การเคลื่อนไหวทางด้านนี้ได้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ยิ่งตอนที่ฉินจวิ้นเฟยตะโกนไปเมื่อกี้ยิ่งมีคนเข้าล้อมมากยิ่งขึ้น
"อะไรนะ คุณกล้าที่จะทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้น แต่ไม่ต้องการให้ผมพูดมันออกไปหรอ?" ฉินจวิ้นเฟยยิ้มพพร้อมกับเสียงของเขาที่ดังขึ้นมานิดหนึ่ง
ฉันโมโหจนตัวสั่น พร้อมกับยกมือขึ้นแล้วตบไปที่เขาแรงๆ
"ไอ้คนโง่…." ฉันกัดฟันแล้วพูดออกไป
เสียงตบนี้ทั้งดังและแรง ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่มันก็ทำให้ฉินจวิ้นเฟยโกรธไม่น้อย
เขาจับผมของฉันอย่างแน่นแล้วกระชากอย่างแรงทำให้ฉันล้มลงไปกับพื้น
เขากำหมัดแน่นขึ้นแล้วจะสวนมันมาที่ฉัน ฉันกลัวจนหายใจไม่ออกและขยับตัวไม่ได้
ฉันเห็นเฉิงอี้เฉินพุ่งตรงไปที่ฉินจวิ้นเฟย แต่ต่อจากนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะฉันนั้นสลบไป
ฉันฟื้นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล เฉิงอี้เฉินกับหลิงปิงชิงนั่งอยู่ข้างเตียงฉัน
เห็นว่าในห้องไม่มีเสียงของฉินจวิ้นเฟยกับจิ้นเหวินเซี่ยนก็ทำให้ฉันนั้นรู้สึกโล่งใจมาก
"อีอีเธอ…."หลินปิงชิงคว้ามือฉันไปจับ พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูเหมือนมีอะไรที่ซับซ้อน
ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็ได้ยินเสียงของเฉิงอี้เฉินพูดขึ้นมา
"คุณกำลังตั้งครรภ์ หมอบอกว่าคุณทำงานหนักเกินไปบวกกับการที่คุณเครียดและคิดมากเกินไปเลยเป็นลมไป"
มีเสียงพึมพำเกิดขึ้นในหัวของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกมึนและงงไปหมด
ฉันท้อง?งั้นเด็กคนนี้ก็เป็น……
ภาพในคืนนั้นปรากฏขึ้นมาในหัวของฉัน ฉันกับฉินจวิ้นเฟยไม่เคยมีอะไรกันมาก่อนเลย งั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นของใคร นอกจากเฉิงอี้เฉิน
แต่ว่าฉันควรจะบอกเขาไหม? เขาจะยอมรับหรือเปล่า?
ในใจของฉันยุ่งเหยิงไปหมดและอยู่ดีๆมือของฉันก็ไปลูปบนหน้าท้องของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แต่กลับมีความเงียบในจิตใต้สำนึก
สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนเป็นอุบัติเหตุและการมีเด็กคนนี้ก็ล้วนเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ต้องให้เรื่องในคืนนั้นมาทำให้ฉันต้องมารบกวนเฉิงอี้เฉิน รวมถึงตอนนี้ด้วยที่ฉันก็ไม่ได้หวังเหมือนกัน
เด็กคนนี้ฉันจะเก็บเอาไว้ไม่ได้
"ฉินจวิ้นเฟยตกลงที่จะหย่ากับฉันเเล้วก็เด็กคนนี้ก็ควรจะเป็นของฉัน "
ฉันอึ้งกับคำพูดที่ไม่คิดว่าจะพูดออกมาจากปากของเฉิงอี้เฉิน
แค่เขากำลังทดสอบฉัน?หรือว่ากำลังพิสูจน์?
"ฉันจะเอาเด็กคนนี้ออกและจะไม่ไปทำให้คุณเดือดร้อน…." ฉันพูดออกไปด้วยความยากลำบากโดยที่ไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเขา คิดว่าเราต้องยอมรับให้ได้
คนอย่างเฉิงอี้เฉินโดยธรรมชาติแล้วไม่ต้องการให้ผู้หญิงเอาตัวเองไปพูดมั่วๆ ตอนนี้เขาก็ช่วยเหลือฉันมากพอแล้ว ความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณเขามันได้ข้ามผ่านความเกลียดชังไปแล้ว ฉันไม่อยากทำให้เดือดร้อนไปมากกว่านี้
"ไม่ ฉันคิดว่าเราควรจะคุยกัน"
คุยกัน? ฉันมองไปที่เฉิงอี้เฉินด้วยความงง
"เด็กคนนี้…"เฉิงอี้เฉินพูดคร่ำครวญสักครู่และในที่สุดก็มองมาที่ฉันแล้วพูดว่า "เด็กคนนี้ให้เขาได้คลอดออกมาเถอะ"
ครั้งฉันอึ้งกับคำพูดของเขาและตกใจมากกว่าตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์
เฉิงอี้เฉินบอกว่าให้ฉันคลอดเด็กคนนี้?มันหมายความว่ายังไง?เขาไม่กลัวว่าฉันจะนำความเดือร้อนมาให้เขาหรือ?
"พี่ใหญ่เฉิง พี่ต้องการที่จะ……."หลินปิงชิงก็ดูไม่เชื่อเหมือนกัน ในดวงตาของเขายังอึ้งอยู่เลย
แต่เฉิงอี้เฉินกลับเงียบสงบมาก
"ฉันต้องการลูกและกลุ่มบริษัทสกุลเฉิงก็ต้องการผู้สืบทอด คุณคลอดลูกออกมาเถอะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมจะออกให้และผมก็ให้เงินค่าชดเชยคุณด้วย" เฉิงอี้เฉินพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน
ฉันนิ่งไปสักพักถึงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดและมองไปที่เขาอย่างไม่ค่อยเชื่อ
แน่นอน ฉันรู้ว่าเฉิงอี้เฉินไม่ต้องการจะแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเขาก็พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการแค่ลูก ไม่ได้ต้องการภรรยา
ฉันแปลกใจที่เฉิงอี้เฉินนั้นจะยอบให้ลูกของเธอได้เป็นทายาทของบริษัทสกุลเฉิง แต่ฉันก็ไม่สามารถรับข้อเสนอนี้ไว้ได้
"คุณต้องการให้ฉันขายลูกงั้นหรือ?" เสียงของฉันที่พูดออกไปไม่สามารถบังคับไม่ให้มันสั่นได้ ถ้าเอาตามที่เฉิงอี้เฉินพูดมาก็คงจะมีความหมายแบบนี้
พลังงานและเลือดไหลเวียนอยู่ในอก แม้ว่าฉันขาดสนเรื่องเงิน แต่จะให้เอาลูกไปแลกกับเงินนั้นฉันทำไม่ได้
เฉิงอี้เฉินผงะไปชั่วขณะพลางขมวดคิ้ว "คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจแบบนั้น"
เขามักจะหยิบซองบุหรี่ออกมาและหยิบออกมาหนึ่งม้วน แต่ดูเหมือนเขานึกได้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาล เขาจึงคีบบุหรี่เอาไว้ที่นิ้ว แต่ไม่ได้จุดไฟ
"ถ้าเกิดว่าฉันอยากมีลูก มีผู้หญิงมากมายที่จะมาเป็นแม่ของลูกได้ ไม่จำเป็นตองมาหาคุณหรอก" เฉิงอี้เฉินมองมาที่ฉันและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและน่ากลัว
ฉันเงียบขรึมไปและที่เฉิงอี้เฉินพูดนั้นไม่ผิด ถ้าเขาอยากมีลูกมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย
ที่ฉันพลาดจนตั้งครรภ์นั้นถือว่าเป็นโชคดีหรือเปล่า? ฉันคิดแล้วหัวเราะในใจและไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับเฉิงอี้เฉิน
"ผมจะไม่บังคับคุณว่าคุณจะต้องเก็บเด็กคนนี้ไว้หรือว่าเอาออก คุณตัดสินใจเองเลย ถ้าหากว่าจะให้เกิดออกมาเราสามารถคุยเกี่ยวข้อกำหนดอย่างละเอียดได้" เฉิงอี้เฉินพูดอย่างเป็นกรเป็นงาน ฉันต้องบอกว่าทัศนคติของแบบนี้ทำให้ใจของฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ฉันแค่รู้สึกกระวนกระวายใจและกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อนข่มอารมณ์ตัวเอง
"พี่ใหญ่เฉิง ขอเวลาให้อีอีคิดได้ไหม? เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถตัดสินใจได้ทันที" หน้าของหลินปิงชิงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
เฉิงอี้เฉินพยักหน้า "ที่บริษัทของผมมีเรื่องนิดหน่อย เอาไว้ตอนกลางคืนผมค่อยแวะเข้ามาหา"
เขาที่พึ่งจะหันตัวแล้วจะเดินออกไป ก็หันหน้ากลับมาแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ยังไงผมก็เป็นพ่อของเด็ก หากผมไม่ยินยอมที่จะให้คุณเอาเด็กคนนี้ออก คุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำ ไม่งั้นคุณจะต้องรับผิดชอบกับผลที่ตามมา"
MANGA DISCUSSION