ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 735 : เขตดาวตกเทพ - เรื่องบังเอิญ
ตอนที่ 735 : เขตดาวตกเทพ – เรื่องบังเอิญ
อี้หลงโจมตีเข้ามาอย่างหนัก แม้ว่าหวังเย่าจะพยายามต้านทานเอาไว้แต่ก็ยังไม่อาจจะรับมือไหว พลังของเขาไม่อาจจะทัดเทียมกับอี้หลงได้เลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะแมวและแฟนธอมที่เพิ่มสถานะให้กับเขารวมกับการที่มีเกราะมังกรอยู่ ไม่งั้นแล้วอี้หลงอาจจะฆ่าเขาได้ในเวลาไม่กี่วินาที
หวังเย่ากระอักเลือดออกมาและบาดเจ็บหนักกับการโจมตีของอี้หลง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นภัยถึงชีวิต แต่การโจมตีนี้ก็ส่งผลต่อร่างกายของเขา ร่างกายของเขาเสียหายหลายจุด นี่ไม่ต้องนับการเผชิญหน้ากับจีเฟยเลย มันทำให้สถานการณ์ดูย่ำแย่ขึ้นมาทันที
เอไนน์ได้ใช้สกิลรักษาเพื่อฟื้นฟูให้กับหวังเย่า แต่เขาบาดเจ็บหนักเกินไป แม้ด้วยสกิลของเอไนน์ก็ได้แต่ฟื้นฟูตัวเองอย่างช้า ๆ
“สาวน้อย ฉันเห็นว่าเธอเป็นสัตว์อสูร สายเลือดก็ไม่ได้อ่อนแอนัก มาเป็นของฉันแทนเถอะ” จีเฟยพูดจบก็ยื่นมือเข้ามาหาเอไนน์
แมวได้ไปขวางหน้าเอไนน์เอาไว้และหยุดจีเฟย แต่มือที่พุ่งเข้ามานี้ก็ปัดแมวทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นแค่มนุษย์แต่ก็เลเวลสูงกว่า 160 แล้ว เขาแกร่งกว่าแมวอย่างมาก
จีเฟยได้พุ่งเข้าหาเอไนน์อีกครั้ง เขาเห็นว่าสาวน้อยคนนี้ต่างจากสัตว์อสูรทั่วไป มันไม่ใช่สัตว์อสูรทุกตัวที่มีสกิลติดตัวที่ดีแบบนี้ได้ มีสัตว์อสูรน้อยตัวนักที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นสัตว์อสูรสายซัพพอร์ตและเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้เช่นนี้
เอไนน์มีพรสวรรค์ ตราบใดที่เธอมีโอกาส เธออาจจะบินได้ ในฐานะผู้ดูแลระดับสูงแล้ว จีเฟยเชื่อว่าเขาคิดไม่ผิด
“มาเป็นสัตว์อสูรของฉันเถอะ ฉันจะให้โอกาสเพื่อให้เธอขึ้นมาเป็นสัตว์อสูรเทพให้ได้” จีเฟยบอกกับเอไนน์ ในความเห็นของเขาแล้วไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนปฏิเสธเรื่องนี้ได้
เอไนน์ได้ยินแบบนั้นก็เบะปากใส่และพูดขึ้น “ถ้าไปเป็นสัตว์อสูรของแก ฉันคงต้องเป็นสัตว์ประหลาดในอนาคต ฉันจะถูกแกใช้ทำเรื่องชั่วร้าย ! ”
“งั้นก็ไม่มีทางอื่น ฉันคงต้องบังคับเธอแทน” จีเฟยพูดจบก็มีธงสีดำที่มีลวดลายของสัตว์อสูรต่าง ๆ ที่เขียนด้วยเลือดปรากฏขึ้นมาในมือของจีเฟย
“ไม่คิดเลยว่าแค่สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์จะทำให้นายใช้มันได้” อี้หลงพูดขึ้นมา
“ไม่ใช่แค่สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ แต่แมวบรรพกาลก็ด้วย สัตว์อสูรสองตัวนี่คุ้มค่ากับการใช้มัน” จีเฟยพูดขึ้น
จีเฟยยกมือขึ้นพร้อมกับพลังที่สูบแมวเข้ามาหาตัวของเขา
แมวรู้ตัวเร็วและทำการโจมตีเข้าใส่ แต่จีเฟยก็ได้ใช้ธงนี้รับมือเอาไว้ได้ทัน
พลังได้อัดเข้าไปที่หน้าอกของแมวทันที แมวนั้นบาดเจ็บอยู่แล้วจึงได้กระอักเลือดออกมา มันได้ถอยกลับและไม่อยากเข้าใกล้ธงนั่น เพราะธงนั่นทำให้มันรู้สึกได้ถึงอันตรายมากกว่าลิงเสียอีก แต่ตอนที่แมวคิดจะถอยก็สายเกินไปแล้ว
ธงที่เขียนด้วยเลือดนั้นกลับทำให้แมวต้องเปลี่ยนสีหน้าไป ภาพของสัตว์อสูรเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เส้นสีแดงได้เปล่งแสงออกมา สุดท้ายแสงเหล่านี้ก็รวมตัวกันเป็นภาพของสัตว์อสูร มันคือภาพของแมวบรรพกาล
ตอนที่ภาพนี้ปรากฏขึ้นมาแมวก็ตัวแข็งทื่อไปราวกับหิน มันเหมือนกับกำลังฝืนอยู่ ตัวของมันสั่นไหว และขนสีทองเริ่มกลายเป็นสีแดงราวกับเลือด
“จ้าวแห่งแมว ! ” หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ต้องแปลกใจ เขาไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองและคิดจะเข้าไปหยุด จีเฟยเอาไว้
อี้หลงฮึดฮัดออกมา เขาได้ระเบิดพลังออกมาเพื่อกดดันไม่ให้หวังเย่าเข้ามาได้
ด้วยอาการบาดเจ็บของตัวเองและพลังของอี้หลง ขาของหวังเย่าจึงฝังลงไปกับพื้น เขาได้แต่พยายามต้านทานพลังของอี้หลงเอาไว้
เอไนน์รู้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงได้ใช้สกิลออกมาหวังว่าจะช่วยแมว
“อย่าเข้ามายุ่ง แมวนี่ต้องเป็นของฉัน ยังไงซะฉันก็จะฝืนทำสัญญากับมันให้ได้ แม้ว่าจะมีเจ้าของอยู่แล้วแต่ตราบใดที่ได้แก่นเลือดของมันมา ฉันก็ควบคุมมันได้” จีเฟยมองไปที่หวังเย่าแล้วพูดขึ้น
สีหน้าของหวังเย่าบิดเบี้ยวไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น เขารู้สึกว่าการเชื่อมต่อของเขากับแมวนั้นเริ่มอ่อนแอลง หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะเป็นแบบที่อีกฝ่ายบอกมาก็ได้ แมวนี่จะไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขาอีก
“ดูเหมือนว่าแกจะจับสัตว์อสูรมาแบบนี้หมดสินะ” หวังเย่าพูดขึ้น “แต่แมวนี่คือแมวบรรพกาล คนของดาวนิบิรุได้สร้างเขาขึ้นมาเป็นสุดยอดสัตว์อสูร เขาไม่ได้ธรรมดาแบบที่แกคิดหรอก”
แน่นอนว่ามันเป็นแบบที่หวังเย่าเดาเอาไว้ แม้ว่ายันต์ของจีเฟยนั้นจะทรงพลัง มันคือสมบัติที่ผู้ใช้อสูรสร้างขึ้นมา แต่จิตของแมวนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก เมื่อรวมกับสกิลช่วยเหลือของเอไนน์แล้วพลังจิตก็เพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
แม้ว่าอยากใช้ยันต์นี่ควบคุมแมวแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะควบคุมแมวได้ในเวลาอันสั้น
แมวได้ระเบิดพลังออกมาจากตัว พลังจากตัวแมวและยันต์ได้ปะทะกันทำให้แสงสีแดงที่ครอบคลุมตัวแมวอยู่โดนทำลายไปอย่างรวดเร็ว
“หากยังดื้อด้าน แกก็จะตาย แม้ว่าแกจะต้านทานพลังของฉันได้ก็ตาม” จีเฟยเห็นว่าแมวยังดื้อด้านอยู่ก็พูดด้วยท่าทีเฉยเมย
แมวยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ชีวิตข้าไม่มีทางที่จะตกอยู่ในการควบคุมของแก ! ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ลงนรกไปซะ ! ” จีเฟยสีหน้าหม่นลงพร้อมกับตบเข้าใส่ที่หัวของแมว
“ปู่ สัตว์อสูรของหวังเย่าจะตายแล้ว โชคร้ายเมื่อเจ้าของตายสัตว์อสูรก็จะตายไปด้วย” เมื่อเห็นสถานการณ์ในค่ายกลลวงตา เจียงหยูก็พูดขึ้นมา
เจียงหยานได้ยินแบบนั้นก็คิ้วขมวด เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพูดขึ้น “ เด็กนี่คงไม่รอด”
ในช่วงชีวิตสุดท้ายของแมว กลับมีแสงส่องประกายออกมารอบตัว จากนั้นก็มีสัญลักษณ์มากมายปรากฏขึ้นตรงหน้าของมัน
“ผนึก ! ” เมื่อเห็นเครื่องหมายเหล่านั้น จีเฟยและอี้หลงก็สีหน้าเปลี่ยนไป ตอนนั้นอี้หลงคิดจะฆ่าหวังเย่าทันที
“แค่พวกขยะแต่กลับกล้าดีถึงขนาดนี้ ! ” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากท้องฟ้า ตามมาด้วยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีเปลวไฟลุกไหม้ปกคลุมท้องฟ้าได้ฟาดลงมา ไฟอันรุนแรงนี้ทำให้อี้หลงยากจะหายใจได้ เขาไม่ได้รู้สึกกดดันแบบนี้มาหลายปีแล้ว
ไร้เทียมทาน !
อี้หลงรู้ว่าเขาไม่อาจจะเป็นคู่มือของกลุ่มคนที่มานี้ได้ เขายอมทิ้งภารกิจที่ร่วมมือกับตระกูลจีทันทีเพื่อหนีเอาตัวรอด
“คิดจะหนีงั้นหรือ ? แกต้องอยู่ต่อ ! ” ชายหนุ่มผมดำปรากฏตัวขึ้น สายตาของเขาแสดงความแค้นออกมาอย่างมาก ฝ่ามือไฟได้กดทับลงมาต่อ
อี้หลงรู้สึกได้ถึงพลังของฝ่ามือนี้ก็รีบดึงกระบองออกมา กระบองนี้ยาวหลายสิบฟุต เขาใช้กระบองฟาดออกไปเพื่อรับมือกับฝ่ามือนี้เอาไว้แต่ความต่างด้านพลังของกับเจ้าของเสียงนั้นมากเกินไป นี่คือหนึ่งในคนที่แกร่งที่สุดในจักรวาล มีน้อยคนนักที่จะเทียบกับเทพไฟได้ อี้หลงแกร่งก็จริงแต่แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน
พื้นดินแตกออกเพราะพลังที่กดทับลงมา ในพริบตาทุกอย่างก็ได้กลายเป็นเถ้า ป่ารอบตัวของอี้หลงโดนเผาหายไปหมด
หวังเย่าเงยหน้าขึ้นมองและต้องหอบหายใจออกมา
“ชาติที่แล้วเจ้าทำชั่วอะไรไว้ ในชีวิตนี้ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนก็มีแต่โดนไล่ล่า” โม่ยู่หลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
หวังเย่ายิ้มออกมาและมองไปที่โม่ยู่หลินก่อนจะพูดขึ้น “ ผู้อาวุโส คุณก็พูดเกินไปแล้ว”
หวังเย่ามองไปที่หยานเทียนแล้วพึมพำออกมา “ผมบังเอิญไปได้ยินความลับของพวกมันเข้า ใครจะไปรู้ว่าพวกมันจะลงมือเร็วและไล่ตามมาจากชั้นที่สอง เพื่อมาฆ่าผมที่นี่”
“ฉันคิดว่าความลับนั้นคงสำคัญอย่างมาก ไม่งั้นแล้วตระกูลจีคงไม่ส่งคนมาจัดการนายแบบนี้” ฟู่หมิงพูดขึ้น ตอนนั้นแสงสีแดงก็ได้พุ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
การโจมตีนี้เพียงพอที่จะฆ่าอี้หลงได้ แต่เขากลับหนีไปได้
ชายคนนี้ไม่ได้อยู่มานานเสียเปล่า เขามีวิธีเอาตัวรอดที่ดี
“ฟู่หมิง ความแค้นในวันนี้ฉันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า” เสียงตะโกนด้วยความโกรธของอี้หลงดังขึ้นมา
“อีกนิดเดียวก็จะฆ่าเด็กนี่ได้แล้ว ! ” อี้หลงอยู่ในสภาพน่าอดสู แขนของเขาหัก เขาต้องหนีออกไปและไม่กล้าที่จะหยุด แม้ว่าจะหนีจากความตายมาได้ แต่หากฟู่หมิงคิดจะไล่ฆ่าเขาแล้ว เขาอาจจะตายตอนไหนก็ได้
แต่เมื่อเห็นว่าฟู่หมิงไม่ได้ไล่ตามต่อ อี้หลงก็โล่งอกขึ้นมา เขาเพิ่งใช้ทักษะพิเศษแต่ต้องแลกกับราคาที่สูง เขาอยู่ในสภาพอ่อนแอ มันยากที่จะฟื้นฟูตัวเองได้ในเวลาอันสั้น มันยากที่จะรับมือกับคนระดับสูงได้ แม้ว่าจะต้องสู้กับหวังเย่าตอนนี้ แต่มันก็ยังอันตรายอยู่ดี
แต่ตอนนั้นเองกลับมีร่างหนึ่งมาหยุดอี้หลงเอาไว้ เมื่อเห็นร่างนั้นอี้หลงก็เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าจะพบผู้อาวุโสที่นี่ บังเอิญจริง ๆ ”
เจียงหยานยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตรและพูดขึ้น “ฉันกำลังรอนายอยู่พอดี”
“ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสมีธุระอะไร ? ฉันมีเรื่องสำคัญต้องรายงานกับเทพธิดา หากเสียเวลา เทพธิดาอาจจะเอาผิดฉันได้” อี้หลงรู้สึกแย่ขึ้นมา เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาระแวง
“แค่เรื่องเล็กน้อย ฉันแค่อยากยืมหัวของนายมาใช้หน่อย…”
…………
ในอีกด้าน หยานเทียนมองไปที่แมวที่ดูสภาพอ่อนแอก่อนจะบอกกับหวังเย่า “ ไม่ต้องกังวล แม้ว่าจีเฟยจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่นั่นก็แค่การตัดพลังสายเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างพวกนายทั้งสองคนเท่านั้น”
หยานเทียนยกมือขึ้นและวาดค่ายกลขึ้นมาครอบคลุมตัวของแมวเอาไว้ จากนั้นก็มีควันสีดำลอยออกมาจากตัวของแมว
หยานเทียนเห็นหมอกดำนั้นก็จับมันเอาไว้ เขาคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ด้วยวิธีแบบนี้ไม่แปลกเลยที่อิ้หลงจะเข้าร่วมกับตระกูลจี”
ตอนนั้นเองก็มีคนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าเข้ามา พวกนั้นคอยสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ห่าง ๆ
“บังเอิญมากที่ผู้อาวุโสก็อยู่ที่นี่ด้วย” เมื่อเห็นอีกฝ่าย ฟู่หมิงก็มองไปที่เจียงหยานด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมายก่อนจะพูดขึ้น
เจียงหยานได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ เขายังยิ้มออกมาและโยนหัวหัวหนึ่งลงมาที่พื้น “ฉันไม่ได้มาร้าย ฉันมาให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับหวังเย่า”
เมื่อก้มหน้าลงไปมอง หวังเย่าก็ต้องแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าเจียงหยานจะแกร่งได้ถึงขนาดนี้ หัวที่เขาโยนมานี้กลับเป็นหัวของอี้หลงที่เพิ่งหนีออกไป