พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 1641 จอมยุทธ์หญิงที่มีคุณธรรม
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 1641 จอมยุทธ์หญิงที่มีคุณธรรม
รพีพงษ์ยิ้มเยาะเย้ยและกล่าวว่า “พวกคุณช่างมีความอดทนเป็นอย่างมาก ที่ตามผมตลอด”
โลกนี้มันกลม ตอนนี้ถือได้ว่ารพีพงษ์ได้พบกับศัตรูคู่แค้น แต่เขาเพิ่งมาถึงแดนเทวะสถิต รพีพงษ์ไม่ได้คิดที่จะฆ่าคน
ไอ้หนวดมองไปที่รพีพงษ์ และกล่าวว่า “ไอ้หนู คุณไม่รู้จักหาความสนุกให้ตนเอง ไม่รู้หรือว่าตนเองนั้นมีความสามารถแค่ไหน ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะอยู่ข้างสัตว์เซียนตลอดเวลา และยังไงก็จะไม่ออกมาคนเดียว คุณออกมาคนเดียวเช่นนี้ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่กลัวความตายจริง ๆ”
รพีพงษ์สะบัดนิ้วแล้วกล่าวว่า “ผิดแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวความตาย แต่ผมไม่กลัวพวกคุณต่างหาก พวกคุณจะรับวรยุทธของผมได้สักกี่กระบวนท่า?”
รพีพงษ์มองพวกเขาด้วยความเหยียดหยาม ไอ้หนวดมองร่างกายที่เปราะบางของรพีพงษ์ และหัวเราะทันที รพีพงษ์มาจากเมืองอื่น ถ้าเขาเป็นคนท้องถิ่น ไอ้หนวดจะไม่กล้าพูดอะไร เพราะมียอดฝีมือที่ซ่อนตนอยู่มากมาย ส่วนรพีพงษ์นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย
แม้แต่สัตว์เซียนที่อยู่ข้างกายรพีพงษ์ เขาคิดว่ารพีพงษ์นั้นไปหลอกลวงจนได้มันมา
รพีพงษ์เด็กเกินไป แถมยังมีรูปลักษณ์ภายนอกที่เปราะบาง
“ไอ้หนู พูดจาไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ คุณไม่เคยสืบดูว่าผมเป็นใคร คนที่ล่วงเกินพี่หนวด มักจะไม่จบสวยหรอก เดิมทีผมไม่ได้เคียดแค้นคุณมากนัก ขอแค่คุณเอาเหรียญทองให้ผม คุณเสียทรัพย์แลกกับความปลอดภัย ผมก็มีเงินจำนวนหนึ่ง แต่ถ้าคุณไม่ยินยอม ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้”
รพีพงษ์ถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหมายความว่า ถ้าผมยินยอม แล้วเอาเงินให้คุณตอนนี้ คุณก็จะไป?”
รพีพงษ์มองพวกเขา และทนไม่ได้ที่จะลงมือ เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไป
ไอ้หนวดกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณยังคิดเพ้อเจ้อ เมื่อวานคุณทำให้ผมอับอาย และวันนี้ก็คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง ผมคิดว่าโลกใบนี้มันไม่มีเรื่องดี ๆ เช่นนี้หรอก ถ้าคุณคุกเข่าลงบนพื้นแล้วเรียกผมว่าคุณปู่สามครั้ง แล้วก็เอาเงินทั้งหมดของคุณออกมา ผมก็จะปล่อยคุณไป”
เมื่อรพีพงษ์ได้ยินประโยคนี้ ทำให้นึกถึงตอนที่เขาเป็นลูกเขยของตระกูลฉัตรมงคล ไอ้หนวดเป็นคนประเภทเดียวกันกับพวกเขา
เมื่อเห็นรพีพงษ์ไม่แสดงความกลัว ลูกน้องที่อยู่ข้างไอ้หนวดก็กล่าวว่า “พี่ใหญ่ คุณเห็นไหมไอ้หมอนี้ไม่เคยเห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย จัดการมันเลย”
“ไม่ต้องรีบ ผมคิดว่าไอ้หมอนี้กำลังชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอยู่ เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถเอาชนะเราได้ เขากำลังคิดว่าจะให้เงินพวกเราเท่าไหร่ พวกเราถึงจะปล่อยเขาไป” ไอ้หนวดพูดคุยกับลูกน้องที่อยู่ด้านข้าง
รพีพงษ์ได้พวกเขาสนทนาอย่างชัดเจน และรู้สึกขบขัน
รพีพงษ์มองไปที่ไอ้หนวดและทำลายจินตนาการของเขาทันที “พวกคุณอย่าคิดมาก ผมไม่ให้เงินพวกคุณหรอก และผมก็ไม่มีเงินด้วย แต่ถึงจะมีผมก็ไม่ให้พวกคุณหรอก”
ไอ้หนวดหยิบกระบี่ขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “ไอ้เด็กเปรตในเมื่อพูดด้วยดีไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ ผมคิดว่าคุณคงเบื่อชีวิตแล้ว”
เขาพุ่งออกมาขณะที่กำลังพูด รพีพงษ์ยืนนิ่ง ในสายตาของรพีพงษ์แล้วความเร็วของไอ้หนวดนั้นเท่ากับความเร็วของเต่า เขาสามารถโต้กลับและหลีกเลี่ยงได้ตลอดเวลา
เพราะเขาไม่มีผลการฝึกตน ดังนั้นตนเองก็ไม่สามารถใช้วรยุทธจัดการเขา
ก่อนที่รพีพงษ์จะลงมือ มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้ารพีพงษ์ และเตะไอ้หนวดจนพลิกคว่ำ
“แกมันคนพาล ปกติรังแกคนอื่นก็ช่าง คุณไม่เห็นหรือว่าพี่ชายคนนี้เป็นคนอ่อนแอ คุณยังทำลงอีก”
ไอ้หนวดขมวดคิ้ว เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้อายุน่าจะประมาณสิบแปดหรือสิบเก้า สวมชุดกระโปรงยาวสีเขียว ถือกระบี่อยู่ในมือ และเป็นจอมยุทธ์หญิง
ดูแล้วหน้าตาสวยมาก นี่คือความรู้สึกแรกของรพีพงษ์ เหมือนว่าจะมีอะไรสนุกให้ดูแล้ว
ไอ้หนวดเห็นผู้หญิงคนนี้ แล้วดุด่าว่า “สาวน้อย คุณจะเข้ามายุ่งทำไม ถ้ารู้จักดูทิศทางลมก็รีบไปให้พ้น คนที่พวกพี่ต้องการจัดการ ใครก็ขัดขวางไม่ได้”
“วันนี้ฉันบัวเขียวยุ่งเรื่องนี้แน่นอน ภูเขาลูกนี้เป็นของฉัน คุณมาหาเรื่องในเขตอิทธิพลของฉัน คุณคิดว่าฉันควรจะยุ่งหรือไม่ยุ่งดีล่ะ?”
บัวเขียวปกป้องรพีพงษ์ และกล่าวกับรพีพงษ์ว่า “คุณไม่ต้องกลัว กากเดนพวกนี้ไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก”
รพีพงษ์กล่าวว่า “ผม ผมไม่ต้องการ…….. ”
“ฉันรู้ คุณเป็นผู้ชายชาตรี คุณรู้สึกอายถ้าผู้หญิงอย่างฉันมาปกป้องคุณ แต่ไม่เป็นไร คนแบบคุณฉันเคยเห็นมาเยอะ ไม่ต้องอาย และไม่ต้องโอ้อวด เพราะพวกมันไม่ใช่คนที่สามารถล่วงเกินได้ง่าย ๆ”
บัวเขียวกล่าวกับรพีพงษ์อย่างดุดัน และไม่ให้โอกาสรพีพงษ์ได้อธิบาย รพีพงษ์ต้องการจะบอกว่าเขาไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง เมื่อมองจอมยุทธ์สาวสวยมีคุณธรรมที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นการไม่ดีถ้าจะทำให้เธอผิดหวังใช่ไหม
เมื่อ ไอ้หนวดได้ยินชื่อของบัวเขียว ก็กลืนน้ำลาย และกังวลอยู่เล็กน้อย แต่ไอ้หนวดรู้สึกว่า บัวเขียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าบัวเขียวทำเพื่อหนุ่มหน้ามนคนหนึ่งแล้วล่วงเกินพวกเขานั้นมันไม่คุ้มเลย
“บัวเขียวคุณคงจะไม่ชอบหนุ่มหน้ามนคนนี้น่ะ เพราะหนุ่มหน้ามนคนนี้เป็นคนของผม หากคุณจ่ายหนึ่งหมื่นเหรียญทอง ผมจะมอบเขาให้เป็นสามีของคุณ คุณคิดว่าไง?”
ไอ้หนวดมองไปที่บัวเขียว บัวเขียวด่าว่า “แม่งฉิบหาย คุณคิดว่าฉันเหลาะแหละเหมือนพวกคุณหรือ? ฉันแค่ไม่สามารถทนเห็นพวกคุณรังแกคนอื่นในเขตอิทธิพลของฉันเท่านั้น”
ไอ้หนวดรู้สึกว่าบัวเขียวนั้นปากไม่ตรงกับใจ เขาจึงพุ่งเข้าไปทันที บัวเขียวจับตัวรพีพงษ์ และบินไปบินมากลางอากาศ รพีพงษ์ถูกเหวี่ยงไปมาจนรู้สึกเวียนหัว
จากนั้นไอ้หนวดก็ถูกบัวเขียวทำร้ายจนล้มลงไปบนพื้น และร้องขอความเมตตาทันที
บัวเขียวใช้เท้าเตะไอ้หนวดและพูดอย่างลำพองว่า “ฉันอยู่ที่นี่มาไม่ใช่หนึ่งหรือสองวัน ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ แล้วยังจะมายั่วยุฉันอีก?”
ไอ้หนวดนอนอยู่บนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้ เขารู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้ลงมือโหดเหี้ยมมาก คนที่รู้จักพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ถือเป็นคนฉลาด และผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียงเรื่องฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น
ไอ้หนวดอ้อนวอนขอความเมตตา “ บัวเขียว ผู้ใหญ่ย่อมไม่ถือสาผู้น้อย เรื่องวันนี้เป็นเพราะผมไอ้หนวด มีตาแต่หามีแววไม่ ต่อไปถ้าคุณมีอะไรต้องการให้ช่วย ผมจะคอยปรนนิบัติรับใช้คุณอย่างแน่นอน คุณคิดว่าไง?”
รพีพงษ์ที่อยู่ด้านข้าง ตกตะลึงไปชั่วขณะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการปกป้องคุ้มครองจากผู้หญิง และฐานะตัวตนของเขายังเป็นหนุ่มหน้ามน
ทำให้อดคิดถึงอารียาไม่ได้ ตอนที่อยู่ในตระกูลฉัตรมงคล อารียาปกป้องตนเองจากการกลั่นแกล้งของศศินัดดา เธอก็จะยืนอยู่ข้างหน้าตนเอง และต่อต้านศศินัดดา ไม่รู้ว่าตอนนี้อารียาเป็นอย่างไรบ้าง ยังสบายดีอยู่ไหม
จากนั้นรพีพงษ์แล้วก็มองบัวเขียวที่อยู่ด้านข้าง เขาเห็นบัวเขียวเตะไอ้หนวดอย่างแรงสองครั้ง และกล่าวว่า “ต่อไปทางที่ดีคุณอย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก มิเช่นนั้น ฉันจะจัดการคุณทุกครั้งที่เห็นคุณ รีบพาคนของคุณไสหัวออกไป”
เมื่อเรื่องจบลง รพีพงษ์กล่าวขอบคุณ “ขอบคุณที่ยื่นมือช่วยเหลือ มิฉะนั้นวันนี้ผมอาจจะไม่สามารถพ้นภัยได้”
บัวเขียวมองสำรวจรพีพงษ์ ยิ้มแปลก ๆ และกล่าวว่า “ที่ฉันช่วยคุณนั้นมันมีเหตุผล คุณขึ้นไปบนภูเขากับฉัน และอีกสักครู่ฉันจะพาคุณลงมา คุณคิดว่ายังไง? ”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “สาวน้อย แล้วถ้าผมไม่ยินยอมที่จะไปล่ะ?”