สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 43 แต่คุณชายชอบคุณลู่มากจริง ๆ
บทที่ 43 แต่คุณชายชอบคุณลู่มากจริง ๆ
บทที่ 43 แต่คุณชายชอบคุณลู่มากจริง ๆ
เลขาหวังพิศวงสงสัยอยู่ในใจ ก่อนจะมาพบลู่ฉิวเยว่ เขาไม่เคยเห็นฉินซือสนใจผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน
เฮ้อ! ความรักช่างน่าปวดหัวจริง ๆ!
เลขาหวังได้แต่บ่นอยู่ในใจ
ลู่ฉิวเยว่กับคุณถังพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบ้าน แล้วทั้งสองฝ่ายก็ได้ข้อตกลงที่พึงพอใจ เมื่อเซ็นสัญญากันเรียบร้อย เรื่องราวก็จบลงด้วยดี
ทั้งสองฝ่ายไปทำเรื่องโอนบ้านด้วยกัน หลังจากลงตราประทับเรียบร้อย ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น
เลขาหวังถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากลัวแทบตายว่าลู่ฉิวเยว่จะพบความจริง โชคดีที่เธอมองไม่ออก ดังนั้นเขาสามารถกลับไปทำงานได้ต่อไป
“เดี๋ยวผมจะไปส่งที่บ้านนะครับ คุณลู่” เลขาหวังเปิดประตูรถ
ลู่ฉิวเยว่หยุดยืนอยู่หน้ารถจ้องมองเลขาหวังอย่างใช้ความคิดแล้วยิ้ม “เลขาหวังดูเครียด ๆ นะคะ”
หลังจากพูดแล้ว ลู่ฉิวเยว่ก็เข้าไปนั่งในรถ
เลขาหวังยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะตามเข้าไปในรถและหัวเราะกลบเกลื่อน “ผมอยากช่วยแก้ปัญหาให้คุณลู่ไงครับ ตอนนี้ผมโล่งอกแล้ว แต่ที่ดูเครียด ๆ เพราะผมกลัวว่าคุณอาจจะไม่ชอบบ้านหลังนี้ แล้วความพยายามของผมมันก็คงไร้ประโยชน์”
และเขาก็คงถูกคุณชายจับถลกหนังแน่ ๆ
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ เลขาหวัง เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะเลี้ยงอาหารอร่อย ๆ เป็นการตอบแทนก็แล้วกัน” ลู่ฉิวเยว่ยิ้มและถามทันทีว่า “ว่าแต่คุณฉินอยู่ไหนเหรอคะ? ฉันขอไปพบเขาได้ไหม?”
เลขาหวังสะดุ้ง จะมาขอพบอะไรตอนนี้?
“คุณลู่อยากจะพบทำไมเหรอครับ?” เขาใช้ความคิดอย่างรวดเร็วและตอบว่า “ตอนนี้คุณชายผมน่าจะยุ่งอยู่ คงต้องรอตอนอาหารค่ำ…”
“แค่พูดไม่กี่คำหรอกค่ะ ไม่รบกวนเวลามากหรอก”
ลู่ฉิวเยว่พูดจาอย่างสุภาพอ่อนหวาน เลขาหวังเริ่มวิตกกังวล ในที่สุดเขาก็ขับรถกลับไปยังโรงแรมที่ฉินซือพักอยู่
รอบนี้คุณชายของเขาต้องมาสำรวจตลาดหลายเมืองหลายอำเภอ เขาจำเป็นต้องเข้าพักในโรงแรมหลายแห่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คุณลู่เดินทางมาหาคุณชายของเลขาหวังถึงที่เช่นนี้
เมื่อไม่กี่วันก่อน แม่ของเลขาหวังถามว่าการมาสำรวจตลาดพร้อมกับคุณชายในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง เลขาหวังได้แต่กลืนน้ำลายกัดฟันตอบกลับไปว่าทุกอย่างดีมาก
แต่ในความเป็นจริงนั้น ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากอาหารของลู่ฉิวเยว่
ชีวิตของคนหนุ่มสาวนี่มันน่าอิจฉาจริง ๆ!
เลขาหวังเคาะประตูและถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณชายครับ คุณลู่อยากมาพบครับ”
ฉินซือเปิดประตูออกมา เขามองหน้าเลขาหวังตาขวาง นี่หมายความว่าแผนการซื้อบ้านล้มเหลวสินะ?
“เข้าใจแล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะ”
เมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นคุณชาย เลขาหวังก็นึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
เขารีบวิ่งหนีไปอย่างไม่รอช้า
เมื่อส่งเลขาหวังจากไปแล้ว ฉินซือก็เชิญลู่ฉิวเยว่เข้ามาในห้อง “คุณอยากดื่มอะไร? รับน้ำชาหน่อยไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมาพูดอะไรนิดหน่อยเดี๋ยวก็ไปแล้ว” ลู่ฉิวเยว่ขัดจังหวะเขาโดยไม่เสียเวลานั่งลง เธอจ้องมองไปที่ฉินซือด้วยความจริงจัง “คุณฉิน คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นฉันจะพูดตรง ๆ เลยนะคะ”
“พูดมาได้เลย” ฉินซือเตรียมตัวเตรียมใจอยู่ก่อนแล้ว เขาไม่รู้เลยว่าลู่ฉิวเยว่กำลังโกรธหรือกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ เขาจึงกังวล เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ยอมมาพบเจอเขาอีกในอนาคต
นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่อยากออกหน้าช่วยเหลือเธอ
“ฉันขอบคุณมากที่คุณช่วยเหลือในครั้งนี้ และฉันก็ขอรับความเมตตาของคุณไว้ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ?”
นึกแล้วเชียว ถูกจับได้แล้วจริง ๆ
ฉินซือยิ้มด้วยความขมขื่น “ถามมาเถอะ”
“คุณจ่ายค่าบ้านหลังนั้นไปเท่าไหร่?” เธอไม่ชอบการฉวยโอกาสจากคนอื่น โดยเฉพาะจากฉินซือ
ลู่ฉิวเยว่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในรายชื่อของฉินซือ
“คุณตั้งใจมาหาผมเพื่อคุยเรื่องธุรกิจเนี่ยนะ?” ฉินซือมีสีหน้าเย็นชา เขาค่อนข้างไม่พอใจ “ถ้าจะเอาอย่างนี้ งั้นมาคุยกันก็ได้ คุณเป็นคนคิดสูตรในการทำผลไม้กระป๋อง และถึงแม้ผมจะปันส่วนแบ่งให้คุณในทุก ๆ เดือน แต่จากอัตราเฉลี่ยในปกติ ส่วนแบ่งของคุณก็ไม่มากนัก”
“คุณช่วยแก้ปัญหาสินค้าคงคลังที่ไม่เคยมีใครแก้ปัญหามานาน คุณสมควรที่จะได้รับส่วนแบ่งมากกว่านี้ แต่คุณก็ปฏิเสธ ถ้าคุณอยากจะคุยเรื่องธุรกิจจริง ๆ นี่ก็คือเหตุผลที่ผมช่วยคุณซื้อบ้าน แทนที่จะจ่ายเป็นเงินให้คุณไงล่ะ”
“ไม่ทราบว่าคุณลู่พอใจกับคำอธิบายของผมหรือยัง?”
มุมปากของลู่ฉิวเยว่กระตุกอย่างรุนแรง เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเธอไม่ยอมรับส่วนแบ่งมากขึ้นอย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมเขาถึงต้องโกรธขนาดนี้ด้วย?
เธอกระแอมไอ “แค่นี้คุณก็ช่วยเหลือพวกเรามากแล้ว ฉันคงรู้สึกละอายใจมากถ้าจะรับเงินจากคุณมากกว่านี้”
ฉินซือจับมือของลู่ฉิวเยว่เอาไว้ “ถึงคุณจะไม่อยากเป็นแฟนผม แต่ก็น่าจะพิจารณาผมหน่อยนะ คุณจะเปิดโอกาสให้ผมหน่อยไม่ได้หรือไง? คุณเล่นปฏิเสธผมทุกอย่างแบบนี้ บางครั้งผมก็หมดหวังเหมือนกัน”
ลู่ฉิวเยว่ถึงกับตกตะลึงไปทันที เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพูดออกมาตรง ๆ อย่างนี้
ฉินซือพูดต่อไปว่า “ฉิวเยว่ คุณไม่จำเป็นต้องรับรักผมก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ให้โอกาสผมหน่อย เพื่อที่ในอนาคต ผมจะได้ไม่คิดเสียใจ เพราะว่าผมได้พยายามเต็มที่แล้ว คุณเข้าใจไหม?”
ฉินซือจ้องมองมาที่ลู่ฉิวเยว่ด้วยความจริงใจ
ลู่ฉิวเยว่รู้สึกแปลก หัวใจเต้นเร็วมากขึ้น วันนี้เธอตั้งใจมาพูดคุยเกี่ยวกับบ้านใหม่ของเธอ แต่มันกลับกลายเป็นการสารภาพรักไปเสียได้
เธอไม่ทันได้ตั้งตัวจึงได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้น
เธอยอมรับความรักนี้ไม่ได้หรอก
หญิงสาวเงียบไปนาน ก่อนจะพูดช้า ๆ ว่า “ฉันไม่ใช่คนที่ชอบฉวยโอกาสจากคนอื่น ถ้าคุณจะว่าแบบนั้น เวลาที่คุณมารับประทานอาหารที่ร้านฉัน คุณก็ไม่ต้องจ่ายเงินอีกแล้ว”
“ไม่มีปัญหา” ฉินซือยอมรับแต่โดยดี
นี่หมายความว่าเธออนุญาตให้เขาตามจีบได้และเธอยังเชิญให้เขาไปทานอาหารที่บ้านได้ทุกเมื่ออีกด้วยใช่ไหม?
ลู่ฉิวเยว่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองให้คำสัญญาอะไรออกไป
“เสร็จงานแล้วผมจะไปกินข้าวที่ร้านคุณทุกวันเลย เราจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน” ฉินซือเก็บข้าวของและใช้โอกาสนี้จับมือลู่ฉิวเยว่ “ผมจะซื้อยาบำรุงไปฝากคุณลุงคุณป้าด้วย”
ลู่ฉิวเยว่ยังคงยืนงงอยู่ที่เดิม แต่ก่อนที่เธอจะได้สติ ฉินซือก็ปล่อยมือเธอและเปิดประตู
นิ้วมือของลู่ฉิวเยว่รู้สึกชาดิก
หลังจากขึ้นไปอยู่ในรถแล้ว ลู่ฉิวเยว่ก็ถามฉินซือด้วยความสงสัยว่า “ในเมื่อคุณอยากจะช่วยฉัน แล้วทำไมคุณถึงไม่ออกหน้าด้วยตัวเองล่ะ ทำไมถึงต้องให้เลขาหวังออกหน้าแทน?”
ฉินซือยิ้มฝืน “ถ้าผมออกหน้าเอง คุณจะยอมรับบ้านหลังนั้นไว้เหรอ? คุณไม่รู้ตัวหรือไงว่าคุณเป็นคนคิดมากขนาดไหน? คุณลู่ ไม่ว่าผมเสนอจะให้อะไรคุณ คุณก็มักจะปฏิเสธอยู่ตลอด”
ลู่ฉิวเยว่ถึงกับพูดไม่ออก “ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ย?”
“แล้วคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนล่ะ?”
ลู่ฉิวเยว่ “…”
“จริงด้วยสิ” ฉินซือรีบหันกลับมามองหน้าลู่ฉิวเยว่ แกล้งทำเป็นนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “คุณกำลังจะย้ายบ้านใหม่แล้ว ผมเพิ่งจะสร้างโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ขึ้นมาใหม่ พวกมันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คุณช่วยลองไปดูกับผมหน่อยได้ไหม?”