สักวัน, ฉันจะได้หลับไหล - ตอนที่ 4 เหลือเพียงเสียงกรีดร้อง
– 10 นาทีที่แล้ว –
ฉันรีบเดินข้ามลานจอดรถเพื่อตามหลังชิโอริ
แต่ย่างก้าวที่เดินตามก็เริ่มหนักขึ้นๆ ระยะทางระหว่างฉันกับชิโอริเริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆ พอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าฉันกำลังยืนมองพื้นคอนกรีตอยู่นิ่งๆ
“ทำยังไงดี…”
ทำให้ชิโอริโกรธเสียแล้ว
ที่ชิโอริพูดนั้นมันก็ถูกแล้วว่า ฉันรักเรน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่สามารถพูดขอคำปรึกษากับชิโอริออกมาได้
มันไม่แปลกหรอกที่ชิโอริจะโกรธอย่างนั้น ถ้าฉันโดนทำแบบนี้ใส่เหมือนกันก็คงโกรธไม่ต่างกัน ฉันเศร้าและโกรธตัวเองในใจจริงๆ
ฉันรักเรนนะ แต่ในใจไม่อยากที่จะยอมรับ ความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนี้ควรจะอธิบายออกมาอย่างไรดี…?
ถ้ากลับไปที่รถบัสห้องเรียนของฉันก็แน่นอนว่าชิโอริและเรนจะต้องกลับมานั่งด้วยเช่นกัน แม้ว่าชิโอริจะนั่งอยู่ที่ด้านท้ายๆ กว่าฉันก็เถอะ
ในกลุ่มนักเรียนที่กลับมาบนรถใกล้หมดแล้วนั้นมีชิโอรินั่งอยู่ พอฉันหันไปหาได้เห็นว่าเธอกำลังมองออกนอกหน้าต่างโดยไม่มีท่าทีที่จะมองฉันแม้แต่นิดเดียว
ฉันที่นั่งอยู่แล้วก็คิดอยากจะไปขอโทษชิโอริเลยจะลุกไปหาแต่รถบัสดันเคลื่อนตัวออกเสียก่อนอย่างไม่มีเยื่อใย
ฉันเลยถอนหายใจแล้วกลับไปนั่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง …ไม่ชอบเลยที่ตอนนี้ดูเหมือนพวกเรากำลังทะเลาะกันอยู่
จริงอยู่ที่เมื่อกี้ฉันเอาแต่พูดเรื่องของเรนอย่างเดียว แต่ถึงอย่างนั้นชิโอริก็ว่าฉันแรงไป โดนขึ้นเสียงโกรธขนาดนั้นมันไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ
“ไม่ต้องพูดถึงขนาดนั้นก็ได้…ว่า ‘ไม่ได้คิดว่าเป็นเพื่อนกัน'”
ฉันพูดพึมพำด้วยความรู้สึกหมองๆ และทันใดนั้น
“เกิดอะไรขึ้น?”
เรนที่นั่งเอียงขวางทางเดินอยู่หันมาถามที่ฉัน
พอได้เห็นใบหน้าของเรน ประโยคที่เขาพูดอย่าง ‘น่ารักๆ’ เมื่อกี้ได้ลอยขึ้นมาบนหัว อุณหภูมิร่างกายของฉันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“มะ…ไม่มีอะไร…”
เรนที่เห็นฉันพูดงึมงำก็ยักไหล่แล้วหันไปทางอื่นเสียแล้ว พอฉันเอามือสองมือแตะไปที่แก้มรู้สึกได้เลยว่าหน้าของฉันยังร้อนอยู่
ฉันเนี่ยมันดูออกง่ายจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่ชิโอริดูฉันออก …อ้าาา ยิ่งรู้สึกเกลียดตัวเองเข้าไปใหญ่อีก
รถบัสวิ่งเข้าสู่ทางด่วนด้วยความเร็วที่เร็วขึ้น
พวกเราไปช้ากว่าเวลานัดหรือเปล่าถึงรถบัสได้วิ่งส่ายซ้ายขวาไปมาบนเลนถนน ส่วนตัวของฉันก็ส่ายตามรถด้วยเช่นกัน
“ขับน่ากลัวไปไหม?”
นักเรียนที่นั่งข้างริมกระจกทำหน้ากังวลแล้วมองมาที่ฉัน
“อืมหืม…”
มันก็จริง เพราะว่าตั้งแต่เมื่อกี้รู้สึกได้ว่าผ้าม่านสั่นไหวอย่างรุนแรงมาก
ตัวฉันที่พยายามจะเอาลำตัวออกไปดูด้านหน้าได้พบปะกับสายตาของเรนที่กำลังหันกลับมาที่ฉัน
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ไม่ได้เป็นอะไร”
ฉันยิ้มโดยไม่รู้ตัว ในระหว่างนั้นภาพด้านหน้าของรถบัสที่ฉันเห็นทำให้ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา
รถยนต์นับหลายคันที่อยู่ตรงหน้ารถบัสนั้นไหลผ่านตัดไปด้านข้าง ฉันเห็นเหตุการณ์นั้นอย่างช้าๆแบบสโลโมชั่น
…เอ๊ะ? ทำไม รถวิ่งตัดข้างแบบนั้นบนทางด่วน?
หลังจากที่ความคิดนั้นผุดขึ้นไม่นานก็ได้ยินเสียงทุ้มๆดังขึ้น ควันโขมงขึ้นอย่างรวดเร็วที่ช่วงหน้าของรถ ทันใดนั้นได้ยินเสียงเหล็กดังเข้ามาที่หูตามด้วยเสียงแตรรถ
*เอี้ยดๆๆ! โคร่ม!*
ตาของฉันหลับลงโดยไม่รู้ตัวจากเสียงดังมากมาย จากนั้นร่างของฉันก็ถูกเหวี่ยงลงไปที่ทางเดิน
“กรี้ดดดดดด!!!”
ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องทั้งจากใกล้และไกล
ฉันลุกขึ้นแล้วคว้าจับไปที่เก้าอี้ ด้านนอกกระจกนั้นฉันได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ กำแพงทางด่วนกำลังใกล้เข้ามาหาพวกเรา
ซึ่งภาพนั้นเปรียบเสมือนสัตว์ประหลาดที่พยายามจะไล่ล่าจับตัวของฉันที่ไม่สามารถละสายตาจากมันได้ แล้วกำแพงนั้นได้พุ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
“!!”
“จะชนแล้ว!?”
*ตึ้มม! ตึกๆๆๆ!*
ด้วยแรงปะทะที่รุนแรง เสียงของฉันได้กลายเปลี่ยนไปเป็นเสียงหวีดร้อง