ผมคือนักบุญหญิงที่เป่ายิ้งฉุบมาเกิดใหม่ครับ - ตอนที่ 3
“ม่ายยยยย!!! น้องชายฉานนนนน!!!”
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในห้องที่คุ้นเคย โต๊ะคอมและคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมส์ เสียงนาฏิกาปลุกที่กำลังเดิน เมื่อสัผัสที่เป้าก็ ยังอยู่ ทุกอย่างมันแค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง…
ตกใจหมดเลย ฝันเหมือนจริงชะมัดยาดแถมเป็นแบบฝันซ้อนฝันอีก
“ตื่นแล้วเหรอคะ?”
“เฮ้ย!!!”
จู่ๆสาวนางฟ้าก็โผล่มาอีกครั้ง แถมยังมาอยู่ข้างๆ ตอนไหนก็ไม่รู้
มันควรเป็นฝันไม่ใช่รึไงวะ? หรือว่าตูจะหลอนไปเอง
อ๊ะหรือตอนนี้อาจจะฝันอยู่ก็ได้ ท่าได้ลองนอนอีกรอบละก็…
“ทุกอย่างไม่ใช่ความฝันหรอกนะคะคุณนักบุญ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงคะ”
ไม่จริงน่าเธอรู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร
“ก็แค่ได้ยินเสียงจากจิตใจคุณเท่านั้นแหละคะ”
“ธะ…เธอรู้ได้ว่าฉัน–”
“หมดเวลาแล้วคะ”
ยังไม่ทันได้พูดจบ จู่ๆ แสงสว่างที่ชวนแสบตาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง รู้สึกว่าช่วงจะโดนแสงสว่างบ่อยเกินไปแล้วมั้ง…..
.
.
.
“สุดท้ายก็กลับมาที่ซอยนี้สินะ”
หลังจากที่โดนแสงสาดเข้าตาก็กลับมาโผล่ที่ซอยนี้อีกครั้ง แต่รอบนี้รู้สึกไม่อยากเดินออกเลยวุ้ยเอาเป็นว่านั้งพักรอที่นี้หน่อยละกัน
ในซอยนี้ก็ไม่เลวเลยแหะทั้งเสียงสงบแถมลมก็เย็นสบายอีกและ–
ครืดดดดด!!!
นั้นเสียงอะไรวะ??? แถมไอ้เพลงสุดเร้าใจเหมือนตอนไล่ล่าที่มันดังอยู่ในหัวนี้มันอะไรวะ อย่าบอกนะว่า…..
“หึหึหึหึหึหึๆๆๆๆ”
เมื่อหันไปมองที่ต้นเสียงนั้นก็พบกับ ชายร่างใหญ่ผิดมนุษย์กำลังหัวเราะเหมือนฆาตกรกำลังเจอเหยื่อที่ตัวเองไล่ล่า แถมในมือยังถือเคียวลากไปมาอีก อืม…ตูจำไม่ได้นะว่าเคยไปกดเข้าเกมส์ identity v ตอนไหนถึงมีHinterมาไล่ตูเนี้ย
ครืดดดดดดดดดดดด!!!!!
เฮ้ยๆไอ้บ้านั้นไล่กวดมาแล้วโว้ยยยยย!!!!
“อะ..ออกไปซ้า~”
“เออไปก็ได้วะ!!! อย่าวิ่งตามมานะโว้ยยยยย!!!”
ฆาตรกรวิ่งไล่ผมมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็ถูกไล่ล่าจนต้องจำใจออกจากซอยที่เงียบสงบแห่งนี้ อ่า~แสบตาชิบหายเลย รู้งี้น่าจะหยิบแว่นกันแดดมาด้วย
.
.
.
.
เมื่อลืมอีกครั้งก็พบกับสาวน้อยผมชมพูที่กำลังจ้องหน้าผมในระยะประชิดจนเกือบเรียกได้ว่าแทบจะจูบกันได้เลยทีเดียว เฮ้ยๆแบบนี้ไม่ค่อยจะดีม้างงงคุณผู้หญิงท่ามีใครมาเห็นละก็ผมคงโดนยัดเข้าซังเตแหงๆ
“อาจารย์ค่า~ เธอตื่นแล้วค่า~”
สาวน้อยผมชมพูคนนั้นหันไปพูดกับผู้หญิงผมทองที่นั้งอยู่ข้าง ๆ ใช่แล้วเธอคือยัยผมทองที่เอาแสงสาดตาผมนั้นแหละ
“ขอบคุณที่ช่วยดูให้นะคะ คุณมิระกรุณาไปพักผ่อนเถอะ ดิฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอสักหน่อย ”
“ค่า~”
สาวน้อยผมชมพูก็เดินจากปล่อยผมไว้กับผู้หญิงผมทองซึ่งตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ผ้าคลุมแล้ว ชุดตอนนี้ของเธอเป็นเสื้อเชิตสีขาวปกติซึ่งมันช่างลามกเหลือเกิน หน้าอกที่ส่ายไปส่ายมาทุกครั้งที่มันขยับนี้มันสุดยอด แค่นี้ก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่ยิ่งใหญ่แล้ว!!!
“อะ แอ่ม ดิฉันชื่อ มิเอล ฟราซเซ็ท คะ เป็นอาจารย์สอนเวทสนับสนุน ถึงแม้จะไม่ค่อยอยากยอมรับ แต่เธอเองก็เป็นหนึ่งในสถาบันเวทมนต์แห่งนี้แถมเธอก็ยังถูกส่งมาจากศาสนจักรด้วยเพราะฉะนั้น…ฟังอยู่รึเปล่าคะ?”
“เหะๆ อะ..ขอโทษทีครับ ผมกำลังฟังอยู่ครับ”
เกือบซวยแล้วสิท่าเจ้าหล่อนรู้ว่าเราจ้องหน้าอก มีหวังโดนสาดไอ้แสงประหลาดนั้นอีกรอบจนตาบอดแหงๆ
“งั้นช่วยบอกได้ไหมคะว่าดิฉันชื่ออะไร”
“ชิเอล ชาญเซ็กใช่มั้ย?”
“มิ เอล ฟราน เซ็ท ต่างหากคะ!!!! ให้ตายสิท่าไม่ใช่เพราะทางศาสนจักรส่งคุณมาฉันคงไปรายงานเรื่องนี้ให้อาจารใหญ่พิจารณาไล่คุณออกจากโรงเรียนเวทมนต์แห่งนี้แล้วคะ”
“คุก..ฮ่าๆๆๆ โรงเรียนเวทมนต์? เอาจริงดิ? ก๊ากฮ่าๆๆๆๆ”
ผมหัวเราะออกมาเต็มที่หลังจากที่เธอพูดจบ นี้มันอะไรกันเราหลงมาอยู่ในเรื่องเวทมนต์เหรอเนี้ย? ฮ่าๆ บ้าบอเวทมนต์ที่ไหนมีจริงกันละท่ามีคงมีแต่ในเกมส์เท่านั้นแหละ!!!
“ช่างเป็นผู้หญิงที่ไร้มารยาทถึงเพียงนี้เลยเหรอคะ ไม่อยากเชื้อเลยจริงๆ”
“หา? เด็กผู้หญิง”
ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเพี้ยนยังตาถั่วอีกรึไงถึงได้เห็นผมเป็นเด็กผู้หญิงได้… ไม่ดิ ทำไมตูถึงกลับมามีไอ้หน้าอกน้อย ๆ นี้วะ นี้มันอะไรเมื้อกี้น้องชายก็กลับมาแล้วนี้ทำไมละ อย่าบอกนะว่า…
“หะ…หายไปแล้วอีกแล้ว!?”
เมื่อสัมผัสหาน้องชายอีกครั้งก็ไม่พบอะไรนอกจากเนินเขา…. นี้มันไม่ใช่ฝันเหรอวะ!!! โอ่่ยจะเป็นลม
“ทำเรื่องน่าอายอีก….. อาเระ? นี้!! เธอเป็นอะไรไป? นี้!!! ฟื้นสิ!!!”