ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 173 ข้อมูลบอส
ตอนที่ 173 ข้อมูลบอส
จินนา ผู้ทาอายแชโดวสีดำรอบดวงตา จุดไฝสีดำกลางจมูก เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนรวบง่ายๆ ก้าวออกจากเงามืดของระเบียง
หญิงสาวถามด้วยความสงสัย
“รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ตรงนี้? รู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน?”
ในฐานะ ‘นักลอบสังหาร’ เธอสามารถอาศัยความมืดและเงาเพื่อซ่อนร่างกาย เมื่อก่อนเคยใช้วิธีนี้อยู่หลายหน ไม่มีใครเคยจับได้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสังเกตเห็นเธอก่อน
ลูเมี่ยนอมยิ้ม
“ครั้งหน้าถ้าคุณอยากลอบสังหารใคร อย่าใส่น้ำหอมเชียวล่ะ”
หลังจากเตือนจินนา เพื่อจะปิดบังความสามารถพิเศษด้านการดมกลิ่นของตน เด็กหนุ่มชี้ประตูห้อง 207 แล้วพูดติดตลก
“นึกว่าอย่างคุณจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเองเสียอีก… ไม่อยากเชื่อว่าจะมีมารยาทยอมรอที่ระเบียง ไม่สมกับเป็นคุณเลยนะ”
“เฮ้ย! ฉันมีมารยาทตลอดนะยะ!” จินนาโกรธนิดๆ ที่ถูกแดกดัน
ผ่านไปสักพัก หญิงสาวบ่นพึมพำ
“คุณน่ะทั้งอำมหิต เจ้าเล่ห์ ชั่วร้าย และปลิ้นปล้อน อาจจะวางกับดักอะไรไว้ในห้องก็ได้ รอคนเข้ามาติดกับอยู่”
พูดจบ จินนาเหล่มองลูเมี่ยนแล้วกล่าวอย่างไม่พอใจ
“ฉันคิดออกแล้วล่ะ เหตุผลที่คุณเดาได้ว่าฉันเป็น ‘นักลอบสังหาร’ !”
“คุณเดาสุ่มๆ จากเส้นทางการแทรกซึมอันสมบูรณ์แบบที่ฉันเล่าให้ฟัง แล้วก็ทำทีเป็นมั่นใจ… บ้าเอ๊ย! ถ้าตอนนั้นฉันใจเย็นกว่านี้หน่อย คุณต้องพูดว่า ‘แหะแหะ ล้อเล่นน่ะ’ แน่นอน!”
“มาดามจินนา ความรู้สึกช้ามากเลยนะ” ลูเมี่ยนหัวเราะ
“มาดามมาเดิมอะไรกัน คุณไม่ใช่พ่อหนุ่มมารยาทงามสักหน่อย เรียกฉันว่าจินนาก็พอแล้ว” จินนาพยายามอดกลั้นการพูดคำหยาบ พลางถามด้วยความอยากรู้ “แล้วอะไรคือความรู้สึกช้า?”
เธอรู้สึกเพียงว่า มันไม่ใช่คำที่ดี แต่ไม่รู้ว่าไม่ดีตรงไหน
สาวน้อย คุณได้ผ่านการศึกษาภาคบังคับมาไหม? ลูเมี่ยนรำพันเงียบ ขณะเปิดประตูห้องก็อธิบายต่อ “ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณ ฟรังก้า บารอนบรินิแยร์ กับ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตได้ฟังมุกตลกที่ผมเล่าพร้อมกัน ฟรังก้ากับบารอนบรินิแยร์จะขำทันที ส่วนคุณต้องรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นค่อยเดินมาหาผมแล้วพูดว่า ‘ฮ่าๆ ตลกจัง’”
“โอ๊ย! ไอ้บ้านี่!” ในที่สุดจินนาก็เข้าใจว่าเมื่อสักครู่ตนโดนเหยียดหยาม
เธอเดินตามลูเมี่ยนเข้าไปในห้อง 207 แล้วถามอย่างสงสัย
“แล้ว ‘ค้อนเหล็ก’ แอตล่ะ ทำไมหมอนั่นไม่ขำ?”
ลูเมี่ยนเอียงศีรษะ มองเธอด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“คนตายขำไม่ได้หรอกนะ”
จินนาชะงักเล็กน้อย แล้วจึงหัวเราะจนตัวโยน
“คุณ… ฮะฮะ! คุณเนี่ย… ฮ่าๆ … เซนส์อารมณ์ขันดีชะมัด…” หญิงสาวพูดตะกุกตะกักไปพลาง หัวเราะไปพลาง
ลูเมี่ยนจุดโคมไฟคาร์ไบด์ในห้อง นั่งลงขอบเตียงแล้วถาม
“คุณมาทำอะไรที่โรงแรมระกาทอง”
“มาเอาปืนคืนน่ะสิ!” จินนาใช้มือปิดประตูห้อง ลากเก้าอี้เอนหลังเก่าๆ มาวางโดยหันพนักพิงไว้ด้านหน้า นั่งลงแล้วเอาศอกเท้าพนักพิง
ดวงตาเธอเป็นประกายเล็กน้อย หักห้ามความอยากรู้ไม่ได้
“คุณจัดการ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตได้อย่างที่พูดจริงๆ … เก่งกว่าที่ฉันคิดไว้ตั้งเยอะ!”
“อย่าเพิ่งเล่านะว่าทำยังไง ฉันขอเดาเองก่อน…”
“คุณ… ถามฉันว่าห้องน้ำใหญ่ไหม แสดงว่าอยากใช้ประโยชน์จากมัน…”
“แม่งเอ๊ย! ฉันคิดออกแล้ว! ต้องใช่แน่! คุณมียาสลบประหลาดๆ ของไอ้วิตถารนั่นอยู่ เหมาะเหม็งเลยที่จะใช้ในห้องน้ำ เหมือนกับกรงนกพิราบไง!”
“เชี่ย! หลังจาก ‘ค้อนเหล็ก’ สู้ไปสู้มาจนเริ่มตงิดใจว่าหมดแรง ฉันจินตนาการได้เลยว่ามันต้องทำหน้าสิ้นหวังแน่นอน พวกนักเลงข้างนอกก็เข้ามาช่วยไม่ได้ แถมยังไม่กล้ายิงส่งเดช…”
จินนายิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ราวกับว่าผู้ลอบสังหาร ‘ค้อนเหล็ก’ คือเธอเอง
“เฮอะ!” จินนาสะบัดมือ จ้องหน้าลูเมี่ยน “สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจคือ ทำไมคุณถึงไม่ได้รับผลกระทบจากยาสลบ? หรือว่าดมขวดอึนั่นล่วงหน้า? ผลมันอยู่ได้นานขนาดนั้นเชียว?”
ลูเมี่ยนหัวเราะ
“ผมยังจำได้นะ ประโยคที่คุณเคยพูดไว้น่ะ…”
“อย่ามองในสิ่งที่ไม่ควรมอง อย่าฟังในสิ่งที่ไม่ควรฟัง อย่าถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม”
“..” จินนาทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด จ้องลูเมี่ยนโดยไม่พูดไม่จา
เด็กหนุ่มนำปืนลูกโม่กระบอกเล็กของเธอออกมา แล้วโยนไปทางหญิงสาว
จินนารับไว้อย่างแม่นยำพร้อมกับหัวเราะหึหึ
“คุณไม่กล้าเดินมาใกล้ๆ เพื่อส่งมันคืนกับมือหรือไง?”
หญิงสาวเม้มปากส่งเสียงจิ๊จ๊ะ
“มีอะไรบนตัวฉันที่ทำให้คุณกลัวหรือไง?”
ขณะนี้ หญิงสาวกลับไปเป็นเหมือนตอนแรกที่เคยหยอกเย้าลูเมี่ยน
เด็กหนุ่มมองเธอหัวจรดเท้า
“คุณนี่ก็ใจกล้าดีเหมือนกันนะ แต่งตัวแบบนี้แล้วยังกล้าเข้าห้องผู้ชายตอนดึกๆ อีก”
จินนายังคงใส่ชุดเดียวกับที่ร้องเพลงตอนดึก เสื้อตัวจิ๋วสีขาวเผยให้เป็นเนินอกเกือบทั้งหมด กระโปรงสั้นฟูสีขาวครีมช่วยปกปิดได้ไม่มากนัก เพราะขาทั้งสองข้างของเธอกำลังถ่างอยู่หลังพนักพิง
จินนาจงใจปิดปากหัวเราะหึหึสองสามที
“ที่ใต้ดิน ฉันแทบไม่มีแรงต่อต้าน คุณก็ไม่ได้ทำอะไร นับประสาอะไรกับตอนนี้”
“คุณยังเป็นหนุ่มซิงจริงๆ สินะ… อยากให้พี่สาวพราวเสน่ห์คนงามคนนี้ ช่วยพาขึ้นสวรรค์ของผู้ใหญ่ไหมเอ่ย?”
ระหว่างที่พูด หญิงสาวแกล้งโน้มตัวลงอีก เพื่อเน้นให้หน้าอกเด่นชัดขึ้นมา
ลูเมี่ยนไม่หลบตา ยังคงมองตรงๆ อย่างไม่เขินอาย
ใครจะเขินกับเรื่องแบบนี้กัน?
เมื่อไม่ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำและอากัปกิริยาของเด็กหนุ่มใสซื่อ จินนาทำหน้าผิดหวัง
หญิงสาวเปลี่ยนไปนั่งหลังตรง บ่นอุบอิบ
“น่าเบื่อจริงๆ … ไอ้ขี้ขลาด…”
วินาทีถัดมา ลูเมี่ยนลุกพรวดขึ้น
สีหน้าของจินนาเปลี่ยนไปทันที
“คิดจะทำอะไร?”
ลูเมี่ยนยกมุมปากยิ้ม หันไปทางโต๊ะไม้
“เทเบียร์อ่อนๆ ให้ตัวเอง จะเอาด้วยไหม?”
โรงแรมระกาทองไม่มีบริการน้ำต้ม ลูกค้าต้องดื่มน้ำประปาโดยตรง หรือไม่ก็ดื่มเบียร์อ่อนๆ แทนน้ำ
“…ไม่ล่ะ” จินนาถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก
ลูเมี่ยนดื่มเบียร์อ่อนไปสองสามอึก ก่อนจะวกกลับเข้าเรื่อง
“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าอายุมากกว่าผม?”
“ฉันเคยเห็นในประกาศจับที่ฟรังก้าเอามาให้ดู… สวัสดีจ้ะน้องลูเมี่ยน อายุยังไม่ถึงสิบแปดใช่ไหม? พี่สาวคนนี้ยี่สิบเอ็ดแล้วนะ!” จินนาเริ่มลิงโลด
“อายุสมองสิบสองขวบหรือเปล่า?” ลูเมี่ยนแดกดัน แล้วถามต่อ “แล้วคุณรู้เส้นทางเข้าห้องนั้นได้ยังไง”
ฟรังก้าวางแผนลอบสังหารพวกแก๊งหนามพิษมานานแล้วหรือ?
จินนาเม้มปากเล่า
“ฉันสืบข้อมูลมาเกือบเดือนแล้ว คอยหาโอกาสลอบสังหารมาร์โกต์อยู่ตลอด ใครจะไปคิดว่าคุณดันลงมือตัดหน้า”
คาบาเร่ต์โรงโม่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของมาร์โกต์
“คุณแค้นส่วนตัวมาร์โกต์หรือไง?” ลูเมี่ยนถาม
“หมอนั่นไม่เคยทำอะไรฉันหรอก” จินนาก้มหน้าเล็กน้อย “ตอนที่ฉันเพิ่งมาถึงเขตตลาดใหม่ๆ … ระหว่างตระเวนหางานร้องเพลงตามคาบาเร่ต์ ฉันได้เจอนักร้องนางพญาอีกคน เธออายุมากกว่าฉันไม่เท่าไร แต่คอยดูแลฉันเป็นอย่างดี แถมยังช่วยแก้ไขจังหวะการร้องให้ด้วย ช่วยหางานแสดงให้ด้วย… เมื่อเดือนกว่าๆ มาแล้ว เธอถูกมาร์โกต์ข่มขืน… แม่งเอ๊ย! ไม่ใช่ว่าเป็นนางพญาแล้วต้องแหกขาให้ทุกคนสักหน่อย! หลังจากนั้นเธอก็ออกจากเขตตลาด พอได้ข่าวอีกที เธอก็เข้าโรงพยาบาลบ้าไปแล้ว…”
“นั่นคือครั้งแรกที่ฉันขอความช่วยเหลือจากฟรังก้า ฉันอยากได้พลังวิเศษ อยากทำอะไรเพื่อเธอคนนั้นบ้าง”
ลูเมี่ยนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าว
“เห็นไหม จะทำการใหญ่ต้องไม่ลังเล ผมตัดสินใจจะฆ่ามาร์โกต์ตอนเช้า พอตกการคืนก็เชือดมันทิ้งแล้ว”
จินนาทั้งโกรธทั้งขำ
“แต่ละคนก็มีลีลาเป็นของตัวเองน่า!”
ลูเมี่ยนเปลี่ยนเรื่อง
“พรุ่งนี้เช้า บารอนบรินิแยร์จะพาผมไปเจอบอส คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง?”
จินนาครุ่นคิดแล้วตอบ
“ฉันไม่เคยเจอเขาหรอก แค่ได้ยินฟรังก้าพูดถึงเขามาบ้าง”
“เขาอาศัยอยู่ที่เขตหอรำลึก เจ้าชู้มาก มีผู้หญิงหลายคน แต่ไม่ถึงขั้นวิตถาร รสนิยมก็ค่อนข้างปกติ ผู้หญิงทุกคนเป็นประเภทที่ฟรังก้าชอบ”
“เขาเป็นนักธุรกิจ มีลานเก็บของข้างสถานีรถไฟไอน้ำ มีหุ้นในท่าเรือริสต์ใกล้ๆ กัน จำนวนหุ้นเห็นว่าค่อนข้างเยอะ… เขายังมีบริษัทขนส่งสินค้ากับบริษัทก่อสร้างด้วย ซึ่งจ้างคนซาฟาห์ทำงานเยอะมาก”
“คุณอาจไม่ทราบ ตอนที่พวกแก๊งหนามพิษเพิ่งผงาดขึ้นมาใหม่ๆ พวกมันเคยปะทะกับพรรคซาฟาห์หนักข้อ คนงานในลานเก็บของกับคนยกของที่ท่าเรือมารวมตัวกันจนเต็มถนน ยังกับการเดินขบวนประท้วงแน่ะ!”
คนเยอะฉิบ… ถ้าติดอาวุธหน่อยก็เป็นกองทัพได้เลย… ลูเมี่ยนส่งสัญญาณให้จินนาพูดต่อ
จินนาดึงคอเสื้อให้สูงขึ้นนิดหน่อย
“ฟรังก้าบอกว่า เขาใจดีกับผู้คนมาก ไม่เว้นแม้แต่กรรมกรรากหญ้า แต่อย่าหลงกลกับภาพลักษณ์ภายนอกเชียว… ที่เขาทำแบบนั้นก็เพื่อลดเกราะป้องกันของคนรอบข้างลง”
“เขาทั้งฉลาดและเจ้าเล่ห์ ชอบให้คนเต้นอยู่บนฝ่ามือ คุณอย่าทำให้เขาโกรธเชียว… ไม่งั้นแม้แต่ฟรังก้าก็ช่วยคุณไม่ได้”
“เขาแข็งแกร่งมาก ดูเหมือนจะถนัดใช้ไฟ และยังมีของวิเศษด้วย”
ถนัดใช้ไฟ… ลำดับ 7 ของเส้นทางนักล่า ‘นักวางเพลิง’ ? ไม่สิ ฟรังก้าบอกว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก แล้วฟรังก้าน่าจะเป็น ‘แม่มด’ ลำดับ 7 แห่งเส้นทาง ‘นางมาร’ ในเมื่อเธอชื่นชมเขาขนาดนั้น แสดงว่าบอสใหญ่พรรคซาฟาห์น่าจะอยู่สูงกว่าลำดับ 7…
หัวหน้าของแก๊งหนามพิษ อย่าง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์มีพลังแค่เทียบเท่าลำดับ 7 เท่านั้น ก็ได้เป็นบอสใหญ่แก๊งอันธพาลแล้ว แถมยังไม่แน่ว่าจะชนะ ‘แม่มด’ ได้ด้วยซ้ำ… ทั้งๆ ที่ฟรังก้าเก่งกาจพอที่จะตั้งแก๊งเองได้ แต่กลับยอมเป็นคู่นอนของบอสคนนั้น… ไม่รู้เพราะมีแผนซ่อนเร้น หรือว่าฝีมือกับภูมิหลังของเขา ทรงพลังกว่าฟรังก้ามากจริงๆ กันแน่… สมองลูเมี่ยนรีบประมวลผลเพื่อคิดวิเคราะห์
จินนาลุกขึ้นยืน
“พรุ่งนี้คุณแต่งตัวให้ดูเป็นลูกผู้ชายหน่อยจะดีกว่า อย่าเอาอย่างบารอนบรินิแยร์ล่ะ บอสชอบลูกน้องที่ดูก้าวร้าวเหมือนหมาป่ามากกว่า”
“งั้นหรือ…” ลูเมี่ยนยิ้ม “ผมกลัวว่าจะก้าวร้าวเกินไปน่ะสิ”
จินนากลอกตามองบน
“อาฮะ… ทั้งๆ ที่ฉันถูกคุณช่วยไว้แท้ๆ แต่บางครั้งก็ทนไม่ไหวอยากซัดหน้าคุณสักหมัดเหมือนกัน!”
“เพลาๆ ลงบ้างเถอะ!”
หญิงสาวรัดซองปืนไว้กับน่อง เดินไปที่ประตู หาวโดยไม่ปิดปาก
“ฉันกลับล่ะ… เฮ้อ… ช่วงนี้คงไปร้องเพลงที่คาบาเร่ต์โรงโม่ไม่ได้แล้วสิ”
“ทำไมคุณถึงยังพักที่ห้องห่วยแตกแบบนี้อยู่ล่ะ?”
แม้ที่พักของเธอจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็ยังดีกว่าโรงแรมระกาทองมากโข
ลูเมี่ยนหัวเราะ
“ก็ที่นี่ถิ่นผม”
“เฮอะ!” จินนาไม่ต่อปากต่อคำ เพียงเดินออกไปยังโถงทางเดินสลัวๆ จนกระทั่งลับสายตา
ลูเมี่ยนล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ก็ทิ้งตัวลงบนเตียง เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องที่จะไปพบบอสใหญ่พรรคซาฟาห์วันพรุ่งนี้ จนค่อยๆ ผล็อยหลับไป
……………………………………………………..