พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก - ตอนที่ 1624 จุดประสงค์ของเดชา
- Home
- พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก
- ตอนที่ 1624 จุดประสงค์ของเดชา
พอได้ยินคำของผลิน ยัยหิมะก็ต้องขมวดคิ้วพูดขึ้นมาว่า “เรื่องการตายของแม่เธอไปเกี่ยวอะไรกับรพีพงษ์ล่ะ?”
ผลินถอนหายใจ ยัยหิมะไม่ได้อยู่กับพวกเธอ ก็เลยไม่รู้ แต่เธอก็ไม่กังวลที่จะบอกเรื่องนี้กับยัยหิมะ
แต่ว่าพอพูดที่มาของเรื่องนี้กับยัยหิมะนั้น ยัยหิมะก็ไม่เข้าใจตรรกะพวกนี้ นี่เป็นแม่แบบไหนกันแน่ เพื่อลูกตนเองแล้ว ทำได้ขนาดนี้เลยหรือ?
พอนึกถึงแล้ว ความรักของแม่ผลินที่มีต่อผลินนั้น ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ ถ้าพ่อแม่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ เธอก็ไม่อยากให้พ่อแม่ของตนเองเป็นเหมือนกับแม่ของผลินที่ต้องยอมทำขนาดนั้น
พวกเขารักลูกแบบแปลกๆ ถ้ารักลูกจริงๆล่ะก็ ก็ควรจะจัดหาชีวิตคู่ของลูกให้ดีๆ ให้ลูกได้แต่งงานมีลูกดีๆ
การใช้ชีวิตตนเองเพื่อแลกกับความสุขที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น การตัดสินใจแบบนี้มันโง่มาก
นี่คือความคิดส่วนตัวของยัยหิมะ และไม่ได้พูดออกมา เรื่องของคนอื่น มันไม่ค่อยเกี่ยวกับตนเองเท่าไรนัก เธอก็เป็นได้แค่ผู้ฟังเท่านั้น
ผลินนึกถึงแม่ตนเอง ในใจก็เจ็บปวด แม่ทำทุกอย่างเพื่อเธอ จะว่าไปแล้ว ถ้าแม่ของเธอไม่ตายไป เธอก็คงไม่ได้มีโอกาสอยู่ข้างรพีพงษ์
เรื่องพวกนี้ มันมีเหตุผลของมัน ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่ารพีพงษ์จะให้ตนเองอยู่ข้างๆ ไม่ไล่ไปไหน
ตอนเช้ารพีพงษ์เข้าป่าไป ก็ไม่ได้พาเธอไปด้วย ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัย ไม่ว่าอย่างอย่างไรก็จะให้รพีพงษ์เบื่อตนเองไม่ได้ แบบนั้นรพีพงษ์จะเหนื่อย ในใจตนเองก็รับไม่ได้เหมือนกัน
ยัยหิมะนึกถึงบวรวิทย์ แล้วก็ยิ้มพูดว่า “จริงๆ แล้วบวรวิทย์ก็ไม่เลวนะ ฉันได้ยินปริตรพูดถึงอยู่ ว่าก่อนหน้านี้บวรวิทย์ก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร”
“ก็ใช่น่ะสิ แต่พอได้เจอกับรพีพงษ์ ก็เปลี่ยนไปมาก เขาในตอนนี้ต่างกับเขาในตอนนั้น ราวกับเป็นคนละคนเลย”
ผลินพูดไป ก็นึกถึงตอนที่ตนเองเกือบจะถูกพ่อบ้านเตชิตทำร้ายนั้น บวรวิทย์ยังเป็นพวกผู้ร้ายด้วย ตอนนี้ถึงแม้ทุกคนก็ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ในใจก็ยังมีปม ไม่ได้สนิทชิดเชื้อมาก
ยัยหิมะจะบอกว่าบวรวิทย์สามารถเป็นตัวเลือกที่ดีได้ แต่ผลินปฏิเสธออกมาทันที
“ระหว่างฉันกับบวรวิทย์ รักษามารยาทระหว่างกันก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะให้ฉันกับบวรวิทย์พัฒนาไปอีกความสัมพันธ์นั้น มันเป็นไปไม่ได้”
เรื่องก่อนหน้านี้มันก็ได้เกิดไปแล้ว มันย้อนกลับไปไม่ได้ และเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ผลินคงไม่ยอมเผชิญหน้ากับบวรวิทย์ และอีกอย่าง ในใจของเธอยิ่งไม่อยากเผชิญหน้ากับเทวเทพมากกว่า
นิสัยของเทวเทพดูเหมือนจะไม่ค่อยดี ถ้าไม่ได้อยู่กับรพีพงษ์ ก็เป็นน้องสาวอยู่ข้างๆ รพีพงษ์ก็ถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุด
ยัยหิมะก็ขี้เกียจพูดอะไรกับผลิน ตอนนี้ในใจของผลินมีแต่รพีพงษ์คนเดียว คนอื่นไม่อยู่ในสายตาเลย
ตอนนี้ยัยหิมะดแต่เรื่องที่จะสามารถร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับปริตร ปกป้องปริตร ปริตรมีความฉลาดด้านกลยุทธุ์วิทยาหาร เธอมีพลังวิชาจากการฝึกตน ทั้งสองคนส่งเสริมซึ่งกันและกัน จะมีอะไรไม่ดีล่ะ
พอนึกถึงเรื่องนี้ก็ยิ้มออกมา ตอนที่ทั้งสองคนกำลังคุกันอย่างมีความสุขอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงที่ส่งออกมาจากทางในป่า มันเป็นเสียงร้องโหยหวนของคน
พอมองไปตามเสียง ก็เห็นทหารตัวอาเลือดวิ่งออกมา น่าจะเป็นคนของเดชา
ยัยหิมะก็จับตัวทหารไปให้รพีพงษ์ รพีพงษ์เห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น ถูกหมาป่ากัดหรือ?”
คนนั้นก็รีบคุกเข่าลงพื้น แล้วพูดว่า “พวกคุณอย่าฆ่าผมนะ ผมหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด ถ้าเข้าไปด้านในก็ตาย ผมสู้ตายในมือพวกคุณดีกว่า ผมยอมแพ้ จะยอมช่วยพวกคุณไปฆ่าแม่ทัพเดชา”
รพีพงษ์ก็ยังไม่เข้าใจ ต่อให้ถูกหมาป่าตามมา ก็ไม่ถึงขั้นขายเจ้านายตนเองแบบนี้
สุดท้ายทหารคนนี้บอกมาว่าเดชาให้พวกเขาวิ่งล่อหมาป่าออกมา แล้วเดชาจะดักหลังไว้ สุดท้ายรู้ว่าเดชาพาคนหนีไปแล้ว
เดิมทีทุกคนก็ไม่ได้สบายกันนัก ผ่านสงครามที่เมืองแฟรี่ เดชาช่างทำให้คนปวดใจจริงๆ
พอได้ยินทหารคนนั้นอธิบาย รพีพงษ์ก็พยักหน้าเบาๆ
เดชาจะทำเรื่องนี้ออกมาจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือตอนนี้คนของเดชาอยู่ในมือตนเอง
ก่อนหน้านี้ยังคิดจะใช้แผนยุแยงให้แตกแยกกันภายใน ตอนนี้มีคนมาอยู่ในมือตนเอง จะทำอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยหรอกหรือ?
“เดชาให้พวกเอ็งไปบุกโจมตีเมืองแฟรี่ มีจุดประสงค์อื่นหรือเปล่า ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ เดโชน่าจะเกี่ยวข้องกับเขา แถมยังเป็นญาติกันด้วย”
รพีพงษ์เองก็ไม่มั่นใจ ได้แต่แกล้งถามไป แต่ก็ได้ผลจริง ทหารคนนั้นบอกว่า “ถูกต้อง แม่ทัพเดโช เป็นพี่ชายของแม่ทัพเดชา พวกเขาสองคนล้วนทำงานให้กับนรเทพ แต่ว่าตายไปหนึ่งคน เห็นบอกว่าจะแก้แค้นให้กับนรเทพ”
“พวกเอ็งถูกหลอกแล้วล่ะ ที่บอกว่าจะแก้แค้นให้กับนรเทพนั้น เป็นเรื่องโกหก มันเป็นแค่ตัวหลอก เกรงว่าคงจะแก้แค้นให้กับพี่ชายมันเองมากกว่า อีกอย่าง ไม่ต้องสงสัยเลย กำลังทหารในเทวโลกส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือของเดชา อยากจะเป็นผู้นำของเทวโลก แล้วนั่งแทนตำแหน่งของนรเทพเองสิไม่ว่า”
พอได้ยินรพีพงษ์พูด ก็รู้สึกว่ารพีพงษ์คงไม่จำเป็นต้องหรอกตนเอง คิดว่ามีเหตุผลมาก
ทหารคนนั้นก็พยักหน้าพูดกับรพีพงษ์ว่า “คำนี้แม่ทัพเดชาพูดออกมาจริงๆ ตอนนี้นายท่านได้ตายไปแล้ว จะให้ตำแหน่งผู้นำของเทวโลกไปตกอยู่ในมือของคนอื่นไม่ได้ แต่ว่าผมคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า การจะนั่งตำแหน่งผู้นำแทน จะเป็นความคิดของแม่ทัพเอง”
พอได้ยินทหารคนนั้นพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็ใส่ไฟเข้าไปใหญ่ “ในเมื่อรู้ความจริงแล้ว ก็จะอยู่เฉยไม่ได้ เอ็งควรทำให้คนอื่นได้รู้จุดประสงค์ของเดชาด้วย พี่น้องทุกคนลำบากช่วยเหลือเดชาด้วยชีวิต สุดท้ายก็ยังมาหลอกลวงพี่น้องกันเองได้ คนแบบนี้ต่อให้เป็นผู้นำของเทวโลก คนที่เคยอยู่ข้างกายมัน ก็เกรงว่าจะมีจุดจบที่ไม่ดีเหมือนกัน”
รพีพงษ์พูดจับต้นชนปลายได้ดี ทหารคนนั้นได้ยิน ก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที
แต่ว่าตอนนี้ถ้าตนเองกลับไป ก็คงถูกหมาป่าฆ่าตาย ต้องการให้รพีพงษ์ช่วยป้องกันให้
รพีพงษ์ก็ให้เขากลับไป ตนเองจะไม่ฆ่าเขา หมาป่าพวกนี้ก็ไม่มีทางฆ่าทหารพวกนี้ได้หมดหรอก ถ้าทหารคนนี้ไม่กลับไป ก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เพราะถึงอย่างรพีพงษ์ต้องการให้เขาเอาข่าวนี้กลับไปบอกกลับคนที่สนับสนุนเดชา ให้รู้ถึงจุดประสงค์ของเดชา ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ แต่ก็สามารถทำให้จิตใจสั่นคลอนได้
ด้วยอารมณ์ของเดชา อาจจะไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ดี
ทหารคนนั้นจากไป บวรวิทย์ก็เดินเข้าไปหารพีพงษ์ แล้วถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมต้องทำแบบนี้ล่ะ?”
“ไว้ชีวิตมันเพื่อเป็นประโยชน์ ให้พวกมันแตกแยกกันเอง”
รพีพงษ์พูดจบก็ยิ้ม บวรวิทย์หายใจเข้าลึก แล้วพูดอย่างเอือมระอาว่า “ถึงอย่างไรผมก็หัวไม่ดี คิดอะไรมากไม่ได้ คุณไปพักผ่อนเถอะ มีเรื่องอะไรเดี๋ยวผมไปเรียกเอง มีสติมาถึงตอนนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ถ้าเป็นผมคงแย่ไปแล้ว”