สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 18 เตียงแกะสลักไม้จันทน์ (รีไรท์)
บทที่ 18 เตียงแกะสลักไม้จันทน์ (รีไรท์)
บทที่ 18 เตียงแกะสลักไม้จันทน์ (รีไรท์)
“ทำไมวันนี้เชฟลู่ถึงดูเศร้าล่ะ”
หลังอาหารเย็น ลู่ฉิวเยว่กำลังนั่งงุนงงอยู่ในลานบ้าน จู่ ๆ ฉินซือก็ขยับเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เธอ
บางทีพวกเขาอาจอยู่ใกล้เกินไป กลิ่นหอมสดชื่นบนร่างกายของชายหนุ่มจึงยังติดอยู่ที่ปลายจมูกของลู่ฉิวเยว่
หญิงสาวส่ายหัว
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถอนหายใจ “ฉันเช่าร้านในตัวเมืองค่ะ แต่หลังจากสอบถามแล้ว ถ้าต้องการเปิดร้านอย่างเป็นทางการ ฉันต้องยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ แต่กระบวนการตรวจสอบใช้เวลานาน อาจใช้เวลาตั้งแต่ครึ่งเดือนไปจนถึงหนึ่งเดือนเลย”
นั่นคือเงินทั้งหมดที่เธอมี
เธอลองคำนวณค่าเช่า ค่าซื้อวัตถุดิบในช่วงแรก ค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ ค่าหม้อสำหรับทำอาหาร และอื่น ๆ ในวันนี้ เงินในมือของเธอเกือบจะถูกใช้ไปจนหมด
ถ้าช้าไปสักครึ่งเดือนก็คงไม่มีหวังแล้วจริง ๆ
ฉินซือเลิกคิ้วและพูดเบา ๆ ว่า “ไม่ใช่เรื่องยาก ปล่อยให้ผมจัดการเอง” หลังจากครุ่นคิดแล้วเขาก็พูดว่า “อย่างช้าสุดก็ 5 วัน”
ดวงตาของลู่ฉิวเยว่เป็นประกาย หากฉินซือสามารถช่วยได้ มันจะใช้เวลานิดเดียวแน่นอน
เธอยิ้มอย่างสดใส “นั่นช่วยฉันได้มากจริง ๆ คุณฉิน ขอบคุณมาก ฉันจะต้องตอบแทนคุณในภายหลังแล้วสิ ฉันจะดูแลคุณด้วยอาหารดี ๆ แน่นอนค่ะ”
ในช่วง 5 วันนี้ เธอสามารถซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดร้านได้
ท่าทางที่มีความสุขและสงวนท่าทีของผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริง ๆ ฉินซืออดไม่ได้ที่จะเลียมุมปากของตนเอง “ทำไมล่ะ ผมสิที่ต้องขอบคุณเชฟที่ช่วยทำอาหารให้ผมทานทุกวัน”
เพราะหญิงสาวกำลังจะเปิดร้าน เฟอร์นิเจอร์ขั้นพื้นฐานอย่างโต๊ะและเก้าอี้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นลูกค้าคงไม่มีที่นั่งรับประทานอาหาร
หลังจากหยุดคิดชั่วคราว ฉินซือกล่าวว่า “เลขาหวังจะไปโจวซือวันพรุ่งนี้ เฟอร์นิเจอร์ที่นั่นดีมาก ผมจะฝากเขาซื้อมาให้ร้านคุณก็แล้วกัน”
ลู่ฉิวเยว่โบกมือปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอกับฉินซือไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เธอจะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบแบบนี้ได้อย่างไร “หัวหน้าฉินใจดีเกินไปแล้วค่ะ ฉันจะมีความสุขมากถ้าคุณส่งกระเช้าดอกไม้มาให้กำลังใจฉัน ส่วนเรื่องอื่น ๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
นอกจากนี้ เธอได้วางแผนเรื่องเฟอร์นิเจอร์ไว้แล้ว
ตอนกลางวัน ขณะที่ลู่ฉวเยว่กำลังหาร้าน เธอเดินผ่านร้านเฟอร์นิเจอร์มือสอง เธอเข้าไปเดินเล่นเพียงแวบเดียวก็เห็นของดีอยู่ข้างใน เธอจึงคิดที่จะซื้อหามาใช้งานในร้านของตนเอง
ฉินซือไม่ได้บังคับ
คืนนั้นฉินซือแทบไม่พูดไม่คุยอะไรเลยระหว่างที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
เลขาหวังเห็นเขาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เขาเปิดประตูเข้ามา แต่ก็ไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“เลขาหวัง” จู่ ๆ ฉินซือก็เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
หัวใจของเลขาหวังเต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เจ้านายเรียกเขาด้วยตำแหน่งเต็ม ๆ และเจ้านายก็ยังดูจริงจังมากอีกด้วย
หรือว่า… เจ้านายกำลังจะไล่เขาออก?
เลขาหวังเสียใจจนแทบจะร้องไห้ หลายปีมานี้เขาทำงานหนัก แม้ว่าเขาจะไม่มีความดีความชอบก็ตาม แล้วเจ้านายคนนี้จะไล่เขาออกอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
เขาเช็ดน้ำตาบนใบหน้า รู้สึกเสียใจจนต้องเอ่ยขึ้นว่า “เจ้านาย…”
“ช่วยผมคิดหน่อยว่าจะซื้อดอกไม้อะไรให้เชฟลู่เป็นของขวัญวันเปิดร้านของเธอดี?”
ว่าไงนะ?
น้ำเสียงที่จริงจังของเจ้านายทำให้เลขาหวังสำลัก น้ำตาที่เพิ่งกลั่นออกมายังคงค้างอยู่ในดวงตาของเขา ท่าทางชายหนุ่มในตอนนี้น่าขบขันไม่น้อย
“คุณร้องไห้ทำไม” ฉินซือขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะมองเลขาหวัง
เลขาหวังรู้สึกเขินอายมากจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
อยากหนีไปให้พ้นชะมัด
นี่มีเขาเป็นกังวลอยู่คนเดียวใช่ไหม?
ภายในไม่กี่วัน ลู่ฉิวเยว่ก็กลับไปที่ในตัวเมืองด้วยตัวคนเดียวอีกครั้ง
ครั้งนี้เธอมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนและตรงไปที่ร้านเฟอร์นิเจอร์มือสองที่เธอพบเมื่อครั้งที่แล้ว ที่ตั้งของร้านเฟอร์นิเจอร์ค่อนข้างห่างไกล เมื่อลู่ฉิวเยว่เข้าไปก็พบว่าข้างในมีคนไม่มากนัก ซึ่งเหมือนกับครั้งที่แล้วที่เธอมา
ยุคนี้ใคร ๆ ก็ชอบเฟอร์นิเจอร์ใหม่ เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ แบบนี้ยังไม่ได้รับความนิยม
เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ ที่ในภายหลังจะมีคนแย่งกันซื้อด้วยราคาสูงลิบลิ่ว แต่ตอนนี้กลับกองรวมกันอยู่ที่นี่เหมือนขยะ ไม่มีใครสนใจพวกมันเลย
ลู่ฉิวเยว่เดินตรงไปที่เฟอร์นิเจอร์ที่เธอเคยแอบเล็งเอาไว้เมื่อวานนี้
“สาวน้อย คุณอยากซื้ออะไรไหม” มีชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มเดินมาหาเธอพร้อมกับหรี่ตาอย่างเฉลียวฉลาด
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า “พอดีอยากได้เฟอร์นิเจอร์สักหน่อยน่ะค่ะ”
“แหม สาวน้อย เธอมาถูกที่แล้ว ร้านเฟอร์นิเจอร์ของเราใหญ่โต เรามีทุกอย่าง เราสามารถหาเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจให้เธอได้อย่างแน่นอน” ชายคนนั้นชี้เข้าไปข้างใน
ลู่ฉิวเยว่ชำเลืองมอง เธอหยุดที่มุมหนึ่ง แสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วถามว่า “นี่หรือคะ?”
เตียงไม้ในมุมหนึ่งถูกปกคลุมด้วยฝุ่น แต่ก็มองเห็นได้ไม่ยากว่าสีของมันยังสมบูรณ์ดีมาก
นี่คือเตียงไม้จันทน์ที่ดีที่สุด
เธอมองดูอย่างสงบ รายละเอียดการแกะสลักของเตียงไม้จันทน์ทำได้ดีเลยทีเดียว
“สาวน้อยสนใจเตียงนี้ไหม” ชายคนนั้นยิ้มช้า ๆ “สภาพยังดีอยู่มากเลยนะ”
เขาแสดงความลำบากใจออกมา “ฉันจะขายให้เธอในราคา 50 หยวน”
ลู่ฉิวเยว่สวนกลับไปอย่างเย็นชา “คุณคิดจะโก่งราคาฉันเหรอคะ เตียงนี้จะมีมูลค่า 50 หยวนได้ยังไง 50 หยวนสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ๆ ได้ 2 ชุดแล้วด้วยซ้ำ”
ถ้าเธอเดาไม่ผิด เตียงไม้นี้คงอยู่ที่นี่มานานแล้วเพราะขายไม่ได้ อย่างน้อยเฟอร์นิเจอร์เก่ารอบ ๆ ก็ไม่มีฝุ่นและดูเหมือนมันถูกเช็ดออกไป
มีเพียงเตียงนี้ที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่น ใครๆ ก็ดูออกว่าเจ้าของร้านอยากจะขายมันมากแค่ไหน
ใบหน้าของชายคนนั้นมีความลำบากใจ เขาหลงเข้าใจว่าลูกค้าคนนี้คงจะเป็นผู้หญิงที่โง่เขลา แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ไปเสียได้
“ดูฝีมือของช่างแกะสลักคนนี้สิ ช่างงดงามเหลือเกิน ต้องขาย 40 หยวน” เขาพยายามเกลี้ยกล่อม
ลู่ฉิวเยว่หันศีรษะไปมองเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น “ลืมไปซะเถอะ ฉันขอเลือกอันอื่นดีกว่า”
“เดี๋ยวก่อน สาวน้อย” เจ้าของร้านยืนกราน เตียงไม้นี้ถูกเก็บไว้ที่นี่หลายปี วัสดุที่ใช้ก็ไม่ดี รูปร่างเทอะทะ และขายไม่ได้ราคาดี เขาต้องการกำจัดมันออกไปนานแล้ว
เจ้าของร้านบอกไม่ได้ว่าเป็นวัสดุชนิดใด คิดว่าทำจากไม้เบญจพรรณอะไรประมาณนั้น
“20 หยวน ขาดตัว” ลู่ฉิวเยว่แสร้งทำเป็นหันศีรษะของเธอกลับมาอย่างไม่เต็มใจ
ชายคนนั้นแสดงความลำบากใจ “ราคานี้ออกจะโหดร้ายกับทางเราเกินไปหน่อยนะ”
“ฉันจะซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม” ลู่ฉิวเยว่กล่าว
ในที่สุด การเลือกซื้อโต๊ะและเก้าอี้เก่า ๆ อีกสองสามชุดก็เสร็จสิ้น เธอวางแผนจะวางมันไว้ในร้าน
“เถ้าแก่ ถ้าคุณมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ทำจากไม้ชนิดนี้ โปรดติดต่อฉันได้ทันทีเลยนะ” ลู่ฉิวเยว่คุยกับเขา
มีความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของชายคนนั้น
ลู่ฉิวเยว่ถอนหายใจด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ไม่ใช่ว่าฉันชอบ แต่ผู้อาวุโสในครอบครัวชอบรำลึกถึงคืนวันเก่า ๆ พวกเขาจึงชอบสะสมโต๊ะและเก้าอี้สมัยเก่าเหล่านี้ ฉันอยากปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะลูกกตัญญูจึงอยากซื้อพวกมันไป จะได้ทำให้พ่อแม่มีความสุขน่ะ”
“ถูกต้องแล้ว คนแก่ก็แบบนี้แหละนะ มักจะพูดถึงเรื่องเก่า ๆ เหล่านั้นเสมอ” เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ลู่ฉิวเยว่ให้ที่อยู่กับเขาแล้วกลับบ้าน ร้านยังไม่เปิด เธอจึงต้องไม่ว่างสักพัก
ในตอนบ่าย ณ ร้านเช่าใหม่ของลู่ฉิวเยว่ แม่ของเธอรับหน้าที่ทำความสะอาด
“คุณป้า ที่นี่คือร้านของลู่ฉิวเยว่ใช่ไหม ผมมาส่งเฟอร์นิเจอร์” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม
“ใช่แล้วจ้ะ” หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างจริงใจ “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะจ๊ะ เข้ามาดื่มชาสักถ้วยก่อนสิ”
ก่อนที่ลู่ฉิวเยว่จะจากไป เธออธิบายว่าจะมีคนมาส่งเฟอร์นิเจอร์ในวันนี้
ชายหนุ่มโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า เขายกเตียงแกะสลักไม้จันทน์ขนาดใหญ่ลงจากรถพร้อมกับผู้ชายสองสามคนแล้วจากไป
เมื่อเห็นเตียงขนาดใหญ่แบบเก่าหลังนี้ หญิงวัยกลางคนก็รู้สึกตกตะลึง
ถ้าอยากเปิดร้านใหม่ ก็ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ๆ แล้วลูกสาวของเธอซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสองมาทำไม?
“แม่คะ แม่อยู่หรือเปล่า” ลู่ฉิวเยว่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในขณะที่ผู้เป็นมารดากำลังจ้องมองไปที่เตียงไม้จันทน์แกะสลักตรงหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ
“แม่อยู่นี่ ว่าแต่ลูกซื้อของแบบนี้มาทำไม”
“ความลับ!” ลู่ฉิวเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
เรื่องแบบนี้เธอไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังได้ ดังนั้น ไม่พูดถึงดีกว่า