ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ - ตอนที่ 36
“กลับมาแล้วคะ…คุณแม่”
“ตายจริงกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ ทำไมเร็วจัง..”
“คือเรื่องมันเป็นแบบนี้..กระซิบ”
นีน่าเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับคุณเชลลี่ทราบ คุณเอลลี่เองก็เหมือนจะเกือบหลุดหัวเราะเป็นพักๆ คุณเชลลี่คงรู้สินะ ว่าผมสนุกแค่ไหนในวันนี้
“เรื่องมันเป็นอย่างงี้นี้เอง…แล้วมีเรียสนุกไหมจ๊ะ?”
“สนุกมากๆเลยค่ะ!! วันนี้หนูได้อยู่กับนีน่าทั้งวันเลย!!”
“งั้นก็ดีแล้วละ ถึงจะไม่ได้เจอแกรนวันนี้ แต่อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้ความทรงจำดีๆก่อนจะกลับแล้วสินะจ๊ะ”
“ค่ะ!!!”
ปฏิบัติการวันนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี ส่วนมีเรียน้องสาวแกรนเองก็จำเป็นจะต้องหายไปแล้วละ บ๊ายๆ
“เอ๋!! วันนี้มีเรียจะกลับแล้วเหรอคะ!! ทำไมคุณแม่ไม่บอกหนูละ!!”
“ก็ลูกไม่ได้ถามแม่นี้ เอาละได้เวลาลามีเรียแล้วละจ๊ะ”
“แต่ว่า…”
นั้นสินะ เธอคงจะใจหายมากเลยสินะ ที่เพื่อนของเธอจะไปวันนี้หลังจากพึ่งรู้จักกันสินะ
“วันนี้สนุกมากเลยละ!!! ขอบคุณนะนีน่า”
“ไม่จริงหรอก..ก็วันนี้มีเรียเจอกับเรื่องแย่ๆทั้งนั้นเลยนี้น่า”
จะว่าไปท่าเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ เจอแบบนั้นคงช็อคน่าดูเลยสินะ ทั้งโดนคนแก่ลวนลามแถมยังโดนแกล้งอีก
“ฉันสนุกจริงๆนะ วันนี้ได้เป็นเพื่อนกับนีน่าฉันก็พอใจแล้วละ ไว้จะเขียนจดหมายมาหานะ”
“มีเรีย..”
เธอเข้ามากอดผม โอ้วววว คัพBน้อยๆของนีน่าอีกแล้วละ!! วันนี้โชคดีจริงๆ!!
“ฉันก็เหมือนกันดีใจจริงๆ ที่ได้เป็นเพื่อนกับมีเรียนะ ไว้เจอกันอีกนะ”
“อืม!! ไว้เจอกันอีก!!”
ผมกับนีน่าต่างส่งยิ้มให้กัน เอาละ…แล้วตูจะไปไหนได้วะ.. ตรูเองก็พักอยู่ที่นี้ด้วยสิ แถมเสื้อผ้ากับเงินเองก็อยู่ในห้องไม่ได้พกไปแม้แต่มีดสั้นที่เอาไว้กรีดหน้าตัวเองด้วยซ้ำ!!
“เอาละๆ ในเมื่อลากันเสร็จแล้วนีน่าก็ไปล้างจานได้แล้วสินะ”
Good Job คุณเชลลี่งานดีมากครับ
“เอ๋!! ไหนบอกคุณแม่บอกจะทำที่เหลือให้ไงคะ!!”
“ก็แม่ทำหมดแล้วเหลือแต่ล้างจานนี้น่า แถมแม่เองก็จะไปส่งมีเรียด้วย ขืนให้ลูกไปส่งรอบนี้คงโดนอะไรที่มันเลวร้ายกว่าเดิมแน่ๆ ลูกอยากให้มีเรียมีความทรงจำร้ายๆ ก่อนออกจากเมืองเหรอจ๊ะ?”
“อึก..เข้าใจแล้วคะ ท่างั้นบายๆ!!”
“บายๆ”
ผมโบกมือลานีน่าที่วิ่งเข้าไปหลังร้าน เอาละต้องไปกรีดหน้าตัวเองอีกแล้วสินะ เหนื่อยจริงๆเลยนะวันนี้
“มีเรียเองก็อย่าลืมไปปรับความเข้าใจกับคุณก้าก้าด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ คุณน้า”
ผมพูดตอบรับคุณเชลลี่ วันนี้พอได้เห็นนีน่าผมก็รู้แล้วละ ว่าผมหงุดหงิดเรื่องอะไร ผมเข้าใจดีแล้วละ
“กลับ มาแล้ว เหรอ?”
หญิงสาวที่พูดได้ทีละโยคเอ่ยถามผมในขณะที่นั้งอยู่บนเตียงเดียว ที่นี้เป็นห้องที่เล็กกว่าเดิมแต่มันก็โอเคแล้วละ สำหรับพวกเราในตอนนี้ละนะ
“ก้าก้าจำได้ไหมตอนเช้าที่ฉันบอกว่าตอนนี้รู้สึกหงุดหงิด”
“จำ ได้”
“ฉันรู้แล้วละ ว่าตัวเองหงุดหงิดเรื่องอะไร มันเป็นเหตุผลที่ดูงี่เง่ามากแต่เธอช่วยฟังหน่อยได้รึเปล่า ก้าก้า”
“อืม”
ผมเดินไปนั้งที่เตียงข้างๆเธอ เธอดูตกใจนึดหน่อยนะ
“ตลอดการเดินทางเรามาที่นี้นะ ฉันรู้สึกตัวเองไร้ค่ามากเลยละ เธอแข็งแกร่งมากๆ เมื่อเทียบกับฉันที่ทั้งอ่อนแอและอวดดี พอเห็นเธอต้องต่อสู้คนเดียวมันก็ยิ่งตอกย้ำความอ่อนแอของฉันสุดๆ”
“ไม่ หรอก ก้าก้า ก็แค่ ทำ สิ่ง ที่ทำ ได้ เท่านั้น”
ก้าก้ายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ฉันนี้โชคดีจริงๆ ที่ได้เธอมาอยู่เคียงข้างผมนะ
“จะว่าไปทำไมก้าก้าถึงมาถอดกางเกงของฉันละ?”
“หัวหน้า เคยบอก ห้าม โกหก พวก เดียวกัน”
ที่แท้เธอไม่อยากโกหกคุณเชลลี่เพราะเป็นพวกเดียวกันสินะ คุณร็อดนี่ก็สอนมาดีอยู่หรอก แต่มันทำผมเดือดร้อนนี้สิ แต่พอเธอพูดซื่อๆ แบบนี้ผมก็โกรธไม่ลงสิ
“เข้าใจแล้วละ ถ้างั้นเรื่องนั้นฉันจะยกโทษให้ละกัน”
“ขอบคุณนะ…”
“จริงเหรอ แกรน ไม่โกรธ ก้าก้า เหรอ”
“โกรธสิแต่ยกโทษให้แล้วละ ฉันไม่ใช่คนติดใจเรื่องเล็กน้อยหรอกนะ”
“ขอบ คุณ”
ดูเหมือนก้าก้าจะดีใจที่ผมยกโทษให้เธอนะ ดีแล้วละ
“จริงสิ!! จะว่าไปมีคนอยากคุยกับเธอด้วยละ”
ผมเกือบลืมเรื่องนั้นไปเลย ถ้าไม่ให้ก้าก้าไปคุยกับผมแบบจริงๆ จังๆ ละนะ ไม่งั้นความหงุดหงิดนี้คงจะอยู่อีกนานแหงๆ
“ใคร เหรอ?”
“ก็ฉันนี้แหละ มีเรีย ไง”
“?”
ก้าก้าเอียงคอด้วยความงุนงงเธอไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่แกรนพูดกับเธอ
“ไม่ต้องงงไปหรอกตอนนี้ ฉันคือ’มีเรีย’ยังไงละ”
“ก้าก้า ไม่เข้าใจ..”
“ไม่เป็นไรๆ ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องเข้าใจก็ได้ แต่ฉันก็แค่อยากจะบอกว่าห้ามเอาสิ่งสำคัญของตัวเองให้คนอื่นเด็ดขาดเลยนะ”
“….”
ก้าก้าเงียบไม่ตอบอะไรกับมีเรีย ส่วนทำมีเรียเองก็ทำหน้าบึ้งหน่อยๆ
“อย่างที่คิดเธอไม่เข้าใจจริงด้วย.. เอาเถอะเดี๋ยวอธิบายให้ฟังละกัน จำได้ไหมที่เธอให้เงินเพราะอยากทำให้ฉันดีใจนะ”
“จำได้..”
“ฟังนะ เงินนั้นนะเป็นของๆเธอแล้วควรจะรักษามันไว้ดีๆ ไม่ควรจะยกให้คนอื่นง่ายๆหรอกนะ ถึงเธอจะอยากทำให้ฉันดีใจก็เถอะ แต่เงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเธอ ถ้าคิดจะให้ก็แบ่งมาเล็กน้อยก็พอ ไม่ต้องให้ฉันหมดหรอก เข้าใจไหม?”
“เข้า ใจแล้ว..”
“ดีมาก..งั้นก็ขอเวลากลับไปเป็นแกรนแบบสมบูรณ์ก่อนนะ”
มีเรียยิ้มให้กับก้าก้าและลุกถอดชุดผู้หญิงออกตอนเผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าของเธอ ที่มีเพียงชั้นในช่วงล่าง เธอเดินไปช้าๆหยิบมีดสั้นบนโต๊ะข้างเตียงและเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อส่องกระจกดูใบหน้าตัวเอง
“น่าจะประมาณนี้แหละ….อืม กลับมาเท่เหมือนเดิมแล้วละ!!”
มีเรียพูดพร้อมกับยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ใบหน้าของมีเรียถูกกรีดเป็นแผลรูปกากบาด ตอนนี้เลือดของเธอไหลอาบเต็มใบหน้า
“[Heal]”
เลือดค่อนๆหยุดไหลบาดแผลเองก็เริ่มสมานตัวเรียบร้อย แต่ยังคงทิ้งบาดแผลทิ้งไว้อยู่เป็นรูปกากบาด
“เฮ้อ~ เลือดออกเยอะกว่าที่คิดแหะ แย่ชะมัด”
ผมหยิบผ้าหน้ากระจกมาเช็ดเลือดที่ใบหน้าของตัวเอง แย่แหะไหลจนไปถึงอกเลยแหะ จะว่าไปช่วงนี้กล้ามเนื้อมันดูหดๆ รึเปล่านะ สกสัยต้องออกกำลังกายเพิ่มแล้วสิ
“อ๊ะ!! โทษทีนะ ช่วยหยิบชุดตรงนั้นมาหน่อยได้ไหมก้าก้า”
ผมพูดพร้อมชี้ไปที่กองเสื้อผ้าที่ผมถอดทิ้งไว้ เนื่องจากตอนนี้กำลังเช็ดเลือดอยู่เลยไม่ว่างอะนะ แต่พอแก้ผ้าต่อหน้าก้าก้าแบบนี้ก็เขินๆเหมือนกันแหะ แม้ปกติอยู่ตรงที่นั้นจะแก้ผ้าแทบรายวันก็เถอะ แต่ยัยพวกนั้นไม่นับอะนะ
“เป็นอะไรรึเปล่าก้าก้า?”
เหมือนเธอกำลังงงๆอยู่แหะ ช่วยไม่ได้แหะคงต้องเดินไปหยิบเสื้อผ้าเองแล้วละมั้ง
“เธอ เป็นใคร?”
“หืม? อ๋อๆ ตอนนี้อะนะ ก็แกรนไง”
“มีเรีย ไป ไหน?”
“ถ้าถามว่าไปไหน? ก็อยู่นี้ไง ถามอะไรแปลกๆ”
“ไม่ใช่ บรรยากาศ ต่าง กัน”
“จริงดิ? เอาเถอะก็อย่างว่านั้นแหละ ฉันใช้นิสัยและความจำของเขาเป็นหลัก บรรยากาศก็เลยต่างกันนั้นแหละ”
ก็นะ ช่วยไม่ได้ผมเองก็ต้องใช้ความทรงจำและนิสัยแบบนี้ในการใช้ชีวิตอะนะ ไม่งั้นชีวิตคงน่าเบื่อแย่ จะอธิบายยังไงดีนะ..เอางี้ละกัน
“ถ้าอธิบายง่ายๆ มีเรียรวมกับเขา รวมร่างกัน คือแกรน ที่เธอรู้จักไง ส่วนนิสัยและความทรงจำจริงๆ ของฉัน ก็ไม่ได้ใช้มันแล้วละ สบายใจได้”
ผมพูดพร้อมกลับมาใส่เสื้อผ้าตามเดิม ฟุดๆ เหม็นแหะ หวังว่าเนียร์กับฮาลยังเก็บของ ของผมไว้อยู่นะ ไม่งั้นคงต้องใส่เสื้อผู้หญิงที่พวกนั้นให้มาไปซักพักอะนะ