สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 3 ขายดิบขายดี (รีไรท์)
บทที่ 3 ขายดิบขายดี (รีไรท์)
บทที่ 3 ขายดิบขายดี (รีไรท์)
ป้าสะใภ้และแม่ของเธอคอยช่วยเหลือ ลู่ฉิวเยว่จึงทำโร่วเจียโม๋ได้หลายร้อยชิ้นในคืนนั้น และเมนูเด็ดของเธอก็คือหมูตุ๋นหม้อใหญ่
เนื้อหมูถูกนำไปทอดและตุ๋นจนส่งกลิ่นหอมอันน่าดึงดูดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา ลู่ฉิวเยว่ผสมน้ำจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณลงไปเพื่อหมักเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ จะได้ทดสอบว่าน้ำพุแห่งจิตวิญญาณมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ด้วย เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ลู่ฉิวเยว่ก็พาแม่ขี่รถสามล้อไปที่ประตูโรงงานเครื่องจักรที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอและตั้งแผงขายของอยู่ที่หน้าโรงงาน
มีคนจำนวนมากในโรงงานเครื่องจักร พวกเขาล้วนมีเงิน มันจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งแผงขายอาหารในครั้งนี้ พอลู่ฉิวเยว่เปิดหม้อ คนงานที่เพิ่งเลิกงานก็ถูกหมูตุ๋นแสนอร่อยของลู่ฉิวเยว่ดึงดูดใจทันที
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มขณะใช้ตะหลิวเซี๊ยะคนเนื้อในหม้อพลางพูดว่า “ถึงจะแพงไปหน่อยแต่อร่อยแน่นอน! เนื้อของฉันหมักข้ามคืนเลยนะจ๊ะ!”
เดิมทีกลิ่นหอมของเนื้อตุ๋นในหม้อก็ทำให้ผู้คนน้ำลายสออยู่แล้ว แต่หลังจากที่ลู่ฉิวเยว่คนเนื้อในหม้อแบบนี้ สีสันน่ารักประทานของเนื้อก็ทำให้บรรดาคนงานต้องกลืนน้ำลายอีกอึกใหญ่
“งั้นขอสักชิ้นก็แล้วกัน!” ชายวัยกลางรีบหยิบเงินออกมาทันที
“ได้เลยค่ะ!” ลู่ฉิวเยว่รับเงินมา แล้วคีบหมูชิ้นหนึ่งขึ้นมาสับหยาบ ๆ จากนั้นใส่ลงในโร่วเจียโม๋ พร้อมเทน้ำซุปใส่ในถุงพลาสติกแล้วยื่นให้ลูกค้า
อาหารร้อน ๆ เพิ่งออกจากหม้อ ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนจนให้คุณลุงอดไม่ได้ที่จะกัดมันคำใหญ่
“เป็นยังไงบ้าง อร่อยไหมคะ” คนอื่น ๆ รีบถาม
ชายคนนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะพูด ได้แต่ยกนิ้วโป้งขึ้นหลังจากกัดไปสามคำใหญ่ เขาเคี้ยวช้าลงแล้วพูดว่า “อร่อย… อร่อยมาก ฉันไม่เคยกินอาหารที่อร่อยอย่างนี้มาก่อน ขนมปังรสเลิศทีเดียว! เนื้อกับน้ำซอสที่ราดลงไปอร่อยเหมือนกัน! อร่อยเหลือเกิน! กลิ่นหอมมากด้วย!”
เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนคุยโว้ขนาดนี้ ทุกคนจึงกรูเข้ามาซื้อโร่วเจียโม๋ทันที ลู่ฉิวเยว่กับแม่ของเธอจึงต้องยุ่งอยู่กับการเก็บเงินและหั่นเนื้อ
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง โร่วเจียโม๋ 200 ลูกก็ขายหมดเกลี้ยง! หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว พวกเธอได้กำไรทั้งหมด 140 หยวน!
ถือว่าไปได้สวย!
เมื่อคำนวณด้วยยอดขายระดับนี้ เพียงหนึ่งเดือน พวกเธอก็จะมีเงินไปซ่อมแซมบ้านแล้ว!
ลู่ฉิวเยว่พามารดาไปที่ตลาดผัก ซื้อหัวหมูและไข่ไก่บรรทุกใส่รถสามล้อ ก่อนจะกลับไปที่บ้านของคุณลุงอย่างมีความสุข
ณ โรงแรมห้าดาว ใกล้โรงงานเครื่องจักร
ในห้องพักที่ดีที่สุด ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังดูเอกสาร เขาสวมสูทเข้ารูป เสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุมอย่างพิถีพิถัน นั่นขับให้ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมและสง่างามอยู่แล้วยิ่งมีความหล่อเหลามากขึ้น
อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะต่ำกว่าภายนอกหลายองศา เลขาหวังมองไปที่อาหารที่ยังวางอยู่ที่เดิมบนโต๊ะแล้วพูดว่า “คุณชาย คุณควรจะกินอะไรสักหน่อย ผมจ้างพ่อครัวที่ดีที่สุดมาทำอาหารแล้ว คุณไม่กินอะไรมาสามวันแล้วนะครับ ถ้ายังเป็นแบบนี้ ผมจะกลับไปอธิบายกับทุกคนได้ยังไงครับ”
ชายหนุ่มมีนิสัยเลือกกินตั้งแต่ยังเด็ก และกินได้เฉพาะอาหารที่ปรุงโดยพ่อครัวใหญ่ชื่อดังเท่านั้น
ตอนนี้ เจ้านายหนุ่มของเลขาหวังเดินทางมาทำธุระตรวจสอบการลงทุนในโรงงาน พ่อครัวใหญ่อายุมากแล้วจึงไม่ได้ติดตามมาด้วย ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่ได้รับประทานอะไรนอกจากน้ำเปล่ามา 3 วันเต็ม ๆ แล้ว
น่าเป็นห่วงจริง ๆ
“เอาไปให้พ้นหน้าฉันซะ”
ชายหนุ่มพลิกหน้าเอกสารโดยสีหน้านิ่งเฉย ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “ไปบอกพวกเขาด้วยว่าฉันจะกลับแล้ว”
เลขาหวังยกอาหารลงจากโต๊ะด้วยใบหน้าขมขื่น ทันทีที่เลขาหวังก้าวออกมาจากห้องพักของผู้เป็นเจ้านาย ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็พยักหน้าทักทายและปรี่เข้ามาถามด้วยความร้อนรนว่า
“เลขาหวัง เป็นอย่างไรบ้าง หัวหน้าฉินยังไม่กินอะไรอีกเหรอ?”
เลขาธิการหวังส่ายหัวและพูดว่า “คุณชายบอกว่าคืนนี้เขาจะกลับเมืองหลวงแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าของนายอำเภอก็สลดลงทันที เขามองพ่อครัวและผู้บริหารของโรงแรมด้วยความโกรธ ก่อนจะทุบโต๊ะแล้วสาปแช่ง
“พวกคุณทำอะไรไปให้เขากิน! ในที่สุดเราก็มีนักลงทุนรายใหญ่มาจากเมืองหลวง! แต่พวกคุณไม่มีปัญญาทำของอร่อยไปให้เขากินเนี่ยนะ! การลงทุนครั้งใหญ่กำลังจะพังแล้ว! พวกเราเจ๊งกันหมดแน่! ถ้าคุณชายฉินกลับไป แม้แต่โรงแรมนี้ก็คงไม่รอด!”
พ่อครัวตัวสั่น เขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่คุณชายฉินคนนั้นเป็นลูกชายของตระกูลร่ำรวยจากเมืองหลวง เขาจู้จี้จุกจิกเกินไปต่างหาก!
พ่อครัวรู้สึกร่างกายเย็นเฉียบแต่กลับมีเหงื่อออก จู่ ๆ เขาก็หยิบโร่วเจียโม๋ออกมาสองชิ้นและพูดว่า “เลขาหวัง ทำไมคุณไม่ลองชิมดูล่ะ โร่วเจียโม๋นี้อร่อยมาก ลองชิมดูเถอะ!”
พ่อครัวพยายามปรุงอาหารรสเลิศทุกชนิดด้วยวัตถุดิบจากภูเขาและทะเลแล้ว แต่พวกคนรวยมักจะมีนิสัยแปลก ๆ บางทีคุณชายฉินอาจไม่เคยกินโร่วเจียโม๋และคิดว่ามันเป็นของอร่อยขึ้นมาก็ได้
เดิมทีเลขาหวังต้องการปฏิเสธ แต่โร่วเจียโม๋เนื้อสองก้อนส่งกลิ่นหอมอย่างที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบมันโดยไม่คาดคิด
เลขาหวังนำโร่วเจียโม๋ไปที่ห้องและพูดว่า “คุณชาย คุณไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้ว อย่างน้อยคุณควรกินอะไรรองท้องบ้างนะครับ”
ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นและกำลังจะขอให้เขาเอามันออกไป แต่กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ลอยออกมาดึงความสนใจเขาได้ทันที
ถูกต้องแล้ว มันคือกลิ่นหอมเย้ายวนใจที่ทำให้คนหยุดชะงักได้ในพริบตา
กลิ่นหอมน่ารับประทาน
คุณชายฉินรู้สึกประหลาดใจและเอื้อมมือไปหยิบจาน เมื่อหยิบโร่วเจียโม๋ขึ้นมา กลิ่นหอมก็รุนแรงขึ้นในทันใด และยังทำให้เขารู้สึกอยากกินอีกด้วย
เขากัดคำแรก คำสอง และคำสาม
เพียงลมหายใจเดียวเขาก็กินโร่วเจียโม๋หมด! หยุดกินไม่ได้เลย!
เขาหยิบอันที่สองขึ้นมาและกินจนหมดในครั้งเดียว!
โร่วเจียโม๋นี้มีหมูและไข่ ถ้าเขากินมาก ๆ ในครั้งเดียวเขาคงจะเบื่อมันไปแล้ว แต่หลังจากกินโร่วเจียโม๋ทั้ง 2 ชิ้นนี้แล้ว เขาไม่รู้สึกเลี่ยนเลยแม้แต่น้อย กลับสบายใจไปทั้งตัว และยังอยากกินมากขึ้นอีก!
เลขาหวังไม่คาดคิดว่าเจ้านายจะกินโร่วเจียโม๋ 2 ชิ้นนี้หมดในคราวเดียว จึงได้แต่มองเขาด้วยสายตาเหลือเชื่อ
ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายสังเกตเห็นความประหลาดใจ เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปากอย่างสง่างามพร้อมพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ถ้าฉันได้กินอาหารที่คนคนนี้ทำ ฉันก็อยู่ต่อได้อีกสักสองสามวัน”
เลขาหวังหยิบจานออกไปด้วยท่าทางสงบนิ่ง แต่เมื่อลงไปชั้นล่าง เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า
“คุณชายบอกว่าถ้าได้รับประทานอาหารจากคนที่ทำโร่วเจียโม๋ คุณชายก็จะยอมอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก 2 วัน”
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็มีความหวังแล้ว!
“ใครเป็นคนทำโร่วเจียโม๋พวกนี้! รีบไปตามตัวมาทำอาหารให้เราในวันพรุ่งนี้ซะ!”
นายอำเภอออกคำสั่งทันที