ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 690 กินต่อไม่ไหวแล้ว
ตอนที่ 690 กินต่อไม่ไหวแล้ว
ตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนในตอนนี้ราวกับเป็นกลางวัน พระจันทร์เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ กลิ่นดอกไม้ไฟ กลิ่นของอาหาร และฝูงชนที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่ำคืนในเมืองอันเงียบสงบแต่เดิมกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
หลินต้ากั๋วและคนอื่นเดินไปข้างหน้า เลือกดูอาหารท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่านพร้อมฟังเสียงตะโกนสั่งอาหารของผู้คน พวกเขาเห็นผู้คนอยู่หน้าเต็นท์ขายของทั้งสองด้าน บ้างก็นั่งดื่มเบียร์ กินปิ้งย่างหม่าล่าพลางพูดคุยกันในหมู่เพื่อนฝูง ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความคึกคัก
ตลาดกลางคืนที่มีแผงขายของริมถนนหลายร้อยร้านมีความยาวเพียง 2-300 เมตร หลินต้ากั๋วและคนอื่นเดินมาได้ครึ่งทางแล้ว พวกเขากินเต้าหู้เหม็นจากที่ต่าง ๆ 4-5 แห่ง จนในตอนนี้ทุกคนเริ่มพุงออกแล้ว
“ฉันอิ่มมาก ! ”
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันกินไม่ไหวแล้ว ! ”
“แต่ยังมีอาหารอร่อยอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า ! ”
“คราวหน้าค่อยมากินอีกก็ได้”
“……”
เจียงชานและเจียงถิงก็มองดูอาหารอร่อยนับไม่ถ้วนตรงหน้าพวกเธอ ใจหนึ่งก็อยากจะกิน แต่ก็ยัดอะไรเข้าไปไม่ได้แล้ว
“ออกไปเดินย่อยกันดีกว่า ฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาแล้ว ! ” หลินเจียอินก็อิ่มเช่นกัน เธอจึงมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดขึ้น
เกาเทียนเยว่ เจิงเหลียงหยู และคนอื่นต่างก็รู้สึกไม่ต่างกัน
“ไปกันเถอะ ถ้ายังขืนกินต่อไป คืนนี้คงแน่นท้องจนนอนไม่หลับแน่นอน ! ” เมิ่งเหว่ยกล่าว
เจิงเหลียงหยูกล่าวว่า “โอ้ น่าเสียดายที่ตลาดตอนกลางคืนแบบนี้ไม่ได้อยู่ในเจียงเฉิง ถ้าครั้งหน้าเราอยากกินอีก เราก็ต้องบินมาที่ชิงโจวเลยนะ”
เกาเทียนเยว่ยักไหล่ “ถูกต้อง ! ”
หลินเจียหงทำหน้ามุ่ยและพูดว่า “แต่ทำไมในตอนนี้ฉันถึงรู้สึกว่าเจียงเฉิงเริ่มล้าหลังกว่าชิงโจวไปแล้วล่ะ ? ”
ขณะที่เธอพูด เธอก็เริ่มนับอย่างละเอียด
“ดูสิ ในเจียงเฉิงไม่มีสปานวดเท้า ! แต่ชิงโจวมี ! ”
“ในเจียงเฉิงไม่มีตลาดกลางคืน ! แต่ชิงโจวมี ! ”
“ในเจียงเฉิงไม่มีร้านหม้อไฟ ! แต่ในชิงโจวมี ! ”
“ในเจียงเฉิงไม่มีตึกสูง 33 ชั้น แต่ชิงโจวกำลังสร้างมันแล้ว ! ”
หลินต้ากั๋ว เจิงเหลียงหยู เกาเทียนเยว่ และเมิ่งเหว่ยต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินที่เธอเปรียบเทียบทีละอย่าง พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจียงเฉิงจะขาดอะไรไปมากมายขนาดนี้
หลินต้ากั๋วหยิบบุหรี่ออกมาอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็เอาไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งขึ้นมาจุด และพูดด้วยรอยยิ้มเหยเก “แม้แต่ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งก็ยังมาจากชิงโจว”
ชิงโจวแตกต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว !
เกือบทุกคนมีมุมมองนี้อยู่ในใจ
ฉีเย่ผิงและจางอี้เต๋อมีความสุขมาก การแสดงออกของผู้นำหลายคนก็ดูจะเป็นการชื่นชมพวกเขา
ในฐานะผู้บังคับบัญชาระดับหนึ่งและระดับสองของชิงโจว ก็เป็นธรรมดาที่ทั้งคู่จะรู้สึกภาคภูมิใจ
ทั้งสองมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋พร้อมกัน
ความภาคภูมิใจนี้มาจากเจียงเสี่ยวไป๋
ทั้งสองชื่นชมและรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มคนนี้จากใจจริง
ลมกลางคืนเริ่มเย็นลง แต่ตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนกลับไม่รู้สึกหนาวเลย
อาจเป็นเพราะความกระตือรือร้นของผู้คน !
“ถึงไม่กินก็ยังเดินเล่นได้ ! ” หลินต้ากั๋วหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบแล้วพูด
“โอเค เราลองมาเดินย่อยกันดูก่อน ! ”
“ใช่ ในเมื่อกินต่อไม่ได้แล้วก็เดินดูละกัน ! ”
“ฉันคงจะยัดอะไรเข้าไปไม่ได้อีกแล้วแหละ ! ”
“……”
เกาเทียนเยว่และคนอื่นพูดขึ้นมา
ทั้งกลุ่มยังคงเดินไปรอบตลาด และในไม่ช้าพวกเขาก็เดินมาถึงแผงขายปิ้งย่างหม่าล่า เมื่อเห็นบางอย่างเข้า ดวงตาของเจียงเสี่ยวไป๋ก็เป็นประกายขึ้นมา
“พ่อค้า ผมเอาหอยนางรมย่าง 50 ตัว ! ”
เกาเทียนเยว่และคนอื่นที่ได้ยินก็ตกตะลึง พวกเขาเพิ่งพูดออกไปว่ากินต่อไม่ไหวแล้ว แต่ทำไมถึงยังสั่งหอยนางรมตั้ง 50 ตัวอยู่อีก !
“คุณสั่งมากขนาดนี้คิดว่าจะกินหมดไหม ? ” หลินเจียอินถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ไม่ต้องกังวล ผมกินหมดแน่นอน”
หลินเจียอินยิ้มด้วยสีหน้าขมขื่น “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กินไปคนเดียวละกัน ฉันกินต่อไม่ไหวแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หอยนางรมเปรียบเหมือนนมจากก้นทะเล คุณต้องกินบ้าง จะได้บำรุงลูกที่อยู่ในท้อง”
หอยนางรมใช้เวลาย่างค่อนข้างนาน อีกทั้งเจียงเสี่ยวไป๋ก็สั่งเยอะ ดังนั้นทุกคนจึงนั่งรอที่โต๊ะในร้านปิ้งย่างหม่าล่า สูบบุหรี่และพูดคุยกัน
“เสี่ยวเจียง ทำไมไม่ไปเปิดตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืนที่เจียงเฉิงบ้าง ! ”
เจิงเหลียงหยูเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋แล้วถามขึ้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ปีนี้คงไม่ทันแล้วครับ ไว้ค่อยคุยกันปีหน้าดีกว่า”
เกาเทียนเยว่กล่าวว่า “งั้นก็ตามนี้ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “อย่างน้อยก็ต้องมีสถานที่ก่อน ถ้าไม่มีสถานที่จะทำได้อย่างไร ? “”
เกาเทียนเยว่ได้ยินแบบนั้นจึงถามขึ้นมาทันที “แล้วคุณต้องการสถานที่แบบไหน ฉันจะช่วยหาให้เอง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจ และรีบโบกมือ “ไม่เป็นไรครับ ถ้าผมมีเวลา ผมจะไปดูเอง ! ”
ในอนาคตจะมีถนนอาหารตอนกลางคืนขนาดใหญ่หลายแห่งในเจียงเฉิง ซึ่งเจียงเสี่ยวไป๋ก็จำสถานที่เหล่านั้นได้ทั้งหมด ตอนนี้แค่ทำเพียงไม่กี่แห่งก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนคนอื่นไปหาให้ เพราะการที่เขาหามันด้วยตัวเองก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
เกาเทียนเยว่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋เกรงใจ เขาจึงพูดว่า “เสี่ยวเจียง ไม่เป็นไร การที่ฉันจะหาสถานที่ในเจียงเฉิงสักสองสามแห่งนั้นไม่ใช่เรื่องไม่ยาก”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวขอบคุณเขา “ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ หลังจากที่ผมดูสถานที่แล้ว หากมีอะไรที่เป็นปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ ตอนนั้นผมจะรบกวนรัฐมนตรีเกาเอง”
เกาเทียนเยว่ดูโล่งใจขึ้นมาทันที “เอาล่ะ หากนายต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็บอกมาได้เลย”
ในขณะที่พูด พ่อค้าก็นำจานหอยนางรมย่างมาเสิร์ฟ
“ลูกค้า อันนี้คือที่ย่างเสร็จแล้ว กินรอไปก่อนนะครับ ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งที่กำลังย่างอยู่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเขา และชวนหลินต้ากั๋วและคนอื่นให้มาชิมด้วยกัน
“กินก่อนเลย ฉันค่อยกินทีหลัง ! ” หลินต้ากั๋วโบกมือ เขาหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นมาแล้วจุดไฟ
เกาเทียนเยว่และคนอื่นก็บอกว่าพวกเขาอิ่มแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่สนใจอีกต่อไป เขาหยิบตะเกียบคู่หนึ่งแล้วส่งให้หลินเจียอิน “ลองชิมดูสิ”
หลินเจียอินอิ่มมาก แต่เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ยื่นตะเกียบให้เธอ เธอก็ปฏิเสธไม่ได้
หอยนางรมข้างนอกอาจจะดูใหญ่ แต่ที่จริงแล้วเนื้อข้างในเป็นเพียงชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น เนื้อหอยนางรมถูกโป๊ะหน้าด้วยกระเทียมสับ จึงมีกลิ่นหอมหลังจากที่ย่างสุก
หลินเจียอินชอบรสชาติของกระเทียมสับ เธอจึงคีบหอยนางรมขึ้นมาและกินมันลงไป
รสชาติดี แต่คาวไปหน่อย !
ส่วนกลิ่นของกระเทียมสับก็ฉุนจนแทบจะกินไม่ได้เลย
หลินเจียอินหยุดกินหลังจากที่กินไปสองตัว
“ชานชานลองชิมสักตัวสิ ! ”
“ถิงถิงก็ลองชิมหนึ่งตัว ! ”
เจียงชานหยิบมันมาหนึ่งตัวแล้วกินมันด้วยรอยยิ้ม แต่เจียงถิงกลับปฏิเสธ
หลังจากที่เจียงชานกินไปตัวหนึ่ง เธอก็อุทานด้วยความประหลาดใจ “โอ้ หอยนางรมก็อร่อยดี แต่พื้นที่ในท้องของหนูเหลือไม่เยอะแล้ว”
เธอกินเร็วมากและกินไปหลายตัวติดต่อกัน
จากนั้น เธอก็ลองให้ทุกคนได้ชิมหอยนางรมย่าง โดยการที่เธอเดินไปเสิร์ฟทีละตัว
เจียงเสี่ยวไป๋ชอบกินหอยนางรมมาก ซึ่งเขาคนเดียวก็กินไปมากถึงสิบกว่าตัวแล้ว
ส่วนคนที่เหลือบ้างก็ไม่กิน บ้างก็กินไปแค่ตัวเดียว
หลังจากกินหอยนางรมเสร็จ ทุกคนก็หยุดกิน และเดินวนกลับไปที่เดิม พวกเขาออกจากตลาดถนนคนเดินตอนกลางคืน และขึ้นรถมินิบัสกลับไปที่เกสต์เฮาส์ชิงเจียง
“เอาล่ะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ! ”
“เมื่อถึงบ้านก็อาบน้ำนอนพักผ่อนซะ ! ”
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงเกสต์เฮาส์ หลินต้ากั๋วได้พูดขึ้นมาหลังลงจากรถ
หลินต้าเหว่ยจึงพูดว่า “พี่รอง เราเองก็พักที่เกสต์เฮาส์นี่แหละ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้า ! ”
หลินต้ากั๋วยิ้มและโบกมือ เขามองไปที่หลินเจียอินแล้วพูดว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของอินอิน ทุกคนควรกลับได้แล้ว มันแต่อยู่กับฉันมาทั้งวัน เดี๋ยวก็ฉลองวันเกิดให้เธอล่าช้าหรอก ! ”
ดวงตาของหลินเจียอินแดงเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดว่าลุงรองจะจำวันเกิดของเธอได้ด้วย
หลินต้ากั๋วกล่าวต่อ “อินอิน ลุงไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมาให้ แต่ลุงดีใจมากที่ได้เห็นหลานและเสี่ยวไป๋ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
หลินเจียอินกล่าวว่า “การที่ลุงรองต้องเดินทางจากเจียงเฉิงมางานของเราในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วค่ะ”
หลินต้ากั๋วหัวเราะ “เอาล่ะ กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าฉันจะกลับไปที่เจียงเฉิง ทุกคนไม่จำเป็นต้องไปส่งฉันหรอก”
ในที่สุดเขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “ครั้งต่อไปที่นายไปที่เจียงเฉิง ก็โทรหาฉันล่วงหน้าก่อนนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม และตกลงว่าจะกลับบ้านเพื่อไปฉลองวันเกิดของภรรยาเขาด้วย
เพราะเขาได้เตรียมเซอร์ไพร์ทเธอไว้แล้ว !