ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 718 : อธิบายยังไง ?
ตอนที่ 718 : อธิบายยังไง ?
สถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง แมวได้เปลี่ยนจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าแทน แต่แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับศัตรูสามคนแต่แมวก็ไม่คิดที่จะถอย ในฐานะสัตว์อสูรที่เคยแข็งแกร่งมาแล้ว มันเลือกที่จะสู้แม้ว่าจะโดนล้อมไว้ก็ตาม
ตัวของแมวเพิ่มขนาดขึ้นมาเท่ากับขนาดเกราะของโรม่า มันสูงกว่า 3 เมตร เขาได้มองไปที่โรม่า, เล่ยหยาน และเฟิงเชิง ก่อนจะพุ่งเข้าใส่โรม่าพร้อมกับยกกรงเล็บตะปบเข้าใส่
ปืนในแขนซ้ายของโรม่าถูกยิงเข้าใส่แมวพร้อมกับดึงดาบออกมาฟันเข้าใส่ที่กรงเล็บของแมว กระสุนนั้นอัดเข้าที่ตัวของแมวแต่ไม่อาจจะทะลุร่างกายที่แข็งแกร่งของมันได้
ด้วยการที่ผ่านการลงโทษมาถึงสองครั้ง ตอนนี้ร่างกายของแมวจึงเหนือกว่าสัตว์อสูรเทพตัวอื่น ๆ ถึงจะเทียบกับอสูรมิติก็ต่างกันไม่มาก แต่ตอนที่โรม่าฟันดาบลงมานั้น เขาก็ได้ถอยกลับไปหลายสิบเมตรทันที
“ระวังตัวด้วย ! ” สีหน้าของโรม่าเปลี่ยนไปและตะโกนบอกเพื่อน
เขาไม่คิดเลยว่าในเวลาแบบนี้เป้าหมายของแมวคือคิดจะเอาชนะ นี่ไม่ต้องพูดถึงร่างกายที่น่าทึ่งซึ่งแม้แต่เขาที่เป็นหัวหน้าก็แทบจะตั้งตัวไม่ทันเลย
แต่การโจมตีของแมวก็โดนกันเอาไว้ได้อีกครั้ง โล่นั้นเหมือนปรากฏขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ ทุกครั้งที่แมวทำการโจมตีโล่ก็จะมาหยุดการโจมตีเอาไว้ได้
เล่ยหยานยังไปขวางหน้าแมวเพื่อกันการโจมตีเอาไว้ตลอด เกราะของเขานั้นไม่อาจจะเทียบกับของโรม่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีพลังป้องกันสูงพอที่จะรับการโจมตีจากอุกกาบาตได้ แม้ว่าการโจมตีของแมวจะรุนแรงแต่ก็ยากที่จะทลายการป้องกันของเขาไปได้
ยิ่งไปกว่านั้นโล่ของเขาก็แข็งจนน่าแปลกใจ การโจมตีของแมวทิ้งไว้แค่รอยข่วนเท่านั้น
ถ้าเอไนน์คอยช่วย แมวอาจจะทลายการป้องกันของอีกฝ่ายได้ แต่ในสนามรบนี้มันอันตรายต่อเอไนน์อย่างมาก แม้ว่าจะทำการซ่อนตัวแต่แค่ดาบเลเซอร์เหล่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เอไนน์บาดเจ็บได้แล้ว
เชิงเฟิงเห็นแมวโผล่มาด้านหลังก็ต้องช็อกจนเหงื่อตก ตะกี้นี้ถ้าเล่ยหยานไม่ช่วยกันการโจมตีไว้ให้เขา งั้นเขาคงตายไปแล้ว
“ขอบคุณ” เชิงเฟิงบอกกับเล่ยหยาน
“เราสี่คนมีความสามารถแตกต่างกันไป การป้องกันของฉันจะช่วยสนับสนุนการโจมตีของนาย ! ” เล่ยหยานพูดขึ้นก่อนจะมองไปที่แมว “แค่กรงเล็บไม่ใช่รึไง ยังไงซะก็ทำลายโล่ฉันไม่ได้หรอก”
แมวได้ยินแบบนั้นก็มองไปที่เล่ยหยาน เมื่อเห็นท่าทีหยิ่งทะนงของอีกฝ่าย เขาก็ได้ทำการสะบัดกรงเล็บออกไปทันที
ตอนนั้นแมวได้ทำการคำรามเข้าใส่เล่ยหยาน การคำรามนี้ทำให้ตัวของเล่ยหยานแข็งทื่อไปชั่วขณะ ร่างขนาดใหญ่ของแมวพุ่งผ่านโล่มาได้และฟาดกรงเล็บเข้าใส่เกราะของเล่ยหยานทันที
สกิลใบมีดลมถูกใช้ออกมา ใบมีดลมนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากกรงเล็บของแมวเป็นพัน ๆ อัน ก่อนจะพุ่งเฉือนตัวของเล่ยหยาน ในตอนที่ใบมีดเสียดสีกับเกราะก็ทำให้เกิดประกายไฟกระเด็นออกมาทั่ว แต่ก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายหนักได้
ใบมีดลมนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นพายุที่สูงหลายสิบเมตรที่กลืนเล่ยหยานเข้าไป แม้แต่น้ำด้านล่างก็ยังโดนพายุนี้กลืนเข้าไปด้วย เชิงเฟิงเห็นพลังของพายุก็ต้องรีบถอยกลับไปหาโรม่าทันที
เขาถนัดเรื่องการโจมตีระยะไกล มันไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเข้าไปช่วยเล่ยหยาน แต่เขาไม่ได้มีพลังป้องกันที่โดดเด่น นี่ไม่ต้องพูดถึงกับการที่เขาบาดเจ็บหนักอยู่อย่างนี้เลย เขาจึงไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับการโจมตีของแมว
โรม่าเห็นแมวใช้สกิลกับเล่ยหยานก็ฮึดฮัดออกมา “แมวนี่โง่จริง ๆ การโจมตีแบบนั้นไม่ได้เป็นอันตรายต่อเล่ยหยานหรอก มันมีแต่เสียพลังไปเปล่า ๆ ”
“งั้นนายสองคนรับมือกับฉันไหวไหมล่ะ ? ” ไม่รู้ว่าหยานเทียนโผล่มาด้านหลังทั้งสองคนตอนไหน
เมื่อได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลัง โรม่าและเชิงเฟิงก็ต้องแปลกใจ พวกเขารีบถอยออกมา โรม่าแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา เขายังจำตอนที่โดนขังอยู่ในค่ายกลได้ดี เขาแทบไม่อาจจะฝ่าออกมาได้ มันเห็นได้ว่าอีกฝ่ายนั้นแกร่งแค่ไหน
ตอนนี้เล่ยหยานก็โดนแมวยื้อเอาไว้ เชิงเฟิงก็บาดเจ็บหนัก ต่อหน้าหยานเทียนที่แข็งแกร่งแบบนี้แล้ว สถานการณ์มันก็ดูย่ำแย่ยิ่งกว่าเก่า
ชิรูเห็นว่าหยานเทียนเริ่มลงมือก็คิดจะไปช่วยทั้งสอง แต่หวังเย่าเข้ามาขวางไว้ก่อน
“สุดสวย เธอคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป เธอไม่สนใจฉันแล้วรึไง” หวังเย่าจับข้อมือของชิรูเอาไว้แล้วดึงเธอกลับมา
ชิรูใช้มีดแทงเข้าใส่หวังเย่า จนเขาต้องถอยออกมาพร้อมกับใช้ดาบจิตพุ่งออกจากหว่างคิ้วแทงเข้าใส่ชิรู ระยะห่างระหว่างทั้งสองห่างกันไม่ถึงฟุต การโจมตีทางจิตแบบนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบได้ทัน
ชิรูโดนการโจมตีทางจิตของหวังเย่า ตัวของเธอเซไปมาจนเกือบจะร่วงลงไป แต่โชคดีที่หวังเย่าจับมือของเธอเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เธอไม่ร่วงลงไปในทะเล
แต่สภาพของเธอตอนนี้ไม่ต้องคิดเรื่องการต่อสู้เลย เธอคงไม่อาจจะฟื้นฟูจิตใจกลับมาได้ในเวลาอันสั้น
ที่ด้านบน ฟู่หมิงกับหยุนซียังคงสู้กันอยู่ ดอกบัวไฟได้พุ่งเข้าไปหาหยุนซี แต่ก็โดนหยุนซีรับมือไว้ได้หมด “ถ้าไม่อยากเสียคนทั้งหมดไปก็ควรสะสางหนี้แค้นนี้ให้จบ”
“ฟู่หมิง อย่าโง่ไปหน่อยเลย นายคิดว่าตระกูลหยุนกลัวนายรึไง ? ” หยุนซีเห็นว่าคนของเขาโดนโจมตี แต่ไม่อาจจะไปช่วยอะไรได้ก็โกรธขึ้นมาในฐานะสมาชิกหลักของตระกูลหยุน เขาไม่อาจจะทนการเหยียดหยามแบบนี้ได้
ฟู่หมิงขมวดคิ้ว หยุนซีเองก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างและมองออกไป
มันมีเงาของคนกลุ่มหนึ่งบินเข้ามาใกล้พวกเขาขึ้นเรื่อย ๆ
“กลับเป็นพี่หยุนซีกับเทพไฟนี่เอง ฉันก็สงสัยอยู่ว่าใครที่มาต่อสู้กันที่นี่” เขามองไปยังทั้งสองคนและพูดขึ้นมา
จากนั้นเขาก็มองลงไปที่ด้านล่างและพบกับแมวและคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อเห็นหวังเย่า สายตาของเขาก็สั่นไหวขึ้นมา
เมื่อเห็นคนอีกกลุ่มโผล่มา ทั้งสองฝ่ายก็หยุดต่อสู้กัน หวังเย่าและแมวได้บินกลับไปหาฟู่หมิง อีกฝ่ายเองก็บินกลับไปหาคนของตัวเองเช่นกัน บรรยากาศนั้นดูสงบขึ้นมาในพริบตา
หวังเย่าเห็นอีกฝ่ายก็เครียดขึ้นมาทันที รึว่าเจียงหยุนคิดจะลงมือ ? หากตระกูลเจียงและตระกูลหยุนร่วมมือกัน แม้ว่า ฟู่หมิงและหยานเทียนจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็ยากที่จะปกป้องคนอื่นได้
เจียงหยานมองไปที่ฟู่หมิงและหยานเทียน คนของตระกูลเจียงก็มองมาที่หวังเย่าด้วยสายตาอาฆาต ชัดแล้วว่าคนที่ดูไม่พอใจที่สุดคือเจียงยู่
“นายไปหาเรื่องพวกเขาด้วยงั้นหรือ ? ” ฟู่หมิงรับรู้ได้ถึงความอคติที่หวังเย่ามีต่อเจียงหยาน ได้จึงถามขึ้นมา
“พี่ประเมินฉันสูงเกินไปแล้ว ฉันไม่กล้าไปหาเรื่องคนพวกนี้หรอก” หวังเย่าพึมพำออกมา ชัดแล้ว่าเขาไม่พอใจอย่างมาก
ฟู่หมิงคิดสักพักก็เข้าใจว่าหวังเย่าที่อายุแค่ไม่กี่สิบปี คงไม่กล้าไปหาเรื่องตระกูลใหญ่แบบนี้แน่
“ผู้อาวุโสมาที่นี่เพื่อพักที่เสาหินต้นนี้งั้นหรือ ? ” ฟู่หมิงถามขึ้นมา
ในหมู่คนของตระกูลเจียงมีคนรุ่นเยาว์อยู่มาก คนระดับสูงสามารถบินอยู่ได้นาน แต่สำหรับพวกระดับต่ำแล้วไม่อาจจะทำได้ ดังนั้นตระกูลเจียงจึงต้องหาเสาหินเพื่อพัก
“เราแค่หาที่พัก” เจียงหยานพูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอการเข้าใจผิดระหว่างพี่หยุนซีกับเทพไฟที่ทำให้เกิดการต่อสู้ใหญ่โตที่นี่” เขามองไปที่หยุนซีแล้วพูดขึ้น “ในฐานะตระกูลเก่าแก่ของเขตดาวโบไลด์และเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ เราเข้าใจดีถึงความสำคัญของดินแดนนรกที่มีต่อเขตดาวโบไลด์”
“ฉันคิดว่าผู้อาวุโสคงจะรู้เรื่องที่ผู้หญิงครึ่งมนุษย์โดนจับตัวไปเมื่อไม่นานมานี้อยู่บ้างแล้ว ตามข้อมูลที่ฉันได้มา มันมีคนอย่างน้อยหลายพันคนที่หายตัวไป มันสร้างความวุ่นวายให้ทั่วทั้งเขตดาวโบไลด์ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปจะเกิดผลกระทบอะไรต่อดินแดนนรก ถึงไม่พูดผู้อาวุโสก็คงเข้าใจ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่หมิง เจียงหยานก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา แม้ว่าตระกูลของพวกเขากับเทพธิดาน้ำแข็งจะไม่ถูกกัน แต่เขตดาวโบไลด์นี้ก็คือบ้านของพวกเขา โดยเฉพาะดินแดนนรกที่สำคัญต่อพวกเขามากที่สุด
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับทั้งดินแดนนรก” เจียงหยานพูดขึ้น
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลหยุนงั้นหรือ ? ” เจียงหยานคิดถึงสิ่งที่ได้เห็นมาและก็พอเดาออก
“นั่นเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถ้าไม่ใช่เพราะคนใกล้ชิดของฉันโดนจับตัวไป ฉันคงไม่เชื่อว่าตระกูลหยุนจะทำเรื่องแบบนี้” ฟู่หมิงพยักหน้า “ไม่ใช่แค่ลักพาตัวคนบริสุทธิ์ แต่ยังคิดจะลงมือกับฉันและคนอื่น ๆ เพื่อปิดปากด้วย”
“พี่หยุนซี ที่เทพไฟพูดมาเป็นความจริงรึเปล่า ตระกูลหยุนทำเรื่องแบบนั้นในเขตดาวโบไลด์จริงรึเปล่า ? ” เจียงหยาน ถามหยุนซี
เมื่อเห็นว่าเจียงหยานแสดงสีหน้าไม่พอใจ หยุนซีก็รู้ว่าไม่อาจจะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โตได้ เขาจึงอธิบายออกมา “เรื่องนี้เป็นฝีมือของคนไร้หัวคิดในตระกูลฉันเอง ตระกูลหยุนไม่ได้สั่งการให้ทำ ฉันก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เหมือนกัน”
“งั้นการที่พวกคนชุดดำทำการทดลองกับพวกผู้หญิงครึ่งมนุษย์ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหยุนเลยสินะ ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและมองไปที่หยุนซีกับคนอื่น ๆ “การทดลองบันทึกไว้อย่างละเอียด ของที่ต้องใช้ในการทดลองรวมถึงเงินที่ไม่น่าจะใช้เส้นสายหามาได้ง่าย ๆ ”
“ถ้าพวกแกไม่ได้สนับสนุน ฉันคิดว่าคงไม่มีกองกำลังไหนที่คิดจะทำการทดลองแบบนี้ออกมาได้ พวกเครื่องมือต่าง ๆ ก็ไม่ได้ผลิตขึ้นที่นี่ ถ้าไม่มีการสนับสนุนจากกองกำลังใหญ่พวกมันจะทำการทดลองกับมนุษย์ได้ยังไง ? ”
“แกจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
สายตาของหวังเย่าเย็นชาขึ้นมาเมื่อนึกถึงเหล่าหญิงสาวครึ่งมนุษย์ที่ตายไปเพราะถูกใช้ในการทดลอง อายุของพวกนั้นพอ ๆ กับหลินฉีด้วยซ้ำ