รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1149 วิหารโบราณลึกลับ มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่เหมือนกันหรือไม่!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1149 วิหารโบราณลึกลับ มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่เหมือนกันหรือไม่!
บทที่ 1149 วิหารโบราณลึกลับ มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่เหมือนกันหรือไม่!
……….
บทที่ 1149 วิหารโบราณลึกลับ มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่เหมือนกันหรือไม่!
ความรู้สึกวิกฤตแผ่กระจายในหัวใจของพวกเขา สีหน้าเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์มืดครึ้ม เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? ตลอดมาเห็นได้ชัดว่าเป็นฝ่ายพวกเขาที่ได้เปรียบ ไยจึงดำเนินมาถึงจุดนี้ได้ เหตุจึงได้รู้สึกเหมือนปิตาจารย์หลี่กำลังครอบครองความได้เปรียบอยู่?
พวกเขาอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง ปิตาจารย์หลี่ไม่อาจคาดการณ์ได้อย่างแท้จริง ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้พวกเขาประมาทมากเกินไป คิดว่าพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ไม่น่ากลัวเกรงแต่อย่างใด เป็นผลให้พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ไปถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด หากรวมเข้ากับพลังในกระดานย่อมสามารถคุกคามพวกเขาได้อย่างเต็มที่!
‘ทำได้เช่นไรกัน?’
คำถามนี้ปรากฏขึ้นในใจพวกเขา แต่พวกเขาต่างไม่อาจตอบได้
ต้องรู้ว่าพลังส่วนใหญ่ของปิตาจารย์หลี่อยู่ในกระดาน ไม่เช่นนั้นปิตาจารย์หลี่คงไม่อาจหลบหนีจากการล้อมปราบได้หลายครั้งถึงเพียงนี้ ดังนั้นต่อให้ปิตาจารย์หลี่จะส่งพลังออกไปนอกกระดานได้ ย่อมไม่มีทางทรงพลังมากเกินไปอย่างแน่นอน
เพราะเหตุนี้เองทำให้พวกเขาเข้าใจไปว่าพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว ใช้เพียงหยวนอู้ก็สามารถจัดการได้ ไม่จำเป็นที่พวกเขาจะต้องใส่ใจมากมาย
แต่สถานการณ์ยามนี้แตกต่างจากที่พวกเขาคิดอย่างเห็นได้ชัด
พลังด้านนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพียงแค่น้อยนิด พลังมหาศาลหลั่งไหลถึงเพียงนี้ นอกจากพลังของปิตาจารย์หลี่แล้วก็ไม่มีผู้ใดน่าสะพรึงกลัวได้ถึงเพียงนี้อีก
“ไม่! พวกเราคิดผิดแล้ว ยังคิดผิดมหันต์ด้วย!”
มีจ้าวแดนพิสุทธิ์เอ่ยออกมา “เหตุใดจึงต้องเป็นพลังที่ส่งออกไปจากในกระดานด้วย ไม่ใช่ว่าเป็นพลังที่เขาอาจจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้าสู่เกมกระดานก็ได้ไม่ใช่หรือ!”
เขากล่าวความคิดตนเองออกมา
“ก่อนเข้าสู่เกมกระดาน เขาคิดว่าหลังจากพวกเราร่วมมือกันคงไม่อาจต่อกรได้ ดังนั้นก่อนที่จะเข้าเกมกระดานจึงจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ล่วงหน้า! เป็นเพราะการเดินหมากครั้งนี้เอง พลังนอกกระดานของเขาจึงแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!”
เขากล่าวอย่างจริงจัง
พลังมหาศาลถึงเพียงนั้นหลั่งไหลออกจากในกระดาน ฟังแล้วไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาคงทำลายปิตาจารย์หลี่ให้สูญสิ้นได้ไปนานแล้ว
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเป็นก่อนที่จะเข้าเกมกระดาน!
ก่อนเข้าเกมกระดาน ปิตาจารย์หลี่ได้วางหมากสำคัญเอาไว้ เช่นนี้ต่อให้ปิตาจารย์หลี่จะไม่ส่งพลังในกระดานออกไปก็ยังคงมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวอยู่นอกกระดานได้!
“เฮ้อ พวกเรายังคงประเมินเขาต่ำไป!”
จ้าวแดนพิสุทธิ์ผู้หนึ่งนามว่าหรูเยวีย ถอนหายใจ นางเป็นสตรีงดงามอย่างถึงที่สุดผู้หนึ่ง รูปร่างอิ่มเอิบ เส้นผมสีทองพร่างพราว น้ำเสียงละมุน
บนกายสวมชุดโปร่งบางสีฟ้าอ่อน ดูแล้วเยาว์วัยนัก ราวกับสตรีอายุเพียงยี่สิบ ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง นางกลับเป็นจอมบงการที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก
สายลมพัดพาเส้นผมสีทองของนางปลิวไสว ใบหน้างดงามละเอียดอ่อน “เดิมทีคิดว่าพวกเราร่วมมือกันแล้วจะเพียงพอต่อการสังหารเขา ผู้ใดจะคาดคิดกัน เขาเตรียมการป้องกันพวกเรามาโดยตลอด หมากทั้งหมดถูกจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า! พวกเราล้มเหลวเพราะความประมาทโดยแท้!”
“ไม่อาจกล่าวได้ว่าประมาท!”
มีจ้าวแดนพิสุทธิ์โต้แย้งทันที คนผู้นี้เองก็ดูเยาว์วัยมากเช่นกัน เหมือนอายุเพียงยี่สิบกว่า นามว่าจินเตียน “อย่างไรเสีย พวกเราร่วมมือกันย่อมต้องชนะอย่างไม่ต้องสงสัย ใครจะคาดคิดกันว่าจะล้มเหลว ไม่อาจนับได้ว่าเป็นความประมาท”
ไม่อาจนับว่าประมาทโดยแท้จริง
ต้องรู้ว่าพวกเขาเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทุกคนน่าสะพรึงกลัวเหนือชั้น แต่ละคนต่างมีพลังบนจุดยอดสุด เมื่อร่วมมือกันแล้วสามารถกวาดล้างทุกสรรพสิ่งได้ เช่นนั้นพวกเขาจะคิดมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?
ย่อมไม่มีทาง!
“ช่างมันเถิด ทุกอย่างผ่านไปแล้ว พวกเราสืบสาวย้อนกลับไปถึงยามนั้นก็ไร้ความหมาย คิดว่าสมควรทำสิ่งใดต่อต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญ”
จ้าวแดนพิสุทธิ์ผู้หนึ่งที่บนตัวปกคลุมไปด้วยเกล็ดปลาเอ่ยขึ้น บนศีรษะยังมีหนวดอยู่หกเส้น เป็นเผ่าอมนุษย์นามว่าหรงเวย
“ถูกต้อง จุดสำคัญสุดคือสิ่งที่พวกเราควรจะทำหลังจากนี้!”
หรูเยวียพยักหน้าเห็นพ้อง “ปิตาจารย์หลี่คาดการณ์เรื่องทั้งหมดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งยังเตรียมการเป็นอย่างดี พวกเราคิดยับยั้งการหลอมรวมภายในกระดานและนอกกระดานของเขา เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากยิ่ง!”
นางกล่าวต่อ “ดังนั้นพวกเราจึงต้องเตรียมเผชิญหน้ากับปิตาจารย์หลี่ที่หลอมรวมภายนอกกับภายในเข้าด้วยกันแล้ว!”
ได้ยินคำพูดหรูเยวีย สีหน้าจ้าวแดนพิสุทธิ์คนอื่นพลันแปรเปลี่ยน
พลังในกระดานของปิตาจารย์หลี่ทัดเทียมกับพวกเขา ทำให้พวกเขาปวดเศียรเวียนเกล้าจนถึงตนนี้ ไร้หนทางทำลายสิ้น หากพลังในและนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่รวมกัน มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกเขาจะพ่ายแพ้ภายใต้เงื้อมมือปิตาจารย์หลี่
“ฟังดูยากเย็นเกินไปแล้ว…”
จินเตียนถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “หากฝ่ายเราแข็งแกร่งขึ้นคงจะดีไม่น้อย!”
พูดถึงตรงนี้แล้ว เขาก็เหมือนจะคิดบางเรื่องขึ้นมาได้ “พวกเจ้าว่าบนโลกยังมีสิ่งมีชีวิตเหมือนกับพวกเราที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาก่อนหรือไม่? อย่างไรเสียก็มีตัวอย่างเช่นทรีแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไร้ความเป็นไปได้!”
ทรีจำศีล แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ ลงมืออย่างรุนแรงในตอนท้าย ทำให้พวกเขาอดคิดถึงขึ้นมาไม่ได้!
“ไม่ใช่ไม่มีทางเป็นไปได้!”
หรงเวยเห็นด้วยกับความคิดจินเตียน “พวกเราคิดว่ามีเพียงพวกเรา แต่อาจมีคนอื่นที่ถูกวิหารโบราณลึกลับเลี้ยงและถูกปล่อยออกมาเหมือนพวกเราก็ได้ไม่ใช่หรือ!”
วิหารโบราณลึกลับ!
นี่คือสถานที่อันใด มีพลังอำนาจเช่นไร พวกเขาเองก็ไม่รู้ ความทรงจำก่อนมาถึงวิหารโบราณลึกลับล้วนว่างเปล่า มีเพียงความทรงจำหลังปรากฏตัวขึ้นที่วิหารโบราณลึกลับอยู่ในหัว
พวกเขาไปโผล่ในวิหารโบราณลึกลับโดยไม่รู้สถานการณ์อันใด ทั้งปิตาจารย์หลี่และทรีเองก็ปรากฏขึ้นในวิหารโบราณลึกลับเหมือนกับพวกเขา
ยามนั้นมีเสียงในวิหารโบราณลึกลับดังบอกว่าพวกเขาจะถูกปล่อยออกไปเพื่อตัดสินว่าผู้ใดแข็งแกร่งที่สุด หลังจากนั้นจะถูกวิหารโบราณลึกลับรับตัวไปอีกครั้ง
พวกเขาถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ บนจักรวาลดวงดารา ค่อย ๆ ก้าวขึ้นสู่ขอบเขตสูงล้ำ
ในหมู่พวกเขา การเติบโตของปิตาจารย์หลี่โดดเด่นน่าตื่นตะลึงยิ่ง ดึงดูดความหวาดหวั่นจากพวกเขาทุกคน ไม่มีผู้ใดแน่ใจว่าตนเองจะสามารถเอาชนะปิตาจารย์หลี่ได้
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจร่วมมือกัน จัดการปิตาจารย์หลี่ลงก่อน แล้วค่อยตัดสินหาผู้ที่แข็งแกร่งสุดในหมู่พวกเขา
ไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้งหมดต้องประสบความพ่ายแพ้โดยปิตาจารย์หลี่ที่แข็งแกร่งสุด!
ส่วนทรีนั้นโดดเด่นน้อยสุดในหมู่พวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เห็นทรีอยู่ในสายตานัก
แต่พระราชวังโบราณลึกลับส่งมาเพียงแค่พวกเขาหรือ?
ก่อนหน้าหรือหลังจากพวกเขา พระราชวังโบราณยังส่งสิ่งมีชีวิตออกมาอีกหรือไม่?
จินเตียนและหรงเวยรู้สึกว่าบางทีพวกเขาอาจไม่ใช่เพียงกลุ่มเดียว ยังคงมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นอยู่
แน่นอนว่านี่อาจเป็นพวกเขาที่คิดผิด ทุกอย่างไม่สามารถยืนยันได้ อย่างไรเสียนอกจากกลุ่มพวกเขาแล้ว ก็ยังไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกันอีก
ยามนี้ที่จินเตียนและหรงเวยพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเพราะพวกเขาต้องการร่วมมือกับสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเพื่อจัดการปิตาจารย์หลี่ให้สิ้นซาก
“มีความเป็นไปได้ แต่โอกาสต่ำเกินไป อีกทั้งหากมีจริง พวกเขาจะต้องซ่อนตัวลึกล้ำเป็นอย่างมาก พวกเราไม่มีทางตามหาพวกเขาพบ อีกทั้งการตามหาอาจไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างใด พวกเรามีโอกาสอย่างมากที่จะถูกพวกเขากำจัดทิ้งแทน”
หรูเยวียส่ายหัว รู้ว่าจินเตียนและหรูเวยคิดสิ่งใดอยู่ นางจึงเอ่ยมุมมองตนเองออกมา
จินเตียนและหรงเวยกำลังหวาดกลัว ทั้งยังหวาดกลัวอย่างมาก กลัวว่าปิตาจารย์หลี่จะรวมกำลังทั้งในและนอกกระดานเข้าด้วยกัน เกิดเป็นความคิดอันไม่สมเหตุสมผลขึ้นมา
นางไม่คิดว่าวิหารโบราณลึกลับจะยังส่งสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นมา
อย่างไรเสียหากมีสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอยู่จริง ไยพวกเขาจึงไม่สังเกตเห็นจนกระทั่งถึงตอนนี้?
ตอนนั้นเองพลันมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา นั่นคือทรี!
นางคิดทุกอย่างจนไม่อาจคิดได้อีกต่อไป หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่ผิดพลาด จึงมาหาเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์เพื่อหารือเรื่องการร่วมมือ
“เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก ถึงกับกล้ามาหาพวกข้า”
หรูเยวียมองไปทางทรี “พลังนอกกระดานถูกทำลายสิ้นแล้ว เจ้าเห็นว่าตนเองไม่มีความหวังจึงมาหาพวกเขาด้วยต้องการพ้นทุกข์หรือ?”
“ไม่! ข้าเพียงต้องการร่วมมือกับพวกเจ้า”
ทรีกล่าวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
นางหาญกล้ามากจริง ๆ ที่มาไม่ได้เพียงแค่พลังส่วนหนึ่ง แต่เป็นพลังทั้งหมด
แน่นอนว่านี่ย่อมเกี่ยวข้องกับความอับจนหนทางของนางด้วย
นางอ่อนแอเกินไป พลังส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดไม่มีความแตกต่างอย่างใด หากส่งเพียงพลังส่วนหนึ่งมา พวกหรูเยวียก็สามารถใช้พลังส่วนนั้นตามนางทั้งหมดจนพบได้
“ร่วมมือ? เจ้าไม่คิดว่าตนเองน่าขันเกินไปหรือ?”
จินเตียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอดีต กล่าวเพียงแค่ตอนนี้ เจ้านับว่ามีคุณสมบัติอันใดมาร่วมมือกับพวกข้า?”
“มี!”
ทรียังคงสงบนิ่งมาก ไม่ตื่นตะหนกแต่อย่างใด “ข้าอยากพูดเรื่องนี้ พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ตกหลุมรักร่างเนื้อของข้า”
“อันใดนะ!”
เมื่อพวกหรูเยวียได้ยินคำพูดของทรีก็พากันตกตะลึง พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ตกหลุมรักร่างเนื้อทรีอย่างนั้นหรือ?
สีหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเชื่อถือยิ่ง!
“พวกเจ้าน่าจะรู้เรื่องการต่อสู้ระหว่างพลังนอกกระดานของข้ากับปิตาจารย์หลี่”
ทรีเอ่ย “ยามนั้นพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ไล่สังหารพลังนอกกระดานข้าไม่ยอมปล่อย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำลายพลังนอกกระดานของข้าให้จงได้ กระทั่งเหล่าเงาที่พวกเจ้าส่งมารุมโจมตี พลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่ยังคงเพิกเฉย สนเพียงแต่ทำลายพลังนอกกระดานของข้า!”
กล่าวถึงตรงนี้ นางหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกประหลาดยิ่งหรือ?”
พวกหรูเยวียไม่ได้เอ่ยวาจา แต่ภายในดวงตาฉายประกายแปลกประหลาด
ทรีกล่าวไม่ผิด เรื่องนี้แปลกเกินไป ยามที่เงาหมายเลข 34 รายงานสถานการณ์ให้ฟัง พวกเขาต่างประหลาดใจยิ่ง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่จึงไล่ตามทำลายล้างพลังภายนอกของทรีไม่ยอมปล่อย!
คิดดูแล้ว ปิตาจารย์หลี่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้โดยสิ้นเชิง พวกเงาหมายเลข 34 ไปถึงที่นั่นแล้ว เช่นนั้นปิตาจารย์หลี่ควรหนีไป และปล่อยให้พวกเงาหมายเลข 34 จัดการกับทรีไม่ดีกว่าหรือ?
หากทำดังว่า ปิตาจารย์หลี่จะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ปิตาจารย์หลี่กลับไม่ได้ทำเช่นนั้น ทว่าเลือกไล่ตามพลังนอกกระดานของทรีไม่ปล่อย ประหนึ่งมีความแค้นเกลียดชังกันอย่างล้ำลึก
ตอนนั้นเอง ทรีกล่าวขึ้นมา “ตอนแรกข้าเองก็ประหลาดใจนัก หลังจากนั้นจึงค่อย ๆ คิดออก!”
“ยามนั้นร่างเนื้อของข้าเองก็อยู่ที่นั่นด้วย เงาที่พวกเจ้าส่งไปล้วนเห็นเช่นกัน ทว่าเงาของพวกเจ้าไม่ค้นพบร่างเนื้อของข้า”
นางกล่าวว่าตนเองได้ซ่อนผลกรรมทั้งหมดไว้บนร่างเนื้อ จุดประสงค์ก็เพื่อไม่ให้ถูกเปิดเผยตน ดังนั้นพวกเงาหมายเลข 34 จึงไม่พบร่างเนื้อของนาง คิดว่าเป็นเพียงบุคคลผู้ไม่มีความเกี่ยวข้อง
“อันที่จริง การปะทะกันระหว่างพลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่กับข้า ล้วนมาจากร่างเนื้อนี้!”
ทรีเอ่ย “ร่างเนื้อที่ถูกข้าซ่อนเอาไว้ได้ให้กำเนิดจิตสำนึกใหม่ขึ้นมา ไม่รู้ด้วยเหตุใดจึงได้พบพานกับพลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่ง พลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่คอยปกป้องร่างเนื้อของข้าไม่ให้ได้รับอันตรายมาตลอด”
เมื่อนางคิดผสานรวมเข้ากับร่างเนื้อ จึงปะทะเข้ากับพลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่!
“พลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่คอยปกป้องร่างเนื้อข้า ทั้งยังไล่ตามทำลายพลังนอกกระดานของข้าไม่ลดละ เขาไม่ต้องการให้จิตสำนึกที่เกิดจากร่างเนื้อข้าได้รับอันตราย!”
หากนางผสานเข้ากับร่างเนื้อ จิตสำนึกที่เกิดจากกายเนื้อจะต้องถูกลบล้างไปอย่างช่วยไม่ได้ ปิตาจารย์หลี่ต้องการปกป้องจิตสำนึกที่เกิดจากร่างเนื้อทำให้ต่อสู้กับนางชนิดไม่ตายไม่เลิกรา
หลังจากพวกหรูเยวียฟังจบก็พลันขบคิดอย่างรวดเร็ว
พวกเขาคิดแล้ว เรื่องดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง ๆ เนื่องจากเป็นเหตุผลเดียวที่อธิบายการกระทำของพลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่ได้อย่างสมบูรณ์
“ตกลง”
พวกหรูเยวียพยักหน้าให้กับทรี “เจ้ามีคุณสมบัติร่วมมือกับพวกเรา”
ตกลงรวดเร็วถึงเพียงนี้?
ทรีตื่นตะลึง ไม่คาดคิดมาก่อนจริง ๆ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่าตนเองจำเป็นต้องโน้มน้าวต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้รับความร่วมมือ
ทว่านางยังไม่ทันเริ่มโน้มน้าว พวกหรูเยวียก็ตอบตกลงเรื่องการร่วมมือเสียแล้ว
“การพยายามจัดการพลังนอกกระดานปิตาจารย์หลี่ของพวกเจ้าล้มเหลวหรือ?” ทรีเอ่ย
นางคิดว่าเงาเหล่านั้นจะต้องถูกจัดการด้วยเงื้อมมือพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ ไม่เช่นนั้นพวกหรูเยวียคงไม่ตอบตกลงรวดเร็วเพียงนี้
“ไม่โกหกเจ้า มันล้มเหลวจริง ๆ”
หรูเยวียกล่าว “ปิตาจารย์หลี่ไม่อาจคาดเดาได้อย่างแท้จริง พลังนอกกระดานน่าสะพรึงกลัวไร้ที่เปรียบ เงาที่พวกข้าส่งไปทั้งหมดถูกพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ทำลายสิ้นไม่มีข้อยกเว้น”
นางไม่ได้ปิดบังสถานการณ์ บอกเรื่องทั้งหมดกับทรี เนื่องจากซ่อนหรือเปิดเผยล้วนไม่แตกต่าง
“อะไรนะ!”
ทรีตัวสั่นสะท้าน ภายในใจตื่นตะลึงยิ่ง นางรู้แต่แรกว่าปิตาจารย์หลี่ไม่ธรรมดา เงาเหล่านั้นไม่อาจทำลายพลังนอกกระดานของเขาได้ แต่เมื่อได้ยินคำตอบนางก็ยังตื่นตะลึงอยู่ดี!
แต่เพียงไม่นาน นางพลันหัวเราะในใจ ถูกพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ทำลายโดยสิ้นเชิง กลับทำให้แผนการทุกอย่างของนางดำเนินได้อย่างราบรื่นขึ้น!
“ทุกท่าน อย่างไรเสียนั่นก็เป็นร่างเนื้อของข้า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับข้า หากปล่อยข้าออกไปยังนอกกระดาน ข้าย่อมอาศัยร่างเนื้อจัดการพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ได้”
นางเอ่ยปาก “ข้าสัมผัสได้ว่าพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อร่างเนื้อของข้า ขอเพียงให้ข้าออกไป การทำลายพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ย่อมไม่ใช่ปัญหาใด!”
“ตกลง!”
พวกหรูเยวียตอบตกลง ปล่อยให้ทรีออกไปยังนอกกระดานเพื่อจัดการกับพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ผ่านทางร่างเนื้อ
……….