ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1537 กราดเกรี้ยวเพื่อโฉมงาม
ตอนที่ 1537 กราดเกรี้ยวเพื่อโฉมงาม
…………….
เขาหมื่นเมรัยที่สูงตระหง่านตระการตาถูกผ่าออกเป็นครึ่งซีก!
ยามมองดูจากที่ไกลๆ เส้นโครงสีเงินนับว่าดูเบาบางอ่อนละมุนเสมอกันนัก
ทว่า ยามที่มันเคลื่อนผ่านอย่างเรียบๆ กลับแปรสภาพกลายเป็นอาวุธที่เฉียบคมที่สุดในใต้หล้า!
ถึงขั้นที่สามารถตัดผ่าเขาให้เหลือครึ่งลูกได้อย่างง่ายดาย!
คนที่ยืนอยู่ใกล้มองเห็นได้กระทั่งถึงรอยตัดแยกส่วนอย่างประณีตของเขาครึ่งลูก!
แทบทุกผู้ล้วนยืนนิ่งอยู่กับที่ ต่างก็ถูกภาพฉากตรงหน้าทำให้อึ้งจนตาค้างพูดไม่ออกไปตามๆ กัน
นั่นรวมไปถึงบรรดาผู้อาวุโสที่ทุ่มแรงเปิดใช้งานค่ายกลกระสวยสวรรค์ด้วยเช่นกัน
“นี่… นี่… นี่น่ะหรือพลังอันแกร่งกล้าของค่ายกลกระสวยสวรรค์?”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสฮวาเฟิงถึงได้พึมพำเสียงต่ำออกมาอย่างอดไม่อยู่ นัยน์ตาแฝงด้วยแววตาตกตะลึงไม่น้อย
โทษพวกเขามิได้หรอกที่จะตื่นตกใจกันเพียงนี้
หลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมาในปีนั้น ค่ายกลกระสวยสวรรค์อันนี้ก็มิเคยถูกเปิดใช้
ทุกปีเจ้าสำนักจะพาผู้อาวุโสบางส่วนมาดำเนินการทำนุบำรุงรักษามันด้วยตัวเอง ทว่ากลับมิเคยได้ยลพลังที่แท้จริงของค่ายกลกระสวยสวรรค์เข้าจริงๆ เลยสักรอบ
จนกระทั่งตอนนี้…
ต้องเข้าใจก่อนว่าสำหรับผู้แข็งแกร่งระดับสูงธรรมดาแล้ว แม้นพวกเขาจะมิอาจเคลื่อนภูผาปิดบังสมุทรได้ แต่การจะทำลายภูเขาสักสองสามลูกก็มิใช่ปัญหาอันใด
มาบัดนี้ค่ายกลกระสวยสวรรค์แยกส่วนเขาหมื่นเมรัย ที่พวกเขาพากันตื่นตะลึงเช่นนี้ก็เพราะเขาหมื่นเมรัยต่างจากภูเขาธรรมดาโดยสิ้นเชิง!
เพราะเขาลูกนี้… เป็นภูเขาที่เจ้าสำนักรุ่นแรกนำหินไฟและปูนขาวอันเลอค่าหาสิ่งใดเทียบไม่ได้ มากองพะเนิน ก่อนจะพาคนมาแกะสลักมันด้วยตัวเองเมื่อหมื่นปีก่อน!
ในช่วงระยะเวลากว่าร้อยปียามที่สำนักก่อตั้งแรกเริ่ม เขาหมื่นเมรัยก็เตียนโล่งมาแต่ไหนแต่ไร อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้ผู้ใดก็ตามเข้าใกล้มันได้ตามใจชอบ
จนกระทั่งมาภายหลัง เวลาเคลื่อนผัน เขาหมื่นเมรัยถูกขัดเกลาและทำนุบำรุงส่งต่อมารุ่นต่อรุ่น ก่อนจะกลายสภาพมาเป็นดั่งที่เห็นในปัจจุบัน
หากดูเพียงผิวเผินแล้ว มันแทบมิต่างอันใดกับยอดเขาลูกอื่นเลยแม้แต่น้อย ทว่าในความเป็นจริงแล้ว หินภูเขาของที่นั่นกลับแข็งเหนือจินตนาการอย่างมาก!
มิเช่นนั้น ระยะเวลากว่าหมื่นปีมานี้ ทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่าลงมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เป็นยอดเขาธรรมดาก็ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองไปนานแล้ว ไหนเลยจะยังคงรูปร่างเดิมได้อย่างไร้รอยขีดข่วนได้เล่า?
ทว่ามาตอนนี้ ภูเขาลูกนี้กลับถูกค่ายกลกระสวยสวรรค์ ผ่าทลายลงได้อย่างง่ายดาย!
จะไม่ให้ผู้คนตกตะลึงได้อย่างใดกัน?
ทว่า สิ่งที่ทำให้ผู้คนตื่นตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อยิ่งกว่ายังคงอยู่ด้านหลัง
ด้วยการแบ่งเขาครึ่งลูกเป็นพรมแดน เขาหมื่นเมรัยทั้งลูกจะแบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนด้านบนถูกค่ายกลกระสวยสวรรค์ตัดออกเป็นชั้นๆ ทุกๆ ส่วนด้านบนล้วนแต่สั่นคลอนไปถึงก้นฐาน
อีกทั้งส่วนที่ถูกตัดแบ่งออกเป็นชั้นๆ ล้วนมีความสูงเท่ากันทั้งสิ้น!
ไม่ช้า ยอดเขาด้านบนของเขาหมื่นเมรัยก็ปรากฏเป็นรูปร่างก้นหอยขดเกลียวอันแปลกตา!
โครงสร้างภูเขาที่ปรากฏอยู่ด้านนอกเป็นสีเทาซีด
ยามแสงสาดส่องลงบนยอดจะเห็นได้ว่ามีแสงวับวาวสะท้อนกลับมา
แต่ละชิ้นล้วนวิจิตรประณีตนัก เพียงปรายตามองไปก็ดูราวกับเกล็ดของสัตว์อสูรก็มิปาน
หินไฟปูนขาวเหล่านี้มีค่ายิ่งยวด ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ ก้อนที่มีขนาดเท่ากำปั้นก็ขายได้ในราคาที่ไม่เลวแล้ว
มิต้องพูดถึงเขาหมื่นเมรัยทั้งลูกที่ถูกแปรสภาพเช่นนี้ด้วยซ้ำ!?
เห็นได้ชัดเลยว่าแรกเริ่ม สำนักทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่างจริงๆ!
บรรดาพวกผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนยิ่งมองก็ยิ่งหวาดหวั่น
มูลค่าของเขาหมื่นเมรัยประเมินค่าไม่ได้ อีกทั้งหมื่นปีมานี้ มิรู้ว่าเจ้าสำนักและบรรดาผู้อาวุโสต้องเสียหยาดเหงื่อและแรงกายมากน้อยเพียงใดให้แก่มัน
ทว่ายิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งพิสูจน์ว่าสิ่งของที่ถูกผนึกเอาไว้ข้างใต้มันชวนให้ตกตะลึงมากเพียงใด!
ยามมองไปยังค่ายกลกระสวยสวรรค์ที่ส่องสว่างเรืองรอง ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่อยู่ด้านบนแล้ว กระทั่งบรรดาผู้อาวุโสที่อยู่ในเหตุการณ์ยังลอบตื่นตะลึงอยู่ในใจ
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากสลับเป็นพวกเขาที่ลงไป ย่อมไม่มีทางมีชีวิตกลับมาได้แน่!
สิ่งเดียวที่ยังทำให้พวกเขารู้สึกใจชื้นคือ หลังจากที่ค่ายกลกระสวยสวรรค์เปิดใช้แล้ว ไอเย็นแปลกประหลาดที่ทะลักออกมาจากตาน้ำกลับมิได้แผ่ขยายต่อ
ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่เขาหมื่นเมรัยถูกตัดผ่านจนมีสภาพเช่นนี้ เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดที่ปกคลุมอยู่ด้านบนของมันแต่เดิมก็เริ่มแตกออก บังเกิดเป็นรอยแตกจำนวนหลายเส้น!
ดูจากสภาพแล้ว เหมือนว่ามันจะเป็นสัญญาณของการถูกยับยั้งพลังกลับไป
ทว่า…
ตอนนี้หรงซิวและนังหนูเยว่เออร์… ยังคงอยู่ใต้นั้น!
ในแววตาของซั่งกวนจิ้งราวกับมีคลื่นพายุอันน่าหวาดหวั่นถาโถม
เขายืนเอามือไพล่หลัง มือค่อยๆ กำหมัดแน่นขึ้น ลมปราณบนร่างเริ่มทวีความเย็นเยียบแลอันตรายขึ้นมาทีละน้อย!
ค่ายกลกระสวยสวรรค์นี้ ต่อให้เป็นเขาก็มิกล้าบุ่มบ่ามบุกเข้าไป
ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คืออดทนรอเท่านั้น!
รอเยว่เออร์กับหรงซิวกลับมาด้วยกัน!
ซั่งกวนจิ้งสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลงอย่างสุดความสามารถ
นอกเหนือจากนี้แล้ว ก็ไม่มีความเป็นไปได้ไหนอีก!
…
พรวด!
ตาน้ำยังคงไหลทะลักอย่างต่อเนื่อง ชั่วพริบตาก็กลืนกินเงาร่างของเขาไปในที่สุด
แสงสว่างสีทองบนร่างของเขาเรืองรองออกมารางๆ
ตาน้ำนั้นมิลึกแม้แต่น้อย ใช้เวลาไม่นานเขาก็พบร่างอันคุ้นเคย
ฉู่หลิวเยว่กำลังยืนล่องลอยอยู่ใต้น้ำ นางแทบจะเข้าใกล้ก้นบึ้งลึกสุดของตาน้ำแล้วด้วยซ้ำ
ยามรับรู้ถึงไอเย็นเข้มข้นที่แผ่ออกจากร่างของนาง หรงซิวก็ตระหนกอย่างมาก รีบเคลื่อนกายเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเอง เขาถึงเพิ่งได้เห็นว่าบนร่างของฉู่หลิวเยว่เริ่มมีเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดจับตัวกันเป็นชั้นหนา!
ไอเย็นอันน่าหวาดหวั่นกำลังไหลทะลักออกมาจากรอยแตกบนก้อนหินที่อยู่ก้นบึ้งที่ลึกที่สุดของตาน้ำ
ไอเย็นส่วนใหญ่ผสานเข้ากับภายในตาน้ำ จากนั้นก็หลั่งไหลออก ยังมีไอเย็นส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่หลั่งไหลไปทางฉู่หลิวเยว่
เพียงในระยะเวลาสั้นๆ เกล็ดน้ำแข็งบนร่างของนางก็จับตัวกันทวีความหนาแน่นขึ้นไปอีก
หรงซิวยื่นมือออกไปโอบกอดนางไว้
ทว่า ก่อนที่มือจะได้สัมผัสตัวนาง กลับมีมีดบินแหลมคมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว!
เขาขมวดคิ้วโดยพลัน
ปลายนิ้วของเขาบังเกิดเปลวเพลิงสีทองสายหนึ่งพวยพุ่งขึ้นมาพร้อมเสียงดัง ‘เปรี้ยง’
อุณหภูมิร้อนระอุทำเอากระแสน้ำโดยรอบส่งเสียง ‘ชี่ชี่’ แผ่วเบาออกไป
จากนั้น เขาก็เคลื่อนตัวเข้ามาจากด้านหน้าอย่างมั่นคง ก่อนจะกุมมือนางไว้อย่างระมัดระวัง
รยางค์ของนางเย็นเฉียบ ราวกับว่าไอเย็นแผ่จากฝ่ามือของนางตรงสู่ก้นบึ้งของจิตใจ!
แววตาของหรงซิวทอจิตสังหารเย็นเฉียบวาบหนึ่ง! เปลวเพลิงสีทองบนมือปะทุขึ้นมาอีกครา!
ทว่าการเคลื่อนไหวของเขายังคงระมัดระวัง ด้วยกลัวว่าหากลงแรงหนักไปจะทำให้ฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ตรงหน้าบาดเจ็บเอาได้
บัดนี้ทั่วทั้งร่างของนางเย็นเฉียบจนแทบจะกลายเป็นมนุษย์น้ำแข็งอยู่รอมร่อ
หรงซิวมิกล้าเมินเฉยแลเฉื่อยชาลงได้เลยแม้แต่น้อย
ไม่ช้า เปลวเพลิงสีทองก็แผ่ไปยังมือของฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะเริ่มแผ่ขยายไปทั่วทั้งร่างของนาง
เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดที่จับตัวเป็นชั้นหนาเริ่มมีสัญญาณของการละลายลง
ในที่สุด ผ่านไปพักใหญ่ มือของนางก็เริ่มหลุดจากการเกาะกุมของเกล็ดน้ำแข็ง
หรงซิวก้าวไปยังเบื้องหน้า คว้าเอานิ้วเรียวยาวของนางไว้
ฝ่ามือของเขาอุ่นร้อนนัก ยิ่งทำให้ทั่วกายของนางดูทวีความเย็นเฉียบกว่าเก่า
หรงซิวเข้าใกล้นางกว่าเดิมอีกหน่อย
ตอนนั้นเอง คนทั้งสองเผชิญหน้ากัน ในที่สุดเขาก็มองเห็นสภาพของนางได้อย่างเต็มตา
ภายใต้ชั้นน้ำแข็ง ดวงตาของนางปิดสนิท ริมฝีปากซีดขาว เรียวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น
แต่ไหนแต่ไรนางมักอดทนมาโดยตลอด ทำให้นางแสดงสีหน้าเช่นนี้ได้ เห็นได้ชัดว่ายามถูกเกล็ดน้ำแข็งนี้ควบแข็ง นางต้องเผชิญกับความทรมานมาไม่น้อย
หรงซิวกอบกุมมือนางอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของเขาก็ชะงัก ก่อนจะหลุบตามองด้านล่าง
พอมองไปก็พบว่าง่ามมือของนางฉีกขาดเป็นที่เรียบร้อย ดูแล้วสภาพย่ำแย่นัก
ไอเย็นที่เข้าครอบคลุมคงจะเข้าภายในร่างของนางจากบาดแผลตรงนี้
ขณะนั้น เกล็ดน้ำแข็งที่จับตัวกันเริ่มละลายหายไปบ้างแล้ว
ข้อมือของฉู่หลิวเยว่เองก็เริ่มโผล่พ้นออกมาให้เห็น
หรงซิวทาบนิ้วลงไป ส่งกระแสพลังส่วนหนึ่งไปตรวจสอบสภาพภายในร่างกายของนาง
พลังปราณดั้งเดิมถูกแช่แข็ง ภายในเส้นลมปราณเองก็ถูกไอเย็นสกัดกั้นเอาไว้!
นี่เท่ากับว่าร่างกายครึ่งหนึ่งของนางพิการไปหมดแล้ว!
นัยน์ตาของหรงซิวพลันแหลมคม ในแววตาพลันปรากฏแววดำมืดลึกล้ำ! เย็นเฉียบชวนสะท้าน!
…………….