ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 627 : สาวใช้
ตอนที่ 627 : สาวใช้
หวังเย่าได้อุ้มหลินฉีที่ตัวเปลือยเข้าไปในห้องสั่งการที่แต่เดิมเป็นห้องรับรองของฮาร์วี่ ก่อนที่จะให้นายพลออกไปจากห้องแล้วปิดประตูลงไป
หลินฉีตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เธอยกมือขึ้นมาปิดตัวเอาไว้ด้วยความอาย ซึ่งมันดูน่ารักจริง ๆ
“หวังเย่า รอฉันก่อน” หลินฉีกำหมัดแน่นและเดินไปหลบข้าง ๆ ห้อง
หวังเย่ามองไปที่แผ่นหลังของเธอก่อนจะยิ้มออกมา เขาเดินไปที่จอสั่งการและเปิดดูรูปภาพของหนวดอีกครั้ง
“สัตว์อสูรสามารถพัฒนาเป็นมนุษย์ได้ ต้นไม้สามารถพัฒนาเป็นสัตว์อสูรได้ งั้น…หนวดนี่ที่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตก็ถือว่าเป็นสัตว์อสูรงั้นหรือ ? ”
ทันทีที่ความคิดนี้โผล่มาในหัว หวังเย่าก็ต้องช็อก ความคิดนี้ทำให้เขาคิดถึงความเป็นไปได้อื่น ๆ อีกมากมาย
“ในฐานะสัตว์อสูรที่เลเวลสูงกว่า 200 ในจักรวาลแห่งนี้พวกเราไม่ต่างอะไรจากมด มันสามารถเติบโตเป็นยอดมนุษย์ได้หากดูจากขนาดของมัน บางทีฉันอาจจะวิเคราะห์มันได้ด้วยระบบ…”
ถึงความรู้สึกนี้จะทำให้หวังเย่าตื่นเต้น แต่ก็สร้างแรงกดดันให้กับเขาอย่างมาก
การที่จะเอาชนะหนวดนี่และเติบโตเป็นสัตว์อสูรขนาดเดียวกับมันนั้นเป็นได้แค่ความคิด เขากลัวว่าคงไม่มีใครกล้าที่จะคิดแบบนี้
หวังเย่าไล่ตรวจสอบรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน
ระบบในหัวของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่วิเคราะห์ออกมาได้นั้นเริ่มชัดเจนขึ้นมาทีละนิด
ในจอนั้นหนวดปีศาจก็บิดตัวอย่างต่อเนื่องภายใต้ไฟของหวังเย่า
มันชัดแล้วว่าหนวดนี้ไม่อาจจะทนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟหยินหยางได้
พวกมันขดตัวไปมาเผยให้เห็นถึงจุดอ่อน
ระบบได้ส่งข้อมูลการวิเคราะห์กลับมาที่หัวของหวังเย่าทันที
พื้นที่ : ระดับ 100-110 สัดส่วนพื้นที่ : 0.000000012 เริ่มทำเครื่องหมายจุดอ่อน…ติ๊ง ติ๊ง….
จากนั้นจุดอ่อนของหนวดที่ใกล้กับดาวทมิฬก็ถูกทำเครื่องหมายขึ้นมาในหัวของหวังเย่า
หวังเย่าได้ใช้ปากกาวงลงบนภาพที่จอ
เฮ้อ…
หวังเย่าถอนหายใจออกมา เพราะตอนนี้เขารู้สึกง่วงอย่างมาก
แค่วิเคราะห์พื้นที่ของหนวดนี้ก็ทำให้เขาเวียนหัวแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าเขาต้องใช้สมองแค่ไหนถ้าเจอกับตัวมันเต็ม ๆ
หวังเย่ากุมขมับก่อนจะรู้สึกได้ถึงตัวนุ่ม ๆ ที่เข้ามานั่งที่ตักของเขา
เธอผลักมือของเขาออกแล้วใช้มือของตัวเองกดลงไปที่ขมับของหวังเย่า
เมื่อเขาลืมตาก็พบกับหลินฉีที่นั่งอยู่ตรงหน้า เขาถึงกับแปลกใจจนพูดอะไรไม่ออก
หลินฉีได้เปลี่ยนไปใส่ชุดสาวใช้ที่หวังเย่าอยากจะเห็น อกเล็ก ๆ ของเธอตั้งชันมาตรงหน้าของหวังเย่า
ตัวที่ขาวเนียนและกลิ่นที่หอมได้แผ่ออกมา ผมเธอพาดไปกับหลัง ก้นที่นูนออกมา สายตาที่ราวกับจะกลืนกินวิญญาณได้มองมาที่หวังเย่า
หวังเย่ามองไปยังสาวสวยตรงหน้าและพบว่าตัวของเธอสั่นนิด ๆ
ก่อนที่ตัวของเธอจะเริ่มแผ่ความร้อนออกมา
หลินฉียิ้มออกมาก่อนที่จะจูบเขา
ปากของทั้งคู่ประกบกันพร้อมกับเสียงดูดที่ดังขึ้นมา
หวังเย่าจับเอวของเธอเอาไว้ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากัน จากนั้นเขาก็เริ่มฉีกเสื้อผ้าของเธอออก
การปะทะกันอย่างดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้น โต๊ะประชุมได้กลายมาเป็นเวทีของพวกเขาไปเสียแล้ว
ถึงเสียงจะดังไปถึงด้านนอกแต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะหยุด
….
ในเก้าอี้ที่ห้องสั่งการ หลินฉีได้นั่งอยู่บนตักของหวังเย่า
หวังเย่าลูบหลังของเธอและพูดขึ้น “วันนี้เราต้องรีบจบให้เร็ว ฉันหยาบคายไปหน่อย ฉันหวังว่าเธอคงไม่เจ็บนะ”
หลินฉีหน้าแดงและลูบไปที่หน้าอกของหวังเย่า ด้วยสีหน้าพอใจก่อนจะหลับตาแล้วพึมพำออกมา “ดีมาก…เราทำแบบนี้อีกได้รึเปล่า ? ”
หวังเย่ายิ้มออกมา “ฉันไม่ใช่คนดี เธอไม่รู้สึกผิดรึไง ? ”
“แน่นอน แม้ว่านายจะเป็นคนชั่วที่สุดในจักรวาล แต่ฉันก็จะอยู่กับนาย”
“แต่ฉันมีแฟนอยู่แล้ว เราคงอยู่ด้วยกันไม่ได้ เธอคิดจะทำแบบนี้จริง ๆ หรือ ? ”
“ฉันไม่สน ฉันจะตามนายไปจนกว่านายจะเกลียดฉัน” หลินฉีพูดขึ้นมา
“เธอจะมาเป็นสาวใช้ของฉันงั้นหรือ ? ”
หลินฉีลุกขึ้นนั่งและรีบพยักหน้า
“เธออยากมาชงกาแฟให้ฉันรึไง”
หลินฉียิ้มออกมา “งานของสาวใช้มีหน้าที่แค่ชงกาแฟรึไง ? ”
หวังเย่าทำท่าคิดก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ นอกซะจากว่า…” หวังเย่ามองไปที่หลินฉีก่อนจะโอบเอวของเธอ “เธอจะไม่อยากทำ…”
“จริงหรือ ? ” หลินฉีได้เข้าไปจูบเขาอีกครั้ง
“ฉันพร้อมเสมอ นายเรียกได้ตลอดเลย” หลินฉีเข้ามากระซิบที่หูของหวังเย่า
หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนจะลูบหลังเธอ
“ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญต้องไปจัดการ”
หลินฉีลุกขึ้นยืนและไปยืนอยู่ตรงหน้าของหวังเย่า
หวังเย่าเงยหน้าขึ้นมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าและยิ้มออกมา “เธอจะยืนอยู่ที่นี่ตลอดในสภาพนี้รึไง ? ”
“ถ้านายชอบ ฉันก็เต็มใจ”
หวังเย่ากระแอมออกมา “หลังจากนี้คงมีทหารคนอื่นเข้ามา เธอไปใส่ชุดก่อน มันดูไม่เข้ากับฐานะเจ้าหญิงเอาซะเลย”
“เจ้าหญิงหรือ…ฉันเป็นแค่จิ้งจอกน้อยที่อ่อนแอของนาย” หลินฉีพูดขึ้น
“เจ้าหญิงน้อยของฉัน ฉันไม่อยากให้เธอมาแกล้งฉันแบบนี้หรอกนะ”
หลินฉีพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ก็ได้ รอสักเดี๋ยว”
หลังจากนั้นสักพักเธอก็กลับไปใส่ชุดทหารของตระกูลมูหลาง
ต้องบอกว่าเธอดูดีอย่างมากในชุดนี้ แต่แค่ว่าดูเย็นชาไปหน่อย
“นายพลหวังเย่า เจ้าหญิงหลินฉี ขอรายงานตัว” หลินฉีทำความเคารพหวังเย่า
เมื่อเห็นท่าทีของหลินฉี หวังเย่าก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
“หลินฉีเธอมาดูแผนที่พวกนี้”
หลินฉีเดินเข้าไปอย่างเชื่อฟังและตั้งใจฟังคำอธิบายของหวังเย่า
“ถ้าเธอเทียบหนวดนี้กับมนุษย์ งั้นร่างของมันก็มีรูอยู่นับไม่ถ้วน”
“ตอนนี้ฉันได้วิเคราะห์จุดอ่อนมันแล้ว การที่ไฟของฉันสร้างความเสียหายให้กับมันได้ มันจึงมีการป้องกันที่ต่ำลงในส่วนนี้”
“ถ้าโจมตีจุดอ่อนในส่วนนี้ มันก็จะต้องกลับไปป้องกันตัวเอง ซึ่งนี่จะช่วยลดแรงกดดันให้กับดาวทมิฬอย่างมาก”
หลินฉียื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ และพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ฉันไม่สงสัยในจุดอ่อนที่นายทำเครื่องหมายเอาไว้…แต่ฉันแค่กังวล…”
“เธอกังวลอะไร ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและมองไปที่หลินฉี
“แม้ว่าฉันจะฝึกมาตั้งแต่เด็ก แต่ฉันก็ไม่เคยนำทัพอย่างเป็นทางการมาก่อน ทหารกลุ่มนี้มีผู้นำคือดาไฮและฮาร์วี่ การที่ให้ผู้หญิงมานำทัพแทนพวกนั้น ฉันกลัวว่าฉันคงไม่มีความสามารถพอ” หลินฉีพูดขึ้น
หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “ฉันกลัวว่าเธอคงไม่รู้ตัวตอนที่ฉันประกาศบนดาดฟ้าตะกี้ พวกนายพลฟังคำสั่งฉันแล้ว สบายใจได้ เธอทำได้ เมื่อการต่อสู้นี้จบลง พวกนั้นจะเคารพเธอเหมือนกับเทพเลย เชื่อฉันสิ”
หลินฉีแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “มันไม่เกินไปหน่อยหรือ ? ”
“เธออย่าสงสัยในความสามารถของตัวเองอย่างนั้นสิ ! ”
“แล้วก็นี่..ไฟฉัน ฉันเก็บมันไว้ในแหวนมิติ ฉันห่อหุ้มมันด้วยพลังภายใน”
“นี่คือพลังจิตของฉัน เธอปลดปล่อยไฟด้านในออกมาตามต้องการได้ มันจะใช้ได้ประมาณ 30 ครั้ง”
“เชื่อเถอะ เธอจะไม่ตกอยู่ในอันตราย”
หวังเย่าส่งแหวนให้กับหลินฉี
“นาย…นายจะไม่ไปกับฉันหรือ ? ”
“ถ้าฉันไปกับเธอด้วย ฉันจะให้เธอนำทัพทำไม ? ”
“แล้วนายจะไปไหน ? ” หลินฉีมองไปที่หวังเย่าด้วยความกังวล
“ตอนนี้กองกำลังดวงดาวและดาวเฟนเซอร์กำลังสู้กันอยู่ ฉันต้องไปที่นั่นในฐานะแม่ทัพ”
หวังเย่าลุกขึ้นยืนและใส่เสื้อผ้าเตรียมจะออกไปจากที่นั่น
หลินฉีรีบวิ่งตามและเข้าไปกอดหวังเย่าเอาไว้
“ฉันไม่อยากจากนายไป”
“ ไม่ต้องกังวล ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
“ฉันเชื่อนายก็ได้ แต่นายต้องกอดฉันก่อน”
หวังเย่าถอนหายใจออกมาก่อนจะหันกลับมาจูบที่หน้าผากของหลินฉี
“ฉันไปแล้ว เด็กโง่”
หวังเย่าเปิดประตูแล้วเดินออกไปทันที
เมื่อเห็นหวังเย่าจากไป หลินฉีก็สลดแต่จากนั้นเธอก็ส่ายหน้าแล้วเดินขึ้นไปที่ดาดฟ้า เธอมองไปยังนายพลรอบ ๆ ก่อนจะตะโกนออกมา “จากนี้ไปฉันจะเป็นคนนำทัพเอง ถ้าใครไม่เชื่อฟัง คนนั้นต้องตาย”
เธอยกมือขึ้นพร้อมกับไฟที่พุ่งออกมา จนทำให้หนวดปีศาจบนหัวของเธอได้กลายเป็นเถ้าไปในทันที
“เรารอรับคำสั่ง ! ” เหล่าทหารต่างก็พากันตะโกนออกมา