ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 693 : บ่มเพาะสำเร็จ
ตอนที่ 693 : บ่มเพาะสำเร็จ
การเชี่ยวชาญพลังจิตคือพื้นฐานของผู้บ่มเพาะ ตอนนี้หวังเย่าได้ใช้วิธีนี้เพื่อมาผสมกับกฎไฟของตัวเอง การรวมมันเป็นหนึ่งเดียวนั้นทำให้เกิดตราประทับขึ้นมา
ตรานี้สามารถเก็บพลังไฟเอาไว้ ในการต่อสู้จึงสามารถเรียกใช้ในตอนไหนก็ได้
มังกรไฟที่อัดแน่นจากไฟหยินหยางขนาดกว่าร้อยฟุตลอยอยู่บนหัวของหวังเย่า จากนั้นก็มีตัวที่สองและสามตามมา….
ตอนที่ประตูมิติลับเปิดออก เมื่อเห็นมังกรไฟตรงหน้า หยานเทียนก็ถึงกับต้องอึ้ง ไฟหยินหยางนั้นแผ่ความร้อนอันน่ากลัวออกมา แม้แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนอันน่ากลัวนี้ได้
“เด็กนี่คิดจะทำลายมิติลับของฉันรึไงกัน ? ” หยานเทียนพูดขึ้นมา
แม้ว่าจะรู้ว่าหวังเย่าไม่มีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้น แต่เมื่อเห็นค่ายกลทำลายดาวที่ถูกใช้ออกมาตรงหน้าก็ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ขอบเขตของมิติลับนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เล็ก ๆ แต่ก็ชัดแล้วว่าไม่เพียงพอที่จะทนรับการโจมตีอันรุนแรงได้ เมื่อเห็นมังกรไฟทั้ง 12 ตัวโผล่ออกมา อุกกาบาตก็เริ่มก่อตัวขึ้น
“รวมตัว ! ” หวังเย่าลืมตาขึ้นและตะโกนออกมา
มังกรไฟทั้งสิบสองและอุกกาบาตกลับหยุดนิ่ง จากนั้นมันมันก็ได้พุ่งเข้าไปในตราของหวังเย่าพร้อมกับทำให้ตราประทับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
มันมีมังกรปรากฏขึ้นมารอบตรา ตรานั้นเหมือนมีไฟลุกไหม้ หลังจากที่หวังเย่าได้ปิดการทำงานของค่ายกล จากนั้น หยานเทียนก็เดินเข้ามา “น่าแปลกใจจริง ๆ ฉันไม่คิดว่าแค่ไม่กี่วันนายจะเชี่ยวชาญทักษะนี้ได้ขนาดนี้”
“ก็เป็นธรรมดา ก่อนหน้านี้ผมอาจจะเรียนรู้ได้ช้า แต่ตอนนี้ผมพัฒนาแล้ว” หวังเย่าหันกลับไปและพูดขึ้นมา
“ไอ้เด็กนี่ ! ถ้านายไม่ได้เลือกเส้นทางผู้ดูแล ฉันอาจจะส่งต่อทักษะที่ฉันมีให้กับนายไปแล้ว” หยานเทียนหัวเราะออกมา “พรสวรรค์ในด้านพลังจิตของนายนั้นถือว่าดี นายถือว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี”
“แน่นอนว่าถึงแม้ว่านายจะเป็นผู้ใช้ไฟ แต่นายก็ไม่อาจจะมั่นใจเกินไปได้” หยานเทียนแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ยังไงซะนายก็อ่อนแอเกินไป แม้ว่าจะชดเชยจุดอ่อนด้านทักษะไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจจะเทียบกับพวกนักสู้เลเวล 150 ได้อยู่ดี”
“มันอีกไม่นานที่ดินแดนนรกจะเปิดออก ถ้านายอยากจะเข้าร่วมจริง ๆ นายต้องพัฒนาตัวเองโดยเร็วที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นถ้านายเจอกับพวกนักสู้เหล่านั้น นายคงได้แต่ต้องหนี” หยานเทียนเตือนขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำเตือนนั้น หวังเย่าก็พยักหน้า เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของเขายังไม่สูงนัก ตราไฟนั้นแค่เพิ่มความสามารถของเขา แต่ไม่ได้เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมา
นอกเสียจากว่าเขาจะใช้มังกรไฟออกมาได้ถึง 30 ตัว งั้นตอนนั้นเขาเดาว่าความแข็งแกร่งของเขา พวกกองกำลังใหญ่ๆคงไม่มีทางรับมือได้
“ยังต่ำเกินไป ! ” หวังเย่าถอนหายใจออกมาและส่ายหน้า
“อย่าสลดไป จากคนที่ฉันเคยเห็นมานายมีพรสวรรค์มากที่สุด นายขึ้นมาเลเวล 120 ได้ในเวลาไม่ถึงร้อยปี ฉันคิดว่ามันพอมีทางอยู่ ฉันน่าจะให้ทักษะกับนายได้บ้าง” หยานเทียนพูดขึ้นมา
“ขอบคุณลุงจริง ๆ ! ” หวังเย่าป้องมือขอบคุณ
“แต่ผมยังอยากยืมที่นี่สักพัก” หวังเย่าบอกกับหยานเทียน
“ได้ ยังไงมันก็ว่างอยู่แล้ว ฉันไม่ค่อยใช้มันเท่าไหร่” หยานเทียนโบกมือและพูดขึ้นมา
หลังจากที่หยานเทียนจากไป หวังเย่าก็ได้ทำการผนึกประตูมิติลับเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
คำพูดของหยานเทียนนั้นทำให้หวังเย่ารู้สึกร้อนใจ เขาต้องขึ้นไปเลเวล 130 ให้ได้ก่อนที่ดินแดนนรกจะเปิดออก !
หวังเย่าได้เข้าไปในมิติเร่งเวลาก่อนจะนั่งลงกับพื้น เขาพลิกฝ่ามือพร้อมกับมีผลึกสีแดงปรากฏขึ้นมา
แก่นไฟ !
นี่คือสิ่งที่ฟู่หมิงมอบให้กับเขา มันช่วยยกระดับกฎไฟขึ้นมาได้แต่มันเป็นสมบัติหายากอย่างมาก
“ฉันไม่มีทางเลือกจริง ๆ ! ” หวังเย่าถอนหายใจออกมา เขาเริ่มรวบรวมสมาธิเพื่อเตรียมพร้อม
พลังของแก่นไฟนั้นเปลี่ยนเป็นเส้นพลังไหลเข้ามาในตัวของหวังเย่า ตอนที่พลังไหลเข้ามาในตัว เขาก็เข้าใจถึงพลังของกฎไฟได้ลึกซึ้งขึ้น มันทะลวงผ่านเลเวล 120 ไปได้
พลังของแก่นไฟนี่สูงจริง ๆ แม้แต่หวังเย่าที่ฝึกกฎไฟอยู่แล้วก็ยังเห็นภาพที่ตัวเองโดนเผาตาย
พลังไฟอันรุนแรงไหลไปที่แขนขาของเขาก่อนจะส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดของเขา ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหนก็ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก เลือดราวกับโดนต้ม ถ้ามีคนยืนอยู่ข้าง ๆ หวังเย่าตอนนี้ก็คงรู้สึกได้ว่าตัวของหวังเย่าร้อนอย่างกับไฟ ผิวของเขาแดงก่ำราวกับตัวเขากำลังโดนย่าง
ในตอนที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงไป หวังเย่าก็รู้สึกได้ว่าทางตันที่กฎไฟพบสุดท้ายก็เริ่มแตกออก
พลังไฟได้ถูกหวังเย่าดูดซับเอาไว้ ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นแต่รอบตัวเขายังร้อนขึ้นมา มันร้อนจนน่าตกใจ ถ้าไม่ใช่เพราะมิติเร่งเวลาแล้ว หากอยู่ด้านนอกแล้วรอบตัวเขาคงโดนเผาเป็นแน่
พลังของแก่นไฟได้ไหลผ่านไปทั่วตัวราวกับม้าที่เพิ่งกลับป่า มันวิ่งไปมารอบ ๆ โดยหวังเย่าใช้ความคิดของตัวเองในการควบคุมพลังของมันให้วิ่งไปตามเส้นเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อชะล้างร่างกาย
พลังนี้คือพลังแก่นที่อัดแน่นกัน มันราวกับค้อนที่ฟาดเข้าใส่ร่างกายของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แกร๊ก…
เสียงราวกับกระจกแตกดังขึ้น มันราวกับภูเขาที่ตั้งอยู่มานานหลายพันปีได้ถล่มลง กฎไฟของหวังเย่าทะลวงผ่านไปยังระดับที่สูงกว่าเดิม !
หลังจากที่ทะลวงผ่านกฎไฟไปได้ หวังเย่าก็ไม่ได้หยุดแต่กลับทำการดูดซับพลังแก่นไฟต่อ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วพลังของแก่นไฟนี้จะทำให้เขาก้าวหน้าขึ้นมาอย่างมาก
ในตอนที่หวังเย่าบ่มเพาะอยู่นั้น คนที่อยู่โรงแรมก็ไม่ได้อยู่เฉย เอไนน์เองก็บ่มเพาะเช่นกัน แฟนธอมแม้ว่าจะพัฒนาตัวเองได้ยากแต่ก็ใช้เวลาว่างในการแนะนำเอไนน์
แมวที่แกร่งที่สุดในหมู่พวกนั้นแข็งแกร่งอยู่แล้วแต่โดนจำกัดเพราะเลเวลของหวังเย่า แต่หลังจากที่พลังสายเลือดโดนปลุกขึ้นมาและรอดจากการลงโทษมาได้ ความแข็งแกร่งของมันก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
ถ้าพบสัตว์อสูรเลเวลเดียวกัน แมวก็สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย มันใช้เวลาไม่กี่วินาทีเพื่อฆ่าผู้ใช้อสูรเลเวลเท่ากันได้ด้วย
นอกซะจากว่าจะเจอกับอสูรน้ำที่มีความสามารถในการต้านการโจมตีแล้ว ไม่งั้นแล้วพวกที่เลเวลเดียวกันนั้นแมวถือว่าแกร่งที่สุด
ครืน…
หน้าผาสูงกว่า 100 เมตรโดนแมวโจมตีเข้าใส่ ไม่ไกลจากนั้นเอไนน์ถึงกับลืมตาขึ้นมาอ้าปากค้างและพูดขึ้นมาด้วยความตกตะลึง “จ้าวแห่งแมวนี่แกร่งจริง ๆ ! ”
แฟนธอมมองไปที่หน้าผาที่จะแทบจะพังลงเพราะหมัดของแมว เขาเงียบก็ไปสักพักก่อนจะเขกหัวเอไนน์ “ อย่าวอกแวก ! ”
“อื้อ”
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ผ่านครึ่งเดือนไปได้ในพริบตา แม้แต่ในมิติเร่งเวลานั้นก็ผ่านไปไม่ถึง 2 ปี เวลาหลายพันปียังถือว่าเป็นเวลาชั่วครู่สำหรับผู้บ่มเพาะ แค่สองปีนั้นยังไม่ทันได้กระพริบตาด้วยซ้ำ
ตอนที่ดูดซับพลังแก่นไฟจนหมด แก่นไฟก็ได้หายไปกลายเป็นผลึกสีใส ตอนที่พลังงานมันถูกดูดซับไปหมด มันก็ไม่เหลือพลังด้านในอีกต่อไป
ตอนนั้นตัวของหวังเย่าก็มีไฟลุกท่วม ไฟทำให้พื้นที่รอบข้างผันผวนขึ้นมา
มันเพราะไฟนั้นทรงพลังซะจนแม้แต่มิติเร่งเวลาก็ยังได้รับผลกระทบ ในตอนที่ดึงไฟกลับมา หวังเย่าก็ลืมตาขึ้นพร้อมไฟสีทองที่ปรากฏขึ้นในตาของเขาเพียงชั่วครู่
หวังเย่าลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ
“นั่งมานานจริง ๆ ” หวังเย่าพึมพำออกมาก่อนจะยกมือขึ้นพร้อมกับดอกไม้ไฟที่ปรากฏขึ้นมาในมือ
ตอนที่ดอกไม้บานออก อุณหภูมิโดยรอบก็เพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าตกใจ มิติรอบข้างสั่นไหวราวกับจะพังลง
“สมกับเป็นแก่นไฟที่ดึงพลังงานจากดาวระดับสูงจริง ๆ มันทำให้กฎไฟของฉันเพิ่มขึ้นมาตั้ง 10 เลเวล แม้แต่ร่างกายก็ยังยกระดับไปด้วย” หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะดับไฟลง
เขามองไปยังมิติเร่งเวลาและพูดกับตัวเอง “เมื่อเลเวลเพิ่มขึ้นมาแล้ว มิติเร่งเวลาเหมือนจะเปราะบางลง ดูเหมือนว่าคงได้เวลาที่จะอัพเกรดมันแล้ว ”
หวังเย่าออกมาจากมิติลับและปรากฏตัวที่ประตูหลังร้าน
“นายมาที่นี่ได้ยังไง ? ” หวังเย่าจำได้ทันทีว่านั่นคือกิเลนของหยานเทียน ไม่มีใครเข้ามาในพื้นที่นี้ได้นอกจากหยานเทียน
“ข้าว่าจะเอานี่มาให้เจ้า มันน่าจะมีประโยชน์ตอนที่เจ้าเข้าไปในดินแดนนรก” กิเลนโยนบางอย่างให้กับหวังเย่า
เขารับลูกบอลสีทองขนาดเท่ากับตามังกรมา มันสลักไปด้วยรูนลึกลับที่หวังเย่าอ่านไม่ออก
“ลุงบอกให้เอามาให้ฉันหรือ ? ” หวังเย่ามองไปที่ลูกบอลด้วยความสงสัยและถามขึ้นมา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรแต่เมื่อ หยานเทียนเป็นคนทำมันขึ้นมา งั้นมันก็ต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน
“เขาทิ้งมันไว้ให้ล่วงหน้า เขาให้ข้ารอเอามันให้กับเจ้า” กิเลนพูดขึ้น
เมื่อได้ยินแบบนั้น หวังเย่าก็ตาเป็นประกายขึ้นมา หยานเทียนนี่เป็นคนใจกว้างจริง ๆ เมื่อรู้ว่าเขาแข็งแกร่งไม่พอก็หาทางช่วยจนได้