ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 415 ไม่ต้องช่วยเขาแล้ว
บทที่ 415 ไม่ต้องช่วยเขาแล้ว
…………….
บทที่ 415 ไม่ต้องช่วยเขาแล้ว
“เขาคงแกล้งตายกระมัง?”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ที่เงียบอยู่ข้าง ๆ เอ่ยปากขึ้น
“หากเป็นการแกล้งตาย ข้าจะมองไม่ออกหรือ?” ชิงหลงเหลือบมองผู้นำเผ่าทิงมี่แวบหนึ่ง แล้วหันไปมองหัวหน้าตะขาบมรกตตะโกนโวยวาย เพราะถูกค่ายกลดีดกระเด็นไปมา
ที่หลิงเยว่ให้นางคุ้มครองผู่ตานคงมีเหตุผลอะไรสักอย่าง งั้นนางจะอยู่คุ้มครองเขาสักหน่อยแล้วกัน แต่ถ้าหลิงเยว่ออกมาเห็นศิษย์พี่ร่วมสำนักที่กลายเป็นกองกระดูกขาวแล้วจะไม่โทษนางแล้วกัน
“เจ้าจะพาเขาไปฝังจริง ๆ หรือ!”
หัวหน้าตะขาบมรกตเห็นชิงหลงแบกผู่ตานเดินไปอีก จึงรีบไล่ตามไป
ร่างของทั้งสองคนกับ ‘ศพ’ ค่อย ๆ ห่างออกไปไกล
ชิงหลงมองดูสถานที่ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ แล้วเลือกหลุมใหญ่สุด ที่ผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เคยนอน นางคาดว่าหลุทนั้นคงเป็นตำแหน่งฮวงจุ้ยดีที่สุดแล้วกระมัง?
พอผู่ตานถูกวางลงในหลุม สีหน้าที่เคยดูสดใสกลับปกคลุมด้วยเงามืดราวกับศพ
หัวหน้าตะขาบมรกตลอบกลืนน้ำลาย แล้วถอยหลังกรูด ก่อนจะยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ชิงหลงนั่งขัดสมาธิ แล้วหลับตาลงอย่างสงบ
ทั้งสองคนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จู่ ๆ เปลวไฟกลับพุ่งปกคลุมทั่วร่างของผู่ตานในพริบตา อุณหภูมิในหลุมลึกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวหน้าตะขาบมรกตแลบลิ้นออกมาโดยไม่รู้ตัวเพื่อคลายความร้อน
“นี่มัน… หงส์เพลิง?” สีหน้าที่เคยสงบนิ่งของชิงหลงหายไป แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ
เดิมที่ผู่ตานน่าจะเหลือกระดูกแล้ว แต่ตอนนี้กลับถูกเผาด้วยสิ่งที่คล้ายลูกไฟของหงส์ เกรงว่าแม้แต่เถ้ากระดูกก็คงไม่เหลือแล้ว
“หรือว่าคนผู้นี้กำลังจะเกิดใหม่!?” สมองของหัวหน้าตะขาบมรกตมึนงงไปด้วยความร้อน ความคิดหนึ่งกลับสว่างวาบขึ้นมา ดวงตาสะท้อนเปลวเพลิงที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“เขามีสายเลือดหงส์หรือ?”
ก่อนหน้านี้ทำไมนางถึงไม่สังเกตเห็น?
ชิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย นางจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไร?
“ดูเหมือนหลิงเยว่จะป้อนเลือดวิเศษของหงส์ให้เขากิน”
“นางได้เลือดวิเศษของหงส์มาจากที่ใด? ในสงครามระหว่างเทพกับปีศาจ เผ่าพันธุ์หงส์ล้วนสิ้นชีวิตในสนามรบทั้งหมดแล้ว!”
ในโลกวิญญาณก็ไม่พบร่องรอยของเผ่าพันธุ์หงส์เลย
“เผ่าพันธุ์หงส์นั้นมีสองชีวิต บางทีพวกเขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนปีศาจก็ได้”
“แต่ว่า…” ชิงหลงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
ไฟหงส์บนร่างของผู่ตานลุกโชนขึ้น มันกำลังลามไปทั่วทั้งหลุมลึก ในชั่วขณะที่มังกรและตะขาบกระโดดออกจากหลุมลึก ไฟก็ลุกไหม้ทั่วทั้งหลุม!
เปลวไฟมหึมาทำให้ท้องฟ้าเป็นสีแดงฉาน!
“พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าจะเผาดินแดนของกระทิง!”
ฝูงกระทิงที่อยู่แถวนั้นต่างมึนงงด้วยความร้อนที่กำลังพุ่งสูงขึ้น แม้จะเป็นคำถามเชิงตำหนิ แต่พวกเขากลับพูดออกมาอย่างอ่อนแรง
แสงไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แผ่ขยายไปยังผืนดินโดยรอบอย่างรวดเร็ว
ผู้นำเผ่าทิงมี่รับรู้ถึงความผิดปกติ จึงรีบมายังสถานที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของเผ่ากระทิง แล้วรีบวางค่ายกลเพื่อสกัดเปลวไฟที่กำลังลุกลามออกไป
“คราวนี้ไม่ใช่ถูกฟ้าผ่า แต่เป็นไฟไหม้…” เหล่ากระทิงน้อยมองดูเพลิงที่ลุกโชนอยู่ในนั้นด้วยความหวาดหวั่น
เผ่าของพวกเขาไม่ได้ทำอะไรที่สมควรถูกสวรรค์ลงโทษ แต่ทำไมภัยพิบัติถึงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
ก็ได้ ฟ้าผ่าครั้งที่แล้ว นอกจากบ้านเรือนจะถูกทำลาย เผ่าปีศาจอสูรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ก็ได้รับประโยชน์ด้วย งั้นพวกเขาจะคาดหวังกับไฟครั้งนี้บ้างได้ไหม?
“แค่เผาศพเดียว จำเป็นต้องใช้พิธีการใหญ่โตขนาดนี้เลยหรือ?” ผู้นำเผ่าทิงมี่ไม่เข้าใจ
ชิงหลงและหัวหน้าตะขาบมรกต “…”
เขาตาบอดหรือไร? พวกเขาจะสร้างไฟแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
“เอ๊ะ? นี่มันไฟอะไรกัน?”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ประหลาดใจ แต่ยังคงกางค่ายกลต่อไป ไฟนี้ทำลายค่ายกลของเขาได้!?
“วางหลาย ๆ ชั้นหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่ไฟธรรมดา” ชิงหลงกลัวว่าดินแดนของกระทิงจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน แม้การเผาเป็นเถ้าถ่านเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้ารบกวนการเก็บตัวบำเพ็ญของหลิงเยว่จะเป็นเรื่องใหญ่ได้!
“แล้วมันเป็นไฟอะไรเล่า?” ผู้นำเผ่าทิงมี่มีเหงื่อผุดที่หน้าผาก
“ไฟหงส์… กระมัง?”
“!!!”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ตกใจ เขารีบใช้วิชาวางค่ายกลทีละชั้น ๆ อย่างแน่นหนา เพื่อกักไฟที่พยายามจะออกมา จนกระทั่งแน่ใจว่าไฟจะไม่ลุกลามออกมาในเวลาอันสั้น จึงทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
เปลวไฟลุกไหม้อยู่ครึ่งปีเต็ม พื้นดินในค่ายกลนั้นถูกเผาจนยุบลงไปมากทีเดียว แต่โชคดีที่ไฟไม่ได้ลุกลามออกมาอีก
“ทำไมถึงนานนัก?” หัวหน้าตะขาบมรกตพูดขึ้นมา ซึ่งตีความได้สองอย่างคือ หลิงเยว่ยังไม่ออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญเสียที ส่วนผู่ตานก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ราวกับถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
ผู่ตานไม่ได้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน แค่เกือบจะเป็นเถ้าเท่านั้น…
โครงกระดูกยังคงถูกเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง หากมองอย่างละเอียดจะเห็นว่าผู่ตานยังเป็นมนุษย์อยู่ แต่โครงกระดูกกลับเป็นสีดำ
“ฮึ! คิดจะเผาข้าให้ตายหรือ ฝันไปเถอะ!”
เสียงกรีดร้องแหบแห้งดังขึ้น เปลวไฟสีแดงของหงส์ถูกย้อมด้วยสีดำชั้นหนึ่ง ในเปลวไฟปรากฏร่างคนตัวเล็กสีดำดูน่ากลัว ร่างนั้นพยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่ร่างกายกลับถูกแสงสีทองมัดไว้แน่น
“ข้าสามารถให้พลังอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาไม่อาจให้เจ้าได้ หลอมรวมกับข้า แล้วเจ้าจะเป็นเทพปีศาจรุ่นต่อไป!” ทารกปีศาจที่ถูกเผาจนดูเหมือนผียังคงพยายามล่อลวงผู่ตาน
แต่น่าเสียดาย ไม่ว่ามันจะล่อลวงหรือชักชวนอย่างไร ผู่ตานกลับไม่ได้ตอบสนองแม้แต่น้อย
ใบไม้ทองคำเล็ก ๆ คาดการณ์ผลลัพธ์นี้ไว้แล้ว จึงปิดกั้นประสาทสัมผัสทั้งห้าของผู่ตานไว้ ทำให้วิญญาณของเขาจมดิ่งสู่การหลับใหล จนเขาเหมือนคนตายจริง ๆ!
มีเพียงการ ‘ตาย’ อย่างแท้จริงเท่านั้น ผู่ตานจึงจะสามารถหลุดพ้นจากทารกปีศาจได้ และเขาจะได้เกิดใหม่จากเปลวเพลิง!
พวกกระทิงน้อยที่มุงดูได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทรมานจากในเปลวเพลิง เสียงร้องนั้นคล้ายกับเสียงที่ดังมาจากห้องบำเพ็ญของหลิงเยว่ก่อนหน้านี้ นี่เป็นเพราะการทรมานยังไม่พอ จึงเปลี่ยนมาใช้ไฟเผาหรือ?
พวกกระทิงน้อยลูบแขนที่ขนลุกชัน มองไปยังห้องบำเพ็ญของหลิงเยว่ มนุษย์ช่างน่ากลัวและโหดร้ายเหลือเกิน โดยเฉพาะนาง!
“เสียงนี้ฟังคล้ายผู่ตาน แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว…” หัวหน้าตะขาบมรกตลูบคางพลางคิด รู้สึกว่าเสียงร้องโหยหวนนั้นฟังดูเด็กกว่าผู่ตานอยู่บ้าง
เสียงร้องโหยหวนของผู่ตานนั้น ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเคยได้ยินมาแล้ว ช่วงหนึ่งได้ยินทั้งกลางวันกลางคืน แต่เสียงร้องในตอนนี้ชัดเจนว่าแตกต่างออกไป
แม้ฟังดูแล้วจะคล้ายเขา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เขาแน่นอน!
“จะไม่ช่วยเขาหรือ?” พวกกระทิงน้อยที่มุงดูอยู่ทนความสยองไม่ไหว จึงหันไปถามชิงหลง
ชิงหลงไม่ได้ตอบทันที แต่ดวงตาสีเขียวคู่นั้นเปล่งประกายเล็กน้อย พลางมองเข้าไปในเปลวเพลิง
นางเห็นโครงกระดูกสีดำที่ถูกเผาไหม้ไปครึ่งหนึ่งอยู่กลางเปลวไฟ และยังเห็นร่างเล็กสีดำที่ติดอยู่ในกองเพลิงด้วย
อ๊ะ…
ผู่ตานเป็นปีศาจหรือ!?
ชิงหลงคิดว่าตนเองมองผิดไป จึงกะพริบตาแล้วมองอีกครั้ง คราวนี้นางเห็นร่างเล็กสีดำที่ถูกเส้นไหมสีทองพันธนาการเอาไว้
แสงสีทอง… มาจากหลิงเยว่
ผู่ตาน… เป็นเผ่าปีศาจจริง ๆ!
ชิงหลงตกตะลึงอย่างยิ่ง!
แต่ภาพตรงหน้ากำลังบอกนางว่าผู่ตานเป็นเผ่าปีศาจอย่างแท้จริง และยังเป็นเผ่าปีศาจแท้อีกด้วย!
เช่นนั้นคงไม่จำเป็นต้องช่วยแล้ว หากถูกไฟหงส์เผาจนตายก็นับว่าเบาแล้ว!
“ไม่ต้องช่วยหรอก ปล่อยเขาไปตามยถากรรมเถอะ!”
หลิงเยว่รู้หรือไม่ว่าศิษย์พี่ร่วมสำนักของนางเป็นเผ่าปีศาจ?
ชิงหลงมองร่างสีดำขนาดเล็กที่กำลังแตกร้าวในกองเพลิง แล้วหันหลังจากไป หลิงเยว่คงจะออกจากการบำเพ็ญแล้ว นางควรไปบอกหลิงเยว่สักหน่อย
…………….