ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 211-2 ในที่สุดก็กำจัดได้ (2)
ตอนที่ 211 ในที่สุดก็กำจัดได้ (2)
ผู้นำลัทธิเผยแววตาเย็นเยียบ แค่นเสียงว่า “ดูท่าจะเป็นอัจฉริยะของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ งั้นฆ่านายคงเทียบได้กับฆ่าขั้นสองขั้นสามหลายคน!”
“นายลองดูก็จะรู้เอง!”
บนหน้าผากฟางผิงเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ผู้นำลัทธิกลับไม่คิดตั้งรับอีก คำรามเสียงดัง ก่อนจะค้อมกระดูกสันหลัง ครู่ต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าฟางผิง เคลื่อนไหวทั้งหมัดและเท้า เล็งไปที่จุดตายของฟางผิง
เหงื่อของฟางผิงไหลอย่างไม่ขาดสาย ป้องกันตัวสุดกำลัง แต่ยังคงถูกซ้อมจนถอยหลังติดต่อกัน ทั่วทั้งร่างมีแต่เลือดและเหงื่อ
“นายจู่โจม ฉันก็จู่โจมเป็นเหมือนกัน!”
ฟางผิงกัดฟันวางส้นเท้ากับพื้น ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะลากระยะห่างออกมาเล็กน้อย เริ่มเหวี่ยงดาบใส่อีกฝ่ายต่อเนื่อง ทุกดาบทุ่มอย่างสุดพลัง!
ผู้นำลัทธิสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก นี่ฟันลงมากี่ดาบแล้ว?
ยี่สิบดาบ? สามสิบดาบ?
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดมีปราณแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางอยู่มาก
อานุภาพของการปะทุปราณหนึ่งแคล สูงกว่าขั้นสามตอนปลายถึงสองสามแคล
ปราณหนึ่งพันแคลของเขา ทุกคนจู่โจมด้วยแรงเดียวกัน แต่เขาสามารถทนต่อแรงได้สองสามพันแคลเป็นอย่างต่ำ
ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลาง ปกติปราณอยู่ที่หกร้อยแคล
พูดถึงความทนต่อแรง เขาสามารถผลาญปราณผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางให้หมดเกลี้ยงได้ถึงหกเจ็ดคน ถึงกระทั่งมากกว่านั้น เพราะเขาตั้งรับเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นฝ่ายจู่โจม
แต่ถ้าสู้ตัวต่อตัว ผู้ฝึกยุทธ์อย่างเขาจะโจมตีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลาง ปกติก็ใช้ไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
ตอนนี้ฟางผิงกลับจู่โจมแทนที่จะตั้งรับ ทุกกระบวนท่ามีอานุภาพถึงขั้นท่าไม้ตาย เจอกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องถอยหลบบ้างเช่นกัน
“ฉันจะดูว่าตกลงนายจะฟันได้สักกี่ดาบ!”
ผู้นำลัทธิพูดอย่างหนักแน่น เขาไม่เชื่อว่าผู้ฝึกยุทธ์ตอนกลางคนหนึ่ง จะระเบิดปราณได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ฟางผิงระเบิดปราณอย่างไร้จำกัดไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น แค่ระเบิดปราณสักระยะหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
แม้ผู้นำลัทธิจะตั้งรับอย่างเดียว ก็ไม่ได้หมายความว่าปราณยังคงที่เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ทุกคนล้อมโจมตีเขา เขาเสียปราณไปไม่น้อยเช่นกัน ตอนนี้ปราณกำลังลดหลั่น ฟางผิงไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะผลาญปราณตัวเองได้
“ดาบที่สามสิบหก!”
“ดาบที่สามสิบเจ็ด…”
ฟางผิงนับเบาๆ ฟันดาบลงไปหนึ่งครั้งเท่ากับเสียค่าทรัพย์สินไปกว่าหนึ่งแสน ตอนนี้เกรงว่าจะเสียไปเกือบสี่ล้านแล้ว
“ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดทนแรงได้เยอะจริงๆ!”
ตอนนี้ฟางผิงตระหนักว่าตัวเองยังคงมีขีดจำกัดอยู่จริงๆ
กระดูกของเขาเริ่มส่งเสียงกึกกัก ผิวหนังปริแตก เลือดไหลซึมออกมาด้านนอก
เขาสามารถเพิ่มปราณได้ แต่เงื่อนไขอื่นๆ ยังคงมีข้อจำกัด
ผู้นำลัทธิที่อยู่ตรงข้ามก็เลือดไหลที่มุมปากเช่นกัน บนร่างเต็มไปด้วยรอยมีด กลับยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยังไหวหรือเปล่า?”
พูดจบก็คำรามเสียงดัง พุ่งหมัดไปหาลำคอของฟางผิงอย่างรวดเร็ว
ฟางผิงครางเสียงต่ำ เหวี่ยงขาขวาเข้าไปทันที
ปรากฏว่ากลับถูกหมัดชกที่เท้าจนเกิดเสียงดังลั่น รองเท้าบูทโลหะผสมที่เป็นเพื่อนคู่ใจมานานปรากฏรอยร้าวขึ้น
ฟางผิงครางอย่างเจ็บปวด ลากเท้าที่บาดเจ็บไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ผู้นำลัทธิยังคงไม่เลิกรา พุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
ฟางผิงคำรามอย่างโมโห ฟันดาบออกไปติดต่อกัน!
‘เคร้งๆ…’
เสียงกระทบของดาบดังขึ้นระลอกใหญ่ ผู้นำลัทธิหอบหายใจ หยุดอยู่ที่เดิม
ด้านฟางผิงหอบหายใจเช่นกัน ทั่วร่างนั้นเปียกโชกไปหมด
“เกือบจะห้าล้านแล้ว!”
ฟางผิงกัดฟัน ครั้งนี้ขาดทุนหนักจริงๆ
รวมกับพังทลายบ้านเรือนก่อนหน้านี้ ทั้งยังสังหารผู้ฝึกยุทธ์สองคนเมื่อวาน สรุปแล้วเขาสิ้นเปลืองปราณไปเกือบสิบล้าน
และตอนนี้ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผล ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ถึงฆ่าหมอนี่ได้ก็ยังขาดทุนอยู่ดี
อีกฟากหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายคนนั้น ตอนนี้ถึงยามเข้าตาจนแล้วเช่นกัน
ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย โจมตีทุกคนจนถอยไปไม่หยุดหย่อน บางทีก็มีคนได้รับบาดเจ็บจนกระเด็นตัวลอย ถอนตัวออกจากการต่อสู้ไป
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดบางส่วนยังคงกระโจนเข้าไปในการต่อสู้ ล้อมโจมตีคนผู้นี้
ส่วนฟางผิง ตอนนี้ทุกคนแทบไม่มีเวลาไปสนใจ
อย่างน้อยก็ดูเหมือนฟางผิงจะสามารถต้านอยู่พักหนึ่ง ฆ่าขั้นสามตอนปลายแล้วค่อยเข้าไปช่วยก็ไม่สาย
“ขั้นสามสูงสุดแข็งแกร่งถึงขั้นนี้เชียว?”
ฟางผิงมองผู้นำลัทธิ รู้สึกไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง ปราณของอีกฝ่ายลดหลั่นใกล้หมดแล้ว แต่เขายังคงใช้ร่างกายต่อสู้
แม้จะอาศัยร่างกายในการต่อสู้ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีพลังในขั้นสามเหมือนกัน
หากผู้นำลัทธิไม่คิดหนี งั้นก็คงเตรียมใจรบจนตัวตายตั้งนานแล้ว
แม้จะมาถึงขั้นนี้ อันที่จริงเขายังมีโอกาสหนีเช่นกัน ฟางผิงไม่อาจสังหารเขาได้อย่างง่ายๆ
ผู้นำลัทธิที่อยู่ตรงข้ามเผยรอยยิ้ม หอบหายใจว่า “ไม่ต้องมองหรอก คนอย่างพวกเรารู้ตั้งนานแล้วว่าต้องตาย ช่วงเวลาใกล้ตายฆ่าได้มากเท่าไหร่ก็เท่านั้น! นายน่าสนใจดี แค่คนเดียวเกรงว่าจะสามารถฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางได้เป็นกอง น่าเสียดาย นึกไม่ถึงว่าคนอย่างนายจะยินดีเป็นสุนัขรับใช้…”
ฟางผิงม่านตาหดเกร็ง รีบถอยไปด้านหลัง!
ครู่ต่อมาผู้นำลัทธิก็ทุบอกตัวเองกระอักเลือดออกมา ก่อนจะมาปรากฏตัวเบื้องหน้าฟางผิงในชั่วพริบตา!
ฟางผิงถอยไม่ทันอีกแล้ว กัดฟันยกดาบมาขวางหน้าอกตัวเอง
‘ปัง!’
เกิดเสียงปะทะดังลั่น หน้าดาบยุบลงไปบางส่วน ฟางผิงเจ็บหน้าอกอย่างหนักหน่วง กระเด็นตัวลอยออกมา กระอักเลือดสดไม่หยุดหย่อน
“ยังไม่ตาย? หลอมอวัยวะภายในแล้ว?”
ผู้นำลัทธิเผยใบหน้าซีดเซียวอย่างคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ถลาตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ฟางผิงล้มลงกับพื้น พ่นเลือดออกจากปากอย่างห้ามไม่อยู่
“ให้ตายเถอะ!”
ฟางผิงทั้งโมโหและดีใจ ยาเสริมสร้างร่างกายก่อนหน้านี้หลอมอวัยวะภายในของเขา ทำให้อวัยวะภายในไม่อ่อนแอเหมือนคนทั่วไป ไม่อย่างนั้นถูกหมัดเมื่อกี้คงตายไปแล้ว
เห็นดาบยาวยุบลงไปเล็กน้อย ฟางผิงปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง
ในเวลานี้ด้านข้างก็มีเสียงคำรามอย่างหมดหวังดังขึ้น ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามกว่าสิบคน ในที่สุดก็สามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายคนนั้นได้แล้ว
ผู้นำลัทธิสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ชะงักฝีเท้าลง
พวกกู้สยงรีบเข้าไปสนับสนุนฟางผิง พวกเฉินอวิ๋นซีเข้าไปพยุงฟางผิงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พวกกู้สยงเข้าไปสกัดผู้นำลัทธิแล้ว
ฟางผิงเห็นฉากนี้ จึงกุมหน้าอกหันไปมองเฉินอวิ๋นซี “มียารักษาชีวิตหรือเปล่า? ให้ฉันยืมสักเม็ด!”
เฉินอวิ๋นซีรีบยัดยาเข้าไปในปากเขาหนึ่งเม็ด ฟางผิงกลืนลงไปก่อนจะเอ่ยอย่างโมโห “ถอยไปให้หมด เขาเป็นของฉัน!”
หมอนี่ วันนี้ต้องฆ่าเขาให้ได้!
หากไม่ฆ่าเขา ภารกิจครั้งนี้คงขาดทุนเข้าเนื้อแล้ว
พวกกู้สยงต่างได้รับบาดเจ็บเช่นกัน จ้าวหยางได้ยินก็เอ่ยอย่างโมโห “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาแสดงตัวเป็นวีระบุรุษ!”
“ถอยไป ไม่งั้นพวกนายต้องชดใช้ยาบำรุงให้ฉัน!”
ฟางผิงร้อนใจยิ่งกว่าอะไร จะมัวมาสนใจเรื่องอื่นได้ยังไงอีก ครู่ต่อมาก็ถือดาบพุ่งเข้าไป
ตัวดาบประกายแสงสีแดงอย่างเจิดจ้า ปราณคละคลุ้งไปทั่ว ระเบิดอานุภาพออกมามากกว่าก่อนหน้านี้ถึงสามเท่า
พวกจ้าวหยางเห็นเขาไม่สนใจว่าฝั่งไหนคือเพื่อนฝั่งไหนคือศัตรูจึงพากันถอยหลัง
“หมอนี่…”
ทุกคนแทบไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี!
สรุปแล้วฟางผิงออกกระบวนท่าไปกี่ครั้งกันแน่?
นี่ยังนับว่าเป็นกระบวนท่ารักษาชีวิตอย่างนั้นเหรอ?
การโจมตีของฟางผิงยังไม่ถึงขั้นกระบวนท่าชั้นยอด แต่ภายใต้การปะทุปราณแทบไม่ห่างจากกระบวนท่าชั้นยอดเท่าไหร่
จากการคาดเดาของทุกคน เกรงว่าจะสิ้นเปลืองปราณไปกว่าห้าพันแคล!
เพราะเหตุนี้จึงมองออกว่าขั้นสามสูงสุดห่างชั้นจากทุกคนมากขนาดไหน
แม้จะระเบิดปราณอย่างนี้แล้ว ฟางผิงก็แทบจะถูกชกตายในหมัดเดียว
เห็นว่าฟางผิงจู่โจมฟันออกไปอย่างบ้าคลั่ง ทั้งปราณของผู้นำลัทธิก็หมดเกลี้ยงแล้ว ทำได้เพียงอาศัยร่างกายโต้กลับเท่านั้น
ทุกคนมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนกู้สยงจะตะโกนว่า “พวกเราก็ร่วมด้วย ค้นหมู่บ้าน ฆ่าทิ้งให้หมด!”
ส่วนทางฟางผิง ยังมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามที่เสียปราณไปไม่มากกำลังรอช่วยชีวิตอยู่ตลอดเวลา
—
“ยารักษาชีวิต สองร้อยคะแนน! ยาหนึ่งเม็ดฉันก็ขาดทุนอย่างหนักแล้ว วันนี้ฆ่านายตายไม่ได้ ฉันจะไม่หยุดเด็ดขาด!”
ตอนนี้ฟางผิงโมโหจนแทบอยากกระอักเลือด ดาบเฟิ่งจุ่ยได้รับความเสียหาย รองเท้าโลหะผสมแตกร้าว ค่าทรัพย์สินหายไปเกือบสิบล้าน!
ความสูญเสียเช่นนี้ เกิดเพราะคนๆ เดียว เขาจะไม่โทสะสุมหัวได้ยังไง
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าขั้นสามสูงสุดจะแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้าจริงๆ ถึงจะใช้แรงสั่นสะเทือนก็ต้องทำให้อวัยวะนายแตกกระจุยให้ได้”
กระดูกฟางผิงส่งเสียงดังกึกกัก ผู้นำลัทธิทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน กระอักเลือดออกมาไม่หยุด
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางคนหนึ่งจะสามารถระเบิดกระบวนท่าร้อยแคลได้เกือบร้อยดาบ การต่อสู้เช่นนี้นอกจากจะนิยามว่าขี้โกง ก็ไม่อาจอธิบายอย่างอื่นได้อีก
ขณะที่ฟางผิงฟันดาบจนมือชา ในที่สุดผู้นำลัทธิก็คุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง ฟางผิงฟาดดาบซ้ำลงไปที่กะโหลกของอีกฝ่าย
ครู่ต่อมาฟางผิงก็ขาอ่อนลงไปกองกับพื้น พึมพำว่า “ในที่สุดก็ฆ่าได้สักที…”
แต่เวลานี้ฟางผิงดีใจไม่ออก
ภารกิจครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมตลอดทาง แม้ตัวเองจะสังหารผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ตาม…แต่ราคาที่จ่ายออกไปจะมากเกินไปแล้ว
“หนึ่งร้อยกว่าดาบ ปราณเกือบหมื่น…ตาเฒ่าหลี่นอนให้ฉันฟัน ฉันจะฆ่าเขาตายได้งั้นเหรอ?”
ตอนนี้ฟางผิงนึกถึงคำพูดของตาเฒ่าหลี่ขึ้นมาอีกครั้ง เขานอนให้ฟางผิงฟัน ฟางผิงก็ฟันเขาไม่ตายหรอก
ก่อนหน้านี้ฟางผิงแค่นเสียงอย่างดูแคลน ตอนนี้เชื่อขึ้นมาจริงๆ แล้ว ไม่ฟันหัวเขา เกรงว่าคงฟันไม่ตายจริงๆ
————–