สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 25 ชวนลู่ฉิวเยว่ไปดูหนัง
บทที่ 25 ชวนลู่ฉิวเยว่ไปดูหนัง
บทที่ 25 ชวนลู่ฉิวเยว่ไปดูหนัง
สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ หน้าที่ในการปรุงอาหารยังคงตกเป็นของลู่ฉิวเยว่ ส่วนแม่และลุงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในครัว
พ่อของเธอเข้ามาช่วยบ้างเป็นครั้งคราว แต่แม่ของเธอคิดว่าเขาเกะกะขวางทางจึงต้องไล่เขาออกไปหลายครั้ง
อาหารที่เธอทำในวันนี้คือชาบูหม้อทองแดง ตอนนี้อากาศเพิ่งเย็นลง การกินอาหารร้อน ๆ แบบนี้จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และไม่มีอาหารชนิดใดจะเหมาะกับการนั่งกินหลายคนมากไปกว่าชาบูอีกแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำชาบูคือความร้อนของน้ำซุป ซอส และเครื่องปรุง
ลู่ฉิวเยว่เพิ่งทำเนยถั่วแสนอร่อยที่ผสมน้ำพุแห่งจิตวิญญาณเมื่อสองวันก่อน ถึงเวลาเอาออกมาใช้งานแล้ว
ส่วนพวกผักเครื่องเคียงก็แช่ในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณเช่นกัน พวกมันมีสีเขียวสวยงามราวกับมรกต
ส่วนสำคัญที่สุดคือเนื้อแกะที่ถูกคลุกด้วยซอสเนยถั่ว ความนุ่มของเนื้อแกะและกลิ่นหอมของเนยถั่วให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำไปทั้งปากเมื่อกิน
ม่อหยางไม่สามารถหยุดกินได้ ถ้าเขาไม่ได้สวมเข็มขัดเอาไว้ เขาคงกินมากกว่านี้แน่ ๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉินซือมาที่นี่และไม่อยากกลับไปเมืองหลวง ที่นี่มีอาหารอร่อย ๆ ให้กินทุกวัน มีแม่ครัวสาวสวยที่ขยันขันแข็งและมากความสามารถ ถ้าเป็นม่อหยาง เขาก็สามารถอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตได้เหมือนกัน!
ม่อหยางรู้สึกว่าลู่ฉิวเยว่มีพรสวรรค์เกินกว่าจะเปิดร้านเล็ก ๆ ที่นี่ พรสวรรค์ของเธอเกือบจะเทียบได้กับทักษะของพ่อครัวในร้านอาหารอเมริกัน เธอควรจะไปที่เมืองหลวงเพื่อเฉิดฉาย เธอสามารถ… เปลี่ยนชื่อมาเป็นม่อฉิวเยว่ได้ด้วยซ้ำ!
ฉินซือกัดฟันกรอด
เมื่อเห็นใบหน้าของเจ้านายเคร่งเครียดขึ้นมาเป็นครั้งที่สามในคืนนี้ เลขาหวังก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป
คุณม่อ คุณกำลังเข้าใกล้เส้นทางสู่ความตายมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
หุ ๆ ขอให้คุณโชคดีก็แล้วกัน
บรรยากาศโดยรอบนั้นค่อนข้างต่างออกไป พ่อ แม่ และลุงของหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
เมื่อมองดูตำแหน่งที่นั่ง ที่นั่งของฉินซืออยู่ถัดจากลู่ฉิวเยว่ และเมื่อมองย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าฉินซือจะนั่งถัดจากลู่ฉิวเยว่เสมอ และหลังจากที่ได้เห็นหน้าตาที่เคร่งขรึมของฉินซืออย่างชัดเจนในขณะนี้ พวกเขาทั้งหมดก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว
“หัวหน้าฉินน่าจะมีแฟนแล้วใช่ไหมครับ ผมได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะมีหนังใหม่เข้ามาเรื่องหนึ่ง หัวหน้าฉินไม่คิดจะไปดูกับแฟนบ้างเหรอครับ คุณทำงานหนักแล้ว น่าจะหาเวลาพักบ้างสิ” พ่อของหญิงสาวเทสุราใส่แก้วส่งให้ฉินซือและพูดด้วยรอยยิ้ม เขาพยายามทำให้บรรยากาศเป็นกันเอง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หูของฉินซือได้ยินนั้นต่างออกไป ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขารีบรับแก้วสุราด้วยมือทั้งสองข้างด้วยความเคารพ “ลุงไม่ต้องเรียกผมว่าหัวหน้าหรอกครับ เรียกผมว่าฉินซือเฉย ๆ ก็ได้ ผมยังไม่มีแฟนสักคน แต่ก็พอจะมีคนที่ชอบอยู่ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคนนั้นจะชอบผมหรือเปล่า”
หลังจากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้าลู่ฉิวเยว่ซึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง หูทั้งสองข้างเริ่มมีสีแดง
พ่อของหญิงสาวมองออกโดยทันทีว่าฉินซือตกหลุมรักลูกสาวของตนเองเข้าให้แล้ว มิน่าล่ะ ทุกครั้งที่เขาเรียกฉินซือว่าหัวหน้า ชายหนุ่มก็ต้องคอยบอกให้เรียกเขาด้วยชื่อธรรมดาก็พอแล้ว
ชายวัยกลางคนหัวเราะในลำคอ ลู่ฉิวเยว่เป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ถ้าเธอรู้เรื่องนี้และยินดีรับรักฉินซือก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ทุกอย่างก็คงไร้ประโยชน์
ลู่ฉิวเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเขินอายขึ้นมา
เธอไม่ปฏิเสธว่าแอบมีใจให้ฉินซือ
“ผมได้ยินมาว่าหนังเรื่องนั้นสนุกมาก ฉิวเยว่ คุณอยากไปดูไหม?” คนถูกถามหันหน้ามามองฉินซือ ทำเอาเขาหัวใจเต้นรัว
นี่ไม่ใช่การบอกใบ้ แต่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจน
ลู่ฉิวเยว่ตอบโดยไม่ลังเลสักนิด “คงต้องเป็นวันอื่นดีกว่าค่ะ ช่วงนี้ฉันยุ่งมากจริง ๆ”
นี่คือการตกลงหรือปฏิเสธ?
ฉินซือไม่เข้าใจ แต่ก็อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้
ม่อหยางที่ทำตัวสนุกสนานเฮฮามาตลอดทั้งคืนกำลังจ้องมองไปที่ฉินซือซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าตนเองด้วยความไม่อยากเชื่อ
ไม่นะเพื่อน นายชอบผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เหรอ?
เลขาหวังหันมามองหน้าม่อหยางและได้แต่ถามอยู่ในใจว่าคุณคิดว่าไงล่ะครับ?
“ฉิวเยว่ ลูกบอกว่าอบขนมไว้ให้ทุกคนชิมไม่ใช่เหรอ” แม่ของหญิงสาวส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศแปลกประหลาดในห้อง
“ใช่แล้ว จริงด้วยสินะ หนูลืมไปเลย” ลู่ฉิวเยว่ลุกขึ้นและเดินหายเข้าไปในห้องครัว
คืนนี้เธอทำเค้กข้าวเอาไว้จำนวนหนึ่ง เค้กข้าวชนิดแรกเป็นเค้กข้าวจีนสไตล์โบราณ ซึ่งมีผิวบางและมีน้ำมันมากกว่าเค้กข้าวชนิดอื่น พ่อของเธอชอบทานเค้กข้าวชนิดนี้มากที่สุด
ส่วนเค้กข้าวอีกชนิดเป็นสไตล์ยุโรป ซึ่งมีขนาดเล็กและกรุบกรอบ มีรสชาติหวานหอมอร่อย เธอชอบทานเค้กข้าวชนิดนี้มากกว่า
นอกจากนี้ยังมีเค้กข้าวอีกชนิด เค้กข้าวชนิดนี้ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 20 มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม หวาน และอร่อย มีสีสันหลากหลาย แม่ของเธอน่าจะชอบ
“แหม ฝีมือการทำอาหารของหลานช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ เค้กข้าวพวกนี้อร่อยมาก อร่อยกว่าที่ซื้อจากร้านข้างนอกอีก” ลุงของเธอพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนหยิบเค้กข้าวชนิดที่ตนเองชอบขึ้นมากิน
เลขาหวังกลืนเค้กข้าวคำสุดท้ายในปากลงคอ “เค้กข้าวที่คุณลู่ทำเป็นเค้กข้าวที่อร่อยที่สุดในชีวิตของผมเลย!”
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มตอบกลับไปว่า “แล้วพี่หวังคิดว่าเค้กข้าวพวกนี้จะขายได้ไหมคะ?”
พี่หวัง!
หัวใจของฉินซือกระตุกอีกครั้ง เธอมักจะเรียกเขาว่าคุณฉินเสมอ แต่เธอกลับเรียกคนอื่นอย่างเป็นกันเอง ขนาดกับเลขาหวังเธอก็ยังเรียกว่าพี่หวัง และปฏิบัติกับเลขาหวังแตกต่างไปจากเขาโดยสิ้นเชิง
“โอ๊ย! เอาอะไรมาขายไม่ได้ รับรองว่าขายดีจนขายไม่ทันด้วยซ้ำ” เลขาหวังชมเชยอย่างไม่รอช้า ในอนาคตข้างหน้า เธออาจจะกลายมาเป็นนายหญิงของเขา ต้องรีบประจบไว้ตั้งแต่ตอนนี้
เพียงแต่เลขาหวังไม่รู้เลยว่าการประจบของเขายิ่งทำให้ฉินซือผู้เป็นเจ้านายหงุดหงิดมากกว่าเดิม
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ!” ลู่ฉิวเยว่ยิ้ม เธอวางแผนที่จะเปิดตัวเค้กข้าวของตนเองในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์
ดึกมากแล้ว หมู่บ้านเยว่เหลียงอยู่ไกลออกไป ฉินซือและคุณลุงพร้อมด้วยภรรยาเดินทางกลับไปแล้ว
ลู่ฉิวเยว่ยืนเก็บของอยู่ในห้องครัว
“เยว่เยว่ ลุงมาพูดอะไรกับลูกเหรอ? ช่วยบอกแม่หน่อยได้ไหม?” แม่ของเธอถามทันที
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณลุงบอกว่าอยากให้ลูกของเขามาช่วยงานหนู หนูคิดว่าร้านของเรางานเยอะมากก็เลยตอบตกลง แม่จะได้ไม่บ่นว่าหนูใช้งานพ่อแม่หนักเกินไป”
“บ่นที่ไหนกัน!” หญิงวัยกลางคนหัวเราะ
เธอพอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลานชายบ้างแล้ว เขาเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมปลาย ผลการเรียนไม่ดี ตอนนี้จึงต้องออกมาหางานทำ
คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมไม่อยากส่งลูกไปอยู่ไกลหูไกลตา
เด็กหนุ่มจึงถูกส่งตัวมาทำงานที่ร้านของลู่ฉิวเยว่
คิดเสียว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน คอยดูแลกันและกัน
เธอจำได้ดีถึงความเมตตาที่พี่ชายและพี่สะใภ้คอยช่วยเหลือตนเองอยู่เสมอ อย่าว่าแต่ให้หลานชายมาทำงานที่ร้านนี้เลย ต่อให้ขอให้เลี้ยงดูเขาไปอีกหลายปี เธอก็ยินดี
รุ่งเช้าวันต่อมา ลู่ฉิวเยว่วางขายเค้กข้าวชุดแรกในราคาชิ้นละ 60 เหมา วันนี้อยู่ในช่วงทดลองขาย เธอจึงลดราคา 30%
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาอุดหนุนล้วนเชื่อมั่นในฝีมือของลู่ฉิวเยว่อยู่แล้ว และเค้กข้าวพวกนี้ก็มีหน้าตาน่ากินมาก ทุกคนจึงซื้อหากลับไปชิม
เมื่อได้ลองลิ้มรสแล้ว ทุกคนก็ต้องตกตะลึง
กลุ่มลูกค้าส่งต่อแบบปากกับปาก ร้านของหญิงสาวกลับมามีลูกค้าแน่นอีกครั้ง ยังไม่ถึงตอนบ่าย เค้กข้าวที่เธอทำไว้เมื่อคืน 100 ชิ้นก็ขายหมดเกลี้ยง
ลู่เจี๋ยหรงออกมาซื้อของพอดีจึงเห็นภาพดังกล่าว
เมื่อได้รับบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เธอจึงไม่กล้าสร้างปัญหากับลู่ฉิวเยว่อีกแล้ว
แต่ว่า…
ลู่เจี๋ยหรงยิ้มออกมาด้วยความชั่วร้ายและเดินตรงไปที่ร้านฝั่งตรงข้าม