเหล่านั้นทั้งวันทั้งคืน เธอวางแผนที่จะไปกินอาหารที่ร้านของหญิงสาวอีกครั้ง แต่ถ้าตนเองไปหาบ่อย ๆ ลู่ฉิวเยว่ก็อาจจะตกใจกลัวเอาได้ เธอไม่อยากทำให้ความรักของฉินซือต้องมีปัญหาเพราะตัวเธอเอง
ยิ่งไปกว่านั้น การขับรถหลายชั่วโมงเพื่อไปกินอาหารแค่มื้อเดียวก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมากเกินไป แม่ของฉินซือจึงไม่เคยเดินทางไปที่นั่นอีกเลย เพียงแต่รอให้ฉินซือนำอาหารกลับมาฝากทุกครั้งที่เขากลับบ้านเท่านั้น
บางทีครั้งนี้เขาอาจจะรีบร้อนกลับมามากเกินไป ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่ได้นำอาหารกลับมาด้วย
ฉินซือพยักหน้า เดินตรงขึ้นไปบนบันไดอย่างรวดเร็ว ประตูห้องอ่านหนังสือเปิดออกกว้าง พ่อของเขาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างในจริง ๆ
“พ่อครับ”
“อ้าว ว่าไง แขกผู้มีเกียรติ!” พ่อของเขาหัวเราะด้วยความชอบใจ “ต้องการอะไรจากพ่อล่ะ?”
เขารู้ดีว่าลูกชายงานยุ่งมาก แต่เขาไม่เชื่อว่าลูกชายจะกลับมาเพื่อพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับตนเองเฉย ๆ ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างแน่นอน
ฉินซือพยักหน้าและอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้พ่อฟัง
พ่อของเขารู้สึกประหลาดใจ ชายหนุ่มเคยนำขี้ผึ้งยาจีนกลับมาฝากหลายครั้ง แต่เขาก็นึกว่ามันเป็นยาจีนชนิดขี้ผึ้งที่ใช้ทาธรรมดา นึกไม่ถึงเลยว่าขี้ผึ้งชนิดนี้จะขายดีมาก แถมยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการใช้งานมากอีกด้วย
พ่อของฉินซือพยักหน้าอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่ได้รับปากเสียทีเดียว “เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อจะลองใช้งานเองก่อนนะ ถ้ามันใช้งานดีจริง เดี๋ยวพ่อจะติดต่อให้”
เพื่อนเก่าของเขาคนนี้เคยร่วมรบกันมานาน พ่อของฉินซือจะแนะนำให้ลูกชายได้รู้จักก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่ายาขี้ผึ้งนั้นมีประโยชน์จริง ๆ ถ้ามันเป็นยาขี้ผึ้งที่ไม่มีประโยชน์ นี่จะไม่ถือว่าเป็นการรบกวนเพื่อนของเขาเหรอ?
ฉินซือพยักหน้าเงียบ ๆเขา รู้ดีว่าพ่อตนเองคิดอะไรอยู่ ในแวดวงทหาร ความเชื่อใจกันระหว่างเพื่อนทหารสำคัญยิ่งกว่าชีวิต แต่เขาก็มั่นใจในผลิตภัณฑ์ของลู่ฉิวเยว่และเชื่อว่าอีกไม่นานพ่อก็จะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน
ในคืนนั้น พ่อของชายหนุ่มนำขี้ผึ้งออกมาทาหัวเข่าของตนเอง ในช่วงอากาศหนาวอย่างนี้ เขาจะรู้สึกปวดขาอยู่ตลอด ซึ่งเป็นปัญหาของคนแก่
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยรับประทานยามาก่อน ขี้ผึ้งพวกนี้เขาก็เคยทามาหลายชนิดแล้ว แต่ก็ไม่มีเจ้าไหนใช้ได้ผลเลย สุดท้ายพ่อของฉินซือก็ไม่คิดลองใช้งานพวกมันอีก
แต่สิ่งที่ชายวัยกลางคนคิดไม่ถึงก็คือ เขาเพิ่งจะทาขี้ผึ้งไปไม่ถึง 2 นาทีเท่านั้น หัวเข่าของเขาก็รู้สึกร้อน อาการปวดขาที่เป็นอยู่หลายวันทุเลาอย่างน่ามหัศจรรย์
พ่อของฉินซือตกตะลึง ลู่ฉิวเยว่คนนี้มีความสามารถจริง ๆ
เขาไม่ทราบว่าขี้ผึ้งของเธอจะสามารถรักษาอาการปวดขาได้ในระยะยาวหรือไม่ แต่ในอีกหลายวันต่อมา ขาของเขาก็ไม่ปวดอีกเลย หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบ พ่อของฉินซือก็ไม่เคยรู้สึกว่าขากลับมาเป็นปกติดีเท่านี้มานานแล้ว และเขาก็ยังรู้สึกหนุ่มแน่นมากขึ้นอีกหลายปีด้วย
เมื่อมั่นใจแล้วว่าขี้ผึ้งของลู่ฉิวเยว่มีคุณภาพดีจริง ๆ เขาก็รีบแนะนำให้เพื่อนของตนเองได้รู้จักขี้ผึ้งชนิดนี้ทันที
“ไม่เลวเลยใช่ไหมครับ”
เมื่อชายหนุ่มกลับมาบ้านในอีกหลายวันต่อมา พ่อของเขาก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา มุมปากของพ่อยิ้ม ดูเหมือนจะอารมณ์ดี
ฉินซือรู้เลยว่างานที่เขาได้มอบหมายให้พ่อทำนั้นสำเร็จแล้ว
และพ่อของเขาก็ยืนยันในวินาทีต่อมาว่า “ขี้ผึ้งพวกนั้นเป็นของดี พ่อติดต่อเพื่อนพ่อไปเมื่อวานนี้ แต่ว่า…เพื่อนพ่อเกษียณไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้คนคุมโรงงานก็เลยเป็นลูกชายของเขาแทน เขาบอกว่าอยากจะเจอแกในอีกไม่กี่วัน แล้วค่อยคุยรายละเอียดกัน”
ฉินซือพยักหน้า “ได้ครับ”
“แต่ลูกชายเขาบอกว่าอยากจะคุยในโรงงานของเขา”
“ไม่มีปัญหาครับ” ถึงฉินซือจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากจะให้เขาไปคุยที่โรงงานทำไม แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ
“อ้าว! นั่นแกจะไปไหน?”
เสียงพ่อของเขาดังไล่หลังมา ฉินซือหันไปตอบว่า “ผมจะรีบกลับไปบอกข่าวดีกับลู่ฉิวเยว่”
ในที่สุดวันนัดพบก็มาถึง การเดินทางค่อนข้างไกล ช่วงนี้ฉินซือไม่ค่อยมีงานและเขาก็มีเวลาว่าง เขาจึงตัดสินใจมาส่งลู่ฉิวเยว่ด้วยตนเอง
โรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก่อนที่จะเดินเข้าประตูไป พวกเขาก็ได้กลิ่นยาจีนลอยอยู่ในอากาศ ลู่ฉิวเยว่ทำจมูกฟุตฟิต เธอสามารถบอกได้เลยว่านี่เป็นกลิ่นยาจีนชนิดใด
“เฮ้ย! พวกคุณ 2 คนตรงนั้นน่ะเข้ามาทำอะไร? อย่าเข้ามาวุ่นวายที่นี่!”
ยามที่เฝ้าหน้าประตูรีบเดินเข้ามาห้าม ลู่ฉิวเยว่เดินเข้าไปและยิ้มตอบรับว่า “พี่ยามคะ พวกเรามีนัดคุยธุรกิจกับผู้จัดการโรงงานค่ะ”
“คุณ…แซ่ลู่ใช่ไหม?”
เธอเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันชื่อลู่ฉิวเยว่”
“อ้อ…” ยามหนุ่มจำได้และโบกมือ “ผู้จัดการบอกว่าตอนนี้โรงงานกำลังยุ่ง ให้คุณกลับไปก่อน แล้วค่อยมาใหม่วันหลัง”
แต่ผู้จัดการโรงงานเป็นคนนัดพวกเธอมาที่นี่เอง อยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้กลับคำพูด? ลู่ฉิวเยว่มีสีหน้าเย็นชาขึ้นมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยพบเจอคนประเภทนี้ในชาติที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเจอในชาตินี้
ฉินซือมีสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเธอเสียอีก เวลาที่เขาเจรจาธุรกิจกับคนอื่น สิ่งสำคัญคือการตรงต่อเวลา และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเจอยามเอ่ยปากไล่ให้กลับไปทั้ง ๆ ที่เป็นเวลานัดพบ
ผู้จัดการโรงงานคนนี้ชักจะเหิมเกริมมากไปแล้ว!