ศพ - ตอนที่ 38 ผีชั่ว
หลังจากอาจารย์พูดจบ เขาก็จับดาบไม้พุ่งเข้าไปฟันทันที
ส่วนนักพรตตู๋และพวกเรา ก็ไม่ลังเล พุ่งเข้าใส่ผีร้ายเช่นกัน
ผีชั่วแบบนี้ ถึงตายสักร้อยรอบก็ไม่พอ
ส่วนผีชั่วตนนั้น กลับเผยสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา มันเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าพวกเราจะมาถึงที่นี่
สำหรับยันต์ฝ่ามือของอาจารย์นั้นมีพลังแค่ไหน คนภายนอกเองก็มองไม่ออกเช่นกัน
หลังจากผีร้ายสะดุ้งตกใจ มันก็หันไปตะโกนใส่คุณหนูเหวิน “นี่เป็นนักพรตที่สู้กับแกซินะ”
แม้คุณหนูเหวินจะถูกผีชั่วรังแก แต่พลังที่ชั่วร้ายก็ทำให้เธอสูญเสียความเป็นตัวเองไปนานแล้ว
ขณะนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของผีร้าย เธอก็พยักหน้าทันที “ค่ะ ใช่ค่ะเจ้านาย! เจ้าพวกนี้แหละค่ะที่ทำร้ายฉัน”
ขณะที่พูด คุณหนูเหวินก็ลุกขึ้น
ใช้เล็บมือทั้งสองข้าง ด้วยความเร็วที่สามารถเห็น เธอชี้มาทางพวกเราทันที
เมื่อผีผู้ชายตนนั้นได้ยิน เขาก็เผยสีหน้าที่โหดเหี้ยมออกมา “สวรรค์มีทางแต่แกไม่เดิน นรกไม่มีประตูแกกลับเลือกที่จะเข้ามา! ดีช่วยให้ฉันประหยัดเวลาไม่ต้องไปหาด้วยตัวเอง!”
เสียงพึ่งจางหาย ทันใดนั้นผีผู้ชายก็อ้าปากขึ้น คำราม “โฮก” ออกมาทันที เขี้ยวสองซี่ที่แหลมคม ถูกเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้เขายังยกแขนทั้งสองข้างขึ้น และพุ่งเข้ามาหาพวกเราทันที
ส่วนคุณหนูเหวินที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่รอช้า รีบตามผีร้ายขึ้นมา และพุ่งเข้าใส่พวกเราเช่นกัน
วินาทีนั้น ผมละอยากจะด่าจริงๆ
บ้าเอ้ยเมื่อกี้ยังถูกเจ้านั้นรังแกอยู่เลย ตอนนี้กลับมาช่วยมันเนี่ยนะ
แต่หลังจากนั้นผมถึงได้รู้ว่า เธอถูกผีร้ายควบคุม จึงสูญเสียความคิดในการตัดสินใจเหมือนคนปกติทั่วไป
เพราะเมื่อวิญญาณกลายเป็นผีร้าย พวกเขาจะสูญเสียความสามารถในการตัดสินใจไปซะส่วนใหญ่
เนื่องจากคุณหนูเหวินพึ่งตายได้ไม่นาน วิญญาณจึงยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ดังนั้นเมื่อกี้เธอจึงมีจิตสำนักในการปกป้องตัวเองอยู่บ้าง
ถ้าผ่านไปอีกสองเดือน อย่าพูดเลยว่าคนที่ควบคุมจะให้เธอทำอะไร หรือแม้แต่บอกให้ไปฆ่าตัวตาย เขาก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ
เพียงชั่วพริบตา พวกเราก็เริ่มต่อสู้กันแล้ว
ดาบในมือของอาจารย์และนักพรตตู๋ฟันไปที่ร่างผีชั่วอย่างต่อเนื่อง ส่วนผมและเฟิงเฉ่วหานก็กำลังสู้กับผีสาว
แต่ในตอนนี้ผีสาว ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนตอนแรกแล้ว
เธอถูกอาจารย์และนักพรตตู๋ทำร้าย จึงทำให้ความแข็งแกร่งลดลง
ตอนนี้ผมและเฟิงเฉ่วหานได้ร่วมมือกัน ถึงสามารถต่อสู้กับเธอได้อย่างสูสี
ฝั่งของพวกเราแทบต้านทานไว้ไม่ไหว แต่ฝั่งของอาจารย์ กลับต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ผีผู้ชายตนนั้นมีควันสีดำรายล้อมรอบตัว พลังชั่วร้ายแรงมาก ต่อสู้อย่างดุเดือดและรวดเร็ว จนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพวกเขาไม่ระวังแม้แต่นิดเดียว ก็อาจถูกกรงเล็บนั้นฆ่าได้
บรรยากาศในสนามรบเปลี่ยนดุเดือดบ้าคลั่ง รอบๆตัวของพวกเรา ต่างมีแต่เสียงของอาวุธที่กระทบกันไปมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผีสาวที่สู้กับพวกเรา กลับแสดงท่าทางเหนื่อยล้า การเคลื่อนไหวของเธอเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ดูเหมือนอาการบาดเจ็บของเธอจะหนักเอาการ!
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เป็นธรรมดาที่ผมจะไม่แสดงความเมตตา
เมื่อโอกาสมาถึง ผมก็ไม่ลังเล รีบฟาดไม้บรรทัดเหล็กดำไปที่หัวของผีสาวทันที
ไม้บรรทัดเหล็กดำและด้ายดำ ต่างเป็นสมบัติที่ท่านลู่ปานทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง มีคุณสมบัติในการปราบวิญญาณชั่วร้าย
หลังจากผีสาวโดนผมตีไปที่หัว เธอก็กรีดร้องออกมา “อร๊าย” จากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
ส่วนเฟิงเฉ่วหานเมื่อเห็นโอกาส เขาก็รีบหยิบยันต์ออกมา และเอื่อมมือออกไป
ผีสาวพึ่งลุกขึ้น ยังไม่มีโอกาสหลบ ยันต์แผ่นนั้นก็แปะเข้าที่หน้าอกของเธอทันที
เนื่องจากเป็นหน้าอก ไม่ใช่หน้าผากหรือประตูวิญญาณ สิ่งนี้เองก็มีคำอธิบายเช่นกัน
ถ้าแปะยันต์ที่ประตูวิญญาณ อาจทำให้วิญญาณนั้นระเบิดตาย และวิญญาณแตกสลาย
แต่ที่หน้าอกไม่เป็นแบบนั้น การแปะยันต์ที่หน้าอก ยกเว้นกรณีที่คาถามีพลังมากเกินไป จนวิญญาณไม่สามารถทนได้
ไม่อย่างนั้น ก็จะไม่ทำให้วิญญาณแตกสลาย แต่ทำได้แค่ทำลายพลังชั่วร้ายที่อยู่ในร่างของพวกเขาเท่านั้น
วิญญาณของคุณหนูเหวินเปลี่ยนแปลง จึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เนื่องจากมีคนจงใจทำให้มันเป็นแบบนี้ และพวกเราเองก็รับเงินมาจากพ่อแม่ของเธอมา ดังนั้นจึงต้องหาทางช่วยลูกสาวของพวกเขาให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานนี้
ถ้าเกิดรับเงินจากเขาแล้ว และยังทำให้วิญญาณลูกสาวเขาแตกสลาย แบบนั้นป้ายร้านของพวกเรา คงถูกคนทำลายไปนานแล้ว
ดังนั้น เมื่อวิญญาณคุณหนูเหวินอยู่ตรงหน้า เฟิงเฉ่วหานจึงไม่มีทางใช้วิธีฆ่าในครั้งเดียวแน่
หลังจากแปะยันต์ลงไป เฟิงเฉ่วหานก็รีบทำมือ จากนั้นก็พูด “ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง ทำลาย!”
ทันใดนั้นยันต์ก็เปล่งแสง และ “ปัง” ระเบิดออกมาทันที
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนของคุณหนูเหวิน ร่างของเธอกระเด็นออกไปอีกครั้ง
แต่ว่าครั้งนี้ พลังของยันต์ได้ทำลายพลังชั่วร้ายที่อยู่ในอกของเธอ
คุณหนูเหวินนอนดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง ขณะเดียวกันก็มีควันสีดำค่อยๆ ลอยออกมาจากในตัวของเธอ สุดท้ายมันก็จางหายไปกับอากาศ
จากนั้นร่างของคุณหรูเหวิน ก็มีการเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ ดวงตาที่ไม่มีม่านตาทั้งสองข้าง
ขณะที่พลังชั่วร้ายได้ปล่อยออกมาและจางหายไปอย่างต่อเนื่อง ดวงตาขาวโพนของคุณหนูเหวิน ก็เริ่มมีสีปรากฎขึ้น จากนั้นม่านตาของเธอก็ปรากฎขึ้นอย่างชัดเจน
เขี้ยวที่อยู่ในปากและเล็บที่แหลมคมของเธอ ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเรื่องราวแบบนี้ จึงตกตะลึงจนต้องมองกลับไปกลับมาถึงสองสามครั้ง
แต่เฟิงเฉ่วหานกลับดูสงบมาก “เลิกมองได้แล้ว จัดการผีตนนี้เสร็จแล้ว พวกเราก็รีบไปช่วยพวกอาจารย์เถอะ!”
เมื่อได้ยินเสียงของเฟิงเฉ่วหาน ผมถึงได้มีสติขึ้นมา
ไม่รอช้า ผมรีบพยักหน้ารับ จากนั้นก็จับไม้บรรทัดดำแน่นและตามเฟิงเฉ่วหานไปฆ่าผีผู้ชายทันที
พลังของผีผู้ชายมันแข็งแกร่งมาก แม้อาจารย์และนักพรตตู๋จะร่วมมือกัน ก็ยังไม่สามารถจัดการมันได้
หลังจากพวกเรามาถึงด้านนอกของวงต่อสู้ ผมไม่ทำอะไรโง่ๆรีบตะโกนบอกทันที “อาจารย์ผมมาช่วยแล้ว”
เพราะตอนนี้อาจารย์และนักพรตตู๋ยังจัดการไม่ได้ แล้วพวกมือสมัครเล่นไก่กาอาราเล่แบบผม จะกล้าบุ่มบ่ามเข้าไปได้ยังไงละครับ
แค่คิดจะลอบโจมตีอีกฝ่าย หรือไม่ก็แอบปล่อยลูกศรอะไรอย่างนั้น
แม้ว่ามันจะดูสกปรก แต่ถ้าสามารถต่อสู้กับผีชั่ว ช่วยให้ฝั่งตัวเองปลอดภัยได้ ถึงแม้จะเป็นวิธีที่น่ารังเกียจนิดหน่อยแต่ผมก็ยอมทำ
ส่วนเฟิงเฉ่วหานที่เป็นคุณชายเย็นชา แม้จะไม่พูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาเองก็จะคิดแบบเดียวกับผม
พวกเราสองคนยังคงอยู่นอกวงต่อสู้ รอคอยโอกาสที่จะลงมือ
ทันใดนั้น โอกาสก็ปรากฎขึ้น
ระหว่างที่ผีชั่วต่อสู้ เขาดันหันหลังให้กับพวกเรา
ผมและเฟิงเฉ่วหานจ้องเขม็ง จากนั้นก็เผยสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมา
เฟิงเฉ่วหานมีฝีมือมากกว่าผม จึงลงมือเร็วกว่า
ดาบไม้ในมือของเขา แทงเข้าไปที่ตัวผีชั่ว แบบไม่ส่งสัญญาณใดๆ
แต่ดูเหมือนผีชั่วตนนั้นจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขารู้สึกได้ถึงอันตรายที่อยู่ด้านหลัง
จึงหันกลับมา และเห็นเฟิงเฉ่วหานพอดี
“คิดจะทำร้ายฉันเหรอ ฝันไปเถอะ!” ผีชั่วตนนั้นจับดาบไม้ของเฟิงเฉ่วหานเอาไว้
ผลลัพธ์หลังจากดาบไม้เข้าไปแทงร่างของเขา มันกลับเลื่อนผ่านไปดื้อๆ
ในเวลาเดียวกัน อาจารย์และนักพรตตู๋ก็เข้ามาสังหารจากทั้งสองด้าน
ร่างกายของผีชั่วรวดเร็วมาก หลบซ้ายหลบขวา ต่างสามารถหลบได้หมด
แต่ หลังจากที่ผีชั่วคิดว่าอันตรายได้หายไปหมดแล้ว
จู่ๆผมที่ซ่อนทางด้านหลังเฟิงเฉ่วหาน ก็กระโดดออกมา
ใช้ไม้บรรทัดดำที่อยู่ในมือ ตีไปที่หัวของเขาทันที
ผีชั่วตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าผมจะกระโดดออกมา
นอกจากนี้เวลาและมุม ที่ใช้ลงมือยังเป็นช่วงที่ดีอีกต่างหาก
แม้เขาจะหลบมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมาถึงขีดสุด และยังเกิดอย่างกระทันหัน เขาจึงไม่สามารถหลบได้
ทันใดนั้น “บึก” เสียงของกระแทกกันก็ดังขึ้น ไม้บรรทัดดำกระแทกเข้าที่เดียวกับผีสาว มันฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขาเต็มๆ
เนื่องจากผมตีแบบสุดแรงเกิด บวกกับไม้บรรทัดเหล็กดำสามารถปราบสิ่งชั่วร้ายได้
ถึงแม้จะเป็นผีชั่วตนนั้นก็ตาม ยังไงเขาก็ต้องทนไม่ไหวเช่นกัน
ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้น “โอ๊ย” อีกนิดเดียวฟันของมันก็แทบบิ่น
ไม่เพียงเท่านี้ ร่างของมันยังกระเด็นออกไปอีกด้วย ……