รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1148 หลี่จิ่วเต้าล้มล้างศัตรูได้ทั้งปวง บดขยี้เงาทั้งหลายจนแหลกลาญ!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1148 หลี่จิ่วเต้าล้มล้างศัตรูได้ทั้งปวง บดขยี้เงาทั้งหลายจนแหลกลาญ!
บทที่ 1148 หลี่จิ่วเต้าล้มล้างศัตรูได้ทั้งปวง บดขยี้เงาทั้งหลายจนแหลกลาญ!
……….
บทที่ 1148 หลี่จิ่วเต้าล้มล้างศัตรูได้ทั้งปวง บดขยี้เงาทั้งหลายจนแหลกลาญ!
“อ๊ากกก!”
พวกเงาหมายเลข 34 ส่งเสียงโหยหวนด้วยความเจ็บปวด พวกมันทรมานเหลือเกิน กายเนื้อและวิญญาณต่างถูกภูตผีไร้รูปร่างกัดกิน ซ้ำยังได้ยินเสียงกัดกินแกร่ก ๆ ของภูตผีอีกด้วย ยิ่งทรมานเข้าไปใหญ่!
ระดับของพวกมันเหนือกว่าขอบเขตแกนนภาไปไกล อย่าว่าแต่ถูกกัดกินเลย ต่อให้กายเนื้อและวิญญาณถูกลบล้างก็ไม่อาจสร้างความเสียหายต่อพวกมันมากนัก
พวกมันสยดสยองเกินไป ต่อให้กายเนื้อและวิญญาณถูกกำจัดราบคาบก็สามารถฟื้นตัวได้ในพริบตา ซ้ำยังเป็นการฟื้นตัวโดยไร้รอยขีดข่วน ทันทีที่ฟื้นตัวพลังก็กลับมาอยู่ในระดับสูงสุด
ทว่าภูตผีเหล่านี้เหนือความคาดหมายถึงขีดสุด พลังที่กัดกินพวกมันพิเศษอย่างยิ่ง ทุกการกัดกระชากล้วนทำให้พวกมันบาดเจ็บสาหัส สร้างความเสียหายยิ่งกว่าการขจัดพวกมันตรง ๆ เสียอีก!
ขืนเป็นเช่นนี้ต่อ พวกมันต้องถูกกัดตายแน่!
ที่เจ็บใจที่สุดคือภูตผีเหล่านี้ปราศจากรูปร่าง ไม่ว่าพวกมันระเบิดพลังอย่างไรก็ไม่อาจแผ้วพานภูตผีเหล่านี้!
นี่เป็นเรื่องที่เจ็บใจที่สุด ภูตผีกัดกินพวกมันไม่หยุด แต่พวกมันไม่อาจตอบโต้ ไม่อาจหยุดยั้ง ไม่มีที่ให้ใช้พลัง ช่างเจ็บใจยิ่งนัก!
พวกมันระทึกขวัญเหลือแสน พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่น่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เชียวหรือ
พวกมันจับสัมผัสภูตผีไร้รูปร่างไม่ได้เลย นี่มันเป็นไปได้อย่างไร พวกมันแข็งแกร่งปานใด ไฉนเลยจะจับสัมผัสไม่ได้สักนิด!
ทว่าพวกมันจับสัมผัสไม่ได้จริง ๆ หากไม่ใช่ว่ากำลังถูกภูตผีไร้รูปร่างกลืนกิน พวกมันต้องกังขาแน่ว่ามีภูตผีอยู่จริงหรือไม่!
เป็นผลให้พวกมันตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่าพลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่เกินกว่าที่พวกมันคาดการณ์ไปไกล แข็งแกร่งกว่าพวกมันมากโข!
มิฉะนั้น สถานการณ์ย่อมไม่เป็นเช่นนี้!
“เรียกยอดศาสตราออกมา!”
พวกมันคำราม รวมพลังรีดเร้นยอดศาสตราที่จ้าวแดนพิสุทธิ์ประทานให้…เป็นระฆังเก่าแก่พื้น ๆ ใบหนึ่ง!
เหง่ง!
ระฆังโบราณโยกไปมา เสียงระฆังน่ากลัวชวนสะท้านดังก้อง กฎระเบียบสูงส่งโลดแล่นไม่หยุด พลังสยดสยองซัดสาด ทั้งมิติผืนนี้สั่นคลอนรุนแรง เอนไหวไม่หยุด!
ซ้ำร้ายมิติผืนนี้ยังเกิดรอยร้าวไปหลายบริเวณเพราะแรงสะเทือนจากเสียงระฆัง แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งใยแมงมุม คล้ายว่าจะล่มสลาย!
เสียงระฆังน่าพรั่นพรึงดังสะท้อน ลำแสงน่าสะพรึงสารพันพวยพุ่งออกจากระฆังโบราณ ภูตผีที่แต่เดิมมองไม่เห็นเผยตัวออกมาทั้งหมดท่ามกลางลำแสงน่าสะพรึงที่สาดออกจากระฆังโบราณ ไม่อาจเร้นกายได้อีก!
ขณะเดียวกัน ภูตผีเหล่านี้แหลกเหลวอย่างรวดเร็ว ระฆังโบราณน่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างแท้จริง พลังที่แฝงอยู่ในเสียงระฆังน่ากลัวเกินไป!
แม้กระทั่งหลี่จิ่วเต้ายังมีสายตาประหลาดใจอย่างอดไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าระฆังโบราณจะมีพลังน่าครั่นคร้ามปานนี้
‘พวกจ้าวแดนพิสุทธิ์นี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ…’
เขานึกในใจ รู้ดีว่านี่คือยอดศาสตราที่จ้าวแดนพิสุทธิ์ประทานแก่พวกเงาหมายเลข 34 เพราะอย่างนี้เขาจึงเริ่มเห็นพลังของเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์
เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ เหนือกว่าศัตรูทุกผู้ที่เขาเคยพบในอดีต!
“เช่นนั้นก็ต้องฆ่า!”
เขามีสีหน้าเย็นชา ไอเย็นไร้ที่สิ้นสุดคลี่แผ่ จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายส่งพวกเงาหมายเลข 34 บุกมายังลานเล็กของเขา ปฏิบัติต่อสุนัขดำด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ ซ้ำยังทำร้ายซีจนซีต้องหลั่งเลือด เขาไม่มีทางยอมรามือง่าย ๆ!
ผู้คนรอบกายเขาล้วนเป็นเกล็ดใต้คอของเขา ส่วนซีนั้นเป็นเกล็ดใต้คอในเกล็ดใต้คอ เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์บังอาจทำเช่นนี้ เขาไม่สนว่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายน่ากลัวเพียงใด มีแต่ต้องให้จ้าวแดนพิสุทธิ์ต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส!
ตึง! ตึง! ตึง!
ระฆังโบราณสั่นไหวไม่หยุด เสียงระฆังน่าพรั่นพรึงดังถี่กระชั้น ห้วงมิติยิ่งสั่นคลอนเข้าไปใหญ่ รอยร้าวคืบคลานเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เห็น ๆ อยู่ว่าจะล่มสลายเต็มที!
“ผู้สูงส่งทั้งหลายมองการณ์ไกลยิ่งนัก!”
พวกเงาหมายเลข 34 เต็มตื้นกันถ้วนหน้า ยังดีที่เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ประทานยอดศาสตราระฆังโบราณแก่พวกมัน หาไม่แล้วพวกมันต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถ จักถูกหลี่จิ่วเต้ากำจัดอย่างสิ้นเชิง
“หนนี้ดูสิว่าเจ้ายังมีลูกไม้ใดให้ใช้อีก!”
เงาหมายเลข 34 หันมองหลี่จิ่วเต้า ตวาดเสียงเย็น “เตรียมตัวต้อนรับความตายของเจ้าเถิด!”
ซีเห็นแล้วปวดใจนัก คิดไม่ถึงว่าเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์จะประทานยอดศาสตราระดับนี้แก่พวกเงาหมายเลข 34 นางเริ่มเป็นห่วงบุรุษตัวน้อย กลัวจะเกิดเรื่องกับเขา
‘บุรุษตัวน้อยอย่าเป็นอะไรนะ!’
นางกำหมัดแน่น ภาวนา
กล่าวตามตรง นางอยากเข้าไปร่วมรบกับบุรุษตัวน้อย ร่วมต่อกรกับพวกเงาหมายเลข 34 นัก ทว่าสุดท้ายนางก็ข่มความหุนหันพลันแล่นในใจลง
ขอบเขตพลังของนางอ่อนแอเกินไป ไม่มีทางร่วมศึกได้เลย หากเข้าร่วมจริงก็รังแต่จะเป็นตัวถ่วงของบุรุษตัวน้อย ไม่อาจช่วยเขาได้สักนิด
“ไม่ต้องห่วง พวกมันเป็นเพียงปลาซิวปลาสร้อย หาได้มีน้ำยาไม่”
นักพรตอู๋เหลียงก็อยู่ในมิติแห่งนี้ เขาเห็นท่าทางเป็นกังวลของซีจึงเอ่ยปลอบ
เขามั่นใจในตัวคุณชายเต็มร้อย อย่าว่าแต่พวกเงาหมายเลข 34 เลย ต่อให้จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายจุติลงมาพร้อมเพรียง เขาก็เชื่อว่าคุณชายสามารถจัดการได้
“โฮ่ง เจ้าอ้วนเวรตะไลรีบมารักษาข้าเร็วเข้า เลือดในกายข้าไหลจนใกล้จะหมดตัวแล้ว!”
สุนัขดำตะโกนใส่นักพรตอู๋เหลียง มันก็อยู่ในมิติแห่งนี้
มันบาดเจ็บสาหัส ร่างกายเต็มไปด้วยรูพรุน โลหิตทะลักออกมาไม่หยุดราวกับเป็นของไร้ค่า มันรีดเร้นพลังทั้งหมดในกายก็ไม่อาจห้ามเลือดที่ไหลออกมา
“มาแล้ว มาแล้ว!”
นักพรตอู๋เหลียงรีบวิ่งเข้าไปช่วยรักษาบาดแผลของสุนัขดำ ซ้ำยังกล่าวต่อสุนัขดำด้วยความภาคภูมิระคนได้ใจ “ดูเอาเถิด ข้าดีกับเจ้าที่สุดใช่หรือไม่ จากนี้ไปเจ้าห้ามกัดข้าอีกนะ!”
“ได้ เห็นแก่ที่เจ้าช่วยรักษาข้า ข้ารับปากเจ้า จากนี้ไปจะไม่กัดเจ้าอีก” สุนัขดำเอ่ย
“นอกจากนี้ เจ้าต้องอนุญาตให้ข้ากินเนื้อสุนัขด้วย ปัดโธ่ นับแต่เจ้ามา ข้าไม่เคยได้กินเนื้อสุนัขอีกเลย แทบลืมแล้วว่าเนื้อสุนัขมีรสชาติเช่นไร!”
“โฮ่ง!”
สุนัขดำบันดาลโทสะ กัดลำตัวนักพรตอู๋เหลียง เจ้าอ้วนนักพรตอู๋เหลียงช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียเลย ไม่รู้จักทีหนีทีไล่ ริอ่านอยากกินเนื้อสุนัข ได้คืบจะเอาศอก ยื่นบันไดให้ก็จะปีนขึ้นฟ้า!
“บัดซบ เจ้าสุนัขเดนตาย เจ้าไม่รักษาคำพูด ก่อนนี้ยังเอ่ยว่าจะไม่กัดข้า นี่กัดข้าอีกแล้ว!”
นักพรตอู๋เหลียงด่ากราด ร่างกายถูกสุนัขดำกัดจนชุ่มเลือด
“ผู้ใดใช้ให้เจ้าบอกว่าจะกินเนื้อสุนัขเล่า!” สุนัขดำกัดแรงขึ้นอีก
“ไอ้เวรสุนัขดำ ไหนเจ้าว่าเจ้าใกล้ตายแล้ว เหตุใดถึงยังมีแรงขนาดนี้!”
“ไปไหนก็ไป ผู้ใดว่าข้าใกล้ตาย ข้าเอ่ยเพียงเลือดข้าใกล้ไหลหมดตัวแล้ว หาได้เอ่ยว่าข้าใกล้ตาย บัดซบ เจ้ากลับกล่าวหาว่าข้าใกล้ตายรึ!”
สุนัขดำดุดันยิ่งขึ้น กัดนักพรตอู๋เหลียงจนพรุน
“โอ๊ย เจ็บ ๆ ๆ พี่สุนัขปล่อยข้าเถิด อย่ากัดข้าอีกเลย ข้าขออภัยพี่สุนัขด้วย ขอถอนคำพูดเมื่อครู่!”
“เจ้าเข้าใจคำว่าสายน้ำมิอาจย้อนกลับหรือไม่ ขออภัยประโยคเดียวแล้วจะยุติเรื่องนี้หรือ เจ้าฝันหวานเกินไปแล้ว!”
สุนัขดำไล่กัดนักพรตอู๋เหลียงไม่หยุด อย่าให้เอ่ยเลยว่ามีชีวิตชีวาเพียงใด ซีอดมองค้างไม่ได้ เห็นแล้วต้องหัวเราะ สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงช่างตลกกันเสียจริง
ขณะเดียวกัน รอยร้าวคืบคลานไปทั่วมิติ เริ่มมีเสียงแตกร้าวดังออกมา เห็น ๆ ว่ามิติแห่งนี้กำลังจะพังครืนแล้ว
“เครื่องดนตรีทั้งปวง ปี่สั่วน่าเป็นใหญ่! พวกเจ้าเข้าใจคำว่าเป็นใหญ่หรือไม่ เสียงระฆังบังอาจกำแหงเบื้องหน้าเสียงปี่สั่วน่าเชียวหรือ น่าขันนัก!”
หลี่จิ่วเต้าแค่นยิ้ม เป่าปี่สั่วน่าอีกครา!
เสียงปี่สั่วน่าดังกึกก้องไปทั่วทั้งมิติ สยดสยองยิ่งกว่าเก่า มิติที่เห็น ๆ ว่ากำลังพังครืนคืนสภาพดังเดิมทันทีด้วยเสียงปี่สั่วน่า ไม่เหลือรอยร้าวสักนิด!
ขณะเดียวกัน เสียงปี่สั่วน่ากลายเป็นมีดคมนับไม่ถ้วน ถล่มไปหาระฆังโบราณ!
ตึง!
ระฆังโบราณสั่นไหว เสียงระฆังโถมทับคมมีดนับไม่ถ้วนซึ่งจำแลงจากเสียงปี่สั่วน่าจนจมมิดประหนึ่งมหาสมุทร ทว่าลมหายใจต่อมา มีดคมที่จมลงไปพลันบุกออกมาอีกครั้ง ประกายสยดสยองวาววาม ฟาดฟันไปหาระฆังโบราณ!
ตึง! ตึง! ตึง!
ระฆังโบราณโยกไปมารุนแรง ถูกคมมีดนับไม่ถ้วนถล่มจนเกิดรอยร้าวนับคณา ท่าทางย่ำแย่อย่างยิ่งยวด
พวกเงาหมายเลข 34 ได้เห็นภาพนี้ต่างตกตะลึง พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่น่าพรั่นพรึงถึงเพียงนี้เชียวหรือ
“ฆ่า!”
พวกมันไม่กล้าลังเล ระเบิดพลังกล้าแกร่งยิ่งขึ้นทันที รีดเร้นกำลังระฆังโบราณพร้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ระฆังโบราณคือความหวังทั้งหมดของพวกมัน หากระฆังโบราณถูกทำลาย พวกมันก็ไม่มีโอกาสรอด ต้องถูกหลี่จิ่วเต้าสังหารอย่างสิ้นเชิงแน่นอน!
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ด้วยการรีดเร้นอย่างบ้าคลั่งของพวกเงาหมายเลข 34 ระฆังโบราณส่องแสงเจิดจ้า รอยร้าวหายไปจนหมด คืนสภาพดังเดิม
มิหนำซ้ำยังมีพลังน่าครั่นคร้ามยิ่งขึ้นไหลออกจากระฆังโบราณ ภาพการณ์สยดสยองมหาศาลปรากฏ บุกไปหาหลี่จิ่วเต้า
หลี่จิ่วเต้ามีหน้าตาเรียบเฉย ไม่สนอันใด เป่าปี่สั่วน่าต่อไป
เสียงปี่สั่วน่าถักทอเป็นตาข่าย คลุมระฆังโบราณไว้ มิหนำซ้ำเส้นเอ็นตาข่ายคมกริบไร้ใดเปรียบ หดกระชับอย่างรวดเร็วหมายจะแยกส่วนระฆังโบราณ
ระฆังโบราณเปล่งแสงอีกคราว พลังสยดสยองพวยพุ่ง บดขยี้ตาข่ายที่ถักทอด้วยเสียงปี่สั่วน่า บุกไปหาหลี่จิ่วเต้าอีกครั้ง!
ฟึ่บ!
เสียงปี่สั่วน่าหลอมรวมเป็นค้อนสวรรค์เล่มหนึ่ง ทุบลงบนระฆังโบราณอย่างแรง ระฆังโบราณสั่นสะท้าน จุดที่ถูกทุบยุบลงไป
ตึง! ตึง! ตึง!
ระฆังโบราณส่งเสียงรัว รอยบุบคืนสภาพ กฎระเบียบน่าครั่นคร้ามหลอมรวมเป็นอาวุธ บดขยี้ค้อนสวรรค์ บุกออกไปอีกครั้ง
นี่พิสูจน์ให้เห็นถึงความทรงพลังสยดสยองของระฆังโบราณอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นยอดศาสตราชิ้นอื่น คงถูกบดขยี้แหลกลาญไปนานแล้ว
ระฆังโบราณใบนี้คล้ายว่าอยู่เหนือสรรพสิ่ง ทลายเสียงปี่สั่วน่าได้เรื่อย ๆ ประชิดตัวหลี่จิ่วเต้าอย่างรวดเร็ว
อนิจจา ลงท้ายมันก็ไม่ไหว ต่อให้น่าประหวั่นพรั่นพรึงเหลือแสน พลังที่ระเบิดออกมาสามารถทำลายล้างทุกสิ่ง กระนั้นยังไร้น้ำยาเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่จิ่วเต้า!
เสียงปี่สั่วน่าเผยให้เห็นด้านที่น่ากลัวยิ่งขึ้น ระฆังโบราณบุกมาถึงเบื้องหน้า เห็น ๆ ว่าจักกระแทกบนตัวหลี่จิ่วเต้า ทว่าจู่ ๆ ก็ถูกพลังของปี่สั่วน่าสะกดอยู่ที่เดิม ไม่อาจขยับเขยื้อนได้อีก!
“ฆ่า!”
พวกเงาหมายเลข 34 คำราม รีดเร้นพลังระฆังโบราณอย่างบ้าคลั่งอีกครา หวังว่าระฆังโบราณจะปลิดชีพหลี่จิ่วเต้าได้
อนิจจา ไม่ว่าพวกมันรีดเร้นบ้าคลั่งเพียงใด ระฆังโบราณก็ไม่อาจตอบโต้ ถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนา
ภายใต้พลังเสียงปี่สั่วน่า ระฆังโบราณพังทลายอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวระฆังโบราณก็ถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิง อันตรธานสมบูรณ์ ไม่เหลือร่องรอยแม้แต่น้อย!
“เป็นไปได้อย่างไร!”
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!”
พวกเงาหมายเลข 34 แผดเสียงด้วยความสิ้นหวัง ไม่อาจยอมรับผลลัพธ์นี้ได้
เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์มองการณ์ไกลจนประทานระฆังโบราณแก่พวกมันแล้ว เพื่อห้ามไม่ให้ปิตาจารย์หลี่อยู่เหนือความคาดหมายจนเกิดเรื่องไม่คาดคิดอีก สุดท้ายก็ห้ามไม่อยู่ เป็นอีกคราที่ปิตาจารย์หลี่อยู่เหนือความคาดหมายถึงขีดสุด ทำลายล้างระฆังโบราณจนราบคาบ!
พวกมันไม่เชื่อจริง ๆ ว่าจะเป็นเช่นนี้
พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ไยจึงน่าครั่นคร้ามปานนี้
ต้องรู้ว่านี่แทบเป็นไปไม่ได้เลย!
ถึงอย่างไร จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายก็ล้อมสังหารปิตาจารย์หลี่ในกระดานไม่หยุด พลังส่วนใหญ่ของปิตาจารย์หลี่ควรอยู่ในกระดานถึงจะถูก หาไม่แล้วปิตาจารย์หลี่ไม่มีทางหนีรอดจากการรุมสังหารในกระดานได้เรื่อย ๆ จนป่านนี้จ้าวแดนพิสุทธิ์ทั้งหลายยังไม่อาจเอาชีวิตเขา!
ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าพลิกผันโลกทัศน์พวกมันไปอย่างสิ้นเชิง พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ดุดันจนชวนฉงน เหนือความคาดหมายสุด ๆ!
นี่เขาทำได้อย่างไร
เหตุใดปิตาจารย์หลี่ถึงราบรื่นเก่งกาจได้ทั้งในและนอกกระดาน สยดสยองจนยากจะต่อกรด้วยทั้งคู่?!
ท่ามกลางความคิดไม่ตกนี้ และภายใต้เสียงปี่สั่วน่าอันดังก้อง ทุกตนล้วนถูกสังหารอย่างสิ้นเชิง!
จากนั้นหลี่จิ่วเต้าเก็บปี่สั่วน่ากลับไป
มิติพิเศษแห่งนี้หายไป พวกเขาทั้งหมดกลับมายังลานเล็ก
“สุนัขเอ๋ย เจ้าต้องลำบากแล้ว!”
หลี่จิ่วเต้าเดินไปหาสุนัขดำด้วยความสงสาร นำมหาโอสถต้นหนึ่งออกมาให้สุนัขดำกินเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
สุนัขดำกินมหาโอสถต้นนี้เข้าไปแล้วพลันส่องประกายทั่วร่าง ลำตัวที่เต็มไปด้วยบาดแผลคืนสภาพ ไม่เหลือความอ่อนแอแม้แต่น้อย
มิหนำซ้ำขอบเขตพลังของมันยังพวยพุ่งอย่างบ้าคลั่ง บรรลุมาจนถึงขอบเขตปัจฉิม!
นักพรตอู๋เหลียงเห็นดังนั้นอย่าให้เอ่ยเลยว่าอิจฉาเพียงใด เขาเดินไปหาหลี่จิ่วเต้าด้วยท่าทางน่าสงสาร เอ่ยเสียงน้อยอกน้อยใจ “คุณชาย ข้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน ลำบากมากโข!”
น้ำตาเขาร่วงเผาะ ทว่าดูแล้วเสแสร้งยิ่งนัก เป็นน้ำตาที่เค้นออกมา
“เจ้าไม่เป็นไร ไม่ได้บาดเจ็บหนัก นี่เป็นแผลที่สุนัขดำกัด บาดแผลเล็กน้อยทั้งนั้น ไม่ต้องใช้มหาโอสถรักษา ถึงอย่างไรก่อนนี้เจ้าก็ถูกสุนัขดำกัดอยู่บ่อย ๆ คงชินแล้วกระมัง น่ากลัวว่าโดนกัดจนมีภูมิต้านแล้ว” หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ
โดนสุนัขดำกัดจนชินแล้ว?
ได้ยินมาถึงนี่ นักพรตอู๋เหลียงร่ำไห้ออกมาทันที น้ำตาไหลพราก คราวนี้ไม่ใช่น้ำตาที่เค้นออกมา หากแต่เกิดจากความชอกช้ำจริง ๆ
เขาไม่รู้ว่าภูมิต้านคือสิ่งใด แต่เข้าใจความหมายของคุณชายดี คุณชายต้องการบอกว่าเขาถูกสุนัขดำกัดบ่อยจนหนังหนาแล้ว ถูกกัดอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นอันใด
เขาเสียใจจากใจจริง อะไรกัน เขาที่ถูกสุนัขดำกัดไม่ได้รับมหาโอสถ สุนัขดำที่กัดเขากลับได้รับมหาโอสถ เขาน้อยใจเหลือเกิน เขาที่ถูกสุนัขดำกัดบ่อย ๆ ควรได้รับความเป็นห่วงมากกว่า ควรเป็นผู้ที่ได้มหาโอสถมากกว่าถึงจะถูก!
…
ภายในกระดาน
ขณะเดียวกัน เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์สะดุ้งกันหมด รับรู้ได้ว่าระฆังโบราณและพวกเงาหมายเลข 34 ถูกสังหารกันหมด
“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว?!”
สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปมหันต์ เคร่งขรึมเหลือคณา พวกเขาประทานระฆังโบราณให้ยังไม่ไหว พลังนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่อยู่ในระดับน่าพรั่นพรึงขนาดไหนกัน
นี่ถ้าความเก่งกาจทั้งในและนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ผสานเป็นหนึ่งไม่แย่หรือ?!
พวกเขาต่างรู้สึกอันตรายขึ้นมาอย่างยิ่งยวด หากพลังในและนอกกระดานของปิตาจารย์หลี่ผสานเป็นหนึ่ง พวกเขาอาจสู้ปิตาจารย์หลี่ไม่ได้ และถูกกำจัดลงในที่สุด!
……….