“ปล่อยมือลินดาก่อนเถอะค่ะคุณแซค คนมองกันหมดแล้วค่ะ”
หล่อนพยายามดึงมือเล็กออกจากอุ้งมืออบอุ่น เมื่อทั้งเขาและหล่อนเดินเข้ามาในที่ทำงาน ความไม่สบายใจของหล่อนเกิดขึ้นมากมาย เมื่อสายตาของพนักงานร่วมบริษัทมองมาด้วยความแปลกประหลาดใจ
“ใครจะมองก็ช่างสิ” เขาไม่สนใจความเดือดเนื้อร้อนใจของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังเปลี่ยนจากการกุมมือมาเป็นโอบรอบเอวคอดแทน “ฉันไม่เห็นสนใจเลย”
“แต่ลินดาอายนะคะ”
คนตัวโตหยุดเดิน และประสานสายตากับหล่อน คำพูดของเขา ยียวนชวนให้หมั่นไส้ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ทำไมต้องอายด้วย ฉันไม่หล่อหรือไง ถึงต้องอายเวลาคนอื่นมอง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ”
“แล้วมันอย่างไหนล่ะ ทำไมฉันถึงจะเดินจูงมือเมียตัวเองไม่ได้”
“ก็…” อลินดาเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจ
“ก็อะไร หึ” แซคคารีย์คาดคั้นคู่สนทนาทั้งทางน้ำเสียงและสายตา
“ก็พนักงานที่นี่ทุกคนรู้แค่เพียงว่าลินดาเป็นน้องเมียของคุณแซคนี่คะ แล้วพี่เขยกับน้องเมียมาโอบประคองกันแบบนี้ คุณแซคไม่กลัวถูกนินทาหรือไงคะ”
ศีรษะทุยสวยของแซคคารีย์ส่ายน้อยๆ พลางโน้มใบหน้าหล่อจัดเข้ามาหาใกล้ๆ “เรื่องแค่นี้เอง ฉันจัดการได้”
“คุณแซค… จะทำอะไรเหรอคะ”
ชายหนุ่มยืดตัวตรง ปล่อยมือจากเอวคอด เลื่อนไปกุมมือเล็กเอาไว้ตามเดิม
“เดี๋ยวเธอก็รู้เองนั่นแหละ”
อลินดาช้อนตาขึ้นมองคนตัวโตข้างกายด้วยความแปลกประหลาดใจ และก็ไม่สบายใจไปพร้อมๆ กัน
อลินดาที่นั่งลงบัญชีอยู่ที่โต๊ะทำงานต้องรีบเงยหน้าขึ้นจากตัวเลขทันที เมื่อเสียงกระหืดกระหอบของหทัยชนกดังขึ้นข้างๆ ตัว แต่หล่อนฟังไม่ถนัดนัก
“พี่นกพูดว่าอะไรนะคะ”
“แหม ยังจะทำมาเป็นไม่เข้าใจอีก”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกริ่มของหทัยชนกยิ่งทำให้ อลินดาแปลกใจ
“คือลินดาไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ”
หทัยชนกก้มหน้าลงมาหา และพูดออกมาอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่เพื่อนๆ ที่ทำงานอยู่ในแผนกบัญชีเดินมารุมล้อมรอบโต๊ะทำงานของหล่อน
“เธอเป็นภรรยาของท่านประธานตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย ทำไมไม่เห็นบอกให้พวกพี่รู้บ้างเลย”
อลินดาเบิกตากว้าง หน้าแดงก่ำสลับซีดขาว
“พี่นก… รู้ได้ยังไงคะ”
“ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวหรอกที่รู้เรื่องนี้ แต่พนักงานทุกคนในโรงแรมรู้กันหมดแล้วล่ะจ้ะ”
อลินดาช็อกพูดไม่ออก และเป็นครั้งแรกที่ค้นหาเสียงของตัวเองไม่เจอ
“พี่ก็ว่าแล้วเชียวว่าทำไมพักนี้ท่านประธานดอดมาเยี่ยมเยียนแผนกบัญชีบ่อยจัง ที่แท้ก็…”
หทัยชนกหยุดพูดเล็กน้อย และหันไปหัวเราะคิกคักกับเพื่อนๆ “ว่าแต่บอกได้ไหมว่าทำไมเธอถึงแต่งงานแทนพี่สาวล่ะ”
“เอ่อ… คือว่า…”
อลินดาไม่รู้จะอธิบายยังไงจึงอึกอักตะกุกตะกัก ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่แซคคารีย์ปรากฏตัวขึ้นพอดี
“พวกคุณทำอะไรกันน่ะ ไม่มีงานทำหรือไง”
เสียงห้าวกระด้างทรงอำนาจของแซคคารีย์ทำให้พนักงานที่กำลังรุมล้อมโต๊ะทำงานของอลินดาอยู่แตกฮือ
“มีค่ะท่านประธาน”
“นึกว่าไม่มี จะได้ให้กลับไปอยู่บ้านกันเฉยๆ” แซคคารีย์เค้นเสียงไม่พอใจออกมา
“พวกเรากำลังจะกลับไปทำงานน่ะค่ะ ไปพวกเรา”
แล้วพนักงานทุกคนที่อยู่รอบตัวของอลินดาก็พากันกลับไปทำงานอย่างว่องไว
แซคคารีย์ส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของอลินดา พร้อมกับอิงสะโพกกับขอบโต๊ะไม้
“ทำอะไรอยู่”
อลินดาช้อนตาขึ้นมองคนตัวโตที่ทำให้หล่อนลำบากใจอย่างโมโห
“คุณแซคบอกทุกคนว่าลินดาเป็น… เอ่อ… ภรรยาเหรอคะ”
“ใช่ ฉันส่งเมลบอกทุกคนเองแหละ”
อลินดาเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงตามความเคยชินแต่ก็ถูกแซคคารีย์ดุเหมือนเช่นทุกครั้ง
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ากัดปาก เดี๋ยวช้ำหมด”
หล่อนมองค้อนคนเจ้ากี้เจ้าการ
“แต่นี่มันร่างกายของลินดานะคะ คุณแซคไม่มีสิทธิ์มาบังคับสักหน่อย”
“แน่ใจหรือ”
คนตัวโตโน้มศีรษะต่ำลงมาหา ต่ำมากจนสายตาอยู่ในระดับเดียวกัน
“ต้องให้แสดงให้ดูไหมว่าฉันมีสิทธิ์อะไรในตัวของเธอบ้าง อลินดา”
แก้มนวลแดงก่ำ และเสหลบสายตาคมกริบด้วยความเอียงอายขัดเขิน
“เอ่อ… คุณแซคมาที่นี่มีอะไรเหรอคะ” หล่อนชวนเปลี่ยนเรื่องคุยกะทันหัน
แซคคารีย์ไหวไหล่กว้างน้อยๆ ก่อนจะหันไปลากเก้าอี้ที่ว่างอยู่มานั่งข้างๆ อลินดา
“ก็เธอไม่ยอมย้ายขึ้นไปนั่งทำงานบนห้องของฉันนี่ ฉันก็เลยต้องย้ายตัวเองมานั่งกับเธอในแผนกบัญชีแทน”
“คุณแซค…” หล่อนเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “อย่าทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้สิคะ”
“ฉันทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ”
ใบหน้าหล่อเหลาแสดงท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ออกมาอย่างน่าหมั่นไส้ ในขณะที่หล่อนอดเกรงใจเพื่อนพนักงานที่ทำงานร่วมกันในแผนกไม่ได้ เพราะทุกคนคงอึดอัดมากแน่ๆ หากแซคคารีย์จะเดินเข้าเดินออกที่นี่บ่อยๆ เช่นนี้
“คุณแซคเป็นประธานกรรมการนะคะ ไม่ควรจะมาอยู่ในห้องของแผนกบัญชี”
“ก็เมียฉันอยู่ที่นี่นี่น่า” เขายังคงยียวน “อ้อ ฉันลืมบอกเธอไป ฉันกำลังให้คนไปย้ายโต๊ะทำงานของฉันมาประจำที่นี่แล้วล่ะ”
“คะ?” อลินดาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “คุณแซค… พูดเล่นใช่ไหม”
ใบหน้าหล่อเหลาส่ายไปมาน้อยๆ และหัวเราะ “คนอย่างฉันพูดเล่นเป็นที่ไหนกันล่ะ นั่นไง มาพอดี…”
อลินดาหันไปมองประตูห้องของแผนกบัญชีที่เปิดกว้างออก พร้อมๆ กับพนักงานผู้ชายแผนกซ่อมบำรุงสองคนที่ยกโต๊ะไม้ขนาดใหญ่เข้ามา
นี่แซคคารีย์พูดจริงทำจริงเหรอเนี่ย!
“ท่านประธานจะให้เอาโต๊ะตั้งไว้ตรงไหนครับ”
แซคคารีย์ลุกขึ้น และมองไปรอบๆ ก่อนจะชี้มือชี้ไม้
“เอาโต๊ะของคุณสกุณาย้ายไปชิดกำแพงก่อน แล้วเอาโต๊ะทำงานของผมมาตั้งเอาไว้ข้างๆ กับโต๊ะทำงานของคุณอลินดา”
“ครับ ท่านประธาน”
อลินดามองหน้าของแซคคารีย์สลับกับโต๊ะทำงานที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายด้วยความมึนงง ซึ่งก็ไม่ใช่หล่อนคนเดียวหรอกที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตก เพราะเท่าที่เห็นสายตาของเพื่อนร่วมแผนกที่มองมายังหล่อน ก็เต็มไปด้วยความสับสนงงงวยไม่ต่างกัน
“คุณแซคคะ… อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”
“อยู่เฉยๆ เถอะน่ะอลินดา”
แน่ะ เขายังมีหน้ามาดุหล่อน ให้หล่อนอยู่เฉยๆ อีกต่างหาก ทั้งๆ ที่เขากำลังทำให้แผนกบัญชีของหล่อนปั่นป่วน
“แต่คุณแซคกำลังทำให้แผนกบัญชีวุ่นวายนะคะ”
“วุ่นวาย? ฉันเนี่ยนะทำให้แผนกบัญชีวุ่นวาย” ชายหนุ่มทำหน้า ยียวน ก่อนจะหันมองไปรอบๆ ห้อง “ไหนใครคิดว่าผมทำให้แผนกบัญชีวุ่นวายบ้าง ยกมือขึ้น”
แซคคารีย์ไหวไหล่น้อยๆ เมื่อไม่เห็นมีพนักงานบัญชีคนไหนแสดงความคิดเห็นแย้งออกมาเลย
“เห็นไหมว่าทุกคนยินดีต้อนรับฉัน”
“ก็ใครจะกล้าขัดใจท่านประธานกันล่ะคะ” อลินดาถอนใจออกมา
“ก็เธอไง ทั้งชอบขัดใจ และชอบหนีอีกต่างหาก” เขาเอียงหน้าเข้ามาใกล้ “ดังนั้นการเฝ้ามองเธอทุกฝีก้าวมันคือทางแก้ปัญหาที่ฉันคิดว่าดีที่สุด”
อลินดาช้อนตาขึ้นมองคนพูด หล่อนมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ นี่แซคคารีย์กำลังจะเล่นสนุกอะไรกันแน่
“คุณแซคทำแบบนี้ทำไมคะ ลินดาไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับคุณมากถึงขนาดต้องมานั่งเฝ้าหรอกค่ะ” หล่อนพูดออกไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“ก็ฉันยังไม่เบื่อของเล่นอย่างเธอนี่ ฉันก็ต้องหวงเป็นธรรมดา”
แล้วเขาก็เดินออกห่างจากหล่อน ไปหยุดใกล้ๆ กับพนักงานซ่อมบำรุงที่กำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายโต๊ะทำงาน หล่อนจ้องมองเขาน้ำตาเอ่อล้นสองขอบตาด้วยความน้อยใจ แต่แล้วก็ต้องรีบกะพริบไล่เมื่อเสียงของหัวหน้างานดังขึ้นเบาๆ ด้านหลัง
“พี่ว่าลินดาย้ายขึ้นไปทำงานบนห้องของท่านประธานเถอะนะ พี่ขอร้องล่ะ”
“แต่ว่า…”
“ลินดาไม่สงสารพวกเพื่อนๆ เหรอที่จะต้องมานั่งก้มหน้างุดลงบัญชีผิดบัญชีถูก เพราะมีท่านประธานมานั่งเป็นพระประทานอยู่กลางห้องน่ะ”
สีหน้าของหัวหน้างานเคร่งเครียด และมองหล่อนด้วยสายตาขอความเห็นใจ
“คิดว่าสงสารพวกพี่เถอะ”
อลินดาหันไปมองเพื่อนร่วมงานรอบๆ ตัว และก็ได้เห็นสายตาน่าสงสารของทุกคน
“ค่ะ ลินดาจะย้ายขึ้นไปทำงานห้องคุณแซคเองค่ะ”
รอยยิ้มโล่งใจระบายเต็มใบหน้าของหัวหน้างานและเพื่อนพนักงาน
“ขอบใจมากนะลินดา”
อลินดาฝืนยิ้มให้กับหัวหน้างานที่ตอนนี้ย่องกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานตามเดิมแล้ว ก่อนจะหันมามองแซคคารีย์ที่กำลังชี้มือชี้ไม้สั่งลูกน้องด้วยสายอ่อนอกอ่อนใจ
และในที่สุดหล่อนก็ต้องยอมแพ้ หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่ “ตกลงค่ะคุณแซค ลินดาจะย้ายขึ้นไปนั่งทำงานในห้องของคุณแซคค่ะ”
คนตัวโตเอียงหน้ามามอง ก่อนจะระบายยิ้ม “ทำไมเปลี่ยนใจง่ายนักล่ะ เมื่อเช้ายังยืนกรานว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ยอมขึ้นไปนั่งให้ฉันจ้องในห้องทำงานอยู่เลย”
ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ… อลินดาค่อนขอดผู้ชายจอมบงการตรงหน้าอย่างหมั่นไส้
“ก็ถ้าลินดาไม่ยอมขึ้นไป แผนกบัญชีก็คงจะระส่ำระสายน่ะค่ะ”
เสียงหัวเราะพึงพอใจดังออกมาจากลำคอแกร่ง เขามองหล่อนด้วยรอยยิ้มกริ่ม พร้อมกับโน้มศีรษะต่ำลงมาหา
“ก็ถ้าไม่ดื้อตั้งแต่เช้า คนอื่นก็ไม่เดือดร้อนหรอก” เขายังหัวเราะไม่หยุด ก่อนจะเอ่ยสั่งพนักงานซ่อมบำรุง “คุณสองคนยกโต๊ะทำงานของผมกลับไปไว้ที่เดิมนะ”
สีหน้าของพนักงานซ่อมบำรุงมีความแปลกใจไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามออกมา
“ครับท่านประธาน”
แซคคารีย์ดึงมือเล็กของอลินดามากุมเอาไว้แน่น และไม่ยอมปล่อยไม่ว่าเจ้าของมือจะพยายามดึงหนีแค่ไหนก็ตาม
“พวกคุณทำงานกันต่อเถอะ ขอโทษด้วยนะครับที่ลงมาทำให้วุ่นวายแต่เช้า”
“เอ่อ… พวกเราไม่ได้วุ่นวายเลยค่ะ ท่านประธานทำดีทำถูกต้องแล้วค่ะ”
หัวหน้างานของหล่อนรีบตอบกลับอย่างเอาอกเอาใจ และนั่นก็ทำให้แซคคารีย์ยิ่งยิ้มกว้าง ในขณะที่หล่อนอับอายจนหน้าแดงก่ำไปหมด
“เห็นไหม ทุกคนยังมีสมาธิในการทำงานดีเหมือนเดิม”
แซคคารีย์เอียงหน้ามากระซิบกระซาบที่ข้างหู
“เก็บของซะ แล้วก็ตามฉันขึ้นไปที่ห้องทำงาน โอเคนะ”
“เจ้าค่ะ”
หล่อนตอบรับเสียงกระแทกกระทั้นอย่างขัดใจ แต่คนตัวโตกลับไม่สะทกสะท้านอะไร
“ให้ฉันอยู่ช่วยเก็บของไหม”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ลินดาเก็บของเองได้”
เขาไหวไหล่กว้างน้อยๆ “งั้นให้เวลาสิบห้านาทีนะ ถ้าเกินกว่านี้ ฉันจะลงมาตาม”
“ขอครึ่งชั่วโมงไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้”
แล้วคนเผด็จการก็ผิวปากเดินออกจากประตูห้องทำงานของแผนกบัญชีไปในที่สุด ท่ามกลางเสียงเป่าปากถอนใจของพนักงานบัญชีทุกคนที่ดังขึ้น
อลินดาหันขอโทษขอโพยทุกคน ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของๆ ตัวเอง
“พี่ทำงานที่โรงแรมนี้มานานมากแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นท่านประธานจะเกเรแบบนี้มาก่อนเลย”
คำพูดของหัวหน้างานทำให้อลินดาหน้าแดงร้อนผ่าว
“ท่านประธานคงจะหวงลินดาจริงๆ นั่นแหละ”
“เอ่อ… คงไม่ใช่หรอกค่ะ”
“จะไม่ใช่ได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อลินดาเป็นภรรยาของท่านประธานนี่น่า จริงไหมพวกเรา”
หัวหน้างานของหล่อนหันไปถามเพื่อนร่วมแผนกอย่างหาพวก และทุกคนก็สนับสนุนความคิดนั้นเป็นเสียงเดียวกัน
“จริงค่ะพี่แป้ง”
“เอ่อ…”
หล่อนพูดตะกุกตะกัก ทั้งรู้สึกขัดเขิน ทั้งรู้สึกอับอาย จนไม่รู้จะวางตัวยังไงดี
“พวกเราขออวยพรให้ลินดามีความสุขมากๆ นะ แล้วก็อย่าลืมบอกให้ท่านประธานจ่ายโบนัสให้พวกเราหลายๆ เดือนด้วย”
เพื่อนๆ ร่วมแผนกทุกคนต่างยินดีกับหล่อน แต่หล่อนยังมีความรู้สึกค้างคาบางอย่างติดหนึบอยู่ภายในใจ ทำให้ไม่อาจจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เต็มที่นัก
“ขอบคุณทุกคนมากค่ะ”
อลินดาเก็บข้าวของของตัวเองใส่กล่อง โดยมีเพื่อนๆ ช่วยกันคนละไม้ละมือ จากนั้นก็ย้ายตัวเองขึ้นมานั่งทำงานอยู่ภายในห้องของแซคคารีย์ตามคำบัญชาของเขาอย่างไร้ทางเลือ
MANGA DISCUSSION