สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย - บทที่ 987 ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ลูกของข้า
บทที่ 987 ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ลูกของข้า
บทที่ 987 ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ลูกของข้า
“แน่นอนว่าย่อมเป็นคุณหนูสี่ของฮูหยินรอง” แม่สื่อเฉียนเอ่ยชื่อออกมาตามตรง ไม่มีการแย้มพรายใด ๆ
ฮูหยินรองสิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
นางรีบข่มรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาลงไปทันที เลี่ยงไม่ให้ตนดูกระตือรือร้นจนเกินไป
“เจ้าสี่ของเราได้รับความสนใจจากฮูหยินฉี ช่างรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “เพียงแต่ไม่รู้ว่า คุณชายท่านใดที่ฮูหยินฉีทาบทามสู่ขอให้หรือเจ้าคะ? ข้าได้ยินว่าที่จวนท่านมีคุณชายที่ถึงวัยแต่งงานสองท่านด้วยกัน”
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว ไม่ใช่ลูกของข้า” ฉู่หนิงจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ามาสู่ขอให้รองแม่ทัพหลินข้างกายสามีข้าน่ะ”
“รองแม่ทัพหลิน?” ฮูหยินรองสิงพลันประหลาดใจขึ้นมา “รองแม่ทัพหลินผู้นี้คือ…”
“รองแม่ทัพหลินเป็นมือขวาของท่านพี่ ติดตามร่วมรบในสมรภูมิกับเขามามากกว่าสิบปี กล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง ในงานแต่งจวนหัว เขาได้พบกับคุณหนูสี่สิง ตื่นตะลึงกับความงดงามของนาง จึงเริ่มคิดอยากจะสร้างครอบครัว”
“ไม่รู้ว่าภูมิหลังครอบครัวของรองแม่ทัพหลินเป็นอย่างไรหรือ” รอยยิ้มบนใบหน้าฮูหยินรองสิงเหือดหายไป
แม่ทัพผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นแม่ทัพข้างกายฉีเจิน ฟังดูแล้วเหมือนกับทาสรับใช้ หากมีภูมิหลังครอบครัวก็แล้วไปเถิด เพราะยังสามารถเลื่อนขั้นขึ้นไปได้เรื่อย ๆ แต่หากไม่มีภูมิหลังครอบครัว นั่นก็เป็นการหยามเกียรติสกุลสิงแล้ว
“รองแม่ทัพหลินเป็นเด็กกำพร้า เติบโตมากับท่านพี่ เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่สามีข้าไว้ใจมากที่สุด ภูมิหลังครอบครัวของเขาแน่นอนว่าเป็นสกุลฉีเรา ท่านพี่ไม่เพียงเห็นเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา หากแต่ยังเห็นเขาเป็นพี่น้อง” ฉู่หนิงจูกล่าว “ข้าเข้าใจว่าฮูหยินกังวลอะไร ท่านกังวลว่าแม่ทัพทหารจะเป็นคนหยาบกระด้างไม่รู้จักดูแลผู้อื่น ทว่าข้าคิดว่านั่นแตกต่างกันไปในแต่ละคน รองแม่ทัพหลินเป็นผู้ที่รู้จักเอาใจใส่ เป็นบุรุษที่ไม่เลวผู้หนึ่ง”
“ฮูหยิน เรื่องใหญ่เพียงนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจได้ด้วยตนเองจริง ๆ มิเช่นนั้นเอาอย่างนี้ รอสามีข้ากลับมา พวกเราปรึกษากันเสียก่อน ยิ่งกว่านั้น เรื่องที่บ้านนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นจึงต้องรายงานกับฮูหยินผู้เฒ่า”
หลังจากได้ยินสถานการณ์ของรองแม่ทัพหลิน แม้กระทั่งความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดของฮูหยินรองสิงก็หายไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะสถานะของฉู่หนิงจูทำให้นางไม่กล้าล่วงเกิน ยามนี้คงไม่ต้องเชิญแขกกลับไปด้วยรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งเสียกว่าร้องไห้เช่นนี้
“เช่นนั้นก็ดี ฮูหยินค่อย ๆ หารือ ไม่ต้องรีบร้อน อีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงน้ำชาชมบุปผา ถึงคราวนั้นพวกเรามาพบกันอีกครั้งก็ได้” ฉู่หนิงจูลุกขึ้นยืน
สิงเจียเวยเดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ของนาง
ครานี้นางแต่งกายอย่างประณีตงดงาม หากไม่คำนึงถึงนิสัยแล้วตัดสินจากใบหน้าก็นับว่าเป็นหญิงงามทีเดียว
“คารวะฮูหยิน” สิงเจียเวยน้อมคำนับฉู่หนิงจู
ฉู่หนิงจูยิ้ม “ไม่ต้องมากพิธี คุณหนูสี่งดงามบอบบางยิ่งกว่าบุปผาจริง ๆ”
“ฮูหยินชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” สิงเจียเวยเอ่ยอย่างเขินอาย
“ฮูหยินรอง ขอตัวแล้ว” ฉู่หนิงจูพยักหน้าให้ฮูหยินรองสิง ก่อนจะหมุนกายจากไป
“ท่านแม่…” สิงเจียเวยเข้าไปกอดแขนของฮูหยินรองสิง “สกุลฉีมาทาบทามสู่ขอหรือเจ้าคะ?”
ยามนี้ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาแฝงแววเย่อหยิ่งทะนงยิ่งกว่าเดิม
สิงเจียซือถูกสกุลหัวเห็นเป็นตัวตลก ทว่านางกลับได้พบกับการแต่งงานที่ดี มิหนำซ้ำยังดียิ่งกว่าสิงเจียซือ
“เจ้าดีใจอะไรกัน?” ฮูหยินรองสิงเอ่ยอย่างฉุนเฉียว
สิงเจียเวยเห็นฮูหยินรองสิงมีท่าทีผิดแปลกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของนางจึงจางลง พลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “หรือว่าพวกเขาไม่ได้มาทาบทามสู่ขอข้า?”
“สู่ขอเจ้าน่ะใช่” ฮูหยินรองสิงนั่งลงพลางยกมือขึ้นนวดคลึงขมับตนเอง
“หรือว่าพวกเขามาสู่ขอให้บุตรนอกสมรสสกุลฉีผู้นั้น?” สิงเจียเวยเบ้ปาก “ท่านแม่ ข้าไม่อยากแต่งงานกับบุตรนอกสมรส”
ในฐานะบุตรสาวภรรยาเอกสกุลสิง นางยังต้องการรักษาหน้าตาเอาไว้
พี่หญิงน้องหญิงก่อนหน้านี้ล้วนแต่งกับบุตรชายภรรยาเอกหรือไม่ก็หลานชายคนโต หากนางแต่งกับบุตรนอกสมรส เช่นนั้นนางยังจะมีหน้าไปพบผู้อื่นอีกหรือ?
“ถึงเจ้าอยากจะแต่งกับบุตรนอกสมรสก็ไม่มีทางได้แต่ง” ฮูหยินรองโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ “เจ้าดูถูกบุตรนอกสมรสสกุลฉี อีกฝ่ายก็ไม่ได้ชอบเจ้านักหรอก! พวกเขาไม่ได้มาสู่ขอให้คุณชายสกุลฉี หากแต่เป็นรองแม่ทัพผู้หนึ่ง”
“รองแม่ทัพ? รองแม่ทัพอะไร?”
“ผู้ใดจะรู้เล่า? แซ่หลินอะไรสักอย่าง” ฮูหยินรองสิงเอ่ย “ครั้งนี้พวกเขาคงมาเพื่อดูเจตนาของเรา หากเรามีท่าที พวกเขาจึงจะพารองแม่ทัพหลินมาที่นี่”
“ท่านแม่ ข้าไม่อยากแต่งให้รองแม่ทัพอะไรนั่น” สิงเจียเวยโมโห “สกุลฉีหมายความว่าอย่างไร? ในเมื่อไม่ได้สู่ขอให้คนสกุลตนเอง เช่นนั้นเหตุใดต้องมาสู่ขอด้วยตนเองเล่า? ฮูหยินสกุลฉีว่างมากหรือ?”
“เอาละ การแต่งงานครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น เจ้าไม่ต้องกังวลเพียงนั้น” ฮูหยินรองสิงกล่าว “เรื่องแย่ ๆ เช่นนี้ข้าไม่อยากกล่าวถึงเสียด้วยซ้ำ พ่อเจ้ากับท่านย่าเจ้าก็ไม่ต้องบอกกล่าวแล้ว”
ปรึกษาหารือกับผู้อาวุโสในบ้านอะไรกัน นั่นเป็นเพียงข้อแก้ตัวเท่านั้น นางมีลูกสาวผู้นี้เพียงคนเดียว จะให้แต่งกับคนไร้สถานะเช่นนั้นได้อย่างไร?
สิงเจียเวยมองอาภรณ์ที่บรรจงแต่งกายมา “ช่างเสียเวลาเปล่าจริง ๆ”
เมื่อได้ยินว่ามีคนจากสกุลฉีมาทาบทามสู่ขอ นางก็พิถีพิถันแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างดี ผลที่ได้กลับเป็นแต่งให้ลิงดู
นายท่านรองสิงผู้ที่ไม่ได้กลับมาที่จวนนานกว่าครึ่งเดือนกลับมาในสภาพเมามาย
เพิ่งกลับมาถึงจวน เขาไม่ได้ตรงไปยังห้องอนุอย่างหาได้ยาก หากแต่ตรงดิ่งไปที่ห้องฮูหยินรองสิง
ฮูหยินรองสิงที่ปกติแล้วเห็นเขาหน้าบูดบึ้งไม่พอใจผู้ใดอยู่ตลอดเวลา บัดนี้กลับเห็นเขาเอาใจใส่นางอย่างหาได้ยากจึงพิถีพิถันอาบน้ำในอ่างที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากนั้นเยื้องย่างเข้าไปในห้องนอนด้วยผมยาวปล่อยสยายลงมา
ครั้นเห็นนายท่านรองสิงนอนกรนอยู่ตรงนั้น นางพลันกรุ่นโกรธ หยิบเอาเข็มปักผ้าออกมาคิดจะใช้มันทิ่มเขาเสีย ทว่าท้ายที่สุดก็ข่มอารมณ์โกรธลงไป เก็บเข็มปักผ้ากลับไปไว้ที่เดิม
นางเตะนายท่านรองสิงเข้าเต็มรักหนึ่งที
นายท่านรองสิงผลุนผลันลุกขึ้นนั่ง เหลียวมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทีตื่นตระหนก กล่าวพึมพำ “เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดตีข้า?”
“ข้าตีเอง” ฮูหยินถลึงตาจ้องมองเขา “ท้องท่านเต็มไปด้วยน้ำเมา ไม่ไปหาอนุคนโปรดของท่านเล่า ไยต้องวิ่งมาสร้างความเดือดร้อนให้ข้าถึงที่นี่”
นายท่านรองสิงนึกถึงฮูหยินรองสิงจึงโงนเงนลุกขึ้นนั่ง แล้วโบกมือให้นาง “กลับมาแล้วหรือ! รีบมานี่ ๆ ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
ฮูหยินรองสิงเบ้ปาก “มีเรื่องอะไร?”
นายท่านรองสิงตบลงบนเตียงปุ ๆ “นั่งลงสิ”
ฮูหยินรองสิงจ้องมองเขาอย่างเคือง ๆ แล้วนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะกล่าวเสียงนุ่ม “นั่งแล้ว ยังจะทำอะไรอีก?”
นายท่านรองสิงกล่าว “วันนี้มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น”
“เรื่องดี ๆ อะไรหรือ?” ฮูหยินรองสิงโน้มตัวเข้าไป คว้าแขนเขามากอด แล้วมองเขาด้วยสายตาหวานเชื่อม
“ตาเจ้าเป็นอะไรไป?” นายท่านรองสิงเห็นนางกะพริบตาไม่หยุดจึงเอ่ยด้วยความงุนงง “หากรู้สึกไม่สบายที่ใดก็ไปรักษาโดยเร็ว อย่าได้รอช้า ไม่เช่นนั้นจะไม่ดีต่อสุขภาพ”
ฮูหยินรองสิงบิดแขนเขาอย่างแรงหนึ่งที
“โอ๊ย สตรีผู้นี้ เจ้าช่างใจไม้ไส้ระกำจริง ๆ ข้านายท่านผู้นี้เป็นห่วงเจ้า เจ้ายังจะบิดเนื้อตัวข้าอีก”
“ท่านกลับมาทำอะไรที่นี่กันแน่?” ฮูหยินรองสิงมองออกแล้ว นายท่านรองสิงเดิมทีก็ไม่ได้สำนึกเรื่องที่เขาละเลยนางผู้เป็นภรรยาแม้แต่น้อย หากแต่มีเรื่องจะกล่าวจริง ๆ
เมื่อครู่นางทำไปมากมายเพียงนั้น นับว่าทำให้คนตาบอดดูเสียแล้ว
“วันนี้ข้าหาคู่ครองดี ๆ ให้เจ้าสี่ได้แล้ว” นายท่านรองสิงเอ่ยอย่างภาคภูมิใจราวกับกำลังรอรับคำชมเชย
ไม่รู้ด้วยเหตุใด ฮูหยินรองสิงกลับไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
“สกุลใด?”
—————————————————-