ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 430 “มุทะลุ”
ตอนที่ 430 “มุทะลุ”
……….
สัมผัสถึงสายตาจากอัลบัสและเอโลอีส ลูเมี่ยนเดินเชื่องช้าไปหาแมงมุมยักษ์สีดำพร้อมกับโคมไฟคาร์ไบด์ในมือ
ในฐานะ ‘นักล่า’ เด็กหนุ่มเข้าใจท่าทีของพวกพ้องทั้งสองเป็นอย่างดี
เปรียบดังการอยู่ในป่ามืด ทุกคนคือนักล่า แต่เมื่อใดก็ตามที่จุดอ่อนถูกเผย คนคนนั้นก็จะกลายเป็นเหยื่อที่ถูกผู้อื่นผนึกกำลังโจมตี
ตอนนี้อัลบัสกับเอโลอีสอยากเห็นฝีมือกับสภาพของลูเมี่ยน
ดูเหมือนทั้งสองจะไม่เชื่อว่าลูเมี่ยนจัดการ ‘ช่างทำหุ่น’ ได้ง่ายดายนัก โดยมองว่าคงต้องสูญเสียไปไม่น้อย และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาอยากยืนยันลำดับที่แท้จริงของผู้ชนะเกมเค้กพระราชารอบก่อน รวมถึงสมบัติวิเศษที่เด็กหนุ่มพกติดตัว
ลูเมี่ยนมั่นใจว่าตนโค่นแมงมุมยักษ์สีดำที่ปางตายตัวนี้ได้แน่ แต่ก็ไม่อยากเปิดไพ่ ‘ข้ามโลกวิญญาณ’ กับ ‘วิชาฮึ่มฮ่า’ ต่อหน้าอัลบัสกับเอโลอีส
ขณะเข้าใกล้เหยื่อ เด็กหนุ่มคิดหาวิธีต่อสู้โดยสิ้นเปลืองน้อยที่สุด ใช้เวลาน้อยที่สุด และดูสบายมากที่สุด
สายตาของลูเมี่ยนจดจ่ออยู่กับแผลฉีกขาดด้านข้างลำตัวเหยื่อ รวมถึงเลือดสีแดงเข้มที่ยังคงไหลซึมออกมา จนทำให้มันมิอาจหนีออกจากห้องโถงได้เหมือนกับพวกพ้องคนอื่น เด็กหนุ่มสอดมือซ้ายใส่กระเป๋าเสื้อด้วยท่าทีผ่อนคลาย หยิบต่างหูแบบหนีบ แล้วนำมาหนีบกับติ่งหูซ้าย
คำลวง!
ลูเมี่ยนผู้ย่อยโอสถนักวางเพลิงเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีอารมณ์ค่อนข้างคงที่จนสามารถใช้ ‘คำลวง’ ไปพร้อมกับแอบพกพาถุงมือ ‘ทุบตี’ ได้
รอบตัวเด็กหนุ่ม อีกาเพลิงตัวแล้วตัวเล่าถูกเสกขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกัน แมงมุมยักษ์สีดำรีบตอบสนอง หัวใจแห้งเหี่ยวด้านหลังของมันส่องประกายสีแดงเข้ม พร้อมกับสร้างลูกไฟอันตรายจำนวนมากเหมือนคราวก่อน ราวกับจะถักทอให้เป็นใยเพลิงแดงฉานเพื่อป้องกันตัวเอง
ฟิ้วๆๆ อีกาเพลิงรอบตัวลูเมี่ยนเริ่มโบยบิน วาดวิถีที่แตกต่างกันใส่เป้าหมาย
ลูกไฟสีแดงนับร้อยบนตัวแมงมุมยักษ์สีดำก็พุ่งออกมาตอบโต้พร้อมกับเสียงหวีดหวิว
บึ้มๆๆ!
ชั่วขณะหนึ่ง อีกาไฟบางตัวถูกลูกไฟสกัดกั้น แต่บางตัวก็ช่วยจุดระเบิดให้ลูกไฟ สร้างแรงระเบิดลูกโซ่ดังระดมรอบตัวแมงมุมสีดำตัวเขื่อง จนเกิดประกายไฟลุกโชนหลายระลอก
ทันใดนั้น ลูกไฟลูกหนึ่งพุ่งออกจากด้านข้าง พยายามพาตัวเองออกจากทางออกห้องโถง
ลูเมี่ยนกำลังรอจังหวะนี้อยู่ จึงยกมือซ้ายขึ้นมาดีดนิ้ว
เป๊าะ! ลูกไฟสว่างจ้าสูญเสียสมดุลจนร่วงหล่นสู่พื้น
มันมิได้ระเบิด แต่กลับยิ่งลุกโชน เผยให้เห็นร่างของแมงมุมยักษ์สีดำ
ลูเมี่ยนปรี่เข้าไปไวว่อง ใช้มือซ้ายกดมันไว้ แล้วปล่อยกระแสเพลิงสีแดงออกจากฝ่ามือ
กระแสเพลิงเหล่านี้พันรอบกันหลายชั้น บีบอัดจนมีสีเกือบขาวโพลน
หลังจากวิ่งด้วยความเร็วสูง จนเข้าประชิดตัวแมงมุมยักษ์สีดำที่กำลังมึนงงเพราะตกกระแทกพื้น ลูเมี่ยนโน้มตัวไปข้างหน้า ตวัดแขนซ้ายเพื่อกดลูกไฟสีขาวโชติช่วงใส่บาดแผลฉีกขาดอันน่าขนลุก ส่งมันผ่านเข้าไปในร่างกายเป้าหมาย
ท่ามกลางเสียงข้อต่อขยับอย่างบ้าคลั่ง แมงมุมยักษ์สีดำหันกายอย่างยากลำบาก ส่วนลูเมี่ยนตีลังกากลับหลังหลายตลบเพื่อทิ้งระยะห่าง
เด็กหนุ่มย้ายตำแหน่งมาอยู่ด้านข้างทะเลเพลิงสีแดงอันเกิดจากอีกาเพลิงและลูกไฟ เพื่ออยู่ห่างจากพลังที่กำลังอาละวาดในตัวเหยื่อ
บึ้ม!
ลูกไฟสีขาวโชติช่วงระเบิดภายในกายแมงมุมยักษ์สีดำ แม้จะมีร่องรอยการเผาไม่มากนัก แต่การขยายตัวในพริบตาของแก๊ส ได้ฉีกร่างสัตว์วิเศษตัวนี้จนยับเยิน เปลือกแมลงแข็งๆ บนผิวปลิวกระเด็นไปพร้อมเลือดเนื้อ
แมงมุมยักษ์สีดำส่งเสียงร้องจิ๊กๆ ไม่ขาดสาย ขาทั้งแปดที่มีขนดกหนาเอาแต่ยืดหดอย่างบ้าคลั่ง
ลูเมี่ยนไม่ปล่อยให้มันได้พักหายใจ รีบบีบอัดหอกยาวสีแดงจนเกือบขาวแล้วซัดใส่เป้าหมาย
หอกยาวที่มีเปลวไฟรัดพัน พุ่งแหวกผ่านอากาศ จนกระทั่งปักลึกเข้าไปในแผลฉีกขาดเหวอะหวะอย่างแม่นยำ ตรึงแมงมุมยักษ์สีดำไว้กับพื้น
หอกยาวสลายตัวทันที พร้อมกับแผดเผาเครื่องใน หลังจากแมงมุมยักษ์สีดำชักกระตุกสองสามหน ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดเกิดขึ้นอีก
ลูเมี่ยนไม่รีบร้อนเข้าใกล้เหยื่อ เพียงหมุนกาย หันไปมองอัลบัสกับเอโลอีสพลางถอด ‘คำลวง’ ออกแล้วพูดยิ้มๆ
“เรียบร้อย”
ขณะพูด เด็กหนุ่มเสกอีกาเพลิงสีแดงแล้วแยกออกมากลุ่มหนึ่ง สั่งให้พวกมันพุ่งโจมตีแมงมุมยักษ์สีดำที่ดูเหมือนกับตายแล้ว
บึ้ม!
แมงมุมยักษ์สีดำดีดตัวขึ้นมากระทะหันพร้อมกับระเบิดตัวเอง
เมื่อสักครู่มันแค่แกล้งตาย!
โชคยังดี ลูเมี่ยนอยู่ห่างจากมันพอสมควร จึงไม่ตกหลุมพราง เสียไปแค่อีกาเพลิงสิบกว่าตัวเท่านั้น
อีกาเพลิงที่ยังเหลือเริ่มโบยบินไป ‘กัดกิน’ ซากศพของแมงมุมยักษ์สีดำที่กลับไป ‘สงบ’ อีกครั้ง
เห็นภาพนี้ อัลบัสพยักหน้าเชื่องหน้าแล้วพูดอย่างจำใจ
“ไม่เลว”
เอโลอีสมองด้วยสายตาครุ่นคิด ยังไม่ตอบสนองกับคำประกาศของลูเมี่ยน
ลูเมี่ยนหันกลับไปมองแมงมุมยักษ์สีดำ ซึ่งตอนนี้แน่นิ่งไปแล้ว จากนั้นก็รอจนกระทั่งแสงสีดำคล้ายเหล็กแยกตัวออกจากศพ จึงค่อยเดินเข้าไป
หลังจากสังเกตแมงมุมยักษ์สีดำอย่างละเอียดจนถึงเมื่อครู่ เด็กหนุ่มตัดสินใจฉวยโอกาสจากการที่อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัส จนพลังในการควบคุมเปลวไฟถดถอย ร่างกายก็มิได้ว่องไวหรือรวดเร็วเหมือนแต่ก่อน ด้วยการสวม ‘คำลวง’ เพื่อยืมใช้จุดเด่นในการ ‘ควบคุมไฟ’ มาช่วยลดช่องว่างระหว่างความเร็ว
แสงเหล็กสีดำมิได้ไปกระจุกอยู่ตรง ‘ตารวม’ ของแมงมุมยักษ์สีดำตามที่ลูเมี่ยนคาดเดา แต่ไหลเข้าสู่หัวใจสีดำแห้งเหี่ยวที่ฝังอยู่ด้านหลังของมันแทน จนดูคลายลำธารเล็กๆ
ลูเมี่ยนหยุดยืนอยู่ข้างศพเหยื่อ แล้วก้มมองฉากตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ จนกระทั่งตะกอนพลังถูกสกัดจนเสร็จ เจตนาของเด็กหนุ่มคือการหยิบเก็บไปก่อน ไว้ค่อยตรวจสอบในภายหลัง ถัดมาเป็นการไล่งัดหัวใจแห้งเหี่ยว ตารวมสีดำ และต่อมพิษในปากของมันออกมา โดยแยกกันเก็บไว้ในถุงสีเข้มหรือขวดโลหะใบเล็ก
“คุณไม่ได้เป็นแค่นักวางเพลิง แต่ก็ยังไม่ถึงนักวางแผน…สินะ?” น้ำเสียงถากถางของอัลบัสดังขึ้น
พูดยังกับว่านายไม่รู้เรื่องที่ฉันเพิ่งเลื่อนลำดับเป็นนักวางเพลิงได้ไม่นานหลังจากเข้าร่วมชุมนุมกางเขนเลือดเหล็ก…ลูเมี่ยนรำพันพลางยืนตัวตรง แล้วพูดยิ้มๆ
“ใช่ ผมเป็นแค่นักวางเพลิง”
“นักวางเพลิงฆ่าช่างทำหุ่นไม่ได้หรอก…” เอโลอีสกระซิบกระซาบ
เห็นไหม ฉันพูดความจริง ถ้าพวกนายไม่เชื่อ ยังสงสัยนั่นนี่อยู่ดีอีก ทางนี้ก็จนปัญญาจะอธิบายแล้วล่ะ…ลูเมี่ยนหัวเราะในคอพลางก้มหยิบโคมไฟคาร์ไบด์ แล้วเดินนำไปสู่ทางออกของห้องโถง
หลังจากเดินผ่านทางยาวๆ อันมืดมิด ทั้งสามก็มาถึงห้องในส่วนลึก
ท่ามกลางแสงสีเหลืองอมส้ม เหล่าทหารกระป๋องที่สวมโค้ตสีน้ำเงินขลิบทอง ทยอยปรากฏให้เห็นทีละตัว
พวกมันแตกต่างจากหุ่นของเล่นเด็ก แต่ละตัวสูงเกือบสองเมตร หอกยาวในมือก็คมมาก ส่องประกายเย็นยะเยือก
“ถ้าพวกมันเกิดมีชีวิตขึ้นมา จะกลายเป็นกองทัพเลยนะ” อัลบัสถอนหายใจพลางพูดเป็นนัย
กองทัพ…ทหาร…ลูเมี่ยนพลันนึกถึงความรู้สึกอยาก ‘ยอมสยบ’ ในเกมเค้กพระราชา นึกถึงความน่าเกรงขามของหุ่นขี้ผึ้งที่เคยโจมตีตน นึกถึงการแบ่งลำดับชั้นอันน่าอึดอัดในชุมนุมกางเขนเลือดเหล็ก — ‘แม่ทัพใหญ่’ ‘รองแม่ทัพ’ ‘ผู้การ’ ‘นายทหาร’ และ ‘ทหาร’
ท่ามกลางความคิดมากมายที่ผุดขึ้น ลูเมี่ยนพอจะคาดเดาบางสิ่งได้
“ลำดับสูงของเส้นทางนักล่าจะเกี่ยวข้องกับกองทัพ การเชื่อฟัง และลำดับชั้น?”
“หุ่นขี้ผึ้งคือทหารที่ถูกควบคุม หุ่นสังกะสีพวกนี้ก็เหมือนกัน? หรือว่าลำดับสูงของเส้นทางนักล่าจะเกี่ยวข้องกับการสร้างทหารพิเศษเพื่อตัวเอง?”
“ในคูหาใต้ดินของปราสาทหงส์แดงก็มีร่องรอยของเส้นทาง ‘นักล่า’ อยู่เต็มไปหมด เป็นธรรมดาที่จะเจอสัตว์ประหลาดเส้นทางนี้บ่อยๆ …”
นี่ทำให้ลูเมี่ยนไม่จำเป็นต้องขวนขวายหา เพียงแค่ต่อสู้ ก็จะได้เก็บเกี่ยวในเส้นทางที่สอดคล้องกัน
เป็นสนามล่าที่อันตราย ซึ่งเราอาจกลายเป็นเหยื่อ แต่ก็อาจได้รับผลตอบแทนมหาศาลเช่นกัน! เด็กหนุ่มถอนหายใจจากก้นบึ้ง
ทันใดนั้น ลูเมี่ยนเห็นอัลบัส·เมดีซีสร้างลูกไฟสีขาวโชติช่วงที่ถูกบีบอัดหลายชั้น แล้วโยนพวกมันไปตามจุดต่างๆ ในห้องส่งเดช
ลูกไฟเหล่านี้มิได้ระเบิด แต่นอนนิ่งอยู่บนพื้น รวมถึงบนไหล่และบนหมวกของทหารสังกะสี
เมื่อทั้งสามเดินออกจากห้องดังกล่าว อัลบัสย้ายโคมไฟคาร์ไบด์ไปถือด้วยมือซ้าย แล้วใช้มือขวาดีดนิ้วแบบเดียวกับลูเมี่ยน
บึ้ม! บึ้ม! บึ้มบึ้ม!
ภายในห้องด้านหลัง ลูกไฟสีขาวโพลนระเบิดติดต่อกันหลายระลอก ช่วยจุดระเบิดซึ่งกันและกัน จนพื้นดินถึงกับสั่นสะเทือน
ระเบิดหน่วงเวลา!
หนึ่งในพลังของนักวางเพลิง ระเบิดหน่วงเวลา!
แม้ทหารสังกะสีในห้องจะทำจากโลหะทั้งหมด แต่ภายใต้แรงระเบิดอันหนักหน่วง พวกมันต้องเสียแขนหรือขาไป หรือบางตัว ชิ้นส่วนภายในถูกทำลายเพราะแรงสะเทือนจากพื้นดิน บางตัวก็ถูกผนังถล่มทับอยู่ในซากหิน
เมื่อลูเมี่ยนมองมา อัลบัสก็ยิ้มให้
“กำจัดภัยแฝงไง เหมือนที่คุณจัดการกับหุ่นขี้ผึ้งพวกนั้นน่ะ”
“ผมนึกว่าคุณจะไม่กล้าเสียอีก” ลูเมี่ยนยิ้มตอบ
สำหรับผลงานของอัลบัส เด็กหนุ่มมองจุดประสงค์ออกตั้งแต่แรกเห็น แต่สิ่งที่เขาประหลาดใจคือ ดูเหมือนว่าคูหาใต้ดินของปราสาทหงส์แดงจะมีกลไกปกป้องตัวบางอย่าง ไม่ว่าจะเกิดระเบิดหรือไฟไหม้รุนแรงเพียงใด อย่างมากก็เสียหายแค่ภายในห้อง ไม่รั่วไหลออกไปด้านนอก
ก็นะ ถ้าไม่มีกลไกป้องกันตัวแบบนี้ ในสภาวะที่มีสัตว์ประหลาดชุกชุมแบบนี้ ปราสาทหงส์แดงคงพังถล่มไปนานแล้ว…ลูเมี่ยนเห็นอีกหนึ่งทางเดินลาดลงตรงหน้า
สุดปลายทางเดินเป็นประตูเหล็กหนักบานคู่ บนพื้นหลังสีดำสนิทมีรอยสีแดงกระจัดกระจายอย่างไร้ระเบียบ ราวกับมีใครสาดเลือดใส่มัน
เอโลอีสหายใจเข้าเชื่องช้า เดินนำลูเมี่ยนกับอัลบัสไป
เธอเดินไปจนถึงหน้าประตู วางโคมไฟคาร์ไบด์ลง เหยียดมือออกไปพร้อมกับโน้มตัวผลักประตู
ท่ามกลางเสียงเสียดสีที่ชวนให้เสียวฟัน ประตูเหล็กสีดำบานคู่บรรจงถูกผลักเข้าไปทีละนิด
ลูเมี่ยนพลันเห็นแสงเทียนวูบไหว เปลือกตาเริ่มสั่นกระตุกอย่างมิอาจหักห้าม
โลงศพทองสัมฤทธิ์ที่เคยเห็นในฝันร้าย กลับมาสู่สายตาของเขาอีกครั้ง
ตอนนี้ กว่าหนึ่งในสามของเทียนไขรอบโลงศพดับอยู่ แต่ส่วนใหญ่ยังคงลุกไหม้
ท่ามกลางแสงเสียงวูบวาบ ประตูเหล็กถูกเปิดออกจนสุด ลูเมี่ยนรีบกวาดตามองแต่ก็ไม่พบใครอื่น
นักล่าทั้งสามยืนอยู่หน้าประตู ไม่มีใครก้าวเข้าไปนานกว่าสิบวินาที
ในที่สุด อัลบัส·เมดีซีก็หันศีรษะมาทางด้านข้าง ถามด้วยน้ำเสียงเสียดสี
“ทำไมพวกคุณไม่เข้าไปล่ะ”
“แล้วคุณหยุดทำไม” เอโลอีส·ไอน์ฮอร์นไม่ตอบ แต่ย้อนถามกลับ
“พวกเรากำลังรอให้คุณเข้าไปก่อน” ลูเมี่ยนยิ้มอย่างสบายอารมณ์
ห้องโถงนี้ดูอันตรายมากตั้งแต่แรกเห็น ย่อมต้องซ่อนความลับอันยิ่งใหญ่ไว้แน่นอน ดังนั้นคนที่เข้าไปก่อนต้องไม่ใช่ตัวเอง!
ลูเมี่ยนพบว่าไม่ใช่แค่ตนที่คิดแบบนี้ แต่อัลบัสกับเอโลอีสก็ไม่ต่างกัน
อัลบัสถอนสายตากลับ หัวเราะเสียงต่ำ
“ในเมื่อมีแต่พวกขี้ขลาด ผมคงต้องลงมือเองสินะ”
พูดจบ เขาคุกเข่าลงทันที วางมือลงบนพื้น
งูไฟสีแดงสองตัว ผงาดไปข้างหน้าอย่างเงียบงัน เป้าหมายคือโลงศพทองสัมฤทธิ์
เฮ้ย! ลูเมี่ยนพลันหรี่ตา ไม่นึกไม่ฝันว่าอัลบัสจะบ้าบิ่นถึงเพียงนี้
ยังไม่ทันจะสำรวจอะไร ก็ลงมือโจมตีใส่สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่สุดเสียแล้ว?
สีหน้าของเอโลอีสพลันแข็งค้าง มือขวาเอื้อมไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว ราวกับต้องการหยุดอัลบัส
……………………………………………………..