ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 385 การแสดงละครตบตา
บทที่ 385 การแสดงละครตบตา
……….
บทที่ 385 การแสดงละครตบตา
หลิงเยว่ใช้ชีวิตอย่างร่ำรวยในขณะที่เก็บตัวจากโลกภายนอก โดยไม่รู้เลยว่าเขตแดนปีศาจกำลังเดือดร้อนวุ่นวายเพราะมีโจรขโมยหินปีศาจเพิ่มขึ้นอีกสองคน
“ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้านั่นจะมีพรรคพวก!”
“และไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย!”
“ต้องเป็นเผ่าทิงมี่แน่ ๆ พวกเขาคงกลับมาแก้แค้น เป็นเพราะหุบเขาปีศาจถูกทำลายและผู้นำเผ่าทิงมี่หายตัวไปแน่นอน!”
“หรืออาจจะเป็น… คนที่เคยสั่งให้ลูกน้องปล้นเมืองปีศาจก็ได้”
“เป็นไปไม่ได้ ท่านผู้นั้นคงไม่ทำเช่นนี้หรอก… ใช่ไหม?”
…
ผู้คนต่างพูดคุยกันไปต่าง ๆ นานา บางคนเริ่มสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือของสนมปีศาจที่สี่ แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และข้อสงสัยเหล่านี้ก็ถูกกลบไปอย่างรวดเร็ว
เพราะว่า… วังปีศาจถูกปล้นเป็นครั้งที่สอง โดยเฉพาะตำหนักที่สี่ถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง ทุกสิ่งที่มีค่าถูกขนย้ายออกไปหมด หากไม่ใช่เพราะคานและเสายากที่จะเคลื่อนย้ายและอาจสร้างความวุ่นวายได้ พวกโจรขโมยหินปีศาจคงจะถอดเอาไปแล้ว
หรือพวกโจรขโมยหินปีศาจมีเรื่องบาดหมางกับสนมปีศาจที่สี่กันแน่!
อสรพิษเก้าเศียรและเผ่าปีศาจที่จงรักภักดีต่อสนมปีศาจที่สี่ออกตามล่าโจรทั่วทั้งโลก ดังนั้นโจรจะเป็นนางได้อย่างไร!
เจ้าวังแห่งเมืองปีศาจเริ่มสงสัยแล้วว่า หรือว่าจะไม่ใช่มังกรปีศาจจริง ๆ?
แต่บรรดาลูกน้องออกตามล่ากันหมดแล้ว ส่วนวังของเขาก็ถูกปล้น ทำไมมังกรปีศาจถึงยังไม่ปรากฏตัวเล่า?
คิดถึงอะไรก็ได้อย่างนั้น โม่จวินเจ๋อปรากฏตัวขึ้นและออกคำสั่งตามล่าทั่วทั้งเขตแดนปีศาจว่า หากจับเผ่าทิงมี่ได้คนหนึ่งจะได้รับรางวัลอย่างงาม!
เจ้าวังแห่งเมืองปีศาจ “?”
เขาเดาผิดจริง ๆ หรือ?
เป็นไปไม่ได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงละครที่มังกรปีศาจแสดง เพื่อปกปิดความเลวทรามของตนแน่นอน!
น่าเสียดายที่เหล่าปีศาจตัวอื่น ๆ กลับเชื่อมั่นในสนมปีศาจที่สี่อย่างสนิทใจ เพราะคำสั่งตามล่าทั่วทั้งโลกไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
ผู้นำเผ่าทิงมี่ “…”
ชาติที่แล้วพวกเขาคงขุดสุสานบรรพบุรุษของมังกรปีศาจไปทิ้งสินะ ชาตินี้ถึงต้องมาแบกรับเคราะห์กรรมอันใหญ่หลวงเช่นนี้!
น่าสาปแช่งนัก!
โชคดีที่ชนเผ่าของเขาได้หลบซ่อนเข้าไปในที่รวมตัวแห่งที่สองของเผ่าทิงมี่ ซึ่งสามารถซ่อนตัวได้ดียิ่งกว่าหุบเขาปีศาจเสียอีก เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น ในระยะเวลาอันสั้นคงไม่มีใครหาพบเป็นแน่!
การปรากฏตัวของโจรขโมยหินปีศาจอีกสองกลุ่มใหญ่ ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจไปได้ไม่น้อย ชิงหลงที่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันจึงได้โอกาสพักหายใจบ้าง
นางเกือบจะพลาดท่าให้กับผู้พิทักษ์ทั้งสามแห่งวังปีศาจเสียแล้ว โชคดีที่ข่าวการปล้นตำหนักที่สี่ของวังปีศาจมาทันเวลา จึงเรียกความสนใจของผู้พิทักษ์ทั้งหมดของวังปีศาจได้ มิเช่นนั้น…
ชิงหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดชำเลืองมองเจ้าวังที่ยังไม่ยอมแพ้ มุมปากนางยกขึ้นเล็กน้อย แล้วทิ้งคำพูดไว้ก่อนจะหนีหายไปว่า “ท่านเจ้าวัง ไว้พบกันคราวหน้านะ”
ใบหน้าอ่อนโยนของเจ้าวังบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาถูกหลอกจริง ๆ!
อย่าให้เขาจับได้เชียว…
เจ้าวังไม่ยอมรับว่าตนจับนางไม่ได้ ตอนนี้จับไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าภายหน้าจะจับไม่ได้ รอดูเถิด!
เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะจับมังกรปีศาจไปด้วย!
เจ้าวังที่ได้ตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่ไว้ในใจ หมุนตัวกลับไปยังตำหนัก ก่อนอื่นต้องกลับไปดูว่าฮวนฮวนประพฤติตัวดีหรือไม่
ชิงหลงกลับมาถึงเผ่ากระทิง และได้พบกับหลิงเยว่ที่ออกจากการเก็บตัวพอดี ดังนั้น หลิงเยว่จึงได้รับเงินก้อนใหญ่… มหาศาล!
จำนวนมากกว่าที่โม่จวินเจ๋อมอบให้นางเสียอีก!!
จะไม่มากได้อย่างไร ในนั้นรวบรวมหินปีศาจส่วนใหญ่จากเมืองระดับหนึ่งและสองเกือบยี่สิบแห่งเชียวนะ!
“ได้มา… จากไหน?” หลิงเยว่พูดตะกุกตะกัก
นางเคยต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินจนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ตอนนี้…การได้มาซึ่งหินปีศาจนั้น ช่างง่ายดายเหลือเกิน!
หากมีหินปีศาจมากมายเช่นนี้ ก่อนบุกเข้าสู่เหวปีศาจ นางย่อมซื้อพลังฝึกฝนได้อย่างเพียงพอ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะถูกแม่ทัพปีศาจทั้งสิบสองค้นพบก็ยังมีโอกาสหนีรอดออกมาได้
“ระบบ หากข้าซื้อพลังฝึกฝน โม่จวินเจ๋อจะได้รับประโยชน์ด้วยหรือไม่?”
ไม่ทราบด้วยเหตุผลใด ตอนนี้ไม่ว่าฝ่ายใดฝึกบำเพ็ญ อีกฝ่ายก็จะมีพลังฝึกฝนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การใช้หินปีศาจหนึ่งส่วนแต่ได้พลังฝึกฝนถึงสองส่วน การค้าเช่นนี้คุ้มค่าเหลือเกิน!
หากระบบตอบว่าได้ หลิงเยว่จะต้องซื้อทันทีแน่นอน!
เหตุที่นางออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญ เป็นเพราะนางมาถึงทางตัน แม้ว่าการสร้างชาสืบทอดของเผ่าปีศาจอสูรจะค่อนข้างง่าย แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นการสร้างชาสืบทอดสัตว์วิญญาณระดับสูง ภายในสิบครั้งจะสำเร็จเพียงหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น
และยังเป็นแบบฝืนทำอยู่ ดังนั้น หลิงเยว่ที่คิดไม่ออกจึงตัดสินใจออกจากการเก็บตัวสักสองสามวันเพื่อคิดเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วน
บางทีอาจเป็นปัญหาจากระดับการบำเพ็ญหรือไม่…
[ไม่รู้สิ]
“ระบบ ทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ พอข้าถามอะไร เจ้าก็เลือกที่จะตอบแบบขอไปที”
ระบบจึงเงียบไป ใครใช้ให้หลิงเยว่ทำอะไรแปลก ๆ มากมายเล่า? แม้ว่าระบบจะเห็นมามาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่า…
ใครจะให้ราชาดอกไม้เกล็ดหิมะเจ็ดสีที่เพิ่งมีสติปัญญากลืนกินเถาวัลย์กึ่งเทพ? โดยปกติแล้วระดับสูงจะกลืนกินระดับต่ำ ใครจะคิดว่ายังสามารถให้คนอื่นช่วยกลืนกินเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้ด้วย จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมหลิงเยว่และโม่จวินเจ๋อถึงเกิดปัญหาที่เชื่อมต่อกันเช่นนี้
โดยเฉพาะช่วงนี้
“ข้าไปปล้นมาสองสามเมือง” คำพูดของชิงหลงดึงหลิงเยว่ที่กำลังจมอยู่ในภวังค์ให้กลับมามีสติ
“กี่… แห่ง?”
หินปีศาจมากมายขนาดนี้ จะมีแค่สองสามแห่งได้อย่างไร?
ชิงหลงยิ้มน้อย ๆ ดวงตาเปล่งประกายด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นก็เล่าเรื่องราวของนางและโม่จวินเจ๋ออย่างละเอียด
นางไม่คิดว่าโม่จวินเจ๋อจะเป็นเช่นนี้ เรียกว่าทำได้ดีมาก!
แน่นอนว่าการปล้น เป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้ร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว
“ท่านมอบให้ข้าจริง ๆ หรือ?”
ชิงหลงพยักหน้ายืนยัน “เขตแดนปีศาจมีหินวิญญาณน้อย หินปีศาจพวกนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อการเพิ่มพลังของเจ้าบ้างสินะ?”
ตอนแรกที่พวกเขามอบโอสถและสมบัติล้ำค่าจำนวนมากให้หลิงเยว่แต่ถูกปฏิเสธ นางบอกว่าไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น แต่นางต้องการหินวิญญาณจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายกันไปหาเส้นพลังวิญญาณที่ไม่มีเจ้าของ ต่อมาดินแดนตะวันตกเกิดความวุ่นวาย นางก็แทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
“มีประโยชน์มากเลยละ!”
หลิงเยว่ฉีกยิ้มกว้างแทบจะถึงท้ายทอย
“ดีที่มีประโยชน์” ชิงหลงติดเชื้อรอยยิ้มจากหลิงเยว่ จึงยิ้มตามไปด้วย เมื่อผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ชอบหินปีศาจเช่นนี้ นางก็จะไปปล้นมาเพิ่มอีกสักหน่อย
คราวนี้จะไปปล้นเมืองไหนดีนะ?
ชิงหลงนึกถึงเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจ แล้วคิดว่าจะไปที่นั่นดีไหม?
หลิงเยว่ที่ได้รับหินปีศาจมาแล้วก็ลาจากชิงหลงแล้วรีบกลับไปเก็บตัวบำเพ็ญอย่างเร่งรีบ
“ระบบ หินปีศาจชุดนี้แลกเป็นวิชาได้เท่าไหร่?” หลิงเยว่ถามถึงหินปีศาจที่ชิงหลงนำมา คราวนี้นางฉลาดขึ้นแล้ว เก็บชุดที่โม่จวินเจ๋อนำมาไว้ แล้วใช้ส่วนนี้ไว้ทดลองและเอาชีวิตรอด
[จะแลกทั้งหมดเป็นค่าพลังวิญญาณหรือไม่?]
“แลกเลย!”
[จะใช้ค่าพลังวิญญาณทั้งหมดซื้อวิชาหรือไม่?]
หลิงเยว่อ้าปากจะพูดว่าแลก แต่แล้วก็นึกถึงคำพูดของระบบเมื่อครู่ ชัดเจนว่ามันต้องการหลอกให้นางใช้ค่าพลังวิญญาณทั้งหมด ช่างเจ้าเล่ห์นัก!
“ไม่ ข้าจะใช้เพียงค่าพลังวิญญาณที่เปลี่ยนไปเมื่อครู่เพื่อซื้อวิชาเท่านั้น!”
…
[ถ้าใช้ค่าพลังวิญญาณทั้งหมดซื้อวิชา จะสามารถก้าวข้ามขอบเขตทะยานเซียนขั้นกลางไปสู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นกลางได้ เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่เปลี่ยน?]
ระบบไม่ยอมแพ้ แต่กลับทิ้งเหยื่อล่อชิ้นใหญ่ไว้
หลิงเยว่รู้สึกลังเล หากพลังของนางก้าวเข้าสู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นกลาง ก็จะสามารถช่วยภารกิจของโม่จวินเจ๋อและชิงหลงได้ หากปล้นหินปีศาจมาได้มากขึ้น ก็น่าจะซื้อพลังเพื่อเข้าสู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลายได้อีกด้วย!
เช่นนี้โอกาสที่จะเข้าสู่เหวปีศาจก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นางควรซื้อดีหรือไม่?
แต่การทดลองยังต้องใช้ค่าพลังวิญญาณอีกเช่นกัน… หลิงเยว่จึงลังเลอยู่
……….