ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 391 กระดูกมากมายนับไม่ถ้วน
บทที่ 391 กระดูกมากมายนับไม่ถ้วน
……….
บทที่ 391 กระดูกมากมายนับไม่ถ้วน
โม่จวินเจ๋อที่พุ่งลงสู่พื้นมองดูกำแพงและพื้นกระดูกของปีศาจอสูรที่ถูกสายฟ้าทำลายไปรอบ ๆ แล้วหัวเราะออกมา
สิ่งที่เรียกว่าหอคอยกระดูกและถ้ำปีศาจนั้น ล้วนสร้างขึ้นจากการลอกหนังเนื้อของเผ่าปีศาจอสูรที่ยังมีชีวิตออก แล้วเอาแต่กระดูกมาสร้าง ในทุกถ้ำปีศาจจะวางลูกอ่อนระดับสูงของเผ่าปีศาจอสูรไว้สี่สิบสี่ตัว คล้ายเป็นจุดศูนย์กลางของการวางค่ายกล ลูกอ่อนที่จะเป็นจุดศูนย์กลางได้ต้องถูกเผาในไฟปีศาจขณะยังมีชีวิตอยู่เกินกว่าสี่สิบเก้าวัน แล้วให้ลอกหนังเนื้อออกขณะมีชีวิตอยู่ จึงถือว่าคู่ควรเป็นจุดศูนย์กลาง!
แม้โม่จวินเจ๋อจะไม่ใช่เผ่าปีศาจ แต่เขายังตกใจกับวิธีการอันโหดร้ายของมังกรปีศาจ ในหอคอยศพและโพรงหนอนนั้นฝูงแมลงยังมีชีวิตอยู่ ทำไมพอมาถึงเขตแดนปีศาจ…
เผ่าปีศาจปฏิบัติต่อเผ่าพันธุ์เดียวกันโหดร้ายยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก!
“เขาอยู่ตรงนั้น!”
พวกเผ่าปีศาจที่เข้ามาในถ้ำปีศาจบินมาจากทุกทิศทาง พร้อมกับลงมือโจมตีโม่จวินเจ๋อพร้อมกัน
“เขาเป็นของข้า!”
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจต้องเป็นของข้าเท่านั้น!”
“ไม่ ข้าเห็นเขาก่อน!”
“นั่นเป็นของจากหอประมูลของเมืองปีศาจ!”
…
‘หน่วยคุ้มกัน’ ของโม่จวินเจ๋อป้องกันการโจมตีถึงตายของเผ่าปีศาจได้ทันเวลา เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองไปที่สายฟ้าสีดำเขียวสายที่หกเหนือปากถ้ำ
เปรี้ยง!
สายฟ้าสามสีแผ่ขยายไปทั่วถ้ำปีศาจที่เหมือนห้วงลึก เผ่าปีศาจที่กำลังต่อสู้กันอยู่ต่างได้รับสายฟ้าเช่นกัน โม่จวินเจ๋อกระอักเลือดอีกครั้ง ร่างกายยิ่งแหลกเหลวกว่าเดิม แม้แต่กระดูกก็โผล่ออกมาจากเนื้อหนัง
แม้จะเป็นสีเขียวที่ควรรักษา แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายกลับทำลายอวัยวะภายในของเขาอย่างบ้าคลั่ง รวมถึง… ปฐมวิญญาณของเขาด้วย…
เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!
เปลือกตาของโม่จวินเจ๋อหนักอึ้ง ร่างกายที่แหลกเหลวไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป แต่เขายังคงบังคับตัวเองให้ตื่นตัว แล้วใช้พลังของลูกแก้ววิญญาณเม็ดหนึ่ง แสงใส ๆ ห่อหุ้มตัวเขาไว้แล้วพาเขาพุ่งออกจากถ้ำปีศาจด้วยความเร็วเหนือสายฟ้า!
เหลืออีกสามสาย…
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจหนีไปแล้ว!”
“ไล่ตามเร็วเข้า!”
ลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากถ้ำปีศาจ ไล่ตามเงาแสงที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็น
แม้จะถูกฟ้าผ่าถึงสิบสี่ครั้ง แต่ยังเคลื่อนที่ได้เร็วขนาดนี้ พลังของเมล็ดพันธุ์ปีศาจช่างแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดคิดเสียจริง!
โม่จวินเจ๋อชำเลืองมองเผ่าปีศาจที่ไล่ตามมาด้านหลัง จากนั้นก็เงยหน้ามองท้องฟ้า สายฟ้าครั้งที่เจ็ดไม่ใช่แก่นปราณวารี แต่เป็นมันเป็นสายฟ้าที่มีสีดำสนิท พลังที่แผ่ออกมานั้นรุนแรงกว่าสิบสี่ครั้งก่อนหน้า…
สายฟ้ารัตติกาล! ซึ่งมีเพียงเผ่าปีศาจเท่านั้นที่จะได้ลิ้มรส
เก้าครั้งก่อนหน้านี้ นอกจากแก่นปราณของเขาและหลิงเยว่ที่เป็นแก่นปราณธรรมชาติเจ็ดอย่างแล้ว ยังมีสายฟ้ารัตติกาลติดต่อกันสองครั้ง…
คงเป็นเพราะเขากลืนกินหัวใจมังกรปีศาจสินะ?
“เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ปีศาจจริงหรือ?”
“ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจจะมีแก่นปราณครบทุกอย่าง!”
“อีกทั้งแม้จะเป็นแก่นปราณทั้งหมด ก็ควรมีเพียงแปดสายเท่านั้นมิใช่หรือ? ก่อนหน้านี้เขาผ่านมาเก้าสายเต็ม ๆ รวมกับตอนนี้ก็สิบหกแล้ว!”
เผ่าปีศาจที่ไล่ตามมา ทั้งทึ่งทั้งหวาดกลัว ก่อนหน้านี้สายฟ้าแก่นปราณธรรมชาติไม่ได้ก่อความเสียหายมากนักต่อพวกเขา แต่หากถูกสายฟ้ารัตติกาลฟาดเข้า ความเสียหายต่อพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า!
เผ่าปีศาจย่อมมีแก่นปราณตามธรรมชาติที่นอกเหนือจากแก่นปราณรัตติกาลด้วยเช่นกัน เพียงแต่สีของแก่นปราณเหล่านั้นจะเข้มกว่า เนื่องจากดูดซับพลังปีศาจ ดังนั้นเมื่อเห็นสายฟ้าเจ็ดชนิดแรก เผ่าปีศาจจึงไม่แปลกใจ
แต่ที่ร้องอุทานตอนนี้ เป็นเพราะไม่อาจจินตนาการได้ว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจที่มีแก่นปราณครบทั้งหมดจะแข็งแกร่งมากเพียงใด!
ไม่สิ พวกเขายังกลัวอีกว่าตนเองจะกลืนกินไม่ได้ แล้วถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจกลืนกินเสียเอง
สายฟ้ารัตติกาลฟาดลงมาอย่างไร้ปรานี ดวงตาของโม่จวินเจ๋อฉายแววเสียดายเล็กน้อย เขายังบินไปไม่ถึงตำแหน่งถ้ำปีศาจอีกแห่งเลย…
แต่ยังเหลืออีกสองสาย คงเพียงพอสำหรับการใช้งานของเขาแล้ว
โม่จวินเจ๋อที่ถูกสายฟ้ารัตติกาลฟาดเข้า ไม่อาจรักษาการปลอมตัวได้อีกต่อไป แล้วเผยร่างมังกรปีศาจออกมา แปลกที่ในสายตาของผู้เฝ้าดู เขายังคงเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่มีหัวดอกไม้แหว่งวิ่น เนื้อหนังหายไปครึ่งหนึ่งเผยให้เห็นถึงกระดูก
ราวกับแสงโปร่งใสที่ห่อหุ้มร่างของโม่จวินเจ๋อทุกส่วนกำลังช่วยดูดซับพลังปีศาจอยู่
โม่จวินเจ๋อที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาพึมพำในใจว่า “เจ้าคืออะไรกันแน่?”
ลูกแก้ววิญญาณโปร่งใสรู้ว่าโม่จวินเจ๋อกำลังถามมัน มันจึงเพียงแค่ถูไถร่างปฐมวิญญาณของเขาเบา ๆ เพื่อแสดงความสนิทสนม
ลูกแก้ววิญญาณโปร่งใสดวงนี้ แต่เดิมผู่ตานเป็นคนพบมันในวิหาร เมื่อถามผู่ตาน เขาบอกแค่ว่าบังเอิญเจอเข้า เห็นว่าสวยงามก็เลยเก็บมา…
ขอบเขตปฐมวิญญาณน้อย ๆ ยื่นมือแตะลูกแก้ววิญญาณเบา ๆ “ขอบใจเจ้ามาก”
ลูกแก้ววิญญาณดูเหมือนจะรู้จุดประสงค์ของโม่จวินเจ๋อ มันรอให้เขาฟื้นตัวได้เล็กน้อยแล้วพาพุ่งไปยังถ้ำปีศาจถัดไป โดยมีเผ่าปีศาจตามหลังมาเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะกองหนุนจากหอประมูลก็มาถึงแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของลูกแก้ววิญญาณ โม่จวินเจ๋อสามารถไปถึงตำแหน่งของถ้ำปีศาจหอคอยกระดูกที่สองได้สำเร็จ ก่อนที่สายฟ้ารัตติกาลลำที่แปดจะฟาดลงมา
“หลินชิง ท่านดูตรงนั้นสิ!”
เขาเพิ่งมาถึงบริเวณใกล้เคียงกับตำแหน่งถ้ำปีศาจที่หลิงเยว่บอกไว้ นางพญางูชี้ไปยังเมฆฟ้าผ่าหนาทึบในระยะไกล
“ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
หัวหน้ากระทิงหันหลังกลับในทันที
ทันทีที่ทั้งสองจากไป สายฟ้ารัตติกาลครั้งที่แปดก็ฟาดลงมา!
ครั้งนี้มีเงาดำหลายสายปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ถ้ำปีศาจอยู่ที่นี่เอง!
ผู้พิทักษ์ถ้ำปีศาจคนแรกที่ไล่ตามมาแสดงความประหลาดใจอย่างมาก
หอคอยกระดูกและถ้ำปีศาจที่แต่ละเผ่าสร้างขึ้นนั้น นอกจากผู้เข้าร่วมแล้ว ไม่มีใครรู้ทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากบอก แต่ถูกสาปห้ามไว้ หากเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำปีศาจจะต้องตายทันที!
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชาวมนุษย์ในเขตแดนปีศาจไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับหอคอยกระดูกและถ้ำปีศาจเลย
พื้นดินสั่นสะเทือน สายฟ้ารัตติกาลกำลังแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว หลุมตรงกลางใหญ่กว่าสายฟ้าที่มาก่อนหน้านี้ หัวหน้ากระทิงผู้มีสายตาเฉียบคมมองเห็นซากกระดูกที่โผล่พ้นสายฟ้าสีดำออกมา
หอคอยกระดูกที่ถูกชำระด้วยสายฟ้ารัตติกาลกำลังแตกสลาย…
“ไม่นะ!”
เผ่าปีศาจตะโกนก้อง พยายามจะหยุดยั้งการแผ่ขยายของสายฟ้า แต่เผ่าปีศาจที่มีพลังถึงขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ก็ไม่อาจหยุดยั้งสายฟ้าได้ แม้ว่านั่นจะเป็นเพียงสายฟ้าขอบเขตบำเพ็ญเต๋าของโม่จวินเจ๋อก็ตาม!
“ข่าวที่หลิงเยว่บอกมา… เป็นความจริงหรือ?”
แม้หัวหน้ากระทิงจะถามด้วยความสงสัย แต่แววตากลับแน่วแน่ยิ่งนัก ไม่สนใจการขัดขวางของนางพญางู ใช้เคล็ดวิชากลายเป็นลำแสงกระโดดลงไปในหลุมสายฟ้าที่กำลังขยายออกไปทางด้านข้างอย่างต่อเนื่อง
การที่ร่างมนุษย์สัมผัสกับสายฟ้ารัตติกาลนั้นไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย แต่เพื่อยืนยันความจริงในคำพูดของหลิงเยว่ หัวหน้ากระทิงไม่สนใจสิ่งเหล่านี้แล้ว เพราะอย่างมากก็แค่บาดเจ็บสาหัส…
ผู้บำเพ็ญขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นต้นไม่รอช้า หัวหน้ากระทิงอดทนต่อความเจ็บปวดมหาศาลจากการถูกโจมตีด้วยพลังปีศาจและสายฟ้าพร้อมกัน พยายามมองไปยังกำแพงที่ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้าแห่งนั้น
กระดูก… ตรงนั้นมีแต่กระดูกเรียงรายอย่างหนาแน่น ทำให้หนังศีรษะของหลินชิงชาวาบ
“สิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน!”
“นั่น… นั่นไม่ใช่โครงกระดูกลูกปีศาจสิงโตเก้าหางหรอกหรือ?!”
“กระดูกหางเก้าเส้น ดูเหมือนว่าจะใช่…”
ลูกปีศาจสิงโตเก้าหางที่หายตัวไปกลับมาอยู่ในถ้ำนี้!
แม้แต่เผ่าปีศาจก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าการสร้างถ้ำนี้ต้องใช้โครงกระดูกของเผ่าพันธุ์เดียวกันมากมายเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วเผ่าใดกันแน่ที่ทำเรื่องโหดร้ายไร้มนุษยธรรมเช่นนี้?!
……….