พี่เขยคลั่งสวาท - ตอนที่ 42
เป็นมุ่นมวยเอาไว้ที่ด้านหลัง รอบๆ ก้อนผมเสียบแซมเอาไว้ด้วยดอกเดซี่สีขาวพิสุทธิ์ กำลังก้าวเดินออกมาสู่สายตาของแขกเหรื่อที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของชีวิต
เวลาดำเนินมาถึงขั้นตอนสำคัญของพิธีสมรส น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมองตาสิงหา เขาดูโดดเด่นสะดุดตาอยู่ในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติติง กำลังทอดสายตามองมาที่หล่อนด้วยสีหน้าแย้มยิ้มยินดี
จากนั้นบาทหลวงซึ่งอยู่ในชุดสีขาวก็เดินออกมาที่หน้าแท่นพิธีด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม ยกคัมภีร์เล่มหนาขึ้นแนบอก กวาดสายตามองดูความพร้อมของบ่าวสาวที่ยืนเคียงคู่กันอยู่ตรงหน้า
ท่ามกลางเสียงเพลงรักที่บรรเลงขับกล่อมเบาๆ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่ช่างเป็นบรรยายกาศที่สุดแสนจะโรแมนติกและน่าจดจำเหลือเกินในความรู้สึกของน้ำผึ้ง ในชีวิตของหล่อนจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในวันนี้เลย
และแล้วช่วงเวลาสำคัญก็มาถึง เมื่อบาทหลวงเริ่มอ่านพระคัมภีร์ เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับรู้ถึงภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อกัน จากนั้นก็ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวได้กล่าวคำปฏิญาณรักซึ่งกันและกัน
“นาย ‘สิงหา’ ยินดีที่จะรับนางสาว ‘น้ำผึ้ง’ เป็นภรรยาหรือไม่”
บาทหลวงถามเจ้าบ่าว
“รับครับ…ข้าพเจ้าขอรับนางสาวน้ำผึ้งเป็นภรรยา และขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับเธอ ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสุขสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
บาทหลวงยิ้ม เหลือบมองมาทางเจ้าสาว
“นางสาวน้ำผึ้งยินดีที่จะรับนายสิงหาเป็นสามีหรือไม่”
“รับค่ะ…ข้าพเจ้านางสาวน้ำผึ้ง ขอรับนายสิงหาเป็นสามี และขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับเขาทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสุขสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาพราวไปด้วยความปลื้มปีติในรัก
“ทั้งสองสัญญาว่าจะรักและดูแลกันไปจนถึงวาระสุดท้ายของลมหายใจใช่หรือไม่”
บาทหลวงถามอีกครั้ง
“ครับ…”
“ค่ะ…”
จากนั้นบาทหลวงผู้ประกอบพิธีคนเดิมก็ถามขึ้นว่า
“มีสิ่งใดที่ใช้แทนคำสัญญานั้น”
สิ้นประโยคของบาทหลวง เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักน่าชังที่ทำหน้าที่ถือแหวน ก็นำแหวนเงินมาส่งให้เจ้าบ่าว สิงหารับแหวนแล้วบรรจงสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของน้ำผึ้ง พร้อมกับพูดว่า
“ขอมอบแหวนวงนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ตลอดไป”
จากนั้นเจ้าสาวก็รับแหวนอีกวง นำมาสวมให้กับเจ้าบ่าวที่นิ้วนางข้างซ้าย แหวนเงินกลมเกลี้ยงปราศจากรอยต่อ มีความหมายถึงความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด แล้วเจ้าสาวก็เอ่ยประโยคเดียวกัน
“ขอมอบแหวนวงนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความรักและความซื่อสัตย์ตลอดไป”
ท่ามกลางสายตาปลาบปลื้มยินดีของครอบครัวสิงหาและเพื่อนฝูงที่มาร่วมเป็นสักขีพยานให้กับคนทั้งสอง
“ขอบคุณพี่สิงห์ค่ะ…ขอบคุณที่สุด ขอบคุณที่ทำตามสัญญา ขอบคุณที่รักและดูแลผึ้งมาตลอด”
อีกสองวันต่อมา
หลังจากส่งบิดาและมารดาของตนเดินทางกลับอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย วันรุ่งขึ้นสิงหาพาเมียรักไปฮันนีมูนที่จังหวัดตราด
“ทะเลสวยมากค่ะพี่สิงห์”
น้ำผึ้งทอดสายตามองริ้วคลื่นด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ท่ามกลางท้องทะเลสีคราม พากันเดินทางมาด้วยเรือยอชต์ลำใหญ่ที่สิงหาลงทุนเช่าเอาไว้ เป็นเรือลำใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึงสิบคน
“อันที่จริงเราเช่าเรือลำเล็กๆ ก็ได้นะคะพี่สิงห์”
น้ำผึ้งไม่อยากให้เขาสิ้นเปลือง ไม่คิดว่าสิงหาจะเป็นสายเปย์ขนาดนี้ ถึงกับต้องเช่าเรือลำใหญ่ ทั้งที่มากันแค่สองคนเท่านั้น
“เรือใหญ่ย่อมดีกว่าเรือเล็กจ้ะ เวลาคลื่นแรงเรือใหญ่ปลอดภัยกว่ามาก”
“แต่มันแพงน่ะสิคะ”
“ไม่หรอก…พี่อยากให้ผึ้งมีความสุข”
สิงหาเช่าเรือยอชต์แบบเหมาทั้งวัน เขายอมจ่ายราคาสูงลิบลิ่วเพื่อที่จะได้ขับเอง หลังจากคุยกันจึงได้รู้ว่าราคาค่าเช่าเรือสูงถึงวันละห้าหมื่นบาท ซึ่งน้ำผึ้งรู้ว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับสิงหาที่ตอนนี้มีฐานะร่ำรวย หลังจากมีบริษัทรับสร้างบ้านเป็นของตัวเอง