สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 17 เปิดร้านใหม่ (รีไรท์)
บทที่ 17 เปิดร้านใหม่ (รีไรท์)
บทที่ 17 เปิดร้านใหม่ (รีไรท์)
บางทีอาจเป็นเพราะได้ตัดขาดจากบ้านของคุณย่าใหญ่ รอยยิ้มจึงกลับมาปรากฏบนใบหน้าของลู่ฉิวเยว่และพ่อของเธอมากขึ้น
บางครั้งหญิงสาวถึงกับฮัมเพลงโดยไม่รู้ตัว
“แม่ใจลอยอีกแล้วนะ” ลู่ฉิวเยว่จ้องมองไปยังผู้เป็นแม่ที่ยืนนิ่งเฉยอยู่ตรงหน้า
“อ้อ… จริงด้วยสินะ!” แม่ของเธอกลับมาตั้งสติแล้วรีบหั่นเนื้ออย่างรวดเร็ว
ลูกค้ามารอต่อแถวอยู่หน้าร้านเป็นจำนวนมาก พวกเขาจ้องมองเนื้อที่อยู่บนแผงตาเป็นมัน ในใจต้องการให้คนขายทำให้เร็วขึ้น
ลู่ฉิวเยว่สำรวจดูเนื้อที่เหลืออยู่พลางขมวดคิ้ว จากนั้นโผล่ศีรษะออกไปตะโกนกับกลุ่มลูกค้าว่า “เนื้อหมดแล้วจ้ะทุกคน พรุ่งนี้ค่อยกลับมาใหม่นะ”
“หมดได้ไงเนี่ย นี่ฉันต่อแถวมาตั้งแต่เช้าแล้วนะ ไม่ได้ ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องได้กิน!”
ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรำคาญใจ
“นี่! แซงคิวได้ไง!”
“ถอยกลับไปเลยนะ!”
“คิดจะมาแย่งโร่วเจียโม๋ของฉันเหรอ?!”
คนที่ต่อแถวอยู่ด้านหน้ารู้สึกหงุดหงิด พวกเขาอุตส่าห์ต่อแถวรอคิวมาตั้งแต่เช้า! แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กินเหมือนกัน แล้วจะมาแซงคิวได้อย่างไร!
…
เสียงเอะอะดังขึ้นหน้าแผงขายของ ลู่ฉิวเยว่สังเกตเห็นว่ามีคนพับแขนเสื้อเตรียมจะชกต่อยกันแล้ว
หญิงสาวรีบวิ่งออกไปห้ามด้วยความตกใจ
หลังจากนั้น ใครบางคนก็ไม่รู้ล้มแผงขายอาหารของเธอ ทุกอย่างกระจัดกระจายอยู่บนพื้นเต็มไปหมด
หม้อใส่เนื้อตุ๋นเกือบจะรดใส่แม่ของเธอ ลู่ฉิวเยว่รีบขยับหนีตามสัญชาตญาณแล้วดึงแม่ออกมา
โชคดีที่แม่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
พอมีความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นก็ไม่สามารถขายต่อได้อีกแล้ว
ลู่ฉิวเยว่ไม่มีทางเลือกนอกจากเก็บแผงกลับบ้าน
บรรดาลูกค้าที่ยังไม่ได้กินโร่วเจียโม๋อดถามไม่ได้ว่าวันพรุ่งนี้พวกเขาจะได้กินไหม
ลู่ฉิวเยว่รีบเก็บข้าวของอย่างรวดเร็วพลางจ้องมองน้ำซุปและเนื้อหมูที่หกลงบนพื้นด้วยความเสียดาย
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ครั้งก่อนหน้านี้ถึงกับมีคนชกต่อยกัน เรื่องราวบานปลายไปถึงสถานีตำรวจ
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานคงเป็นปัญหาแน่
คงต้องคิดแผนการรองรับอนาคตแล้วสิ
ตลอดทางกลับบ้าน ลู่ฉิวเยว่ใช้ความคิดอย่างหนัก ในที่สุดก็ตัดสินใจไปหาทำเลเช่าร้านขายของอย่างเป็นทางการในตัวเมือง
ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือทำเลที่ตั้งต้องดี ยิ่งมีคนเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสมีลูกค้าเยอะเท่านั้น
หากมีฝีมือการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมและทำเลที่เหมาะสม ลู่ฉิวเยว่ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะขายไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อกลับไปถึงบ้านตอนทานอาหารค่ำ ลู่ฉิวเยว่ก็บอกความคิดของตนเองออกไป เกือบทุกคนสนับสนุนเธอหมด ยกเว้นแม่ที่ยังลังเล การเปิดร้านต้องใช้ทุนมาก เธอยังไม่พร้อมที่จะเสี่ยง
แต่ลู่ฉิวเยว่ไม่รออะไรอีกแล้ว
ลู่ฉิวเยว่ทำในสิ่งที่ได้พูดเอาไว้ วันต่อมา หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เธอก็เดินทางเข้าเมืองไปเพียงลำพัง
เธอต้องตรวจสอบตลาดก่อนเป็นอย่างแรก
หลังจากเดินวนรอบตลาดอยู่นาน ลู่ฉิวเยว่ก็ให้ความสนใจที่ร้านค้าใกล้กับทางเข้าตลาด เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับทางเข้าตลาด จึงมีผู้คนมากมายสัญจรในแต่ละวัน
ไม่ใกล้ไม่ไกลมีร้านขายโร่วเจียโม๋อยู่ 2 ร้านเช่นเดียวกับร้านขายของกินเล่นอื่น ๆ แม้ว่าอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งกันได้ แต่สำนักงานของผู้จัดการตลาดก็อยู่ไม่ไกล
การเปิดร้านเป็นเรื่องใหญ่และมีความซับซ้อนมากกว่าการตั้งแผงขายของข้างถนน ลู่ฉิวเยว่เดินวนกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบ เธอเจอทำเลร้านดี ๆ อีก 2 ร้าน แต่เจ้าของร้านไม่ยอมปล่อยเช่าต่อ
ลู่ฉิวเยว่จึงตัดสินใจว่าจะกลับมาเช่าร้านที่อยู่ตรงทางเข้าตลาด
ราคาค่าเช่าแพงมาก แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เธอรับไหว
พอประตูร้านเปิดออกกว้าง เธอก็เห็นสภาพภายในร้านตั้งแต่กวาดตามองครั้งแรก
ผนังร้านถูกทาเป็นสีขาว สภาพร้านได้รับการปรับปรุงใหม่ ภายในร้านไม่มีของอะไรนอกจากโต๊ะและเก้าอี้ไม้สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน
ที่นี่มีพื้นที่ขนาด 50 ตารางเมตร ลู่ฉิวเยว่พยักหน้าด้วยความพอใจ
“คุณผู้หญิงมาหาเช่าร้านหรือคะ?” หญิงชราในชุดเรียบร้อยคนหนึ่งกำลังกวาดพื้นอยู่ข้าง ๆ เมื่อหันมาเห็นลู่ฉิวเยว่จึงทักทายอย่างอบอุ่น
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มตอบอย่างสุภาพพลางพยักหน้า
หญิงชราหันกลับไปตะโกนเรียกคนในร้าน “เฉินซุนเหยียน มีคนอยากดูร้านน่ะ!”
“เข้าใจแล้ว จะตะโกนทำไมเนี่ย หนวกหูชะมัด!” เสียงของหญิงอีกคนตอบกลับมาอย่างรำคาญใจ
ผู้ที่เดินออกมาเป็นหญิงวัย 50 ปี โหนกแก้มสูง ร่างอ้วน ปากเปื้อนคราบมันยังไม่ได้เช็ดทำความสะอาด เนื้อตัวดูเป็นประกายมันเลื่อมภายใต้แสงตะวัน
“คนไหนล่ะ?”
“คุณผู้หญิงคนนี้ไง” หญิงชราถือไม้กวาดชี้มือมาที่ลู่ฉิวเยว่ซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง
เฉินซุนเหยียนมีสีหน้าไม่รับแขกขึ้นมาทันที “ล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย?”
เธอจ้องมองลู่ฉิวเยว่ด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะหญิงสาวตรงหน้าสวมใส่เสื้อยืดราคาถูก กางเกงก็มีรอยปะขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะทำความสะอาดอย่างไรก็ไม่สามารถซ่อนเร้นกลิ่นอายของความยากจนได้อยู่ดี คนจนอย่างนี้จะมาเช่าร้านของเธอได้อย่างไร!
ลู่ฉิวเยว่ขมวดคิ้ว นึกไม่ชอบใจสายตาที่อีกฝ่ายมองมา
“ใช่ค่ะ ฉันเอง”เธอจ้องมองหญิงเจ้าของร้านด้วยสายตาจริงจัง “ฉันมีเงินจ่ายนะ คุณไม่จำเป็นต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นก็ได้”
ในชาติที่แล้ว ลู่ฉิวเยว่เคยจัดการพวกคนรวยที่หยิ่งยโสมาหลายคนแล้ว
คนพวกนี้ชอบโจมตีปมด้อยของคนอื่น แต่ถ้าถูกตอบโต้กลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ คนรวยเหล่านี้ก็จะโกรธแค้นจนอกแตกตายไปเอง
“เธอ!” เฉินซุนเหยียนรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกตอบโต้กลับมาด้วยวาจาอันแข็งกร้าวจึงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “ค่าเช่าร้านฉันเดือนละ 80 หยวน เธอมีปัญญาจ่ายหรือเปล่าล่ะ?”
ต่อให้เป็นคนที่มาทำงานอยู่ในตัวเมืองก็ยังได้เงินเดือนเพียงเดือนละ 60 หยวนเท่านั้น แล้วสาวบ้านนอกอย่างผู้หญิงคนนี้จะจ่ายค่าเช่าไหวได้อย่างไร
ลู่ฉิวเยว่ไม่สนใจสายตาเหยียดหยามของอีกฝ่าย เธอเชิดหน้าขึ้นตอบว่า “ไปเอาสัญญามาเซ็นได้เลย”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไม่มีร้านอื่นยอมให้เช่าแล้ว ลู่ฉิวเยว่ไม่มีทางมาเช่าร้านของหญิงผู้นี้เด็ดขาด
ผู้หญิงคนนี้ต้องการจะเช่าร้านจริง ๆ งั้นเหรอ?
เฉินซุนเหยียนตกตะลึงก่อนจะขอให้หญิงสาวมานั่งพูดคุยกันด้วยความสงสัย
อาจจะเป็นเพราะว่าลู่ฉิวเยว่ตกลงง่ายเกินไป เฉินซุนเหยียนจึงรู้สึกขัดใจขณะผายมือให้หญิงสาวดูรอบร้าน “เธอก็เห็นแล้วนะว่าร้านฉันใหญ่ขนาดไหน… กำแพงเพิ่งจะทาสีใหม่ สงสัย 80 หยวนคงไม่พอแล้ว นั่นมันค่าเช่าเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้คงต้องเพิ่มแล้วล่ะ”
“80 หยวนก็เยอะแล้วนะคะ ฉันไปสืบราคามาแล้ว ร้านข้าง ๆ ที่ใหญ่กว่าร้านคุณยังให้เช่าแค่เดือนละ 75 หยวนเลย ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันเช่า ฉันไม่เช่าก็ได้” ลู่ฉิวเยว่พูดด้วยสีหน้าขึงขัง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากร้าน
เฉินซุนเหยียนรีบดึงแขนหญิงสาวกลับมาแทบไม่ทัน “อย่าเพิ่งไปสิ 80 ก็ 80 ถือว่าลดราคาให้เธอเลยนะ!”
ร้านปล่อยเช่ามา 2 อาทิตย์แล้ว ในที่สุดก็มีคนมาเช่าสักที แล้วเธอจะปล่อยไปได้อย่างไร
คราบมันเยิ้มจากมือเฉินซุนเหยียนเปื้อนเสื้อขาวของลู่ฉิวเยว่ หญิงสาวรู้สึกรังเกียจจนต้องสะบัดมือออกทันที
ในที่สุดลู่ฉิวเยว่ก็สามารถเช่าร้านได้ในราคา 80 หยวน
แต่ก็ยังคงต้องมีเรื่องให้จัดการอีกมากมายก่อนจะเปิดร้าน เช่น การหาโต๊ะหาเก้าอี้ หาหม้อต้มและกระทะ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ลู่ฉิวเยว่กลับมาเปิดแผงขายของหน้าโรงงานในวันต่อมาเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทุกคนทราบว่าตนเองกำลังจะไปเปิดร้านใหม่อยู่ในตัวเมือง
สิ่งที่ลู่ฉิวเยว่เป็นกังวลมากที่สุดคือขั้นตอนการขอใบอนุญาตเปิดร้านอาหาร รวมถึงขั้นตอนการรับรองความสะอาด
หากเป็นในสถานการณ์ปกติ ขั้นตอนนี้คงกินเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ซึ่งถือว่านานเกินไป เธอรอไม่ไหวแน่