สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1399 ขัดขวาง
ตอนที่ 1399 ขัดขวาง
“เพราะว่าไม่รู้ว่าอนาคตเจ้าจะถูกย้ายไปที่ใดอีกแม่จึงอยากรีบหมั้นหมายให้เจ้าอย่างไรเล่า ทางที่ดีควรจัดงานแต่งให้เรียบร้อยเลยเป็นดีที่สุด!” มารดาของหลู่หยวนเผิงคิดถึงเรื่องนี้ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “เดิมทีแม่ตั้งใจว่าเมื่อเจ้าได้รับรางวัลและตำแหน่งในกองทัพจากผลงานในสงครามซีเหลียงแม่จะหมั้นหมายคู่ครองดีๆ ให้เจ้า ทว่า ตอนนี้ทุกอย่างพังหมดแล้ว เจ้าทำให้แม่โมโหมากจริงๆ ! ตอนนี้แม่ทำได้เพียงหาคู่ให้เจ้าจากตระกูลฝั่งแม่เท่านั้น แม่คิดว่าท่านลุงของเจ้า…”
หลู่หยวนเผิงเห็นมารดาของตัวเองมีท่าทีจริงจังจึงรีบกุมมือมารดาของตัวเองไว้ “ท่านแม่หยุดก่อนขอรับ! ข้ามีความสามารถ ข้าสามารถทำให้ตำแหน่งแม่ทัพกลับมาเป็นของข้าได้แน่ขอรับ ท่านรอให้ข้าได้ตำแหน่งแม่ทัพอีกครั้งค่อยหาคู่ครองให้ข้าก็ยังไม่สายขอรับ! ที่สำคัญข้าสนิทสนมกับซือหม่าผิงราวกับพี่น้องท้องเดียวกัน ซือหม่าผิงยังไม่หมั้นหมาย ข้าจะหมั้นได้อย่างไรกันขอรับ หากต้องหมั้นหมายข้าต้องหมั้นพร้อมกับซือหม่าผิงถึงจะถูกขอรับ!”
“เอ่ยถึงตระกูลซือหม่า ต่อไปเจ้าอยู่ห่างจากซือหม่าผิงผู้นั้นหน่อยก็ดีนะ” มารดาของหลู่หยวนเผิงยกชาขึ้นจิบพลางเล่าเรื่องของเซียงเสียจวิ้นจู่ให้บุตรชายฟัง “ตอนนี้ซือหม่าเยี่ยนถูกเนรเทศไปแล้ว แม้พี่ชายของซือหม่าผิงจะปลอดภัยดี ทว่า ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับเซียงเสียจวิ้นจู่มาก หากนางคิดแก้แค้นขึ้นมาตระกูลซือหม่าคงหนีไม่พ้นแน่นอน”
“ท่านแม่กล่าวอันใดเช่นนี้ขอรับ! พี่สาวไป๋ไม่ใช่คนที่จะฟังคำเป่าหูของผู้อื่นถึงเพียงนี้ ที่สำคัญนี่มันคนละเรื่องกัน ข้ากับซือหม่าผิงสนิทสนมกัน เขาช่วยชีวิตข้าตอนอยู่ในสนามรบหลายครั้ง! เกิดเป็นมนุษย์ต้องรู้จักทดแทนบุญคุณ หากเซียงเสียจวิ้นจู่จะทำร้ายซือหม่าผิง ต่อให้ข้าต้องทำผิดต่อพี่สาวไป๋ข้าก็จะต่อยเซียงเสียจวิ้นจู่ผู้นั้นให้ยับไปเลยขอรับ!” หลู่หยวนเผิงกล่าวด้วยความโมโห “ต่อไปท่านแม่อย่ากล่าวเช่นนี้อีกนะขอรับ ข้าไม่อยากได้ยิน!”
ปู่ของหลู่หยวนเผิงคือไท่เว่ยของราชสำนักต้าโจว เขามีที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ เขายังไม่สามารถคบหากับสหายที่เขาอยากคบหาได้อีกหรือ นี่มันเรื่องน่าขันอันใดกัน…
“เจ้า…” มารดาของหลู่หยวนเผิงอยากตำหนิบุตรชาย ทว่า เมื่อเห็นท่าทีพร้อมโต้กลับของหลู่หยวนเผิงและนึกได้ว่าบุตรชายยังได้รับบาดเจ็บอยู่นางจึงพยายามข่มอารมณ์ไม่เถียงกับบุตรชายต่อ อย่างน้อยช่วงนี้ทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันพักใหญ่
“เอาล่ะ แม่ไม่กล่าวแล้ว เจ้าพักผ่อนเถิด!” มารดาของหลู่หยวนเผิงห่มผ้าให้บุตรชาย จากนั้นกำชับเสียงเบา “ช่วงนี้เจ้าเป็นเด็กดีสักหน่อย อย่าทำให้ท่านปู่ของเจ้าโมโหอีก แม่จะไปขอให้พี่เฟิ่งหลานของเจ้าไปช่วยกล่าวกับท่านปู่ให้ ตอนนี้พี่สาวของเจ้ามีความสามารถโดดเด่น ท่านปู่ของเจ้าดีใจมาก!”
“ข้าบอกนานแล้วว่าพี่สาวของข้าเก่งกว่าบุรุษหลายคน โชคดีที่พี่สาวไป๋อนุญาตให้สตรีเข้าร่วมการสอบขุนนางและทำงานในราชสำนัก พี่สาวไป๋เป็นจักรพรรดินีที่ดีจริงๆ ขอรับ!” หลู่หยวนเผิงไม่โกรธที่ไป๋ชิงเหยียนลงโทษเขาแม้แต่น้อย เขาเอาแต่กล่าวชมไป๋ชิงเหยียนไม่หยุด
เมื่อได้ยินหลู่หยวนเผิงเอ่ยชมไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งมารดาของหลู่หยวนเผิงจึงรู้สึกเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิม นางกลัวว่าบุตรชายผู้โง่เขลาของนางจะเกิดหลงรักจักรพรรดินีแห่งต้าโจวขึ้นมา นางกลัวว่าบุตรชายของนางจะไม่คู่ควรกับตำแหน่งพระภัสดา
หรือบุตรชายของนางต้องไปเป็นสนมของฝ่าบาท แบ่งปันภรรยาของตัวเองกับผู้อื่นกัน
มารดาของหลู่หยวนเผิงอาศัยอยู่ในยุคที่บุรุษสูงศักดิ์สตรีต่ำต้อยมาจนเคยชินแล้ว นางรับได้ที่มีจักรพรรดิเป็นสตรี รับได้ที่จักรพรรดินีของนางจะมีสามีหลายคน ทว่า นางรับไม่ได้ที่บุตรชายของตนจะกลายเป็นหนึ่งในสามีเหล่านั้นของจักรพรรดินี
“ฮูหยิน คุณชาย!” บ่าวรับใช้เดินเข้ามาทำความเคารพ จากนั้นกล่าวขึ้น “เกาอี้อ๋องมาที่จวนขอรับ นางบอกว่าเพิ่งไปเยี่ยมคุณชายซือหม่ามาจึงแวะมาเยี่ยมคุณชายขอรับ”
“บุรุษและสตรีแตกต่างกัน เหตุใดนางต้องมาด้วย!” ใบหูของหลู่หยวนเผิงแดงก่ำขึ้นทันที “ให้นางรีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”
“เจ้าเด็กคนนี้!” มารดาของหลู่หยวนเผิงตำหนิบุตรชาย จากนั้นเดินออกไปต้อนรับไป๋จิ่นจื้อด้วยตัวเอง
เดิมทีไป๋จิ่นจื้ออยากมาเยาะเย้ยหลู่หยวนเผิง ทว่า ที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหาร บุรุษและสตรีแตกต่างกันนางจึงไม่ได้พบหน้าหลู่หยวนเผิง ทว่า ครั้งนี้นางนำยารักษาบาดแผลที่ท่านหมอหงทำขึ้นเองมาให้หลู่หยวนเผิงด้วย หากทายานี้หลู่หยวนเผิงคงหายดีอย่างรวดเร็วแน่นอน
มารดาของหลู่หยวนเผิงดื่มชาเป็นเพื่อนไป๋จิ่นจื้อ ไม่นานจึงออกไปส่งสาวน้อยที่หน้าจวนด้วยตัวเองอย่างนอบน้อม ในใจได้แต่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหายร่วมรบช่างไม่ธรรมดาจริงๆ หลู่หยวนเผิงโดนโบย เกาอี้อ๋องถึงกับนำยารักษาแผลมาให้บุตรชายของนางด้วยตัวเอง ช่างมีน้ำใจจริงๆ
ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับน้องชายและน้องสาวของตัวเองมาก หลู่หยวนเผิงมีความสัมพันธ์อันดีกับเกาอี้อ๋องเช่นนี้ อนาคตของเขาต้องรุ่งโรจน์แน่นอน…
เซี่ยสวิน องค์ชายใหญ่และองค์ชายสองของต้าเยี่ยนถูกจัดให้พักอยู่ที่จวนหลังเดียวกัน พวกเขาล้วนเป็นตัวประกันของต้าโจวจึงไม่สามารถมีจวนเดี่ยวของตัวเองเหมือนตอนอยู่ที่ต้าเยี่ยนได้
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกำชับไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ปฏิบัติต่อตัวประกันทั้งสามเป็นอย่างดี จวนของพวกเขาจึงกว้างขวางและโอ่อ่ามาก ทั้งสามคนมีเรือนส่วนตัวของตัวเองถือว่าพักอยู่ได้อย่างไม่อึดอัด
ไม่เพียงเท่านี้ ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ส่งคนของต้าโจวเข้าไปวุ่นวายในที่พักของทั้งสามคน นางปล่อยให้ทหารรักษาพระองค์ที่มู่หรงลี่ส่งมาเป็นคนดูแลความปลอดภัยขององค์ชายใหญ่ องค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินด้วยตัวเอง อีกทั้งไม่ได้กักบริเวณพวกเขาอยู่แต่ในจวนเท่านั้น
องค์ชายใหญ่ไม่เคยพบหน้าไป๋ชิงเหยียนและแม่ทัพของต้าโจวมาก่อนจึงรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเท่าใดนัก ทว่า มู่หรงผิงเคยรู้จักกับน้องชายและน้องสาวของไป๋ชิงเหยียนรวมถึงแม่ทัพคนอื่นๆ ของต้าโจวมาก่อน ดังนั้นเมื่อมาถึงต้าโจวจึงไม่ได้รู้สึกกังวลเท่าใดนัก
ส่วนแม่ทัพเซี่ยสวินเดินทางมายังต้าโจวพร้อมกับแม่ทัพไป๋ ระหว่างทางกองทัพไป๋ไม่เคยปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นตัวประกันเลยสักนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจิ้นกั๋วอ๋องแห่งกองทัพไป๋ เซี่ยสวินรู้สึกเสียดายที่รู้จักคนผู้นี้ช้าเกินไป พวกเขามีนิสัยที่คล้ายคลึงและคุยกันได้ถูกคอมาก
องค์ชายใหญ่ได้ยินเรื่องที่แม่ทัพของต้าโจวไปคุกเข่าขอร้องให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวยกทัพไปโจมตีต้าเยี่ยนตั้งแต่เช้า เขาตกใจจนทานอาหารไม่ลงและล้มป่วยทันที
เมื่อตอนบ่ายได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนสั่งลงโทษแม่ทัพเหล่านั้นองค์ชายใหญ่ของต้าเยี่ยนจึงคลายความกังวลลง เขาพยายามข่มความหวาดกลัวที่มีอยู่ในใจของตัวเอง ให้คนส่งสารไปบอกไป๋ชิงเหยียนว่าตนต้องการไปเข้าเฝ้าไป๋ชิงเหยียนในวังหลวงเพื่อขอโทษไป๋ชิงเหยียนแทนมารดาของตน
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนได้รับรายงานเรื่องนี้หญิงสาวกำลังถือจดหมายที่เซียวหรงเหยี่ยนส่งมาอยู่ในมือ
ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าองค์ชายใหญ่ของต้าเยี่ยนผู้นี้เป็นกังวลเรื่องที่ไทเฮาเคยแทงข้างหลังต้าเยี่ยนจนอยู่ไม่เป็นสุข ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อวานทำให้เขายิ่งรู้สึกหวาดกลัวดังนั้นเขาจึงรีบมาขอขมาแทนไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนทั้งๆ ที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองหลวงของต้าโจวเช่นนี้
แม้จะดูเหมือนเขายอมอ่อนน้อมต่อต้าโจว ทว่า นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้ตัวประกันของต้าเยี่ยนอยู่ในกำมือของต้าโจว หากต้าโจวทำสงครามกับต้าเยี่ยนขึ้นมาจริงๆ ต้าเยี่ยนคงทำสงครามได้อย่างไม่เต็มที่เพราะมีพวกเขาเป็นอุปสรรคขัดขวางอยู่