ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 835 ไร้ยางอาย
ตอนที่ 835 ไร้ยางอาย
……….
หลังจากนักพรตเฒ่ากลับมาก็นอนแผ่หลาบนโซฟาพลางหรี่ตาลง ไม่ใช่เพราะตกใจที่ขับรถรับส่งระเบิดก่อนหน้านี้
นักพรตเฒ่าเหลือแค่เปลี่ยนชื่อว่า ‘ลู่แข็งแกร่ง’ แล้ว อุปสรรคเล็กๆ นี้หมายความว่าอย่างไร
แต่ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่บังเอิญ ขณะที่ทุกคนในร้านหนังสือจับหัวหมู ดันมีก้อนหินก้อนหนึ่งกระเด็นกระแทกเข้ากลางหน้าผากของเขา
โชคดีที่ก้อนหินไม่ใหญ่มากเลยไม่มีเลือดออก แต่มีรอยฟกช้ำ หากว่าก้อนหินใหญ่กว่านี้อีกหน่อย เช่นนั้นตอนนี้ร้านหนังสืออาจจะกำลังช่วยนักพรตเฒ่าเตรียมจัดงานศพแล้วก็ได้
หลังจากเดินเลียบแม่น้ำมาทั้งวัน ในที่สุดพื้นรองเท้าก็เปียก
เจ้าลิงน้อยกลิ้งไข่ปอกเปลือกบนหน้าผากนักพรตเฒ่าอย่างระมัดระวัง
ปู่หลานทั้งสอง คนหนึ่งคนลิงหนึ่งตัวก็ยังกลมเกลียวกันดีจริงๆ
ทนายอันหยิบซูเปอร์คัพของตัวเองขึ้นมากระดก ‘อึกๆ’ ไปหลายคำ เมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของนักพรตเฒ่าก็ยกแก้วขึ้นและพูด “นักพรตเฒ่า เอาสักหน่อยไหม”
นักพรตเฒ่าโบกมือปฏิเสธ “แก่แล้ว ดื่มของล้ำค่าขนาดนี้ไม่ไหวหรอก”
เมื่ออายุมากขึ้น ทนนิ่วและนิ่วในไตไม่ได้อีกต่อไป…
ทนายอันไม่สงสัยในตัวเขาและดื่มกาแฟของตัวเองต่อ
โจวเจ๋อที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินลงมาชั้นล่างพร้อมสวมชุดนอนเสื้อคลุมสีดำ สายตาทนายอันเหลือบมองป้ายยี่ห้อครู่หนึ่ง
จุ๊ๆ จนแล้วอย่างไร มีผีดิบสาวยอมจ่ายเงินให้ขนาดนี้ ยังจะกลัวจนอีกหรือ
โจวเจ๋อนั่งลงบนโซฟา หยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ
เขากำลังคิดถึงเรื่องที่สวี่ชิงหล่างพูดก่อนหน้านี้ เหล่าสวี่สัมผัสถึงกลิ่นอายอาจารย์ของเขาแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้ต่างออกไปจากเมื่อก่อนก็คือคราวนี้อีกฝ่ายไม่ได้มาหาถึงที่ เวลาไม่สามารถแล่นเร็วขนาดนั้นได้ แต่เหล่าสวี่สลับด้านกำหนดค้นหาตำแหน่งอาจารย์ของเขาผ่านลูกปัดสีดำได้
บางที ตอนนี้อาจารย์ของเขาอาจจะยังไม่ใช่อาจารย์ของเขา สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ชัดเจน
ตรงกันข้ามชายชราคนนั้นลึกลับมาก ดูเหมือนว่าเจ้าโง่จะพอรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับชายชรา เซี่ยจื้อก็รู้บางอย่างเช่นกัน แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขายืนอยู่ตำแหน่งสูง ถึงอย่างไรตอนนี้เถ้าแก่โจวเจ๋อก็ยังมืดแปดด้านอยู่ดี
โจวเจ๋อเอนหลังพิงโซฟาและมองดูเจ้าลิงกับนักพรตเฒ่าตรงหน้า ทันใดนั้นก็ถามด้วยอารมณ์ “ข้างกายไท่ซานทุกองค์มีลิงทุกตัวเลยหรือเปล่า”
โจวเจ๋อจำได้ว่าชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีขาวเคยโผล่มาในความฝันหรือภาพลวงตาหลายครั้ง และเห็นได้ชัดว่าวานรย้ายภูเขาไร้วี่แววความโหดร้ายและมีนิสัยอ่อนโยนอย่างยิ่ง
ในตอนนี้ เมื่อเห็นนักพรตเฒ่าและเจ้าลิงน้อยตรงหน้าก็เกิดอารณ์เศร้าใจเล็กน้อย
หลังจากเขาฆ่าเจ้าลิงน้อยในชาติก่อน วานรย้ายภูเขาตัวนั้นออกตามหาเขาก่อน และเชิญเขากิน ‘อาหารมโนธรรม’ มื้อหนึ่ง
มันทำให้เขาถูกทรมานอยู่นานถึงได้เปิดใจ แต่ในฉากเหล่านั้น วานรตัวนั้นประพฤติตัวดีและเก็บเนื้อเก็บต่อหน้าฝู่จวิน ไหนเลยจะมีปีศาจวานรเผด็จการบนโลกนี้ได้
ทนายอันยิ้มขำและพูด “จะว่างั้นก็ได้ นับตั้งแต่ฝู่จวินรุ่นแรกจนถึงรุ่นสุดท้าย ฝู่จวินทุกรุ่นจะมีปีศาจวานรอยู่หนึ่งตัว อาจจะต่างสายพันธุ์กันออกไป แต่พวกมันล้วนเป็นอสูรปีศาจที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ว่ากันว่า รุ่นสุดท้ายหรือไท่ซานฝู่จวินองค์นั้นที่หายตัวไปก็มีวานรย้ายภูเขาอยู่ข้างกายเช่นกัน และข้างกายของไท่ซานฝู่จวินรุ่นแรกเป็นเทพวานรสีม่วงทอง
เพียงแต่ เทพวานรสีม่วงทองตัวนั้นเข้าร่วมสยบความวุ่นวายในนรกพร้อมกับไท่ซานฝู่จวินรุ่นแรกในตอนนั้นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ตายและรอดชีวิต แต่ขนบนตัวกลับกลายเป็นสีดำเพราะอากาศสกปรก”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ทนายอันก็ได้สติ หรือว่าเถ้าแก่จะพบความผิดปกติในตัวนักพรตเฒ่าด้วยหรือนี่
ทันใดนั้นทนายอันก็รู้สึกโล่งใจอีกครั้ง ก็จริง ทีเขายังมองเห็นเลย หากเถ้าแก่จะมองออกก็ไม่นับว่าน่าแปลกใจอะไร
โจวเจ๋อไม่สนทนาในหัวข้อนี้ต่อ และหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาคลุมหน้าตัวเอง เขากะจะพักผ่อนภายใต้แสงแดดยามบ่ายเสียหน่อย วันนี้ยังไม่ได้อาบแดดจึงยังไม่น่าสนใจพอ
เมื่อเห็นดังนั้น ทนายอันก็ไม่รบกวนอีกและผุดลุกเดินกลับห้องตัวเองชั้นบน
ในสวนผักข้างบ้าน
สวี่ชิงหล่างยืนอยู่หน้าดอกแก้วมังกร ไม่มีนางฟ้าซ่อนอยู่ในดอกไม้ แต่เป็นทารกเนื้อตัวเต็มไปด้วยยันต์
“ไม่พิจารณาดูหน่อยจริงๆ เหรอ ผมสามารถตอบสนองความต้องการอื่นๆ ของคุณได้ ยกเว้นปล่อยคุณไป” สวี่ชิงหล่างพูดกับทารก
นับตั้งแต่อาจารย์เขาโผล่กลับมาเป็นครั้งแรก ทำเอาเหล่าสวี่เกือบจะหายใจไม่ออกในอ่างอาบน้ำจนเกือบตาย สวี่ชิงหล่างจึงเปลี่ยนไปในบางแง่มุม
เขาเริ่มเสาะแสวงหาพลังอย่างแข็งขัน อย่างเช่นค่ายกล ยันต์และใช้ถุงมือขาวของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลในตอนแรกผนึกส่วนหนึ่งของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลไว้ในตัวเขา
ช่วงระยะก่อนหน้านี้ สวี่ชิงหล่างโอ๋เจ้าลิงน้อยเล่นด้วยกัน จุดประสงค์เพื่อปล่อยแมวดำในสมุดหยินหยางในมือของเจ้าลิงน้อยออกมาแลกเปลี่ยนบางอย่างในค่ายกลกับเขา ซึ่งมันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
สวี่ชิงหล่างยังหน้าตาดีเช่นเดิม แต่ไม่ใช่ชนชั้นกลางโทรมๆ ที่เปิดร้านบะหมี่และรับออเดอร์เดลิเวอรี่แล้วก็อยู่ว่างๆ ทุกวันเหมือนตอนแรกอีกแล้ว และตอนนี้ เขากำลังจับตามองความสามารถของเกิงเฉิน ทักษะควบคุมเชิดหุ่นแบบนั้น ทำให้สวี่ชิงหล่างอิจฉาตาร้อนมาก
แม้ว่าตอนนี้จะไม่รู้ว่าอาจารย์ของสวี่ชิงหล่างเป็นตัวอะไรกันแน่ แต่จะต้องเป็นตัวละครที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ตาถึงอยู่บ้างส่วนอย่างอื่นนั้นไม่ต้องพูดถึง
ตอนแรกเขาถูกใจพรสวรรค์ของสวี่ชิงหล่างและรับเขาเป็นศิษย์ ทำแม้กระทั่งฆ่าล้างบางทั้งครอบครัวลูกศิษย์เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ดี
วิธีการสุดโต่งและสุดขั้วมาก แต่ก็สามารถผลักดันได้จากข้างๆ เหล่าสวี่มีศักยภาพในการบำเพ็ญเซียนที่น่าทึ่งจริงๆ
ครั้งหนึ่งในชีวิตคนเราถ้าเคยพบกันครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่สาวน้อยโลลิมาเยือนและเดินไปร้านบะหมี่ข้างบ้าน อ้าปากแลบลิ้นออกมาตะโกนด้วยสำเนียงที่หนักแน่น “ยมโลกมีกฎระเบียบของมัน ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง…”
ในเวลานั้นสวี่ชิงหล่างทำได้เพียงคุกเข่าลงพื้นและมองดูดวงวิญญาณพ่อแม่ตัวเองถูกสาวน้อยโลลิกวาดต้อนส่งไปนรกด้วยความไม่พอใจ แต่ปัจจุบันนี้ สวี่ชิงหล่างสามารถสร้างค่ายกลให้ต่อสู้แบบทีมได้ แต่สาวน้อยโลลิและยมทูตตนอื่นๆ ทำได้เพียงถูกลดบทบาทลงเหลือโบกธงเล็กๆ เพื่อช่วยเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตั้งอกตั้งใจเพียรพยายามมานานกว่าหนึ่งปี สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยพลัน
เพียงแต่ เมื่อเผชิญหน้ากับคำขอร้องของสวี่ชิงหล่าง เกิงเฉินกลับเอาแต่เงียบ เงียบ เงียบแล้วก็เงียบ
เขาในเวลานี้เหมือนกับนักรบผู้ไม่ยอมแพ้ แม้จะถูกจับก็ยังเลือกแสดงท่าทีไม่ให้ความร่วมมือ
สวี่ชิงหล่างจนปัญญาเล็กน้อย เขาไม่สามารถเอาแต่คาบบุหรี่และใช้วิธีหัวแร้งเผาร่างคนตรงหน้า นาบไปด้วยและถามอย่างมาดร้ายไปด้วยได้
“คุณจะพูดไม่พูด!”
“คุณจะพูดไหม!”
ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตามแต่ชายตรงหน้าเป็นแค่ทารกขนาดเท่าสองฝ่ามือ จะเอาหัวแร้งไปนาบตรงไหนดีล่ะ
นาบจนร่างกายยุ่ยพังไปเลยคงบันเทิงดี
เดดพูลด้านหลังโดนสาวน้อยผิวเข้มปลูกลงในดินอีกครั้ง ตามคำพูดของสาวน้อยผิวเข้ม นี่เรียกว่าการกลับมาสู่อ้อมอกพระแม่ธรณี ถือโอกาสควักเงินอีกก้อนหนึ่งจากเงินเดือนเกษียณแม่ธรณีแล้วเก็บเงินอีกจำนวนหนึ่งไว้ในกระเป๋าตัวเองเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายจากการออกไปขาดทุนในครั้งนี้
สาวน้อยผิวเข้มเห็นสวี่ชิงหล่างหงุดหงิดจึงหันกลับมาพูด “ที่ข้ามีใบของดอกยาแฝดอยู่ ลองได้นะ แต่จะเป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณอย่างมาก”
สวี่ชิงหล่างโบกมือปฏิเสธน้ำใจของสาวน้อยผิวเข้ม เขาไม่ได้ต้องการทรมานอีกฝ่ายเพื่อถามกองกำลังหลักตั้งอยู่เขาลูกไหน แต่ต้องการถามความลับวิชาหุ่นเชิดต่างหาก
ถ้าทำคนอื่นซื่อบื้อไปแล้ว จนถึงตอนนั้นจะสอนเขาอย่างไร
ถ้าสอนผิดจะทำอย่างไร
สวี่ชิงหล่างจนปัญญา เขาคันไม้คันมืออยากลองเล่น เมื่อก่อนขี้เกียจเรียน เอาแต่สนใจทำอาหาร โดยเฉพาะทำบะหมี่ ตอนนี้เขาสนใจอภิปรัชญาเหล่านี้และอะไรก็ตามที่เขาสามารถเรียนรู้ได้
แต่ทว่า กับคนตรงหน้านี้ หมดหนทางจริงๆ
“จริงๆ แล้วสามารถคุยกับเถ้าแก่ได้นะ” สาวน้อยผิวเข้มเสนอ
“ไม่มีประโยชน์ครับ” สวี่ชิงหล่างตอบ
ทารกตรงหน้าคนนี้ไม่กลัวแม้แต่ความตาย แล้วจะกลัวคำขู่ของโจวเจ๋ออีกงั้นหรือ
บนโลกใบนี้ยังมีคนใจแข็งอยู่ หากเป็นเหมือนเจ้าฮวาหูเตียวก็คงดีทีเดียว
สาวน้อยผิวเข้มแตะปาก หยิบเมล็ดสีดำออกมาจากกระเป๋าตัวเองและเดินไปหยุดตรงหน้าทารก
นางทำนาเป็นอย่างเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่รู้วิธีทำฟาร์มนอกจากจะเป็นคนซื่อสัตย์แล้วอย่างอื่นก็ไม่มีหลงเหลือ
“นี่คือเมล็ดพระสุเมรุผี มันชอบดูดแก่นพลังจากผู้คนเพื่อเจริญเติบโต ผลพระสุเมรุที่โตแล้วเป็นของดีบำรุงจิตวิญญาณและบำรุงร่างกาย”
ทารกจ้องสาวน้อยผิวเข้ม แววตาราบเรียบ เขาไม่รู้สึกอะไรกับการข่มขู่ประเภทนี้ มากสุดก็ดูดเขาจนแห้งไปเลยสิ
สวี่ชิงหล่างเฝ้าดูอยู่ข้างๆ เขาไม่รู้ว่าสาวน้อยผิวเข้มจะทำอะไร แต่ดูเหมือนไม่ได้นำสิ่งนี้มาขู่เกิงเฉินด้วยซ้ำ
‘งั่ม!’
สาวน้อยผิวเข้มใช้ฟันแทะเมล็ดพระสุเมรุ กินเนื้อมันแล้วคายออกมา เหมือนกับกินเมล็ดทานตะวัน
“นี่เป็นของทอด ของว่างน่ะ”
สาวน้อยผิวเข้มล้วงมือในกระเป๋าแล้วกำเมล็ดพระสุเมรุสีดำโปร่งแสงจำนวนหนึ่งออกมา แกว่งมันตรงหน้าเกิงเฉิน
เกิงเฉินยังคงนิ่งไม่สะทกสะท้าน
สาวน้อยผิวเข้มยิ้มขำและพูด “ก็แค่วิชาหุ่นเชิดไม่ใช่หรือ เจ้าจะสอนเขาไหม”
เกิงเฉินยังคงเงียบต่อไป
“ได้ เจ้าเงียบ ก็ได้ เชิญเจ้ารักษาความเงียบนี้ต่อไปเถอะ เมล็ดแตงในมือข้า…อ้อ ไม่สิ เป็นเมล็ดพระสุเมรุ ทุกๆ สิบนาทีที่เจ้าเงียบ ข้าจะโยนเมล็ดหนึ่งออกไปมั่วๆ จนถึงตอนนี้ปล่อยให้พวกมันไปดูดซับแก่นพลังคนธรรมดาที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อเติบโต สำหรับคนธรรมดาเหล่านั้นจะอ่อนแอหรือป่วยออดแอดด้วยเหตุนี้ ล้วนเพราะเจ้าเป็นต้นเหตุ! ความเงียบของเจ้า มีส่วนทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงข้ามาพัวพันมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ไม่ใช่ความผิดของเจ้าจริงๆ เป็นข้าที่เลวทรามเกินไป”
พูดไปเรื่อยๆ สาวน้อยผิวเข้มก็พูดอย่างจริงจังอีกครั้ง “ข้าสาบานด้วยชะตาชีวิตของข้า ทุกสิ่งที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องจริง หากโกหกหรือไม่กระทำตามแม้แต่นิดเดียว จะต้องถูกฟ้าผ่าและไม่ตายดี!”
ประกาศพิษคำสาบาน เพิ่มท่าทางน่าเกรงขามมากขึ้น!
ใบหน้าทารกพลันเปลี่ยนเป็นสีแดง ไม่นานนัก เขาไม่เงียบอีกต่อไปพร้อมกัดฟันพูด “ไร้ยางอาย!”
สาวน้อยผิวเข้มไม่สะทกสะท้านและพูด “ยังเหลืออีกสองนาทีในการโยนเมล็ดพันธุ์แรก”
เกิงเฉินมองสวี่ชิงหล่าง สวี่ชิงหล่างสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่ออกปากหยุดสาวน้อยผิวเข้ม
จนท้ายที่สุด เกิงเฉินก็หลับตาและพยักหน้า…
สาวน้อยผิวเข้มเลียริมฝีปากตัวเองและพูดประจบสวี่ชิงหล่าง “เย็นนี้เพิ่มอาหารอีกอย่างหนึ่งสิ ปลาหลีฮื้อผัดเปรี้ยวหวานครั้งก่อนน่ะ ข้าอยากกินมากเลย”
………………………………………………………………….