สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1437 รายงานสถานการณ์รบจากชายฝั่งทะเล
ตอนที่ 1437 รายงานสถานการณ์รบจากชายฝั่งทะเล
“พี่หญิงใหญ่ไม่ได้ตบรางวัลให้ตระกูลบรรพบุรุษไป๋หลังจากพี่หญิงใหญ่ขึ้นครองบัลลังก์ แค่นี้พวกเขาก็ไม่พอใจมากแล้ว” ไป๋ชิงเจวี๋ยเป่าไอร้อนในถ้วยชาพลางกล่าวขึ้นช้าๆ “หากไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสแสดงความสามารถในงานเลี้ยงครอบครัวครั้งนี้พวกเขาคงยิ่งไม่พอใจพี่หญิงใหญ่มากกว่าเดิม นานวันเข้าพวกเขาอาจสร้างปัญหาให้พวกเราคอยตามแก้ได้”
“ความจริงคนตระกูลบรรพบุรุษไป๋ที่พอมีสติปัญญาควรรู้ว่าหากกลับไปอยู่ที่ซั่วหยางพวกเขาจะสุขสบายกว่า จากนั้นค่อยให้ทายาทของพวกเขาสร้างผลงานให้ราชสำนักเห็น! ทว่า พวกเขากลับเอาแต่อยากรอให้พี่หญิงใหญ่มอบบรรดาศักดิ์ที่ไม่มีทางเป็นไปได้ให้พวกเขาหรือมอบตำแหน่งในราชสำนักให้ พวกเขาทำเช่นนี้!” ไป๋จิ่นเจาเบ้ปาก “ช่างไม่เจียมตัวจริงๆ”
“เจ้าจะเหมารวมว่าทุกคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋เป็นคนเช่นนั้นไม่ได้” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นเจาที่โมโหจนแก้มป่องราวกับหนูยิ้มๆ “บางคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ยังถือว่าใช้ได้ นอกจากไป๋ชิงผิงแล้ว บางคนเริ่มเข้าร่วมกองทัพ บางคนเริ่มตั้งใจอ่านตำราเพื่อสอบเข้าร่วมขุนนางแล้ว!”
ไป๋ชิงเหยียนยกถ้วยชาขึ้นแล้วกดใบชาที่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำลงไป นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ตอนนี้ต้าโจวเผยแพร่ความรู้ไปยังชาวบ้านอย่างทั่วถึงแล้ว ตอนนี้คนของตระกูลบรรพบุรุษส่วนใหญ่ล้วนย้ายมาอยู่เมืองหลวงแล้ว ไม่สู้ให้ประมุขไป๋บอกให้พวกเขาไปร่ำเรียนที่สำนักศึกษาเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ชาวบ้านเหล่านั้นดีกว่า”
“เป็นความคิดที่ดีขอรับ ก่อนหน้านี้พวกเราสนับสนุนให้สตรีเข้าศึกษาได้ ตอนนี้ตระกูลต่างๆ ต่างส่งสตรีไปเรียนกับอาจารย์เช่นเดียวกับบุรุษแล้วขอรับ ทว่า ชาวบ้านธรรมดายังไม่ค่อยส่งสตรีไปร่ำเรียนเท่าใดนัก ตระกูลบรรพบุรุษไป๋สามารถทำตัวเป็นแบบอย่างได้ขอรับ” ไป๋ชิงเจวี๋ยกล่าวยิ้มๆ “ไม่แน่พวกเราอาจได้คนใช้งานได้จากตระกูลบรรพบุรุษไป๋ก็ได้ขอรับ”
ไป๋ชิงฉีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“เสิ่นเทียนจือส่งฎีกามาบ้างหรือไม่ ช่วงนี้เขาต้องการความช่วยเหลือบ้างหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามไป๋ชิงฉีและไป๋ชิงอวี๋
“เสิ่นเทียนจือเป็นคนมีความสามารถขอรับ!” ไป๋ชิงอวี๋กล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ทุกครั้งที่เสิ่นเทียนจือต้องการขอความช่วยเหลือเขาต้องขอผ่านต้าเยี่ยนทุกครั้ง ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาวุ่นวายเสิ่นเทียนจือจึงพยายามแก้ไขปัญหาเองทุกเรื่องขอรับ”
“แสดงว่าต้าเยี่ยนสร้างปัญหาให้เสิ่นเทียนจืออย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางน้องชายของตัวเองยิ้มๆ
“เป็นเรื่องที่พวกเราคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว” ไป๋ชิงอวิ๋นนวดขาของตัวเองเบาๆ จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ต้าเยี่ยนสร้างปัญหาให้เสิ่นเทียนจือ พี่ชายสามจึงไปสร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนบ้าง สมน้ำสมเนื้อขอรับ…”
ไป๋ชิงเหยียนให้ไป๋ชิงฉีและไป๋ชิงอวี๋รับผิดชอบเรื่องการเดิมพันของสองแคว้น ทั้งสองคนร่วมมือกันรับผิดชอบเรื่องนี้ ไป๋ชิงอวี๋รับผิดชอบดูแลต้าโจวที่อยู่ในแคว้นต้าเยี่ยน ไป๋ชิงฉีรับผิดชอบต้าเยี่ยนที่อยู่ในแคว้นของต้าโจว
ไป๋จิ่นเซ่อหัวเราะกับคำกล่าวของไป๋ชิงอวิ๋น “คำกล่าวของพี่ชายเก้าเหมือนอันธพาลเลยเจ้าค่ะ”
รอยยิ้มของไป๋ชิงอวิ๋นกว้างขึ้นกว่าเดิม เขามองไปทางพี่สาวของตัวเอง “พี่หญิงใหญ่ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการสนับสนุนให้ชาวบ้านศึกษาร่ำเรียนข้าจึงนึกถึงเรื่องกระดาษขึ้นมาได้ขอรับ ตอนนี้ต้าเยี่ยนต้องการผูกขาดการผลิตกระดาษในแคว้นต้าโจวของพวกเราเป็นรายเดียว ตอนนี้พวกเขาเริ่มขยายกิจการในต้าโจวแล้ว ถึงเวลาที่ต้าโจวควรตอบโต้พวกเขาบ้างแล้วขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้าเบาๆ “ยังไม่ต้องรีบร้อน รออีกสักสองสามเดือน ให้ต้าเยี่ยนลงทุนมากกว่านี้อีกนิดพวกเราค่อยลงมือ”
ไป๋ชิงอวิ๋นเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากสำนักซื่อไห่แห่งภูเขาหลัวพานมาไม่น้อย การผลิตกระดาษคือหนึ่งในนั้น ไป๋จิ่นถงได้รับวิธีการผลิตกระดาษไปจากไป๋ชิงอวิ๋น ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงอวิ๋นเอาแต่คิดค้นวิธีการผลิตอาวุธแบบใหม่ที่แข็งแกร่งและทนทานให้ต้าโจว ตอนนี้สงครามสิ้นสุดลงแล้วไป๋ชิงอวิ๋นจึงหันไปให้ความสำคัญกับการผลิตกระดาษแทน เขาปรับปรุงวิธีการผลิตกระดาษรูปแบบใหม่ที่ง่ายดายและต้นทุนน้อยกว่าแบบที่ให้ไป๋จิ่นถงไปสำเร็จแล้ว
ไป๋ชิงอวิ๋นตั้งใจจะเผยแพร่การผลิตกระดาษไปทั่วทั้งแคว้นต้าโจว เช่นนี้พวกเขาจะสามารถตอบโต้ต้าเยี่ยนให้กระอักได้ ไป๋ชิงอวิ๋นหันไปสอบถามไป๋จิ่นซิ่วเรื่องสถานการณ์กระดาษในแคว้นต้าเยี่ยนที่สำนักตรวจสอบกำลังดูแลอยู่
ไป๋ชิงฉีและไป๋ชิงอวี๋นั่งจิบชาพลางปรึกษากันว่าจะสร้างปัญหาให้ต้าเยี่ยนได้เช่นไรบ้าง ไป๋จิ่นเซ่อนั่งฟังพี่ชายทั้งสองปรึกษากันอย่างตั้งใจ
ไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาสนทนาเรื่องสถานการณ์แถบชายฝั่งของต้าเหลียง สามสาวกำลังปรึกษากันว่าหากตงอี๋และต้าโจวทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ พวกนางสามารถใช้วิธีรบบนบกกับสงครามทางทะเลได้หรือไม่
“พี่หญิงใหญ่ ช่วงนี้ข้าเห็นพี่หญิงใหญ่อ่านตำราพิชัยสงครามทางทะเลของแคว้นตงอี๋หลายเล่ม พี่หญิงใหญ่คิดว่าข้ากล่าวถูกหรือไม่เจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียนเสียงดัง
“เสี่ยวซื่อกล่าวได้ไม่เลว” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้างกว่าเดิม “ช่วงนี้เสี่ยวซื่อขยันมาก นางยืมตำราพิชัยสงครามของพี่ไปกว่าครึ่ง!”
“ข้ากำลังเรียนรู้จากพี่หญิงใหญ่อยู่เจ้าค่ะ ข้าได้ยินถงหมัวมัวบ่นว่าพี่หญิงใหญ่ทั้งตรวจฎีกา ทั้งอ่านตำราพิชัยสงครามทางทะเลเหล่านั้น เมื่ออ่านจบก็สั่งให้คนค้นหาเล่มใหม่มาให้ ข้าทำตามพี่หญิงใหญ่ทั้งหมดไม่ได้ ทว่า อย่างน้อยก็ควรได้สักครึ่งหนึ่งของพี่หญิงใหญ่ มิเช่นนั้นข้าจะคู่ควรเป็นเกาอี้อ๋อง จะเป็นแบบอย่างให้น้องๆ ได้อย่างไรกันเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อเชิดหน้าขึ้นพลางกล่าวเสียงอ่อนหวานราวกับกุลสตรี
ไป๋ชิงเหยียนลูบศีรษะของไป๋จิ่นจื้อยิ้มๆ นางไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่านี้มาก่อนเลย น้องชายและน้องสาวช่วยแบ่งเบาภาระไปจากนาง นางรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นคนที่เอาแต่เล่นหมากล้อมอยู่แต่ในจวนในตอนที่ตระกูลไป๋ยังเจริญรุ่งเรืองอยู่อีกครั้ง
ยามโฉ่วของวันที่หก เดือนเก้า
ทหารส่งสารที่เสียบธงไว้ทางด้านหลังขี่ม้าเร็วมุ่งหน้าไปทางประตูทิศเหนือของเมืองหลวง เขาข่มความเหนื่อยล้าที่เร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนตะโกนขึ้นสุดเสียง “รายงานสถานการณ์รบด่วนทางชายฝั่งทะเล! รีบเปิดประตูเมืองเร็วเข้า!”
แม่ทัพซึ่งคุ้มกันประตูเมืองทิศเหนือรีบวิ่งลงจากกำแพงเมืองทันที เมื่อตรวจสอบแล้วว่าเป็นเรื่องจริงเขาจึงตะโกนลั่น “เปิดประตูเมือง!”
ทหารส่งสารควบม้าทะยานเข้าไปในเมืองหลวงทันที
เมืองหลวงในเวลานี้เงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงสุนัขเห่าหอน เสียงฝีเท้าม้าและกระดิ่งทองแดงดังไปตลอดทางจนถึงวังหลวง
เมื่อเว่ยจงได้ยินว่าเป็นรายงานสถานการณ์รบด่วนจากชายทะเลจึงรีบให้คนไปพาตัวทหารส่งสารเข้ามา ส่วนเขารีบไปหาไป๋ชิงเหยียน
เมื่อไป๋ชิงเหยียนได้รับรายงานจึงรีบสวมเสื้อคลุมพลางเดินออกไปนอกตำหนักทันทีโดยไม่เสียเวลาทำผมแม้แต่น้อย
คำว่ารายงานสถานการณ์รบทำให้ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าต้าโจวทำสงครามกับตงอี๋แล้ว หญิงสาวเดินไปอย่างรีบร้อนพลางกล่าว “รีบให้คนไปตามฮู่กั๋วอ๋อง เจิ้นกั๋วอ๋อง ฝู่กั๋วอ๋อง จงหย่งอ๋อง เกาอี้อ๋อง หลู่ไท่เว่ยและต่งซือถูเข้ามาในวังด่วน!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงรับคำและรีบสั่งการคนต่อทันที
ทหารส่งสารบอกเพียงว่าคือรายงานสถานการณ์รบ ทว่า ไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นไร ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกสังหรณ์ใจมาก
ไป๋ชิงเหยียนเดินเร็วจนแทบจะวิ่งไปยังตำหนักด้านหน้า
ทหารส่งสารคุกเข่าชูกระบอกไม้ไผ่ขึ้นเหนือศีรษะรอไป๋ชิงเหยียนอยู่นอกตำหนักใหญ่
ไป๋ชิงเหยียนรับม้วนไม้ไผ่ไปจากทหารส่งสาร นางแกะกระบอกไม้ไผ่ออกพลางเอ่ยถาม “ลุกขึ้นรายงาน! ให้คนนำน้ำและของว่างมาให้เขาด้วย!”
“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงรับคำ
ไป๋ชิงเหยียนหยิบรายงานออกมาจากกระบอกไม้ไผ่