หากว่าเรื่องราวครั้งนี้ไปเกี่ยวพันกับจวนจิ้งโหวล่ะก็ นางกลัวว่าตนจะกลายที่เกลียดชังของคนในตระกูล
นางนั่งลงอย่างช้าๆ กู้ซือยืนเอามือกอดอกอยู่ตรงหน้านาง และจับตาดูนางอย่างเคร่งครัด
นางเงยหน้าขึ้นและถามกู้ซือว่า "เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าไท่ซั่งหวงต้องพิษกระไรกันแน่?"
กู้ซือปิดปากไว้แน่น ไม่กล่าวกระไรสักคำ
หยวนชิงหลิงรู้คนที่เป็นองครักษ์ย่อมเก็บความลับได้ดีกว่าใครๆ หากว่าพวกเขาไม่อยากจะเปิดเผย ไม่ว่างอย่างไรก็ไม่มีวันทราบอย่างแน่นอน
นางไม่สงสัยเลยที่ไท่ซั่งหวงจะถูกวางยาพิษ
เพราะเหตุการณ์ฝูเป่าก็สื่อให้เห็นแล้วว่า ดูเหมือนไท่ซั่งหวงจะเป็นหนามยอกอกของใครบางคน และมีคนหวังอยากสังหารพระองค์ให้เสียชีวิต
เพียงแต่ว่าตำหนักเฉียนคุนนั้นมีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น หากว่าวางยาในอาหารก็คงเป็นไปมิได้
หากจะวางยาพิษในพระโอสถของพระองค์ก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน เพราะจะมีคนลองพระโอสถที่หมอหลวงจ่ายเสมอ หากคิดจะวางยาพิษในพระโอสถของพระองค์ล่ะก็ คนคนนั้นต้องเป็นฉางกงกงหรือซีมามาอย่างแน่นอน ฉางกงกงและซีมามาคนใดคนหนึ่งจับตามองคนที่ลองยาพิษเอาไว้ หลังจากลองยาพิษเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็นำพระโอสถนี้ไปที่ตำหนักเพื่อให้ไท่ซั่งหวงเสวย
นางอยู่ที่ตำหนักเฉียนคุนมาสามวันจึงทราบกระบวนการนี้ดี
หากว่าไม่สามารถวางยาพิษในอาหารได้ เช่นนั้นก็มีทางเดียวนั่นก็คือ กำยาน
แต่ทว่าในตำหนักนั้นมิได้มีไท่ซั่งหวงเพียงผู้เดียว ฉางกงกงคอยรับใช้พระองค์อยู่ตลอดเวลา หากว่าไท่ซั่งหวงต้องยาพิษ ฉางกงกงก็คงต้องยาพิษเช่นกัน
อีกทั้งมีขันทีรับใช้พระองค์ที่เข้าออกตำหนักอยู่ตลอดเวลา ไทเฮา จักรพรรดิหยวนหมิงตี้และรุ่ยชินอ๋องก็ไปเยี่ยมพระองค์อยู่บ่อยครั้ง หากคิดจะวางยาพิษในกระถางจุดกำยาน นั่นเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างมาก
มู่หยูกงกงกล่าวว่าไท่ซั่งหวงหมอสติไป แล้วใครเป็นคนไปทูลต่อฝ่าบาทว่าตนจ่ายยารักษาให้พระองค์กันแน่?
ฉางกงกงหรือ? แต่ทว่าฉางกงกงไม่เคยเห็นนางนำยาไปให้พระองค์ขณะที่นางเข้าตำหนักพร้อมอวี่เหวินฮ่าว
นอกจากอวี่เหวินฮ่าวแล้ว ไม่มีใครทราบเรื่องนี้
แม้ว่าหากอวี่เหวินฮ่าวคิดจะทูลต่อฝ่าบาทจริงๆ แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ เพราะสองสามวันนี้เขามิได้เข้าวังเลย
หรือว่าเขาเคยบอกคนอื่นๆ? แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนโง่เขลาอะไรเช่นนี้ เขาทราบดีว่าหากมีการสืบค้นเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะก็ เขามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน และเรื่องนี้จะไม่ส่งผลดีใดๆ ต่อเขาเลย
หากมิใช่คนที่ไว้ใจได้จริง ๆล่ะก็ เขาจะไม่พูดมันออกมาอย่างแน่นอน
และถ้าหากเขามิได้กล่าวเรื่องนี้ออกไป ก็แสดงว่ามีคนเดาเรื่องนี้ถูก
แล้วใครกันที่สนใจทุกการเคลื่อนไหวของนางเช่นนี้?
มีเพียงสองคนเท่านั้น คือจี้อ๋องและฉู่หมิงฉุ่ย
จี้อ๋องจับตามองทุกคนที่เข้าไป โดยเฉพาะเมื่อตอนอวี่เหวินฮ่าวเข้าตำหนักไป เขาจะตั้งหน้าตั้งตาฟังความเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน
หรือว่าจะเป็นฉู่หมิงฉุ่ย? อวี่เหวินฮ่าวอาจจะเคยกล่าวเรื่องนี้กับฉู่หมิงฉุ่ยมาก่อน
เขาไว้วางใจฉู่หมิงฉุ่ยอย่างมาก และพวกเขาเคยอยู่ที่เจดีย์เหวินชางด้วยกันมาก่อน
สมมติว่าคนบอกข่าวนี้คือฉู่หมิงฉุ่ย นางจะไม่ทูลต่อฝ่าบาทโดยตรง แต่นางจะทูลต่อฮองเฮาก่อน
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน นางเงยหน้าขึ้นและถามกู้ซือว่า " ฮองเฮามิได้เห็นว่าข้านำยาไปให้ฝ่าบาท แล้วเหตุใดฝ่าบาทจึงเชื่อคำกล่าวของฮองเฮาล่ะ?"
นางจ้องมองไปที่กู้ซือ
กู้ซือเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและดวงตาของเขาดูประหลาดใจอย่างมาก แต่ทันใดนั้นสีหน้าทุกอย่างก็กลับไปปกติเช่นเดิม และเขาก็ยังไม่กล่าวกระไรสักคำ
หยวนชิงหลิงมิต้องการคำตอบของกู้ซือ นางเห็นสีหน้าเช่นนี้ของเขาแล้ว นางก็พอเดาได้แล้วล่ะ
ฮองเฮาเป็นคนทูลต่อฝ่าบาท และฮองเฮามิได้เป็นคนที่รอบขอบเช่นนี้ ฉะนั้นนางคิดถูกแล้ว ฉู่หมิงฉุ่ยเป็นคนนำข่าวนี้ไปปล่อยเอง
ดีมาก ฉู่หมิงฉุ่ย!
หยวนชิงหลิงรู้สึกขนลุกขึ้นมาในทันที
จวนฉู่อ๋อง
คือสถานที่ที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก
หยวนชิงหลิงถูกนำตัวเข้าพระราชวัง ทังหยางได้กล่าวเรื่องนี้ต่ออวี่เหวินฮ่าวในทันที
หลังจากที่อวี่เหวินฮ่าวทราบเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของเขาก็แย่ลงอย่างมาก ราวกับว่าเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก
เมื่อถึงเวลายามค่ำ ก็ยังไม่ได้รับข่าวใดๆจากพระราชวัง เขาจึงสั่งให้ทังหยางไปเตรียมเกี้ยวเพื่อที่จะเข้าวัง
ทังหยางพูดกล่อมเขาว่า " ท่านอ๋องบาดเจ็บอย่างมาก มิเหมาะสมที่จะเดินทางเข้าวังนะขอรับ"
"มิต้องกล่าวอะไรไร้สาระเช่นนี้"
"ท่านอ๋องขอรับ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เรารอดูอีกสักพักเสียดีกว่าขอรับ" ทังหยางกล่าว
"หากรอดูต่อไป แล้วสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา
"ไม่มีขอรับ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถหากทางแก้ที่เหมาะสมกับปัญหามากที่สุดขอรับ" ทังหยางถอนหายใจ "ตอนนี้ท่านอ๋องไม่เหมาะที่จะเข้าไปเกี่ยวพันกับปัญหาใดๆทั้งสิ้นขอรับ ตอนนี้ท่านบาดเจ็บสาหัส หากว่าไม่เข้าวังเพื่ออธิบาย ฝ่าบาทก็คงเข้าใจขอรับ แต่หากว่าท่านเข้าวังไปทั้งที่ยังบาดเจ็บสาหัส กลับจะทำให้ฝ่าบาททรงรู้สึกว่าท่านจงใจเอาความน่าสงสารมาพิสูจน์ว่าตนบริสุทธิ์ขอรับ"
"ซวีอี ไปเตรียมเกี้ยว" อวี่เหวินฮ่าวออกคำสั่งกับซวีอีโดยตรง
ซวีอีมองไปที่ทังหยางด้วยความลำบากใจ ท่านอ๋องบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ แม้แต่จะลงจากเตียงก็ทำไม่ได้ แล้วจะเข้าวังได้อย่างไร?
"ท่านอ๋อง โปรดไตร่ตรองอีกทีเถิดขอรับ!" ทังหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
แล้วอวี่เหวินฮ่าวมิได้ไตร่ตรองมาดีหรือไง? เขาไตร่ตรองมาดีมากแล้วต่างหาก
ตั้งแต่วินาทีที่หยวนชิงหลิงถูกนำตัวไป จิตใจของเขาไม่เคยหยุดนิ่งเลย
เขาได้คิดคำกล่าวโต้แย้งมากมา แต่ไม่ว่าจะโต้แย้งอย่างไร เขาก็ไม่สามารถดึงตัวเองออกจากเรื่องนี้ได้เลย
และความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดที่เขาคิดก็คือ หยวนชิงหลิงจะใส่ร้ายเขาว่าเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพื่อเอาตัวรอด
เป็นไปได้อย่างยิ่งที่หยวนชิงหลิงจะทำเช่นนี้ เวลาผ่านไปกว่า 1 ปี ช่วงเวลาที่นางอยู่จวนท่านอ๋องนั้น นางมิได้มีความสุขเท่าไหร่ และหากต้องเอาตัวรอด ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่นางจะทรยศเขา
หากว่าเป็นเขา เขาก็คงจะทำเช่นนี้แบบเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วระหว่างพวกเขาไม่มีแม้แต่ความเกื้อกูลที่สามีภรรยามีต่อกัน
ในขณะที่อวี่เหวินฮ่าวเตรียมตัวจะเข้าวัง คนเฝ้าประตูเดินมาอย่างเร่งรีบและรายงานว่า "ท่านอ๋องขอรับ ใต้เท้าอู๋เจ้ากรมการพระนครพาทหารมาขอรับ"
ทังหยางเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว "แสดงว่าจับฆาตกรที่ลอบสังหารท่านอ๋องได้แล้ว"
ซวีอีดูมีความสุข "เช่นนั้นก็ดีมากเลย"
แต่อวี่เหวินฮ่าวกลับรู้สึกว่าหนักหน่วงใจเล็กน้อย
เขามีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง
ใต้เท้าอู๋พาผู้คุมของกรมการพระนครมาที่นี่ ผู้คุมทั้งหกคนยืนอยู่หน้าประตู ส่วนใต้เท้าอู๋เดินเข้ามาในห้องโถง
ทังหยางถามว่า "ใต้เท้าอู๋ขอรับ ท่านพบมือสังหารที่ลอบสังหารท่านอ๋องแล้วใช่หรือไม่?"
ใต้เท้าอู๋พยักหน้า "ใช่ ข้าพบแล้ว"
เขาก้าวไปข้างหน้าและคารวะ " ข้าน้อยน้อมคารวะท่านอ๋องขอรับ"
"ยืนขึ้นได้!" อวี่เหวินฮ่าวมองไปที่เขา "มือสังหารรับสารภาพหรือยัง?"
ใต้เท้าอู๋มองจ้องไปที่อวี่เหวินฮ่าว "รับสารภาพแล้วขอรับ คราวนี้ข้าน้อยมาเพราะพระราชโองการของฝ่าบาทขอรับ"
สีหน้าของทังหยางเปลี่ยนไป " พระราชโองการอย่างนั้นหรือ?"
"ใช่แล้วขอรับ มือสังหารสารภาพแล้ว และเริ่มแรกมือสังหารยอมรับว่าเป็นคำสั่งของฉีอ๋องขอรับ แต่เมื่อใช้วิธีการทรมานต่างๆไปแล้ว มือสังหารก็เปลี่ยนคำสารภาพขอรับ โดยกล่าวว่าท่านเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังขอรับ"
ซวีอีกล่าวต่อไปว่า "ไร้สาระสิ้นดี ท่านอ๋องสั่งให้มือสังหารมาลอบสังหารตนเองอย่างนั้นหรือ? เรื่องโง่ๆ เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน?"
อวี่เหวินฮ่าวถามอย่างเงียบ ๆว่า " มือสังหารนั้นฆ่าตัวตายแล้วหรือ?"
"ท่านอ๋องคาดเดาถูกต้องแล้วขอรับ หลังจากที่รับคำสารภาพแล้ว มือสังหารก็ฆ่าตัวตายขอรับ"
อวี่เหวินฮ่าวยิ้มเบาๆ
ทนการทนมานไม่ไหว และฆ่าตัวตายหลังจากสารภาพว่าตนเป็นผู้วางแผนอยู่เบื้องหลัง เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล แต่เขาเสียชีวิตแล้วจึงไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ใดๆได้อีก
"ฝ่าบาททรงให้กระหม่อมมาทูลถามท่านอ๋องแล้ว สิ่งที่มือสังหารกล่าวมานั้น เป็นจริงหรือไม่ขอรับ?" ใต้เท้าอู๋กล่าว
อวี่เหวินฮ่าวส่ายหน้าช้าๆ "มิเป็นความจริง ข้ามิได้ทำเช่นนั้นแต่อย่างใด"
ใต้เท้าอู๋กล่าวว่า "หากเป็นเช่นนี้ ข้าน้อยขอตัวเข้าวังทูลต่อฝ่าบาทก่อนขอรับ ทางที่ดีสองสามวันนี้ท่านอ๋องอย่าได้ออกเมืองจะดีกว่าขอรับ"
"ข้าจะเข้าวัง" อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
"ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการว่า หากไม่มีพระราชโองการของพระองค์ ฉู่อ๋องห้ามเข้าวังเด็ดขาดขอรับ" ใต้เท้าอู๋กล่าว
ร่างกายของอวี่เหวินฮ่าวก็ค่อยๆย่อนลง " ข้าเข้าใจแล้ว ลาใต้เท้าอู๋เสีย"
ทังหยางโค้งคำนับและกล่าวว่า "น้อมลาใต้เท้าอู๋ขอรับ"
ใต้เท้าอู๋พยักหน้า แล้วคารวะ "ข้าน้อยน้อมลาขอรับ!"
เขาถอยกลับไปสองก้าว หันกลับไปและนำผู้คุมออกไป
ทังหยางเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า "ท่านอ๋องขอรับ ตอนนี้เรามิทราบว่าศัตรูเป็นใครกำลังทำกระไร แต่ศัตรูทราบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรา ฉะนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเคลื่อนไหวตามอำเภอใจจริงๆขอรับ"
MANGA DISCUSSION