ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1593 ถวนจื่อ
ตอนที่ 1593 ถวนจื่อ
……….
ครั้งนี้การเคลื่อนไหวของขนนกสีทองคำชาดนั้นเชื่องช้าเป็นอย่างมาก แตกต่างจากความราบรื่นเมื่อสองครั้งก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
แต่ท้ายที่สุดมันก็ขยับแล้ว!
สายตาของมันมองไปที่เคลื่อนไหวที่บางเบากลางอากาศ ที่จัตุรัสด้านหน้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงตกอยู่ในความเงียบเพียงชั่วครู่ แต่หลังจากนั้นเสียงซุบซิบทุกประเภทก็ระเบิดขึ้นโดยพร้อมกัน!
“คาดไม่ถึงว่าขนนกทองคำบรรพบุรุษจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง! ซั่งกวนเยว่สามารถช่วยได้จริงๆ น่ะหรือ?”
“คง… คงอย่างนั้นมั้ง ข้าเห็นว่าหลังจากที่นางลงมือ ขนนกทองคำบรรพบุรุษก็เริ่มเปิดเส้นชีพจร… เมื่อครู่นี้ข้ายังคิดว่านางคงจะเปิดเส้นชีพจรที่สี่ไม่ได้!”
“นางเป็นเพียงแค่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงคนหนึ่งไม่ใช่หรือ? ตามหลักการแล้วนางไม่น่าจะสามารถทำเช่นนี้ได้นี่นา?”
“เรื่องนี้…ใครจะไปรู้เล่า! ประเด็นสำคัญเลยก็คือ… เผ่ามนุษย์สามารถช่วยเปิดเส้นชีพจรได้ นี่มันหมายความว่าอย่างใดกันแน่?”
เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้สึกตกใจกับภาพเหตุการณ์นี้
ไม่มีใครคาดคิดว่าเผ่ามนุษย์คนหนึ่งจะช่วยขนนกทองคำบรรพบุรุษเปิดเส้นชีพจร!
หากพูดไปแล้วเกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อ!
อี้หรานรู้สึกตกใจจนชะงักค้างไป สีหน้าเหม่อลอย แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและประชดประชันยังไม่จางหายไป ดังนั้นสีหน้าของเขาในตอนนี้จึงดูแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
ทุกอย่างเกิดขึ้นตรงหน้าของเขานั้น มันเกินความคาดหมายของเขาอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เขายังรอดูเรื่องราวน่าขันของซั่งกวนเยว่และหงส์ทองคำตัวนั้นอยู่เลย
แต่ใครจะรู้เล่าว่าภายในชั่วพริบตาเดียวสถานการณ์จะพลิกผันไปเช่นนี้แล้ว!
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถยอมรับได้ และเขาก็ไม่อยากจะยอมรับ
ดังนั้นเขาจึงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม เหมือนกับถูกสูบวิญญาณออกไปแล้ว!
ผู้อาวุโสอี้กงก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา
ตอนนี้ภายในสมองของเขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นคือ แย่แล้ว!
มีเพียงอี้เจาเท่านั้นที่มองที่นั้นตาเขม็ง ในดวงตาเหมือนมีดวงดาวพร่างพราว
…
เส้นชีพจรที่สี่นี้ เปิดยากกว่าก่อนหน้านี้มากนัก
พลังภายในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ถูกใช้ออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ทางด้านของถวนจื่อนั้นกลับไม่มีความเคลื่อนไหวเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณของมันแล้ว เกรงว่านางก็คิดว่าจะต้องเกิดเรื่องอันใดบางอย่างแน่นอน
สายตาของนางจดจ้องไปที่เปลวเพลิงกลุ่มนั้นตาเขม็ง
แสงไฟสีทองคำชาดสาดสว่าง ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นโครงร่างที่เลือนราง แต่กลับไม่สามารถมองเห็นลักษณะที่ชัดเจน
คงจะต้องรอเวลากลายร่างเป็นมนุษย์ละมั้ง…
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ภายในใจ
ความจริงแล้วนางก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
ถวนจื่อติดตามนางมาหลายปี ซึ่งอีกฝ่ายเป็นเหมือนกับคนในครอบครัวของนางไปแล้ว
แต่ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหากถวนจื่อกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วจะมีรูปร่างหน้าตาแบบใด
การเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่อง จำเป็นจะต้องจินตนาการร่างมนุษย์เอาไว้ ถวนจื่อจะทำทุกสิ่งทุกอย่างในเวลาร้อยปีภายในเดือนเดียว
ดังนั้นในขั้นตอนเหล่านี้จึงสูญเสียพลังและเวลามากกว่าคนอื่นเล็กน้อย
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเปล่งออกมาจากในเปลวเพลิง
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ แต่นางกลับสัมผัสได้ถึงพลังที่คุ้นเคยแผ่กระจายออกมา อีกทั้งยังผลักนางออกไปไกลระยะหนึ่ง
นั่นคือลมปราณของถวนจื่อ!
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่เล็กน้อย จากนั้นนางก็ถอยร่นลงไปอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่นางออกห่างสักระยะหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็หยุดตัวลง
ในขณะเดียวกันนั้นเองในที่สุดขนนกสีทองคำชาดอันนั้นก็สามารถวาดลวดลายได้เสร็จสมบูรณ์!
เส้นชีพจรที่สี่… เปิดออก!
…
แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเองทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงต่างเงียบเสียงลงโดยพร้อมเพรียง
ขาทั้งสองข้างของอี้หรานอ่อนยวบ เขาคุกเข่าล้มลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด
ผู้อาวุโสอี้กงร่างกายโคลงเคลง ภาพตรงหน้ามืดสนิท
ผู้อาวุโสอี้อวี่สาวเท้าก้าวขึ้นไปสองก้าวอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี ชูหมัดหนึ่งขึ้น
“สำเร็จแล้ว!”
แม้ว่าอี้เจาจะไม่ได้ขยับเขยื้อนและไม่ได้พูดจา แต่ในแววตาของเขานั้นกลับมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
ความเย็นชาและไม่แยแสในยามปกติหายไปแล้ว ในตอนนี้มีเพียงความตื่นเต้นยินดีที่ปิดไม่มิดเข้ามาแทนที่!
ผู้อาวุโสอี้ซังชะงักไปเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
“คาดไม่ถึงว่า…จะสามารถทำได้จริงๆ …สายเลือดบริสุทธิ์นั้นช่างพิเศษจริงๆ”
เขาไม่ได้ลดเสียงต่ำลง ดังนั้นผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่โดยรอบก็สามารถได้ยินคำพูดนี้
ในตอนนั้นเองสายตาจำนวนมากก็มองมาทางผู้อาวุโสอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หู หูฝาดไปใช่หรือไม่?
อี้หรานก็เหมือนกับถูกฟ้าผ่า เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างแข็งทื่อ น้ำเสียงแหบพร่า
“…สายเลือด…บริสุทธิ์?”
ผู้อาวุโสอี้ซังยิ้มแล้วหันมามองเขา ท่าทางเหมือนกับตกใจเล็กน้อย
“เหตุใดหรือ อาจารย์ของเจ้ายังไม่ได้บอกเจ้าหรือไร? ถวนจื่อกลับมาที่นี่วันแรก พวกเราก็รู้แล้วว่าเขาเป็นสายเลือดบริสุทธิ์”
อี้หรานหูอื้อตาลาย ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเขาก็กลายเป็นสีขาว
เขาเหลือบสายตาไปมองทางผู้อาวุโสอี้กง
สีหน้าของผู้อาวุโสอี้กงกลับไร้อารมณ์ เขาเพียงแค่หลับตาลงอย่างเชื่องช้า
นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทับอูฐตาย
อี้หรานก้มหน้าลง แล้วเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เขากำลังหัวเราะเยาะตัวเอง!
เหลวไหล! น่าขัน! น่าขายหน้า!
เขาคิดว่าตนเองจะได้ตำแหน่งนายน้อย และสามารถนั่งได้อย่างมั่นคง
แต่ว่าในตอนนี้กลับมีผู้สมัครคนอื่นปรากฏตัวขึ้น!
สายเลือดบริสุทธิ์…
แล้วเขาจะเอาอันใดไปสู้กับอีกฝ่ายได้?
ข้อดีเพียงอย่างเดียวของเขาก็ถูกอีกฝ่ายแซงหน้าไปแล้ว!
ในตอนนี้ไม่มีใครหันมาสนใจเขาอีกต่อไปแล้ว
ความสนใจของทุกคนอยู่ที่ตัวของถวนจื่อ
สายเลือดบริสุทธิ์!
นั่นคือตัวตนที่เหมือนจะมีอยู่ในตำนานเท่านั้น!
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้มันจะปรากฏกายขึ้นมาจริงๆ!
มิน่าล่ะมันถึงสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้ และสามารถทะลวงเส้นชีพจรสี่เส้นได้โดยตรง!
หลังจากนี้ไปจะมีใครต่อกรกับมันได้อีก?
…
เปลวเพลิงเหล่านั้นค่อยๆ ถูกถวนจื่อกลืนกิน
เงาร่างของมันค่อยๆ เด่นชัดขึ้นมา
ฉู่หลิวเยว่กำชายเสื้อของตนเองแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดวงตาคู่นั้นจดจ้องโดยไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าจะพลาดอันใดไป
ถวนจื่อ…
จะมีหน้าตาเป็นอย่างใด?
ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีมือขนาดเล็กสีขาวเนื้อแน่น โผล่ออกมาจากเปลวเพลิงเหล่านั้นกะทันหัน!
……….