ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 729 : กับดัก
ตอนที่ 729 : กับดัก
ฉัวะ !
หวังเย่าใช้ดาบฆ่านักฆ่าตรงหน้า ที่พื้นมีร่างของคน 7-8 คนนอนกองกันอยู่ที่พื้น
พวกนี้คือนักฆ่าที่ถูกส่งมาเพื่อจัดการกับเขาแต่คนเหล่านี้ประเมินหวังเย่าต่ำเกินไป ไม่ใช่แค่ไม่อาจจะฆ่าเขาได้ แต่ยังเอาตัวเองมาตายที่นี่ด้วย
นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่หวังเย่าพบกับนักฆ่า ตอนนี้เขาฆ่าพวกนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 คน
ตอนแรกเขาคิดว่าตระกูลหยุนส่งคนพวกนี้มาเพื่อแก้แค้น แต่เมื่อสู้กันมาหลายครั้ง เขาก็พบว่าเขาเหมือนจะเข้าใจผิดไป คนเหล่านี้ถึงไม่ได้แข็งแกร่งนักแต่แน่นอนว่าไม่ใช่คนที่กองกำลังทั่วไปจะมีได้ ตระกูลหยุนนั้นเก่งเรื่องเทคโนโลยี วิธีการต่อสู้ของพวกนั้นควรจะต้องพึ่งอาวุธสมัยใหม่ แต่นอกจากปืนธรรมดาแล้ว คนเหล่านี้ส่วนมากก็มักจะสู้ในระยะประชิด แม้ว่าพวกนี้จะพยายามปกปิดตัวตน แต่หวังเย่าก็ยังรับรู้ถึงรูปแบบการต่อสู้ของพวกนี้ได้ คนเหล่านี้ไม่เหมือนนักฆ่ามืออาชีพแต่เป็นทหารมากกว่า
เขาค้นตัวพวกนักฆ่าและพบจดหมาย หวังเย่าเปิดดูและพบว่ามันคือคำสั่งลับ
เนื้อหามันเรียบง่าย ก็คือหลังจากที่คนเหล่านี้จัดการหวังเย่าได้แล้ว ก็ให้เดินทางไปยังน้ำตกที่อยู่ห่างออกไป 100 ไมล์
“พวกนี้เป็นคนของเขตโบไลด์” หวังเย่ายืนยันได้แล้วว่าพวกนี้ไม่ใช่นักฆ่า แต่เป็นทหารที่มาจากกองกำลังทหารเรือภายใต้เทพธิดาน้ำแข็ง
แต่คนที่สั่งการทหารพวกนี้มาได้นั้นจะต้องมีอำนาจเหนือกว่า และหวังเย่าคิดออกแค่เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถสังการได้ — รองแม่ทัพกองกำลังทหารเรือ….อี้หลง !
ในวันนั้นเขาได้ยินอี้หลงกับผู้อาวุโสจีคุยกันเรื่องที่จะจัดการเทพธิดาน้ำแข็ง ดังนั้นรองแม่ทัพคงคิดจะฆ่าเขาอยู่แล้ว และทหารเหล่านี้คงเป็นคนของอี้หลง
หวังเย่าไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตามเขามาถึงชั้นสามได้เร็วแบบนี้ ในดินแดนนรกที่กว้างใหญ่นั้นมันยากที่จะหาตัวเขาได้ แต่ดูจากระดับของอีกฝ่ายแล้วก็พอเข้าใจได้
ยังไงซะหากเรื่องนี้เปิดเผยออกไปแล้วตระกูลจีและอี้หลงคงได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ แต่สิ่งที่ทำให้หวังเย่าสนใจคือเนื้อหาอย่างอื่น อี้หลงไม่ใช่แค่คิดจะฆ่าเขาแต่ยังคิดจะอาศัยการที่หยูเจียไว้ใจ จัดการกับหยูเจียด้วย
“แผนรอบคอบจริง ๆ ” หวังเย่าถอนหายใจออกมา เขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องเทพธิดาน้ำแข็งหรือกองกำลังอื่น ๆ แต่หากหยูเจียตาย เทพธิดาน้ำแข็งก็จะโดนตระกูลเจียโจมตีได้สำเร็จ นั่นไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเขาเลย
เทพธิดาน้ำแข็งคือคู่แข่งคนสำคัญในการแย่งตัวเสี่ยวซวีก็จริง แต่ตระกูลจีเองก็ไม่ได้อ่อนแอ นี่ไม่ต้องพูดถึงฟู่หมิงที่หากรู้ว่าเพื่อนของตัวเองมีปัญหาก็จะต้องเข้าไปยุ่งอย่างแน่นอน เพราะแบบนั้นหวังเย่าเองก็ถือว่าได้ช่วยพี่ของเขาไปด้วย
หยูเจียเป็นแม่ทัพที่ช่วยให้หวังเย่าได้เข้ามาถึงชั้นสาม เพราะเหตุผลนี้เขาจึงไม่อยากให้หยูเจียโดนฆ่า
ตามเนื้อหาในจดหมายแล้วตำแหน่งของน้ำตกน่าจะอยู่ห่างจากถ้ำไปประมาณ 100 ไมล์ และตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาในเขตหลักของหุบเหวมังกรแล้ว เขาอยู่ใกล้ถ้ำมังกรอย่างมาก ดังนั้นน้ำตกนี่ก็ไม่น่าจะอยู่ห่างนัก เมื่อยืนยันตำแหน่งแล้ว หวังเย่าก็ได้เดินทางไปที่น้ำตกทันที เขาต้องหาตัวหยูเจียให้เจอโดยเร็วที่สุด อี้หลงเตรียมจะลงมือแล้ว เขาหวังว่าก่อนที่เขาจะไปถึง อี้หลงคงจะยังไม่ทันได้ลงมือ
น้ำตกแห่งนี้เหมือนไม่ได้อยู่ในหุบเหวมังกรเลย เพราะมันเหมือนกับร่วงลงมาจากท้องฟ้าจริง ๆ มันสูงกว่า 3,000 ฟุต
น้ำที่นี้ไหลรุนแรงเสียงดังสนั่น แม้ว่าจะห่างไปกว่า 10 ไมล์ก็ยังได้ยินมันอย่างชัดเจน
นอกจากกระแสน้ำที่รุนแรงแล้ว มันยังมีความสามารถในการกัดกร่อนที่สูง นักสู้ทั่วไปที่แข็งแกร่งไม่เพียงพอ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้น้ำตกนี้
“อาจารย์ นี่คือส่วนในของน้ำตกงั้นหรือ ? ” หยูเจียเดินตัดผ่านน้ำตกมาและพบว่ามันมีโพรงอยู่ด้านหลังน้ำตก
ภายใต้น้ำตกนี้กลับมีถ้ำที่แห้งและกว้างขวางอยู่ หยูเจียรู้ว่านี่คือถ้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
คนอื่น ๆ ด้านหลังเห็นแบบนี้ต่างก็พากันตะลึง ดินแดนนรกนี่คาดเดาไม่ได้เลยจริง ๆ
“นี่คือทางเดินด้านในน้ำตก มันนำไปด้านล่างของถ้ำมังกร” อี้หลงพูดขึ้น “สัตว์อสูรนั้นแข็งแกร่ง แม้แต่พวกระดับสูงก็ยังต้องกลัว ดังนั้นทางเดินนี้จึงเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการไปที่ชั้นสี่”
“อาจารย์ ท่านรู้จักที่นี่ได้ยังไง ? ” หยูเจียแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา อาจารย์ไม่เคยบอกเขาล่วงหน้ามาก่อนเกี่ยวกับเรื่องที่นี่
“ฉันอยู่มานาน เป็นธรรมดาที่จะรู้มากกว่านาย ฉันถูกมอบหมายโดยเทพธิดาน้ำแข็งให้มาที่ดินแดนนรก ตอนนั้นฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เทพธิดาไม่อยากปะทะกับสัตว์อสูร ดังนั้นเธอจึงพาฉันมาที่นี่จนไปถึงด้านล่างของถ้ำมังกรได้”
“ฉันคิดว่าเรามีคู่แข่งอยู่เยอะ เราจะใช้โอกาสนี้ไปที่ชั้น 4 ก่อน แต่ไม่คิดเลยว่าวิญญาณสัตว์อสูรจะคลั่ง มันแทบจะฆ่าทุกคนที่นี่ ตอนนี้นี่คือเส้นทางเดียวที่ปลอดภัยที่สุด” อี้หลงอธิบายออกมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น หยูเจียก็เลิกสงสัย อาจารย์ของเขาคอยดูแลให้เขาเติบโตขึ้นมาและคอยสั่งสอนเขาตั้งแต่ยังเด็ก คำพูดของอี้หลงนั้นหยูเจียเชื่อมาโดยตลอด
“ปู่นายกับพ่อนายก็น่าจะรู้ พวกเขาไม่ได้บอกนายรึไง ? ” จีเฟยถามขึ้นมา
หยูเจียส่ายหน้าและพูดขึ้น “ปู่กับพ่อตายไปกะทันหันในการต่อสู้ เรื่องแบบนี้ผมไม่เคยได้ยินจากทั้งสองคน”
“น่าเสียดายเสือสองตัวนั่น ปู่นายน่ะยอดเยี่ยมแต่ตอนนี้เขาจากไปแล้ว ถ้าพ่อนายยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งแม่ทัพก็คงเป็นของเขา นายยังเด็ก แม้ว่าจะเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์แต่ก็ยังไม่เพียงพอ นายยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ” อี้หลงพูดขึ้น
อี้หลงมองคนที่ตามหยูเจียมาแล้วพูดขึ้น “นายพักที่นี่ก่อน ฉันกับนายพลทั้งสองจะเข้าไปสำรวจด้านใน ฉันมาที่นี่ครั้งที่แล้วก็หลายร้อยปีก่อนแล้ว ไม่รู้ว่ามันจะเป็นเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า”
เมื่อเห็นร่างของอาจารย์และนายพลทั้งสองหายลับไปในถ้ำ หยูเจียก็วางใจขึ้นมา ไม่นานมานี้เขารู้สึกแปลก ๆ แต่เมื่อลองคิดดูดี ๆ แล้วก็ไม่เห็นพิรุธใด ๆ
อี้หลงได้พานายพลสองคนของหยูเจียเข้าไปด้านในถ้ำ เมื่อเดินทางมาได้สักพักทั้งสองก็พบกับทางตัน
“รองแม่ทัพ นี่มันทางตัน คุณจำทางผิดงั้นหรือ ? ” นายพลคนหนึ่งเห็นทางตัดแล้วถามขึ้นมา
อี้หลงยิ้มออกมา “ถูกแล้ว ที่นี่แหละที่ตายของพวกแก”
พูดยังไม่ทันจบ อี้หลงก็ได้อัดจนนายพลคนหนึ่งกระเด็นไปชนกำแพงอย่างแรง นายพลคนนี้เลเวลสูงกว่า 150 แต่ไม่ทันได้รับมือก็โดนอี้หลงโจมตีจนเกือบตาย
“รองแม่ทัพอี้หลง นี่คิดจะทำอะไร ? ” นายพลอีกคนตะลึงและถามขึ้นมา
อยู่ ๆ ก็มีมือโผล่มาจากด้านหลังของเขาจับเข้าที่หัว จากนั้นก็มีเสียงกระดูกหักดังขึ้นจนทำให้นายพลคนนั้นตายไปในทันที
“อี้หลง ยิ่งแก่ นายยิ่งใจอ่อน แค่ฆ่าขยะสองตัวนี่ยังลังเลอีก” ชายแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากความมืด เขาดูอายุพอ ๆ กับอี้หลง
ชายแก่คนนี้คือคนที่มายังชั้นสามเพื่อฆ่าหวังเย่า…จีเฟย แต่ครั้งนี้เขากลับปรากฏตัวขึ้นในถ้ำน้ำตก
“อี้หลง…แก…แกหักหลังเทพธิดา…” นายพลที่บาดเจ็บหนักจำจีเฟยได้ทันที
อี้หลงเดินเข้าไปหาแล้วถามขึ้น “หักหลังงั้นหรือ ? ฉันไม่เคยภักดีต่อเทพธิดาเลย นายพลวู นายน่ะคือนายพลที่แกร่งที่สุดในสังกัดของหยูเจีย นายสบายใจได้ หัวหน้านายได้ตายแน่ ไม่ต้องกังวล ฉันจะส่งศิษย์ที่โง่เง่าของฉันไปหานายที่หลัง” เมื่อพูดจบ อี้หลงก็ได้ปลิดชีวิตของอีกฝ่ายทันที
“หยูเจียอยู่ด้านนอก ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาที่นี่ไปเลย ทำไมต้องให้มันยุ่งยากด้วย” จีเฟยมองไปที่ศพทั้งสองที่พื้นแล้วถามขึ้นมา
อี้หลงคิ้วขมวดและพูดขึ้น “จีเฟย นายลืมรึไงว่านายเป็นแค่หัวหน้าตระกูลจี ไม่ใช่หัวหน้าฉัน หยูเจียน่ะร่างกายไม่พร้อม มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการกับเขา ปัญหาจริง ๆ คือเด็กที่ชื่อหวังเย่า เราต้องรอจนกว่าเด็กนั่นจะมา”
“ขยะที่เลเวลไม่ถึง 130 น่ะหรือคุ้มค่าที่นายจะต้องระวังขนาดนี้ ? ” จีเฟยถามขึ้นด้วยท่าทีดูถูก
“นายอย่าดูถูกเด็กนั่นไป เด็กนั่นมีเทพไฟและหยานเทียนคอยดูแล เขายังรู้จักลูกของวานเรนด้วย คนแบบนั้นแม้ว่าจะไม่ได้แกร่งนัก แต่เราก็ต้องระวังตัว ถ้าตีหญ้าให้งูตื่นแล้ว ฉันกลัวว่ามันจะมีปัญหาตามมา ยิ่งไปกว่านั้นถึงมันจะเลเวลไม่ถึง 130 แต่ก็มีสัตว์อสูรเทพ 2 ตัวอยู่ ในฐานะผู้ใช้อสูรแล้ว นายน่าจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร” อี้หลงพูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของอี้หลง จีเฟยก็เบิกตากว้างแล้วถามขึ้นมา “มันเป็นความจริงงั้นหรือ ? ”
“ข่าวนี้มาจากสายลับของกองกำลังทหารเรือ ฉันไม่เห็นว่ามันผิดปกติตรงไหน” อี้หลงพูดขึ้น
คนที่เลเวลไม่ถึง 130 แต่กลับมีสัตว์อสูรเทพถึง 2 ตัว แม้แต่ผู้ใช้อสูรระดับสูง ๆ ตอนที่เลเวลเท่ากับหวังเย่า ก็ยังไม่ได้มีดีเท่านี้ มันทำให้จีเฟยรู้ว่าเขาต้องฆ่าเด็กนี่ให้ได้ เพราะบางทีเขาอาจจะได้บางอย่างที่น่าสนใจกลับมา
“รอเด็กนั่นมาก่อนแล้วค่อยจัดการด้วยกัน” จีเฟยพูดขึ้น “ฉันอยากเห็นว่าสัตว์อสูรที่เด็กนั่นมีอยู่เผ่าไหนกัน”