ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 635 : เขตดาวโบไลด์
ตอนที่ 635 : เขตดาวโบไลด์
“หลินฉี ลูกทำได้ดีแล้ว ครั้งนี้พ่อภูมิใจในตัวลูกจริง ๆ ” สุดท้ายคูลีก็ได้เจอเรื่องที่น่ายินดีขึ้นมาบ้างหลังจากที่พบว่าลูกเลี้ยงของเขาหักหลัง, ลูกเขยมีชู้และลูกสาวคนโตตอนนี้ก็มีอาการทางจิต
หลินฉีได้พาทหารไปยับยั้งหนวดปีศาจเอาไว้ได้
ในการต่อสู้นี้ มันทำให้กำลังใจของผู้คนเพิ่มสูงขึ้น
คูลีได้รับรายงานจากทหารระดับสูงและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมหลินฉีเป็นอย่างมากในตอนนี้
ในบรรดาลูกทั้งหมดแล้ว คูลีประเมินหลินฉีไว้ต่ำที่สุด แต่ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กของเขากลับทำได้ดีเกินคาด
ความจริงคูลีมีลูกสาวอยู่อีกหลายคน แต่ก็ไม่ใช่กับราชินีคนนี้ แต่พวกนั้นไม่อาจจะเทียบกับมิยายา, หลินฉี และฮาร์วี่ได้ในสายตาของเขา
และตอนนี้คูลีรู้สึกว่าอาจจะส่งบัลลังก์ให้กับลูกสาวคนนี้ได้ เพราะถึงอย่างไรคนที่ก่อตั้งรัฐจิ้งจอกขึ้นมาก็เป็นราชินี แต่ตอนนี้คูลียังปกครองได้อยู่ เรื่องนี้อาจจะเอาไว้ตัดสินในอนาคต แต่แค่ว่ามันไม่อาจจะยกให้กับมนุษย์ทั่วไปได้
ตอนนี้ตระกูลมูหลางตกต่ำลงอย่างมาก ทหารของราชวงศ์เองก็ตกต่ำลงไปด้วย ตอนนี้พวกเขาต้องการแม่ทัพที่จะมาคุมทัพ และหลินฉีก็ดูจะเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด
“ขอบคุณท่านพ่อที่ชม” หลินฉีนั่งอยู่ที่เตียงพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเขินอาย
“แต่เดิมแล้วพ่อประเมินลูกต่ำเกินไป พ่อไม่คิดว่าลูกจะมีความสามารถในด้านกองทัพมากกว่าพี่ของลูก ถ้าพ่อให้ลูกดูแลทหารราชวงศ์ ไม่รู้ว่าลูกจะทำได้รึเปล่า ? ”
“ทหารราชวงศ์ทั้งหมดเลยหรือ ? ”
กองกำลังดวงดาวทั้งเก่าและใหม่รวมถึงทหารที่ประจำการอยู่ที่สถานีคือส่วนหนึ่งของทหารราชวงศ์
ถ้าให้หลินฉีรับตำแหน่งนี้ มันหมายความว่าในอนาคตสถานีในมิติภายนอกทั้งหมดที่เป็นของตระกูลมูหลางจะอยู่ภายใต้การดูแลของเธอเพียงลำพัง ตำแหน่งนี้จึงไม่อาจจะยกให้กับคนทั่วไปได้
เพื่อที่จะคานอำนาจ คูลีจึงได้ยกตำแหน่งนี้ให้กับฮาร์วี่และดาไฮ ทั้งหมดคือความไว้ใจ แต่ตอนนี้ทั้งสองไม่อยู่แล้ว
เมื่อคูลีทำแบบนี้ก็ไม่ใช่แค่ยอมรับในความสามารถของหลินฉีเท่านั้น แต่ยังเชื่อใจในตัวเธออย่างมากด้วย
“พ่อ หนูกลัวว่าจะทำให้พ่อผิดหวัง หนูไม่ได้มีความสามารถอะไรขนาดนั้น และ…และตอนนี้หนูก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว หนูไม่อยากให้งานมาขัดความสุขของหนู”
“หือ ? ใครกัน ? พ่อเคยเห็นรึเปล่า ? ” คูลียินดีขึ้นมาทันทีเพราะรายงานจากทหารได้บอกว่าหวังเย่าและหลินฉีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแต่มันจะใช่หวังเย่ารึเปล่า ?
ลูกของเขาคงไม่สนใจพวกที่ไม่มีความสามารถหรอก
“หือ…” คูลีเบิกตากว้างและชี้ไปที่ข้างเตียงของหลินฉี “นั่นอะไร ? ”
หลินฉีหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอรีบเก็บกางเกงของหวังเย่าเข้าไปในผ้าห่ม
“ไม่…ไม่มีอะไร”
คูลีอ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ เขาถึงกับสะดุ้ง “หวังเย่ารีบออกมา ! ”
“แค่ก ๆ พ่อหนูมีเรื่องต้องทำ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง พ่อช่วย…”
ตุ๊ดดๆๆ !
โทรศัพท์ถูกกดวางไป พร้อมกับหลินฉีที่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว หวังเย่าก็ได้ตรงไปที่เตียงและนั่งข้าง ๆ หลินฉี ก่อนจะกอดเธอเอาไว้
“จบแล้วหรือ ? คุยอะไรกัน ? ”
“ฮึ่ม ! มันเป็นความผิดของนายนี่แหละ ! ” หลินฉีก้มลงไปซบที่ไหล่ของหวังเย่าและพึมพำออกมา
“หือ ? ฉันผิดอะไร ? ” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
“ฉันไม่สน ฉันต้องลงโทษนาย ! ” หลินฉียกผ้าห่มขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปทันที
หวังเย่าเบิกตากว้างและรู้สึกราวกับกำลังจะขึ้นสวรรค์
“เธอนี่นะ หยุดได้แล้ว ! ”
ทั้งสองคนได้เข้าห้ำหั่นกันอีกครั้ง
….
เวลาผ่านพ้นไป หวังเย่าและหลินฉีก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่บนดาดฟ้า
“เธอจะเอาทหารราชวงศ์มารวมกับกองกำลังดวงดาวจริง ๆ หรือ ?”
“อืม” หลีนฉีพยักหน้า
“เธอไม่กลัวพ่อเธอว่ารึไง พ่อเธออาจจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ก็ได้”
“เขาไม่กล้าหรอก ! ฉันมีนายอยู่ไม่ใช่รึไง ? ” หลินฉีซบไปที่ไหล่ของหวังเย่า
“อีกอย่างแล้วถ้าเป็นการฝึกรบในมิติภายนอก กองกำลังดาวน่ะมีฝีมือมากกว่า การคัดเลือกผู้นำของกองกำลังดาวก็เสร็จแล้ว มันไม่จำเป็นที่ตระกูลมูหลางจะต้องเข้าไปยุ่งกับการเมืองเลย มันเพียงพอแล้วที่ตระกูลมูหลางจะมีกองกำลังเป็นของตัวเองเพื่อรักษาฐานะเอาไว้ ”
หวังเย่าลูบหัวหลินฉี “พ่อเธอคงคิดได้ถ้าได้ยินคำพูดของเธอ”
“พ่อฉันน่ะเป็นคนฉลาด ถ้าอะไรที่เขารักษาไว้ไม่ได้ เขาก็ต้องปล่อยไป”
“มันคงไม่นานที่ฉันจะออกจากดาวทมิฬไป ฉันจะไปที่เขตดาวโบไลด์ เธอจะทิ้งทุกอย่างแล้วไปกับฉันไหม ? ”
“แน่นอน ฉันเป็นคนรับใช้ของนาย ถ้าไม่มีนาย ฉันจะไปอยู่กับใคร ? ”
หวังเย่ามองไปที่หญิงสาวตรงหน้าและอดไม่ได้ที่จะจูบเธอ
สองวันต่อมาข่าวที่ว่าทหารราชวงศ์ได้เข้าร่วมกับกองกำลังดวงดาวก็ได้ทำให้คูลีถึงกับต้องอึ้ง แต่ทันทีที่เขาได้สติ เขาก็ได้ทำการตัดสัมพันธ์กับหลินฉีทันที เขาเอาเธอออกจากตำแหน่งเจ้าหญิงและออกจากตระกูล เขาสาบานว่าถ้าเจอหวังเย่าอีก เขาต้องฆ่าหวังเย่าให้ได้
แน่นอนว่านั่นก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ เขาไม่ได้ถอดตำแหน่งของหลินฉีออกจริง ๆ
ในตระกูลนี้ การที่หลินฉีหักหลังตระกูลนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่สำหรับคนในดาวทมิฬแล้ว การที่หลินฉีและ หวังเย่ารักกันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และการที่เธอตัดสินใจทำแบบนั้นมันก็ถูกต้องแล้ว ทุกคนถึงกับคิดว่าหลินฉีนั้นฉลาดที่กล้ายอมสละทุกอย่างเพื่อไล่ตามความรัก
6 เดือนต่อมา หลีนฉีก็ได้อยู่กับหวังเย่ามาโดยตลอด
เธอเป็นเพื่อนที่ดีกับแฟนธอมและเอไนน์ ทั้งสามเล่นด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง พวกเธอถึงกับเล่นเกมด้วยกัน มันจึงมีเสียงหัวเราะดังขึ้นในบ้านอยู่ตลอดเวลา
ในฐานะแม่ทัพของกองกำลังดวงดาวแล้ว หวังเย่าได้ข้อมูลของกองกำลังต่าง ๆ ในจักรวาลมาจำนวนมาก ข้อมูลเกี่ยวกับเขตดาวโบไลด์เองก็อยู่ในมือของหวังเย่าเช่นกัน
เขานั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่างเพียงลำพัง และมองไปยังข้อมูลที่ได้มา ความสงสัยที่มีในอดีตในที่สุดก็ได้คำตอบแล้ว
เขตดาวโบไลด์เกี่ยวข้องกับโลกของเขาจริง ๆ !
ใครจะไปคิดกันว่ามันจะเป็นแบบนั้น ?
ตลอดมานี้มิติลับในโลกมนุษย์อย่างเขตหวงห้ามทั้งสามนั้นแต่เดิมแล้วคือพื้นที่ของเขตดาวโบไลด์ทั้งหมด !
เมื่อดูข้อมูลของเขตดาวโบไลด์ก็พบว่านี่คือต้นกำเนิดของชาวหัวเซี่ย !
หลายหมื่นปีก่อน คนของดาวนิบิรุได้ทำการเปิดเหมืองที่โลกมนุษย์ จนพวกนั้นได้สร้างมนุษย์ขึ้นมา
พวกเขาจะเดินทางมาที่โลกทุก ๆ 3,600 ปี
เพื่อที่จะควบคุมโลกมนุษย์ พวกเขาจึงได้สร้างมิติลับทั้งสามแห่งที่เหมาะกับคนของตัวเองในการพักอาศัย มันซ่อนอยู่ในโลกมาโดยตลอด ซึ่งนั่นก็คือเขตดาวโบไลด์
นี่ทำให้มิติลับทั้งสามแห่งได้กลายมาเป็นเขตหวงห้ามของโลกไปในทันที !
มันได้กลายเป็นเขตหวงห้ามเพื่อแสดงฐานะที่สูงส่งของมันเพื่อที่ผู้ที่แข็งแกร่งในโลกจะได้ไล่ตาม เมื่อได้รับอนุญาตจากดาวนิบิรุ พวกเขาจะเข้าไปในเขตลับทั้งสามแห่งได้เพื่อเรียนรู้ข้อมูลที่มีระดับเหนือกว่า
เขตลับทั้งสามแห่งได้แยกตัวออกมาจากดาวนิบิรุมานานแล้ว
หลังจากนั้นคนของดาวนิบิรุก็ได้กลับมาที่โลกอีก แต่พวกเขาก็ได้มีเรื่องขัดแย้งกับเขตดาวโบไลด์ เพราะคนของเขตดาวโบไลด์ต้องการที่จะยึดอำนาจจากดาวนิบิรุ หลังจากนั้นจึงได้เกิดสงครามขึ้นมาที่นั่น
ดาวนิบิรุนั้นมียีนส์ที่แกร่งที่สุดในจักรวาล ดังนั้นพวกเขาจึงถูกเรียกว่าเทพโดยเผ่าพันธุ์อื่น ๆ
การต่อสู้ของเทพนั้นส่งผลกระทบต่อโลกอย่างมาก สุดท้ายแล้วการต่อสู้ก็จบลงโดยเหลือแค่พวกระดับสูง ไม่นานพวกนั้นก็ประกาศแยกตัวและกลับไปที่เขตดาวโบไลด์ จากนั้นเหมืองที่โลกก็ถูกทิ้งร้างเอาไว้
แม้ว่าคนจากเขตดาวโบไลด์จะจากไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือรูหนอนที่นำไปสู่ทั้งสามแห่งอยู่ เพราะที่นี่มันมีทรัพยากรที่มีค่าอยู่มาก พวกเขาจึงต้องกลับมาเอาทรัพยากรที่โลกมนุษย์อยู่แล้ว
หนึ่งในเขตลับทั้งสามคือฐานที่มีไว้สร้างสัตว์อสูร เพราะเสียสัตว์อสูรไปจำนวนมากรวมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากสงคราม ผลก็คือสภาพอากาศที่นั่นเลวร้ายอย่างมาก จนสุดท้ายก็ถูกเรียกว่า ‘ดินแดนนรก’
หวังเย่าได้รู้ความลับมากมาย เขตลับทั้งสามคือรูหนอนที่เหลือไว้หลังจากที่คนพวกเขาจากไป
สำหรับว่าเขตดินแดนนรกจะสามารถฟื้นคืนชีพผู้คนได้รึไม่นั้น ไม่มีใครรู้ แต่หนึ่งสิ่งที่ทุกคนรู้ได้คือสัตว์อสูรที่บ่มเพาะในโลกนั้นไม่อาจจะตายได้ แม้ว่าจะตายแต่ก็จะกลับไปเกิดใหม่ในโลกนั้น
หลังจากที่เสี่ยวซวีตายไป แน่นอนว่าเธอต้องกลับไปที่ดินแดนนรกเพื่อทำการเกิดใหม่ !
ตามที่ต่งเหลิ่งและซิดดี้ได้รับข่าวมา เสี่ยวซวีน่าจะเกิดใหม่ในอนาคตอันใกล้ หวังเย่าและเสี่ยวซวีจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง !
ก่อนที่โลกจะถูกทำลาย เพื่อที่จะปกป้องทุกอย่างเอาไว้ เขตดาวโบไลด์ได้ใช้เงินไปจำนวนมากเพื่อยึดเขตลับทั้งสามจนพวกเขาได้กลายมาเป็นเจ้าของที่นั่น
การจะยึดเขตลับทั้งสามนั้นแท้จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ต่งเหลิ่งได้เดินทางไปที่โลกและช่วยฟางอีเอาไว้ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นภรรยาของเขาในตอนนี้
ข่าวที่ว่าเขตลับทั้งสามได้กลายมาเป็นของเขตดาวโบไลด์นั้นทำให้เกิดความฮือฮาไปทั่วทั้งจักรวาลนานหลายสิบปี เพราะเขตดาวโบไลด์ได้เปิดเขตลับทั้งสามให้ทุกคนได้เข้าไป เขตลับทั้งสามเป็นโลกที่หายากและมีสมบัติมากมายอยู่ที่นั่น ทุกคนต่างก็อยากไปดูเพื่อการเรียนรู้
ดาวนิบิรุรู้ข่าวนี้ก็ได้ทำการติดต่อไปหาเขตดาวโบไลด์ ทั้งสองฝ่ายได้ส่งสมาชิกคนสำคัญแลกเปลี่ยนกันเพื่อลบล้างความบาดหมางในอดีต
สุดท้ายแล้วทั้งสองฝั่งก็ได้ทายาทและกลับมาดีกันอีกครั้ง
หวังเย่าปิดหนังสือในมือลง แล้วคิดในใจ เพราะทันทีที่โอนตำแหน่งเสร็จ เขาจะเดินทางไปที่เขตดาวโบไลด์ทันที !