เช้าวันต่อมา…มัทนาแต่งตัวจะออกไปทำงานที่บริษัทที่แมทธิวจัดการฝากฝังงานให้ แต่บิดาของหล่อนที่วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน เดินมาขวางหน้าเอาไว้
“อ้าว พ่อ…ยังไม่ไปทำงานเหรอคะ”
“พ่อมีเรื่องจะขอร้องแกน่ะ”
สีหน้าของพ่อทำให้หล่อนใจคอไม่สู้ดีนัก “เรื่องอะไรเหรอคะพ่อ บอกมาเถอะ เดี๋ยวมัทจะช่วยเอง”
“แกรับปากนะว่าจะช่วยพ่อ”
“รับปากค่ะ มัทจะช่วยพ่อทุกอย่าง”
หล่อนให้คำมั่นกับบิดา และมันก็พอจะทำให้สีหน้าเคร่งเครียดของท่านจางลงเล็กน้อย หล่อนดีใจที่เห็นแบบนั้น
“พ่อมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ”
บิดาของหล่อนทำท่าเหมือนลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกมา
“พ่ออยากให้แกไปพบคนคนหนึ่ง”
“ใครเหรอคะ”
“เพื่อนของพ่อเองน่ะ นี่แผนที่ร้าน” แล้วพ่อก็ยื่นแผ่นกระดาษสีขาวครึ่งเอสี่ให้หล่อน “ช่วยพ่อหน่อยนะ พ่อไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”
มัทนารับกระดาษสีขาวที่มีแผนที่อยู่ในนั้นขึ้นมามองด้วยสีหน้างงงวย
“ร้านนี้มัน…”
“ร้านของเพื่อนข้านี่แหละ แกไปหาเขานะ คุยกับเขาสักหน่อย แล้วค่อยกลับ”
“แต่มัทไม่รู้จักเพื่อนของพ่อเลยนะคะ แล้วก็ไม่รู้จะคุยอะไรด้วย”
“ก็คุยเรื่องของข้าไง พอดีข้าขอความช่วยเหลือจากเขาเอาไว้น่ะ”
คนฟังยิ่งไม่เข้าใจ “แล้วทำไมพ่อไม่ไปเองล่ะคะ หรือว่าไปกับมัทก็ได้นี่ เราไปด้วยกัน”
“พ่อไม่ค่อยสบายน่ะ คงไปไม่ไหว แกไปคนเดียวเถอะ”
“แต่ว่าพ่อคะ”
“หรือแค่นี้แกทำเพื่อข้าไม่ได้ ไหนว่าจะทำทุกอย่างให้ข้าสบายใจยังไงล่ะ”
มัทนาสีหน้าไม่สู้ดีเลย “มัทก็แค่สงสัยน่ะพ่อ แล้วก็กลัวๆ ด้วย มัทไม่เคยรู้จักเพื่อนพ่อมาก่อน”
มนตรียกมือขึ้นวางบนบ่าบอบบางของลูกสาว
“มันไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรเสียหาย แกจะสบายไปทั้งชาติ เชื่อคำพูดของพ่อเถอะ”
“พ่อพูดเหมือนกับว่า…”
“ไม่มีอะไรหรอก ไปได้แล้ว”
พ่อของหล่อนไม่เปิดโอกาสให้หล่อนปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ ช่วงบ่ายได้ไหมคะ พอดีตอนเช้ามัทจะต้องไปทำงาน ได้งานเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ”
“ไม่ต้องไปทำงานแล้วล่ะ แกกำลังจะได้นั่งกินนอนกินไปทั้งชาติ”
“พ่อพูดอะไรคะ”
มนตรีไม่อยากให้ลูกสาวตื่นตกใจจึงรีบตัดบท “ไปได้แล้ว รถแท็กซี่จอดรอนานแล้ว”
“รถแท็กซี่?”
“ข้าเรียกมาให้เองนั่นแหละ ไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
หล่อนเดินออกจากบ้านมาด้วยความมึนงง และก็เห็นรถแท็กซี่จอดรออย่างที่บิดาว่าจริงๆ
“เชิญครับ”
คนขับรถแท็กซี่เปิดประตูให้หล่อน และหล่อนก็จำเป็นต้องก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ และยอมให้รถแท็กซี่พาหล่อนออกไปจากบ้านอย่างไม่มีทางเลือก
ก็แค่ไปพบเพื่อนของพ่อ ทำไมหล่อนจะต้องรู้สึกกังวลแปลกๆ แบบนี้ด้วยนะ
มนตรีมองตามท้ายรถแท็กซี่ที่ลูกสาวนั่งไปจนลับตา ก่อนจะต่อสายหาใครบางคน
“ยัยมัทกำลังไปหาเสี่ยครับ เอ่อ…ผมหวังว่าเสี่ยจะจริงจังกับลูกสาวของผม อย่างที่รับปากกับผมเอาไว้นะครับ”
“มันแน่นอนอยู่แล้วคุณมนตรี…ผมจะเลี้ยงดูลูกสาวของคุณอย่างดีที่สุดให้สมกับเงินยี่สิบล้านที่ผมเพิ่งเสียให้คุณไปไง”
มนตรีรู้สึกอับอายและละอายใจมากๆ แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก
“ลูกสาวผมยังเด็ก เสี่ยอย่ารุนแรงกับแกนะครับ”
“ผมจะพยายาม…แค่นี้ก่อนนะคุณมนตรี ผมกำลังฟิตร่างกายเพื่อต้อนรับการมาเยือนของลูกสาวคุณอยู่”
“เสี่ย…เสี่ยครับ…”
แม้มนตรีจะตะโกนเรียกยังไง แต่คู่สนทนาผู้ร่ำรวยที่เขาได้ตัดสินใจมอบมัทนาให้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับจำนวนเงินยี่สิบล้านบาทก็ตัดสายไปเสียแล้ว
“มัท…พ่อขอโทษ…”
โทรศัพท์ในมือสั่นเพราะมีข้อความเข้ามา คนที่นั่งนิ่งอย่างใช้ความคิดอยู่ในรถแท็กซี่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ยิ่งกดดูข้อความแล้วพบว่าเป็นของแมทธิวก็ยิ่งปวดหัวหนัก
หมอนี่จะยกเลิกงานที่หล่อนอยากได้หรือเปล่านะ หล่อนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล มองข้อความในโทรศัพท์มือถือของตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะตัดสินใจตอบเขาไปตามความจริง
หากบอกความจริงแล้วเขายังไม่เห็นใจหล่อน ก็ถือว่าหล่อนไม่มีวาสนาจะได้งานดีๆ แบบนั้นก็แล้วกัน หล่อนถอนหายใจแผ่วเบา ขณะจิ้มนิ้วกดตอบข้อความของแมทธิว
‘ฉันขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหม พอดีฉันมีธุระด่วนน่ะ ขอโทษนายด้วยนะ’
‘มีธุระด่วนที่โรงพยาบาลใช่ไหมล่ะ’ ข้อความของแมทธิวส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
‘ไม่ใช่สักหน่อย นี่คิดอะไรให้เหมือนออกมาจากสมองหน่อยสิ นาย แมทธิว’ หล่อนส่งข้อความตอบกลับไป
‘ฉันไม่เชื่อเธอหรอก ถ้าไม่มาวันนี้ เธอก็ไม่ต้องมาอีกเลย’
‘ถ้านายจะไม่หล่อแล้วยังจะใจร้ายอีกก็ตามใจ เพราะฉันไม่ได้อยากผิดนัด ฉันแค่ต้องไปทำธุระด่วนให้พ่อจริงๆ’ หล่อนตัดพ้อเขาไปทางข้อความ น้ำตาซึม ยัดโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าสะพายอย่างโมโห
“ไอ้คนใจดำ ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง”
ติ๊ด…เสียงข้อความเข้าอีกครั้ง
‘ธุระอะไร ที่ไหน ส่งโลเคชั่นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้’
หล่อนมองข้อความแล้วสะบัดหน้าอย่างโมโห “คนบ้า ใจดำแล้วยังจะเจ้ากี้เจ้าการอีก”
ติ๊ด…เสียงข้อความจากแมทธิวเข้ามาอีกครั้ง หล่อนถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะจิ้มตอบกลับไป
‘แล้วนายมายุ่งกับฉันทำไม เอาเวลาไปหลีสาวเถอะ’
‘ถ้าไม่ส่งโลเคชั่นมาให้ฉัน เธอชวดงานนี้แน่ ส่งมาเร็วๆ เข้า’
เขาส่งข้อความมาข่มขู่ไม่หยุด
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง และก็ไม่เข้าใจตัวเองนัก ว่าทำไมจะต้องทำตามคำสั่งของแมทธิวด้วย
รถแท็กซี่แล่นมาจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีลักษณะโอ่อ่าแต่ค่อนข้างมิดชิด แถมด้านหน้ายังมีผู้ชายใส่ชุดสูทสีดำยืนอยู่ทุกจุด นิ้วเรียวจิ้มส่งโลเคชั่นให้กับคนปลายทางทันที
“ถึงแล้วครับ”
หล่อนมองไปรอบๆ อย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะหันมาพูดกับคนขับรถแท็กซี่
“รบกวนรอสักครู่ได้ไหมคะ ฉันเข้าไปไม่นานหรอกค่ะ”
“ผมต้องไปรับลูกค้าอีกที่น่ะครับ คงรอไม่ได้”
มัทนาเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่หล่อนก็ฝืนยิ้ม พร้อมกับยื่นธนบัตรค่าโดยสารให้
“คุณพ่อของคุณผู้หญิงจ่ายมาแล้วครับ”
“อ้อ…”
หล่อนพยักหน้ารับน้อยๆ เก็บเงินใส่กระเป๋าสตางค์ ก่อนจะตัดสินใจก้าวลงไปจากรถ
รถแท็กซี่แล่นออกไปในทันที ในขณะที่หล่อนยืนมองร้านอาหารสามชั้นเบื้องหน้าด้วยความไม่วางใจ
ทำไมพ่อจะต้องให้หล่อนมาที่นี่เพื่อพบเพื่อนของท่านเพียงลำพังด้วย แถมยังในสถานที่มิดชิดแบบนี้อีก
หล่อนถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ก้าวเท้าไม่ออกยังยืนอยู่กับที่ จนกระทั่งหนึ่งในผู้ชายสวมสูทสีดำเดินเข้ามาหา
“คุณมัทนาใช่ไหมครับ”
แม้จะแปลกใจที่บุคคลตรงหน้าทราบชื่อของตัวเอง แต่ก็จำต้องพยักหน้าตอบรับออกไป
“ใช่ค่ะ”
คู่สนทนาของหล่อนระบายยิ้ม และมองหล่อนด้วยสายตาแปลกๆ ซึ่งหล่อนไม่ชอบใจเลย
“ฉันมาพบ…” หล่อนลืมถามชื่อเพื่อนของพ่อเสียสนิท แล้วผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรนะ แต่ในขณะที่หล่อนพยายามคิดอยู่นั้น ผู้ชายตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
“เสี่ยสมบูรณ์ครับ”
“ฉันไม่แน่ใจ…แต่เขาเป็นเพื่อนกับพ่อของฉัน”
“เสี่ยสมบูรณ์รอคุณอยู่ครับ คุณมัทนา” คู่สนทนาของหล่อนผายมือออกเล็กน้อย เป็นท่าทางเชื้อเชิญ
“เอ่อ…ฉันรออยู่ตรงนี้ไม่ได้เหรอคะ”
“เสี่ยรออยู่ข้างในครับ”
คำตอบของผู้ชายตรงหน้าทำให้มัทนาไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก หล่อนจำต้องก้าวเท้าตามไป และภาวนาให้สถานการณ์น่าสะพรึงนี้จบสิ้นลงโดยเร็ว
MANGA DISCUSSION