พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 225 อดีตคู่แข่ง
บทที่ 225 อดีตคู่แข่ง
มีคนแก่อีกหลายคนที่รู้ว่าตอนนั้นถังต้าหลงชอบหลินอี้จุน ตระกูลหลินและตระกูลถังเกือบจะกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ในตอนนั้น ลู่เฉินดูเป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง และที่คอยติดตามถังชิงซาน
“เถ้าแก่หลินไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาอยู่บ้านก็ไม่เหมือนเป็นเจ้าของบ้าน ไม่งั้นเขาคงจะไม่ทำให้ลูกสาวของเขาเดือดร้อนได้อย่างนี้หรอก”
“หลังจากที่คุณแต่งงานกับสาวตระกูลหลิน คุณเคยพาเธอไปเที่ยวบ้างไหม ซื้อของแบรนด์ดังให้เธอบ้างไหม?”
คนแก่กลุ่มนี้ก็น่าเบื่อสุด ๆ พอพูดจี้จุดได้แล้วก็หัวเราะกันใหญ่ ดูท่าทางมีความสุขกันมาก
แต่สีหน้าของหลินดาไห่นั้นดูอับอายมาก เขาอยากจะแก้ต่างให้ลู่เฉิน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนเก่าเหล่านี้แล้ว ก็พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี
สีหน้าของวังเสวี่ยก็ดูไม่ค่อยสู้ดีนักเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงตะขิดตะขวงใจกับลู่เฉินอยู่บ้าง เธอจึงขีเกียจที่จะช่วยแก้ต่างให้ลู่เฉน
ใครใช้ให้ลู่เฉินช่วยหลินดาไห่จัดการเรื่องงาน แต่ไม่ได้ช่วยเธอ จนทำให้ทุกวันนี้เธอต้องไปทำงานทุกวัน
แต่เมื่อนึกถึงงานบำนาญที่ลู่เฉินจัดให้หลินตดาไห่ จู่ๆเธอก็ไม่ได้หลงไหลในงานปัจจุบันของเธอ ถึงขนาดที่ไม่มีอารมณ์อยากจะออกไปทำงานเลย
หลินอี้จุนทนดูไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกคนแก่ไม่รู้จักแก่พวกนี้ และไม่สนว่าจะหน้าไหนทั้งนั้น
“แต่ลู่เฉินกลับยื้อเธอไว้ และยิ้มอ่อนๆให้กับถังชิงซานพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลุงถัง สิ่งที่พวกคุณพูดมาทั้งหมดนี้ฉันยังไม่เคยทำเลย แต่ว่าตอนนี้ฉันซื้อบ้านให้อี้จุนแล้วหนึ่งหลังและเรากำลังจะย้ายเข้าในอีกสี่วัน ”
พอได้ยินที่ลู่เฉิ่นพูด ทุกคนต่างตกใจกันใหญ่โดยเฉพาะวังเสวี่ยดูสีหน้าของเธอรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก
เธอรู้ว่าลู่เฉินรวยมาก เธอจึงคิดแล้วว่าบ้านที่ลู่เฉินซื้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน อาจจะเป็นวิลล่าราคามากกว่าห้าหรือหกล้านก็เป็นได้
ถ้าหากว่าเป็นวิลล่าราคามากกว่าห้าหรือหกล้านจริงละก็ เวลานั้นคงก็หน้ากู้ตาให้กับพวกเขาได้
ถึงแม่ว่าลู่เฉินไม่ให้เธอเข้าไปอยู่ก็ตาม แต่เมื่อเธอเรื่องนี้พูดออกไปเธอก็จะดูมีหน้ามีตาอย่างแน่นอน
ก็นั้นมันคือวิลล่าของลูกเขยของเธอ
ถังชิงซานและคนอื่นๆต่างตกตะลึกกันไปตามๆกัน เมื่อมองไปที่ลู่เฉินเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลู่เฉินจะมีปัญญาซื้อบ้านได้ เขาไม่ได้ทำงานเป็นรปภ.เหรอ และเขาเอาเงินมาจากไหนเพื่อซื้อบ้านกัน?
กลัวว่าลู่เฉินอาจจงใจคุยโม้กับพวกเขาเท่านั้น
คนแก่คนอื่นๆก็ต่างคิดว่าลู่เฉิ่นคุยโม้ไปอย่างนั้น พวกเขาไม่ได้ยินว่าลู่เฉินเป็นรปภ.เพียงแค่ไม่กี่เดือน เขาไม่น่าจะรวยขึ้นภายในไม่กี่เดือนได้ โลกนี้คงไม่มีเรื่องโชคดีขนาดนนี้หรอก
“งั้นเหรอ อีกสี่วันสินะ ถึงเวลานั้นก็อย่าลืมบอกพวกเราล่ะ พวกเราอยากจะไปเยี่ยมดูบ้านใหม่ของนายซักหน่อย” ถังชิงซานพูดเหมือนเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องตลก คิดว่าถ้าถึงเวลานั้นจะหัวเราะเยาะให้สะใจเลย
“ผมไม่ลืมลุงถังแน่นอนครับ พวกคุณทุกคนก็อย่าลืมนะครับ อีกสี่วันผมจะให้คนรถเอารถไปรับทุกคนมานะครับ”ลู่เฉินพูดพร้อมยิ้มอ่อนๆ
“อั้ยหย่า อี้จุนนี่พวกเธอซื้อบ้านใหม่แล้วจริงๆเหรอนี้ อยู่แถวไหนแล้วดาวน์ไปกี่หมื่นล่ะ?”
และในตอนนั้นเอง ถังต้าหลงก็เดินลงมาจากชั้นสองพอดี เมื่อเขาได้ยินลู่เฉิ่นพูดถึงบ้านหลังใหม่ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย และเขาก็อดที่จะถามไม่ได้
เงินดาวน์หลักหมื่น นี่เห็นได้ชัดว่าเขากำลังดูถูกลู่เฉินอยู่ ตอนนี้ที่ยวี่โจวมีบ้านที่ต้องใช้เงินดาวน์หลักหมื่นที่ไหนกัน?
“อ่าว พี่หลงเองเหรอคะ บ้างหลังนี้ลู่เฉินเป็นคนซื้อค่ะ ฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าดาวน์ไปกี่หมื่น” หลินอี้จุนรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่ตอนนั้นถังต้าหลงเคยชอบพอในตัวเธอและก็รู้สึกทนไม่ได้ที่จะโต้กลับเขา
พอได้ยินหลินอี้จุนพูด ถังชิงซานและคนอื่นๆก็หัวเราะกันใหญ่
พวกเขาคิดแล้วว่าลู่เฉินต้องซื้อบ้านมือสองแน่นอน หรือจะเป็นบ้านราคาประหยัดแบบชนบทขนาด 4 – 5 พันตารางเมตร
บ้านแบบนั้นเทียบไม่ได้เลยกับบ้านสไตล์ฤดูร้อนของพวกเขา
“จริงสิลู่เฉิน ไม่งั้นให้ต้าหลงหางานให้นายไหม ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการอยู่ที่ เทคโนโลยีอี้ฉี เงินเดือนเกือบ 200,000 เขาสามารถช่วยคุณจัดงานอะไรก็ได้สักอย่าง ดีกว่าที่นายจะมาทำงานในตำแหน่งรปภ.อีกนะ “ถังชิงซานกล่าวอย่างโอ้อวด
เมื่อถังต้าหลงเห็นพ่อของเขาโอ้อวด สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ที่จริงแล้วเขาเป็นคนเก่งคนหนึ่งเลย และตอนนี้เข้าได้เข้าไปทำงานที่เทคโนโลยีอี้ฉี ในตำแหน่งผู้จัดการและกลายเป็นสมาชิกชั้นพนักงานของยวี่โจวได้เงินเดือนสูงพอสมควร มีแต่คนอิจฉาสิ่งที่เขามีนี้
ลู่เฉินมองไปที่ถังต้าหลง การจัดหางานของเทคโนโลยีอี้ฉี ควบคุมโดยเสี่ยวซูถิงเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับด้านความสามารถในการบริหารจัดการนี้ แม้ว่าฝ่ายบุคคลจะให้พวกเขาผ่าน แต่พวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบครั้งสุดท้ายจากเธออีกครั้ง
เสี่ยวซูถิงเป็นผู้จัดการมืออาชีพที่ มีความต้องการและเข้มงวดมาก โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยแย่เลย
ถังต้าหลงสามารถสมัครในตำแหน่งผู้จัดการของเทคโนโลยีอี้ฉี ได้ นั้นแปลว่าเขาต้องมีมีทักษะบางอย่าง
เมื่อลู่เฉินมองเขา ถังต้าหลงก็คิดว่าลู่เฉินกำลังรู้สึกอิจฉาเขาอยู่ เขาจึงยิ้มและพูดว่า “ที่พ่อของฉันเพิ่งพูดเมื่อกี้เป็นความจริงและถ้าน้องลู่ต้องการเปลี่ยนงานจริงๆ พี่สามารถช่วยได้นะ แต่ตำแหน่งบริหารพี่ไม่กล้ารับประกันแต่ถ้าเป็นตำแหน่งธรรมดาทั่วไปละก็ไม่มีปัญหา แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าตำแหน่ง รปภ.ที่ทำอยู่นะ”
ถึงแม้ว่าถังต้าหลงเคยชอบหลินอี้จุนจะเป็นจะตายเมื่อหลายปีก่อน แต่หลังจากที่หลินอี้จุนแต่งงานกับลู่เฉิน เขาก็ยอมแพ้ไป ตอนนี้เขาเองก็มีครอบครัว มีภรรยาและลูก และใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
โดยส่วนตัวแล้วเขาลืมอดีตที่ผ่านมานี้ไปนานแล้ว
เพียงแค่เพราะพ่อแม่ของเขามักจะพูดถึงเรื่องนี้ และเขาเองก็ยังสับสนอยู่บางครั้ง นี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ถังชิงซานเสียดสีลู่เฉินในวันนี้
“ดีเลยครับ ขอบคุณพี่ต้าหลงมากนะครับ ถ้าผมอยากเปลี่ยนงานเมื่อไหร่ ผมคงต้องขอความช่วยเหลือจากพี่แล้วล่ะครับ” ลู่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากถังต้าหลงได้รู้ความจริงว่าเจ้านายของเขาคือลู่เฉิน ไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร
“ลู่เฉินเธอซื้อบ้านอะไรเหรอตั้งอยู่แถวไหน แต่อย่าให้แย่ไปกว่าตระกูลถังนะ ถ้าถึงเวาลานั้นพวกเราทั้งครอบครัวจะถูก ถังชิซานหัวเราะเยาะเอาได้” ก่อนรับประทานอาหารหวังเสวี่ยดึงลู่เฉินมาคุยข้างๆ
หลินดาไห่ตามเขาออกมา เขาเองก็รู้ดีว่าลู่เฉินซื้อบ้านอะไร และคำพูดของถังชิงซานและคนอื่น ในวันนี้เข้าก็สัมผัสได้กับอะไรบางอย่าง เขาอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรมานัก แต่คำพูดของชายชราทั้งหลายก็ทำให้เข้ารู้สึกอึดอัดเช่นกัน
ลู่เฉินฉีกยิ้มก่อนที่จะตอบวังเสวี่ย ว่า “ถ้าไม่ดีเท่าบ้านฤดูร้อนของตระกูลถัง งั้นเราก็เช่าวิลล่ากันดีไหม เช่าเดือนเดียวจะเสียสักเท่าไหร่กัน ดีกว่าต้องมาเสียหน้าอีก”
หลินดาไห่พยักหน้าและกล่าวว่า “ก็มีทางนี้ทางเดียวแล้วล่ะ ไม่งั้นนะ ดูเอาเถอะพวกคนแก่ไม่รู้จักแก่พวกนี้ มีหน้ามาหัวเราะเด็กหนุ่มอย่างนาย ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนเก่า ฉันจะฉีกหน้าพวกนั้นตงนั้นแล้ว
ลู่เฉินหัวเราะ ไม่ว่าวังเสวี่ยจะดูเป็นหังหน้าตาของเธอ แต่ก็ยังคาดหวังว่าลู่เฉินจะไม่ถูกถังชิงซานและคนอื่น ๆ หัวเราะเยาะพอได้ยินคำพูดของเขา ในใจเขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกนั้น
“พ่อครับ แม่ครับ วางใจเถอะครับ ที่ฉันซื้อเป็นวิลล่าหลังใหญ่ และฉันก็จะไปรับพ่อแม่เพื่อไปอยู่ด้วยกันในอีกไม่กี่วันนี้ครับ ”
ลู่เฉินพูดด้วยสิหน้าจริงจิง