ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 823 กะทันหัน
ตอนที่ 823 กะทันหัน
หน้าของเย่เชียนนั้นเปรียบได้กับกำแพงเมืองจีนที่หน้าและทนลมทนฝนได้เป็นอย่างดีจนหูวเค่อนั้นขี้เกียจที่จะเถียงกับเขา ไม่เช่นนั้นเธอก็จะโดนเขาหยอกล้อด้วยคำพูด แต่อันที่จริงหูวเค่อนั้นชอบความรู้สึกและนิสัยแบบนี้ของเย่เชียนจริงๆเพราะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหนพวกเธอก็มักจะชอบพูดคุยและหยอกเย้ากับคนรักอย่างสนิทสนมกันเสมอและถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหกเกินจริงแต่เธอก็มีความสุขมาก
ขณะที่ทางด้านของหลี่เหว่ยเขามักจะกระทำไร้ยางอายถึงขีดสุดจนเย่เชียนเองยังไม่สามารถเข้าใจความคิดของเขาได้แต่เย่เชียนก็ต้องยอมรับว่าหลี่เหว่ยนั้นเชี่ยวชาญด้านการจีบผู้หญิงจริงๆ
อาการบาดเจ็บของเย่เชียนไม่ได้รุนแรงนักเพราะหลังจากทำสมาธิแล้วเขาก็ดีขึ้นมาก ดังนั้นหลังจากดื่มยาแล้วหูวเค่อก็เช็ดปากของเย่เชียนเบาๆและพูดว่า “พักผ่อนก่อนเถอะแล้วค่อยไปทานอาหารเย็นกันทีหลัง..ฉันให้ลูกศิษย์ไปซื้ออาหารทะเลกลับมาด้วยระหว่างไปซื้อยาเดี๋ยวฉันจะเอามาให้”
“อะไรเนี่ย?” เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า “ทำไมคุณถึงทำดีกับผมขนาดนี้..มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย”
หูวเค่อก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีใครเคยบอกเลยหรอว่าชุดอาหารแคริบเบียนที่คุณเคยทำนั้นมีรสชาติดีมากเพราะตั้งแต่ฉันกินมันเข้าไปฉันมักจะรู้สึกว่าอาหารที่คนอื่นทำนั้นจืดชืดและแม้แต่ในโรงแรมใหญ่ๆเองก็เทียบกับที่คุณทำไม่ได้..เพราะงั้นคุณต้องเป็นคนทำมื้ออาหารมื้อนี้ให้ฉันเพื่อช่วยท้องที่น่าสงสารของฉันและทำให้ฉันเพลิดเพลินไปกับอาหารอันโอชะของคุณตกลงมั้ย?”
“เนื่องจากเป็นคำสั่งของภรรยาแล้วสามีก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” เย่เชียนพูด “แต่คุณต้องให้รางวัลผมด้วยนะ..ผมรอมานานแล้วฮ่าๆ” เย่เชียนพูดพลางถูมือด้วยท่าทางที่น่าสงสารมาก
“อ๊า..อย่านะคุณมันนักเลงหัวไม้!” หูวเค่อตะโกนและพยายามขัดขืนแต่เธอก็ยังคงถูกเย่เชียนกอดไว้ในอ้อมแขนของเขาและแน่นอนว่าหูวเค่อนั้นไม่ได้ขัดขืนเขาจริงๆเพราะเธอชอบความรู้สึกที่ถูกเย่เชียนขืนใจและทำแบบนี้มาเสมอ เพราะด้วยวิธีนี้เธอจะสามารถสัมผัสได้ถึงความรักของเย่เชียนที่มีต่อตัวเธอและรู้สึกได้ถึงความสุขและความหวานหอมในใจเวลาที่ได้อยู่กับเย่เชียน
ทั้งสองคนก็หยอกล้อกันเป็นเวลานานก่อนที่พวกเขาจะหยุด จากนั้นเย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณคุยอะไรกับอาจารย์ของคุณ?..มันเกิดอะไรขึ้นหรอ?”
หูวเค่อเหลือบมองเย่เชียนอย่างว่างเปล่าและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “คุณไม่รู้หรอกเหรอ”
เย่เชียนถูกถามอย่างน่าสงสัยโดยหูวเค่อดังนั้นเขาจึงตอบอย่างไร้เหตุผลว่า “ผมจะไปรู้ได้ยังไง..ตอนนั้นผมสงสัยว่าอาจารย์ของคุณกำลังรู้สึกผิดและสงสารผมหรือเปล่า..เพราะงั้นเธอจึงจงใจปล่อยให้หานหลินโจมตีเธอ..ว่าแต่อาจารย์ของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่เป็นไรแค่เส้นลมปราณที่แขนอักเสบน่ะ” หูวเค่อพูด “อาจารย์ของฉันบอกว่าเธอต้องการตอบโต้แต่ว่าเธอไม่มีเวลาเลยเพราะเมื่อเธอเข้าปะทะกับคุณพลังบางอย่างที่อยู่ในร่างกายของคุณแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของเธอจนเธอต้องรีบขับไล่มันออกมาโดยเร็วที่สุดเพราะถ้าหากเธอไม่ทำแบบนั้นเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่านี้อย่างแน่นอน..ฉันเองก็อยากจะถามคุณด้วยว่ามันคืออะไรกันแน่..คุณปล่อยพลังอะไรออกมา?”
“เรื่องมันยาวน่ะ” เย่เชียนพูด “พูดง่ายๆคือเมื่อสองปีที่แล้วผมได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นแม่ของผมที่มณฑลเหอหนานและเธอก็มอบตำราโบราณมาให้ผมจากนั้นก็สั่งให้ผมปฏิบัติตามที่ตำราบันทึกเอาไว..ซึ่งภายหลังผมพบว่าวิธีการฝึกฝนที่บันทึกเอาไว้ในหนังสือนั้นมันไม่เหมือนกับวิธีทั่วๆไปและมันสัมพันธ์กับพลังในตัวของผมดังนั้นผมจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว..ต่อมาผมก็พบว่าคนที่อ้างว่าเป็นแม่ของผมนั้นไม่ใช่แม่แท้ๆของผม..แต่เธอบอกว่าพ่อของผมได้ผนึกพลังบางอย่างเอาไว้ในตัวของผมอย่างลึกลับและนับวันมันก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ” เย่เชียนพูดอย่างคลุมเครือและแม้แต่เย่เชียนเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากมองไปที่หูวเค่อเย่เชียนก็พูดว่า “เป็นไงบ้าง..คุณเข้าใจบ้างมั้ย?”ไอรีนโนเวล
หูวเค่อก็ส่ายหัวอย่างว่างเปล่าและพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดมาเลย”
“ผมเองก็ไม่รู้..เฮ้อ..เรื่องนี้มันซับซ้อนมาก..ยังไงก็เถอะผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลังอย่างละเอียดก็แล้วกัน” เย่เชียนพูด “ยังไงก็เถอะผมอยากจะถามคุณเกี่ยวกับบางอย่าง..คุณฝึกศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณมาก่อนผมเพราะงั้นคุณก็น่าจะรู้ว่ามันคืออะไร..ผมหมายถึงปกติแล้วพลังปราณในร่างกายคุณนั้นถูกเก็บเอาไว้ที่ไหน?”
หูวเค่อก็ถึงกับตกตะลึงเล็กน้อยและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เราฝึกศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณเพราะงั้นพลังทั้งหมดในร่างกายจะถูกเก็บเอาไว้ในตันเถียนและเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการเรียกมันออกมาใช้เราเพียงแค่ใช้จิตสำนึกของเราในการชี้นำและมันก็จะมาเองตามธรรมชาติ..ว่าแต่คุณถามแบบนี้มันหมายความว่ายังไง..พลังของคุณก็อยู่ในตันเถียนไม่ใช่หรอ”
“ไม่ใช่!” เย่เชียนถามต่อ “เอาไว้ก่อนเพราะผมยังมีคำถามอีก..ผมจะถามว่าพลังปราณที่ถูกเก็บเอาไว้ในตันเถียนมันมีรูปแบบเป็นยังไง..มันมีอะไรที่คล้ายๆวัตถุแปลกๆในตันเถียนของคุณบ้างหรือเปล่า..บางอย่างเช่นเมล็ดถั่วเหลืองน่ะ?”
“เมล็ดถั่วเหลือง?” หูวเค่อก็พูดด้วยความประหลาดใจ “ไม่มีนะ..เพราะมันคือพลังปราณที่มาในรูปแบบคล้ายๆกับก๊าชและอากาศธรรมชาติ..แน่นอนว่ามันอยู่ในตันเถียนในสถานะเหมือนก๊าซและตราบใดที่จิตสำนึกนำทางและควบคุมมันได้มันก็จะไหลเวียนไปทั่วร่างกายตามเส้นปราณ..โดยปกติแล้วพลังปราณจะไหลเวียนไปตามเส้นเลือดใหญ่ของร่างกายในทุกๆวัน”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแน่นและดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้อาจจะเป็นเพราะเขาคนเดียวเท่านั้นเพราะพลังปราณของคนอื่นถูกเก็บเอาไว้ในตันเถียนในสถานะก๊าซแต่พลังปราณของเขาเองนั้นถูกรวมเอาไว้ในที่ที่เหมือนเมล็ดถั่วเหลือง เมื่อรวบรวมพลังปราณแล้วมันจะหมุนและปล่อยพลังงานออกมาเมื่อต้องการ ถึงแม้ว่าสถานการณ์นี้จะดีและไม่เป็นอันตรายต่อเย่เชียนแต่มันก็เป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่รู้จักซึ่งทำให้เขากังวลและสงสัยอย่างมากแต่น่าเสียดายที่เย่เจิ้งหรานไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วไม่เช่นนั้นถ้าได้ถามเขาล่ะก็เขาคงจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ทำไมคุณถึงถามแบบนั้นล่ะ?..มีอะไรผิดปกติกับการฝึกศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณของคุณหรือเปล่า” หูวเค่อถามด้วยความประหลาดใจ
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรและดูเหมือนว่ามันจะค่อนข้างดีสำหรับตัวผมในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ..แต่ผมแค่กังวลนิดหน่อยเท่านั้นเอง” เย่เชียนพูด “คือมันมีบางอย่างที่เหมือนกับเมล็ดถั่วเหลืองที่ลอยอยู่ในจุดตันเถียนของผมและพลังปราณทั้งหมดก็ถูกบีบอัดและทำให้บริสุทธิ์ที่นั่น..ซึ่งมันแตกต่างจากของคุณ..ผมเองก็ไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่”
หูวเค่อก็ถึงกับตกตะลึงและเธอก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเย่เชียน “สำหรับคำถามของคุณดูเหมือนว่าจะไม่มีใครในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณสามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่คุณได้เลย..เท่าที่ฉันรู้ไม่มีใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้สักคน..พลังเหล่านี้น่าจะมาจากพ่อของคุณแต่น่าเสียดายที่ท่านไม่ได้อยู่ที่นี่กับเราแล้วไม่งั้นท่านก็น่าจะสามารถไขข้อสงสัยในใจของคุณได้” หูวเค่อพูดต่อ “แต่ว่าลุงของฉันเคยคุยกับฉันและพูดถึงการต่อสู้ที่เด็ดขาดระหว่างเขากับพ่อของคุณ..ซึ่งเขาได้ยินพ่อของคุณพูดว่าศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงสุดนั้นไม่ได้สิ้นสุดที่ระดับสามเพราะความสามารถและศักยภาพของมนุษย์มันไม่มีที่สิ้นสุดและยังไม่มีใครบรรลุได้..เราต้องข้ามผ่านความเป็นหนึ่งเดียวของธรรมชาติและมนุษย์ถึงจะเข้าสู่ขอบเขตอีกขั้นได้..แต่พ่อของคุณไม่ได้อธิบายอะไรมันเป็นเพียงคำพูดเท่านั้น..จากนั้นศิลปะการต่อสู้ของลุงเหมิงก็ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดและถ้าเขาไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับยาและศาสตร์ของการแพทย์ล่ะก็ฉันเกรงว่าระดับศิลปะการต่อสู้ของเขาคงจะสูงกว่านี้..ฉันคิดว่าเนื่องจากพ่อของคุณมีวิสัยทัศน์และความคิดแบบนี้เขาจึงเป็นอันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ..ถ้างั้นวิธีการฝึกฝนที่เขาทิ้งเอาไว้ให้คุณมันคงจะเป็นวิธีพิเศษที่จะช่วยให้คุณไปถึงขอบเขตที่เขาพูดเอาไว้ได้”
เย่เชียนนั้นรู้สึกมาเสมอว่าพ่อของเขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและตอนนี้เขาก็ได้ยินสิ่งที่หูวเค่อพูดอีก ดังนั้นดูเหมือนว่ามันจะเป็นความจริงและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณของเขาว่าสิ่งที่พ่อของเขาแสวงหามาโดยตลอดนั้นคืออะไรก็ตามแต่เย่เชียนก็คิดว่ามันน่าจะเหนือกว่าศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณที่คนอื่นๆฝึกกันใช่มั้ย?
ไม่มีใครสามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลสำหรับสถานการณ์ของเขาเองได้และเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเย่เชียนจะไม่คิดและกังวลเรื่องนี้อีกต่อไปเพราะเมื่อเรือออกจากฝั่งแล้วมันก็ควรจะแล่นต่อไปโดยธรรมชาติเพราะต่อให้เขาคิดมากขนาดไหนมันก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี เมื่อคิดเช่นนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “ไม่เป็นไร..บางทีคุณอาจจะคิดถูกว่าทั้งหมดนี้เป็นการจัดเตรียมโดยพ่อของผม”
หูวเค่อก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันจะช่วยถามอาจารย์กับลุงเหมิงในวันพรุ่งนี้ให้..ฉันเองก็อยากรู้ว่าพวกเขาจะทราบเรื่องที่คุณพูดมาบ้างหรือเปล่า” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหูวเค่อก็พูดต่อ “เย่เชียน..ว่าแต่เรื่องศิษย์พี่ของฉันคุณช่วยปล่อยผ่านไปหน่อยจะได้มั้ย..ถึงยังไงเขาก็เป็นเหมือนพี่ชายของฉันมาตลอดและเหตุการณ์ครั้งนี้มันก็ไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่สามารถแก้ไขได้สักหน่อย..ฉันคิดว่าเราควรจะปล่อยไปดีกว่า..ตอนนี้อาจารย์ของฉันได้ลงโทษศิษย์พี่ไปแล้วและเขาก็ถูกคุมขังเป็นเวลาหนึ่งเดือน”
“ในเมื่อมันเป็นคำขอของภรรยาผมก็จะทำตามโดยไม่โต้แย้งใดๆในฐานะสามี” เย่เชียนยิ้มอย่างมีความสุขแล้วพูดว่า “อันที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะคำขอของผู้อาวุโสล่ะก็ผมคงจะไม่มาเหยียบที่สำนักหยุนหยานเหมินเพื่อส่งสารหรอก..แต่มีบางอย่างที่ผมต้องขอเตือนคุณเอาไว้ว่าพี่ชายของคุณซงเจิ้งหยวนน่ะไม่ธรรมดา..ผมสัมผัสได้ว่าเขาปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้และหวังจะเอาชนะคนอื่นอยู่ตลอดเวลา..คนแบบนี้ถ้าตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียวเขาก็จะต้องเดินอยู่บนเส้นทางที่เลวร้ายอย่างแน่นอน..คราวหน้าคุณควรจะระวังเขาให้มากกว่านี้..ถ้าไม่งั้นผมอาจจะต้องฆ่าเขาในสักวันหนึ่งอย่างแน่นอน..ผมจะไม่ปล่อยให้เขาทำอันตรายใดๆกับคุณเด็ดขาด”
หูวเค่อก็ยิ้มหวานและพูดว่า “สามีของฉันคุณใจดีมากเลย” จากนั้นเธอก็ซบไหล่ของเย่เชียนและจมลงไปในอ้อมแขนแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
เย่เชียนก็กอดหูวเค่ออย่างอ่อนโยนและฝ่ามือของเขาก็ค่อยๆเลื่อนไปบนหลังของหูวเค่อพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเขา แต่ทว่าทันใดนั้นเย่เชียนก็ถึงกับต้องขมวดคิ้วและดวงตาของเขาก็จ้องไปที่ประตูในทันที แน่นอนว่าหูวเค่อเองก็สัมผัสได้เช่นเดียวกันจากนั้นเธอก็มองไปที่ประตูและทั้งสองก็มองหน้ากัน
“นี่พวก!..เป็นถ้ำมองหรือไง..ถ้าอยากเห็นก็เข้ามาดูสิจะแอบไปทำไม” เย่เชียนพูด
คนที่อยู่นอกประตูก็ดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นเขาก็สูดลมหายใจอย่างเย็นชาและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว